ไทยไม่รอด ทรัมป์โชว์จดหมายแจ้งตั้งกำแพงภาษี 36%

ไทยไม่รอด ทรัมป์โชว์จดหมายแจ้งตั้งกำแพงภาษี 36% ขณะที่กัมพูชาโดนในอัตราที่เท่ากัน นอกจากนั้นยังมีอีกหลายประเทศที่ถูกตั้งกำแพงภาษีระหว่าง 25% ถึง 40%
     เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2568 ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เผยแพร่ภาพจดหมายแจ้งอัตราภาษีต่างตอบแทนผ่าน Truth Social เป็นชุดที่ 3 โดยคราวนี้ประกอบด้วยประเทศไทย, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, บังกลาเทศ, ตูนิเซีย, บอสเนียและเฮอร์เซโกวินา และเซอร์เบีย
     โดยในจดหมายระบุว่า สหรัฐฯ จะตั้งกำแพงภาษีต่างตอบแทนต่อสินค้านำเข้าจากประเทศไทยในอัตรา 36% เริ่มตั้งแต่ 1 ส.ค. 2568 โดยอ้างเหตุผลเรื่องการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ และมาตรการกำแพงทางการค้าทั้งในรูปแบบภาษีและไม่ใช่ภาษีที่สหรัฐฯ อ้างว่าฝ่ายไทยบังคับใช้กับพวกเขา
     ส่วนกัมพูชาโดนตั้งกำแพงภาษีในอัตราที่เท่ากับประเทศไทยคือ 36% ขณะที่ตูนิเซียเผชิญกำแพงภาษี 25%, บอสเนียและเฮอร์เซโกวินา 30%, อินโดนีเซีย 32% และบังกลาเทศกับเซอร์เบียโดน 35% เท่ากัน

โดยจดหมายของสหรัฐฯ มีเนื้อความดังนี้

ฯพณฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพฯ

เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี

     เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับข้าพเจ้าที่ได้ส่งจดหมายฉบับนี้ถึงท่าน เพื่อแสดงออกถึงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในความสัมพันธ์ทางการค้าของเรา และข้อเท็จจริงที่ว่า สหรัฐอเมริกาได้เห็นชอบที่จะทำงานร่วมกับประเทศไทยต่อไป ถึงแม้จะประสบปัญหาขาดดุลทางการค้าอย่างมีนัยสำคัญกับประเทศของท่านก็ตาม
     อย่างไรก็ดี เราได้ตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกันกับท่าน แต่ต้องอยู่ภายใต้การค้าที่สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้น เราจึงเชิญท่านมาเข้าร่วมในเศรษฐกิจสุดพิเศษของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดอันดับ 1 ของโลกอย่างไม่มีใครเทียบ
     เราได้หารือเรื่องความสัมพันธ์ทางการค้าของเรากับไทยมานานหลายปี และได้ข้อสรุปว่า เราต้องผละจากการขาดดุลการค้าระยะยาวและเรื้อรังนี้ ซึ่งเกิดจากมาตรการภาษีและมิใช่ภาษี, นโยบาย และกำแพงทางการค้าต่างๆ

     น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์ของเรา ห่างไกลจากคำว่าตอบแทนซึ่งกันและกัน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป เราจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราเพียง 36% สำหรับสินค้าไทยทุกชนิดที่ถูกส่งเข้าสู่สหรัฐฯ แยกจากภาษีตามหมวดหมู่สินค้าทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง ส่วนสินค้าที่ถูกถ่ายเทผ่านประเทศที่ 3 เพื่อเลี่ยงภาษีที่สูงขึ้นจะถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก
     โปรดเข้าใจว่า ตัวเลข 36% นี้ต่ำกว่าสิ่งที่จำเป็นเพื่อกำจัดการขาดดุลการค้าที่เรามีกับประเทศของท่านมาก และอย่างที่ท่านทราบ จะไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าหากประเทศไทยหรือบริษัทในประเทศของท่านตัดสินใจที่จะสร้างหรือผลิตสินค้าภายในสหรัฐฯ และตามข้อเท็จจริง เราจะทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อให้การอนุมัติอย่างเป็นมืออาชีพ ต่อเนื่อง และรวดเร็ว พูดอีกอย่างคือ ภายในไม่กี่สัปดาห์

     หากว่าท่านตัดสินใจเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่ว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าไร เราจะเพิ่มอัตรานั้นเข้าไปในอัตรา 36% ที่เราเก็บ โปรดเข้าใจว่า ภาษีนำเข้าเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการแก้ไขผลกระทบจากมาตรการภาษีและมิใช่ภาษี, นโยบาย และกำแพงทางการค้าต่างๆ ที่ไทยใช้มานานหลายปี และทำให้เกิดการขาดดุลการค้าในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้นี้ การขาดดุลดังกล่าวเป็นภัยใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจและแน่นอนว่า ความมั่นคงของสหรัฐฯ
     เราตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับท่านในฐานะหุ้นส่วนการค้าต่อไปอีกหลายปี หากท่านปรารถนาที่จะเปิดตลาดการค้าของท่านที่ปิดอยู่ก่อนหน้านี้ให้แก่สหรัฐฯ และกำจัดมาตรการภาษีและมิใช่ภาษี, นโยบาย และกำแพงทางการค้าต่างๆ บางทีเราอาจจะพิจารณาปรับแก้จดหมายนี้ ภาษีเหล่านี้อาจถูกแก้ไข แต่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้นขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของเรากับประเทศของท่าน ท่านจะไม่มีวันผิดหวังในสหรัฐอเมริกา

ขอบคุณที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้
ด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่ง

ขอแสดงความนับถือ
โดนัลด์ เจ. ทรัมป์
ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา




ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่