เมื่อคืนจะลงต่อแล้วครับ แต่พันทิปเป็นอะไรไม่รู้ อัพโหลดภาพไม่ค่อยได้ รอนานจนง่วงไปนอนอีกแล้ว
วันนี้ขอลองอีกสักที เอาแบบเดิมนะครับ ลงรูปแล้วถ้านึกอะไรได้ก็เล่าแทรกไปนิดหน่อย บางรูปมันเบลอแต่เพราะมีเรื่องอยากจะบอกเล่า ก็ขอลงไปทั้งเบลอ ๆ อย่างนั้นนะครับ

ริมถนนย่านตลาดค้าส่งที่เรียกว่า Baima พ่อค้าแม่ค้าจีนกลุ่มนี้คงจะเหมารถมาด้วยกัน พอซื้อของเสร็จก็เรียกรถมารับของ แต่ดูเหมือนจะไปได้แค่ของนะครับ คนคงต้องหาทางกลับบ้านเอง

ช่วงที่ผมไปก็เกือบจะกลางเดือนพฤศจิกายนแล้ว เริ่มมีสินค้าสำหรับเทศกาลคริสมาสต์ออกมาวางขายกันแล้ว คนจีนเองไม่ค่อยฉลองคริสมาสต์กันเท่าไหร่หรอกครับ ของพวกนี้เมื่อถูกซื้อแล้วกว่าจะส่งไปถึงที่หมายในต่างประเทศก็ครึ่งค่อนเดือนล่ะครับ ไม่รู้จะมีซานต้าจากที่นี่มาโผล่ที่เมืองไทยบ้างหรือเปล่านะ

สามล้อปั่นรับจ้างขนของจอดเรียงรายอยู่หน้าตึกศูนย์ค้าส่งแห่งหนึ่ง รอพ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อของเสร็จแล้วต้องการว่าจ้างให้ไปส่งของ ส่วนใหญ่จะรับส่งในละแวกใกล้ ๆ นั่นแหละครับ อาจจะไปส่งที่ถนนอีกด้านที่รถน้อยหน่อย เพื่อขนขึ้นรถยนต์ต่อไป หรือไปส่งที่ออฟฟิศของบริษัทขนส่งใกล้ ๆ ซึ่งจะจัดส่งของไปตามเมืองต่าง ๆ ของจีนอีกที สารถีสามล้อเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของระบบ Logistic แบบจีน ๆ ล่ะครับ

ในสวนหย่อมใกล้ ๆ กับศูนย์ค้าส่ง บรรยากาศสงบเงียบแตกต่างจากข้างนอกมาก

รูปนี้โฟกัสไม่เข้าครับ แต่อยากให้เห็นว่าเค้าซื้อกันขนาดไหน

คุณป้าที่ใส่ชุดคลุมศีรษะคนนี้น่าจะมาจากตะวันออกกลาง มีคนต่างชาติมาเดินซื้อของในกวางเจาเยอะพอสมควร โดยเฉพาะคนแอฟริกัน บางคนพูดจีนต่อรองราคากับพ่อค้าที่นั่นได้คล่องปากมาก

กลับมาที่ฮวาตูอีกที รูปนี้ถ่ายตอนเช้าที่แสงยังน้อยอยู่ ภาพก็เลยไหวมาก แต่อยากให้เห็นร่มติดรถจักรยานไฟฟ้า เขามีปีกด้านหลังยื่นออกไปคลุมถึงคนนั่งซ้อนท้ายด้วยครับ

รูปแบบของจักรยานไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้แหละครับ คือมีแบตเตอรี่อยู่ใต้เบาะนั่ง และมีขาปั่นด้วย สำหรับปั่นตอนแบตฯ หมด มีจักรยานแบบนี้ในฮวาตูเยอะมาก วิ่งกันฉวัดเฉวียนทีเดียว

ไปครั้งนี้ได้เที่ยวบ้างนิดหน่อย วันหนึ่งขากลับจากกวางเจาไปฮวาตู เพื่อนผมพามาแวะที่นี่ เป็นโบราณสถานที่เป็นจวนเก่าของข้าหลวงคนสำคัญในอดีตคนนึง ซึ่งเป็นลูกชาวบ้านธรรมดา แต่ขยันเล่าเรียนจนสอบได้เป็นจองหงวน สุดท้ายฮ่องเต้แต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงดูแลที่นี่

หลังคาทรงนี้ที่ภูเก็ตยังพอมีร่องรอยให้เห็นอยู่นะครับ แถวถนนถลางย่านเมืองเก่า

ด้านหลังของกลุ่มอาคารที่อยู่รวมกัน เป็นบ่อน้ำ ถัดจากกำแพงบ้านเก่าออกไปก็เป็นตึกที่พักอาศัยของชาวบ้านแถวนั้น รูปทรงตัดกันดีครับ

ลักษณะบ้านท่านข้าหลวงจะเป็นกลุ่มอาคารหลายหลังในรั้วกำแพงเดียวกัน มีช่องประตูและทางเดินทะลุต่อเนื่องถึงกันตลอด คนในครอบครัวใหญ่จะอยู่ในอาณาเขตเดียวกันหมด

แนวกำแพงจากด้านหน้ายาวมาถึงด้านในสุดของอาคาร คล้าย ๆ ห้องแถวที่มีการเว้นช่องว่างระหว่างห้องด้วย เพื่อนผมบอกว่าในสมัยก่อนผู้หญิงในบ้านจะถูกห้ามไม่ให้ออกไปหน้าบ้าน เรียกว่าอยู่กันแต่เรือนชั้นในเท่านั้น

นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง อยู่ในเขต Panyu ทางตอนใต้ของนครกวางเจา เพื่อนผมพาไปเที่ยวในวันสุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับเมืองไทย สถานที่นี้เรียกว่า เป่าโม่หยวน หรือ
Bao Mo Garden
เหน็บกล้องฟิล์มเล็ก ๆ ไปเที่ยวเมืองจีน (๒)
วันนี้ขอลองอีกสักที เอาแบบเดิมนะครับ ลงรูปแล้วถ้านึกอะไรได้ก็เล่าแทรกไปนิดหน่อย บางรูปมันเบลอแต่เพราะมีเรื่องอยากจะบอกเล่า ก็ขอลงไปทั้งเบลอ ๆ อย่างนั้นนะครับ
ริมถนนย่านตลาดค้าส่งที่เรียกว่า Baima พ่อค้าแม่ค้าจีนกลุ่มนี้คงจะเหมารถมาด้วยกัน พอซื้อของเสร็จก็เรียกรถมารับของ แต่ดูเหมือนจะไปได้แค่ของนะครับ คนคงต้องหาทางกลับบ้านเอง
ช่วงที่ผมไปก็เกือบจะกลางเดือนพฤศจิกายนแล้ว เริ่มมีสินค้าสำหรับเทศกาลคริสมาสต์ออกมาวางขายกันแล้ว คนจีนเองไม่ค่อยฉลองคริสมาสต์กันเท่าไหร่หรอกครับ ของพวกนี้เมื่อถูกซื้อแล้วกว่าจะส่งไปถึงที่หมายในต่างประเทศก็ครึ่งค่อนเดือนล่ะครับ ไม่รู้จะมีซานต้าจากที่นี่มาโผล่ที่เมืองไทยบ้างหรือเปล่านะ
สามล้อปั่นรับจ้างขนของจอดเรียงรายอยู่หน้าตึกศูนย์ค้าส่งแห่งหนึ่ง รอพ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อของเสร็จแล้วต้องการว่าจ้างให้ไปส่งของ ส่วนใหญ่จะรับส่งในละแวกใกล้ ๆ นั่นแหละครับ อาจจะไปส่งที่ถนนอีกด้านที่รถน้อยหน่อย เพื่อขนขึ้นรถยนต์ต่อไป หรือไปส่งที่ออฟฟิศของบริษัทขนส่งใกล้ ๆ ซึ่งจะจัดส่งของไปตามเมืองต่าง ๆ ของจีนอีกที สารถีสามล้อเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของระบบ Logistic แบบจีน ๆ ล่ะครับ
ในสวนหย่อมใกล้ ๆ กับศูนย์ค้าส่ง บรรยากาศสงบเงียบแตกต่างจากข้างนอกมาก
รูปนี้โฟกัสไม่เข้าครับ แต่อยากให้เห็นว่าเค้าซื้อกันขนาดไหน
คุณป้าที่ใส่ชุดคลุมศีรษะคนนี้น่าจะมาจากตะวันออกกลาง มีคนต่างชาติมาเดินซื้อของในกวางเจาเยอะพอสมควร โดยเฉพาะคนแอฟริกัน บางคนพูดจีนต่อรองราคากับพ่อค้าที่นั่นได้คล่องปากมาก
กลับมาที่ฮวาตูอีกที รูปนี้ถ่ายตอนเช้าที่แสงยังน้อยอยู่ ภาพก็เลยไหวมาก แต่อยากให้เห็นร่มติดรถจักรยานไฟฟ้า เขามีปีกด้านหลังยื่นออกไปคลุมถึงคนนั่งซ้อนท้ายด้วยครับ
รูปแบบของจักรยานไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้แหละครับ คือมีแบตเตอรี่อยู่ใต้เบาะนั่ง และมีขาปั่นด้วย สำหรับปั่นตอนแบตฯ หมด มีจักรยานแบบนี้ในฮวาตูเยอะมาก วิ่งกันฉวัดเฉวียนทีเดียว
ไปครั้งนี้ได้เที่ยวบ้างนิดหน่อย วันหนึ่งขากลับจากกวางเจาไปฮวาตู เพื่อนผมพามาแวะที่นี่ เป็นโบราณสถานที่เป็นจวนเก่าของข้าหลวงคนสำคัญในอดีตคนนึง ซึ่งเป็นลูกชาวบ้านธรรมดา แต่ขยันเล่าเรียนจนสอบได้เป็นจองหงวน สุดท้ายฮ่องเต้แต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงดูแลที่นี่
หลังคาทรงนี้ที่ภูเก็ตยังพอมีร่องรอยให้เห็นอยู่นะครับ แถวถนนถลางย่านเมืองเก่า
ด้านหลังของกลุ่มอาคารที่อยู่รวมกัน เป็นบ่อน้ำ ถัดจากกำแพงบ้านเก่าออกไปก็เป็นตึกที่พักอาศัยของชาวบ้านแถวนั้น รูปทรงตัดกันดีครับ
ลักษณะบ้านท่านข้าหลวงจะเป็นกลุ่มอาคารหลายหลังในรั้วกำแพงเดียวกัน มีช่องประตูและทางเดินทะลุต่อเนื่องถึงกันตลอด คนในครอบครัวใหญ่จะอยู่ในอาณาเขตเดียวกันหมด
แนวกำแพงจากด้านหน้ายาวมาถึงด้านในสุดของอาคาร คล้าย ๆ ห้องแถวที่มีการเว้นช่องว่างระหว่างห้องด้วย เพื่อนผมบอกว่าในสมัยก่อนผู้หญิงในบ้านจะถูกห้ามไม่ให้ออกไปหน้าบ้าน เรียกว่าอยู่กันแต่เรือนชั้นในเท่านั้น
นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง อยู่ในเขต Panyu ทางตอนใต้ของนครกวางเจา เพื่อนผมพาไปเที่ยวในวันสุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับเมืองไทย สถานที่นี้เรียกว่า เป่าโม่หยวน หรือ Bao Mo Garden