สร้างความฮือฮาไม่น้อยที่เทศบาลนครขอนแก่น ประกาศจับมือกับกลุ่มนักธุรกิจเลือดใหม่ขอนแก่น 17 ราย ในนาม "บริษัท ขอนแก่น ทิงก์แทงก์ จำกัด" KKTT (Khon Kaen Think Tank Co.,Ltd.) วาดโครงการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานจังหวัด (Provincial Infrastructure Fund หรือ PIF) โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับ "บริษัทจำกัด" ของเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นโมเดลเดียวกับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการให้บริการ และจัดการงานสาธารณูปโภคพื้นฐานของกรุงเทพมหานคร
จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ เนื่องจากท้องถิ่น "ขาดงบประมาณ" ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาตรฐาน ในขณะที่จังหวัดเติบโตอย่างรวดเร็ว
ทางออกหนึ่งเดียวคือการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในจังหวัดขอนแก่น โดยความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนในจังหวัด นอกจากนี้ยังได้วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ศึกษาในมิติต่างๆ ขนานกันไปด้วย
"สุรเดช ทวีแสงสกุลไชย" รองคณบดีฝ่ายบริหาร วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่นมหาวิทยาลัยขอนแก่น และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) ผู้ริเริ่มกลุ่ม KKTT กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานคือ ทางออกที่จะพัฒนาเมืองขอนแก่นได้เอง สามารถชี้ชะตากำหนดการพัฒนาเมืองเองได้ ขั้นตอนแรกคือ การรวมตัวของผู้ประกอบการ 20-30 ราย ที่ต้องลงขันทุนก้อนแรกราว 200-300 ล้านบาท เพื่อนำไปทำโครงการพัฒนาด้านต่างๆ เช่น สร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ
ขณะเดียวกันก็ศึกษารายละเอียดในการจัดตั้งกองทุนภายใน 3 ปี เริ่มตั้งแต่ระดมสมอง กำหนดพื้นที่พัฒนา ทำแผนการกำกับดูแลกิจการ เลือกโครงการ Non PIF จดทะเบียนในรูปแบบ Holding Company การเฟ้นเลือกบุคลากร แต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษา ทำ Feasibility Study การกู้ยืมจากธนาคาร กระทั่งระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในที่สุด
หลังจากเปิด IPO หรือเสนอขายหุ้นต่อจากประชาชนในวงกว้างได้ ในอีก 3 ปี แผนคือจะทำรถไฟฟ้าที่เรียกว่า Tram เป็นรถรางสายสีแดง จากบ้านสำราญ-ท่าพระ-ม.ขอนแก่น ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร โดยตัวรถจะอยู่เกาะกลางถนน วิ่งตามถนนมิตรภาพ ระหว่างนั้นจะพัฒนาพื้นที่โดยรอบอย่างเหมาะสมที่สามารถใช้งานได้ มีออฟฟิศ ที่อยู่อาศัย เรียกว่าเราจะย้ายกิจกรรมของเมืองมาอยู่บริเวณรอบๆ สายนี้ ฉะนั้นเมืองเราจะโตแบบมีระเบียบการพัฒนาท้องถิ่นมีตัวอย่างจากหลายประเทศ อาทิ เทศบาลเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกพันธบัตรที่เรียกว่า We love our city ขายให้ชาวโกเบและทั่วโลก เพื่อถมทะเลสร้างเกาะทำสนามบินและนิคมอุตสาหกรรม โดยใช้งบประมาณเกือบ 2 แสนล้านเหรียญ ขณะที่รัฐบาลให้เงินอุดหนุนเพียง 10% เท่านั้น จากกรณีนี้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของท้องถิ่นในการกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง และเป็นการช่วยรัฐบาลในการหางบประมาณมาพัฒนาประเทศอีกด้วย
"ธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์" นายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น บอกว่า การจัดตั้งบริษัทจำกัดของเทศบาล และการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของเอกชน จะเป็นการจัดการเมืองรูปแบบใหม่ที่น่าจะเป็นทางออกของท้องถิ่น เป็นการแก้ปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะขณะนี้ความเจริญเติบโตของเมืองขอนแก่นมีมากขึ้น และปัญหาวิกฤตจราจรก็หนักข้อขึ้นทุกวัน
"วันนี้เทศบาลจะจัดตั้งบริษัทจำกัดของตัวเองเพื่อการทำงานที่คล่องตัวคาดว่าอีก3-5 ปี จะเห็นภาพชัดขึ้น พูดวันนี้อาจเพ้อฝัน แต่ถามว่าถ้าไม่เริ่มตอนนี้จะเริ่มตอนไหน เพราะตอนนี้เราก็เห็นโมเดลที่กรุงเทพฯ แล้วว่าไม่สามารถทำโครงการเชิงรุกได้เลย มีแต่โครงการเพื่อแก้ไขปัญหา หากเรายังไม่รีบทำก็จะเป็นแบบเดียวกัน และจะเจอปัญหาที่หนักกว่า เพราะหากรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนท้องถิ่นเหมือนกับที่กรุงเทพฯ เราก็แย่"
ขณะที่ตัวแทนจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า การระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานนั้น ประเภททรัพย์สินที่ลงทุนได้มี 10 ประเภท คือระบบขนส่งทางราง, ไฟฟ้า, ประปา, ถนน/ทางพิเศษ/ทางสัมปทาน, ท่าอากาศยาน, ท่าเรือน้ำลึก, โทรคมนาคม, พลังงานทางเลือก, ระบบบริหารจัดการน้ำและระบบการชลประทาน และระบบป้องกันภัยธรรมชาติ ทั้งนี้ Infrastructure Fund ต้องระดมทุนจากผู้ลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
ปัจจุบันมีภาคเอกชนนำกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานมาใช้ในการระดมทุน 3 องค์กร คือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮล ดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าการระดมทุน 62,510.40 ล้านบาท บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด มูลค่า 6,352.50 ล้านบาท บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่า 58,080 ล้านบาท
นี่คือความพยายามที่จะลุกขึ้นมาจัดการตนเองของท้องถิ่นนครขอนแก่น หัวเมืองใหญ่ของภาคอีสาน
ดีครับ รัฐไม่มีเงิน ก็ทำกันเองนี่แหละ ชวนเอกชนมาร่วม
ฮือฮา กระแส "อินฟราฯฟันด์" ขอนแก่น
จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ เนื่องจากท้องถิ่น "ขาดงบประมาณ" ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาตรฐาน ในขณะที่จังหวัดเติบโตอย่างรวดเร็ว
ทางออกหนึ่งเดียวคือการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในจังหวัดขอนแก่น โดยความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนในจังหวัด นอกจากนี้ยังได้วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ศึกษาในมิติต่างๆ ขนานกันไปด้วย
"สุรเดช ทวีแสงสกุลไชย" รองคณบดีฝ่ายบริหาร วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่นมหาวิทยาลัยขอนแก่น และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) ผู้ริเริ่มกลุ่ม KKTT กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานคือ ทางออกที่จะพัฒนาเมืองขอนแก่นได้เอง สามารถชี้ชะตากำหนดการพัฒนาเมืองเองได้ ขั้นตอนแรกคือ การรวมตัวของผู้ประกอบการ 20-30 ราย ที่ต้องลงขันทุนก้อนแรกราว 200-300 ล้านบาท เพื่อนำไปทำโครงการพัฒนาด้านต่างๆ เช่น สร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ
ขณะเดียวกันก็ศึกษารายละเอียดในการจัดตั้งกองทุนภายใน 3 ปี เริ่มตั้งแต่ระดมสมอง กำหนดพื้นที่พัฒนา ทำแผนการกำกับดูแลกิจการ เลือกโครงการ Non PIF จดทะเบียนในรูปแบบ Holding Company การเฟ้นเลือกบุคลากร แต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษา ทำ Feasibility Study การกู้ยืมจากธนาคาร กระทั่งระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในที่สุด
หลังจากเปิด IPO หรือเสนอขายหุ้นต่อจากประชาชนในวงกว้างได้ ในอีก 3 ปี แผนคือจะทำรถไฟฟ้าที่เรียกว่า Tram เป็นรถรางสายสีแดง จากบ้านสำราญ-ท่าพระ-ม.ขอนแก่น ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร โดยตัวรถจะอยู่เกาะกลางถนน วิ่งตามถนนมิตรภาพ ระหว่างนั้นจะพัฒนาพื้นที่โดยรอบอย่างเหมาะสมที่สามารถใช้งานได้ มีออฟฟิศ ที่อยู่อาศัย เรียกว่าเราจะย้ายกิจกรรมของเมืองมาอยู่บริเวณรอบๆ สายนี้ ฉะนั้นเมืองเราจะโตแบบมีระเบียบการพัฒนาท้องถิ่นมีตัวอย่างจากหลายประเทศ อาทิ เทศบาลเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกพันธบัตรที่เรียกว่า We love our city ขายให้ชาวโกเบและทั่วโลก เพื่อถมทะเลสร้างเกาะทำสนามบินและนิคมอุตสาหกรรม โดยใช้งบประมาณเกือบ 2 แสนล้านเหรียญ ขณะที่รัฐบาลให้เงินอุดหนุนเพียง 10% เท่านั้น จากกรณีนี้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของท้องถิ่นในการกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง และเป็นการช่วยรัฐบาลในการหางบประมาณมาพัฒนาประเทศอีกด้วย
"ธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์" นายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น บอกว่า การจัดตั้งบริษัทจำกัดของเทศบาล และการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของเอกชน จะเป็นการจัดการเมืองรูปแบบใหม่ที่น่าจะเป็นทางออกของท้องถิ่น เป็นการแก้ปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะขณะนี้ความเจริญเติบโตของเมืองขอนแก่นมีมากขึ้น และปัญหาวิกฤตจราจรก็หนักข้อขึ้นทุกวัน
"วันนี้เทศบาลจะจัดตั้งบริษัทจำกัดของตัวเองเพื่อการทำงานที่คล่องตัวคาดว่าอีก3-5 ปี จะเห็นภาพชัดขึ้น พูดวันนี้อาจเพ้อฝัน แต่ถามว่าถ้าไม่เริ่มตอนนี้จะเริ่มตอนไหน เพราะตอนนี้เราก็เห็นโมเดลที่กรุงเทพฯ แล้วว่าไม่สามารถทำโครงการเชิงรุกได้เลย มีแต่โครงการเพื่อแก้ไขปัญหา หากเรายังไม่รีบทำก็จะเป็นแบบเดียวกัน และจะเจอปัญหาที่หนักกว่า เพราะหากรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนท้องถิ่นเหมือนกับที่กรุงเทพฯ เราก็แย่"
ขณะที่ตัวแทนจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า การระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานนั้น ประเภททรัพย์สินที่ลงทุนได้มี 10 ประเภท คือระบบขนส่งทางราง, ไฟฟ้า, ประปา, ถนน/ทางพิเศษ/ทางสัมปทาน, ท่าอากาศยาน, ท่าเรือน้ำลึก, โทรคมนาคม, พลังงานทางเลือก, ระบบบริหารจัดการน้ำและระบบการชลประทาน และระบบป้องกันภัยธรรมชาติ ทั้งนี้ Infrastructure Fund ต้องระดมทุนจากผู้ลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
ปัจจุบันมีภาคเอกชนนำกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานมาใช้ในการระดมทุน 3 องค์กร คือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮล ดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าการระดมทุน 62,510.40 ล้านบาท บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด มูลค่า 6,352.50 ล้านบาท บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่า 58,080 ล้านบาท
นี่คือความพยายามที่จะลุกขึ้นมาจัดการตนเองของท้องถิ่นนครขอนแก่น หัวเมืองใหญ่ของภาคอีสาน
ดีครับ รัฐไม่มีเงิน ก็ทำกันเองนี่แหละ ชวนเอกชนมาร่วม