สวัสดีค่ะ วันนี้เราได้สัมพาทย์วีซ่านักเรียน สำหรับประเทศ อเมริกา ครั้งมาค่ะ
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่กำลังคิดจะขอวีซ่านักเรียนต่อไปค่ะ
ยังไงก็ถ้าพิมพ์ผิดๆถูก สะกดผิดๆถูกๆ เราขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
เริ่มเลยละกัน
เริ่มแรกเลย พอดีเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายของเราแล้วเราเลยมีความคิดว่าอยากจะทำตามความฝันคือการได้ไปอยู่ที่อเมริกาสักครั้งในชีวิต บวกกับเราโชคดีที่มีญาติสนิทที่เป็นCitizen ของ USA พอดี
เราเลยเริ่มขอพ่อแม่ จนเค้าอนุญาติ จากนั้นก็เริ่มหาโรงเรียน ขั้นตอนนี้มีญาติเราแนะนำโรงเรียนมาให้แต่เราต้องติดต่อไปเองนะค่ะ
จากนั้นพอเราเลือกโรงเรียนได้ ก็เริ่มส่ง เมล์ ไปถามเกี่ยวกับค่าเรียน ตารางการเรียน และการเตรียมเอกสารต่างๆ
บอกได้เลยว่า โรงเรียนที่เราทำเรื่องไปเรียน เอาใจใส่ดีมาก ตอบคำถามเร็วมาก แถม I-20ไม่ถึงอาทิตย์ ก็ส่งมาถึงบ้านเราแล้ว
พอเราจัดแจงเอกสารต่างๆได้เราก็เริ่มไปกรอก DS-160 และ นัดวันสัมพาทย์
และแล้ววันนั้นก็มาถึง ก็คือวันนี้ตอน 7:15 นี้เอง สดๆร้อนๆมาก
เริ่มแรกเลยคือเราบอกได้เลยว่าวันนี้ตื่นสายเลยไปช้ากว่าที่วางแผนไว้ คือ ไปถึง 7:00 ตอนนั้นหน้าสถาทูตคนเยอะมาก
เราเลยเข้าไปถามพี่ รปภ ว่ารอบเรา7:15 ต้องไปต่อแถวไหนเค้าก็บอกให้เข้าไปต่อข้างหน้าข้างหลังผู้ชายคนนึง
จากนั้นยืนรอสักพักก็มี พี่ผู้หญิงเสื้อน้ำเงินเดินมาตรวจ DS-160 กับใบยืนยันนัดว่าเรามาวันไหนเวลาไหน เสร็จแล้วก็จะได้ใบมา
หลังจากได้ใบแล้ว ก็เดินไปรอหน้าทางเข้ารอเค้าเรียกไปตรวจของ ต้องเอามือถือ หูฟัง แบตสำรองไปฝากไว้ รวมทั้ง บัตร ปชช ด้วย
จากนั้นก็เดินไปสแกนตัว หลังจากทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ก็เดินเข้าไปต่อแถวรอตรวจเอกสาร ซึ่งเอกสารที่ต้องเตรียมให้ด่านนี้ มี DS-160 , Passport, I-20, I-20 confirmation fee,และComfirmation letter from school
หลังจากผ่านด้านนี้แล้วเค้าจะเอาเลขtracking number มาติดให้ให้เราจดเอาไว้เอง ในกรณีที่ผ่านวีซ่าเราจะได้เช็คได้ว่าพาสปอตเราถึงไหนแล้ว
จากนั้นเดินไปต่อแถวต่อรอยื่นเอกสารให้ด่านต่อไป ซึ่งคือคนไทย วันนี้เราได้ช่อง3 เค้าก็ถามว่า ไปเรียนที่ไหน กี่เดือน เรียนจบแน่นะ และจะให้สแกนลายนิ้วมือ ตอนสแกนลายนิ้วมือเราเบลอๆไป งง ๆเลยโดนพี่เค้าดุไปนิดๆ แต่โดยรวม พี่เค้าน่ารักดี>< สุดท้ายเค้า เขียนให้ F-1 multiple และให้เลขที่ และเข้าไปรอในห้อง
รอบแรก
เราก็เข้าไปในห้องนั่งรอจนเค้าเรียกให้ไป ช่อง9 เค้าจะเรียกประมาน 10คน นะค่ะ เรียกสองรอบ
รอบแรกคือเรียกเหมือนไปเช็คเอการ ซึ่งเราเจอผู้หญิงชาวต่างชาติ ไม่ค่อยเป็นมิตรเลย ขนาดยิ้มให้ยังหน้าบึ้ง แต่ตอนนั้นเราก็ยิ้มต่อไป
หลังจากเค้าตรวจเอกสารเสร็จก็ให้เราไปนั่งรอต่อ
รอบสอง
พอเค้าเรียกเลขรอบที่สองให้ไปช่อง12 และพอดีเราได้ช่อง11 ซึ่งเป็นผู้ชายต่างชาติ อ้วนๆขาวๆ น่ารักมาก
เค้าก็พูดว่า สวัสดีครับ ชัดมากๆ
เรา : สวัสดีค่ะ
เค้า : จะไปที่ไหนครับ
เรา : I will go to Miami (รัวแต่อังกฤษเลย พี่สาวเราแนะนำมา)
ต่อไปคือเค้าถามเราเป็นภาษาอังกฤษละนะค่ะแต่เราพิมพ์เป็นไทยแทน
เค้า : จะไปทำอะไรครับ (ยิ้ม)
เรา : ไปเรียนภาษาอังกฤษค่ะ
เค้า : นานเท่าไหร่ครับ
เรา : สิบเดือนค่ะ
เค้า : หลังจากเรียนจะทำอะไรต่อ
เรา : กลับมาต่อยอดธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นเราก็ยื่นเอกสารที่แม่เราเอามาให้ ได้แก่ Bank statement,Sponsor letter, ใบรับรองการจดทะเบียนของบริษัท และ ก็ รูปโรงงานของบ้านเรา
เค้า : อ่อ บ้านคุณทำ เกี่ยวกับ........หรอค่ะ
เรา : ใช่ค่ะ
เค้า : พ่อแม่เป็นเจ้าของทั้งสองเลยรึป่าว
เรา : ป่าวค่ะแค่แม่คนเดียว ส่วนพ่อเป็นผู้จัดการบริษัท....ค่ะ
เค้า : อ่อ โอเค ครับ
เอ่อเราลืมบอกไปว่าระหว่างเค้าถามเราเค้าก็พิมอะไรไม่รู้ไปเรื่อยๆนะค่ะ
เค้า: เคยไปประเทศไหนมาบ้างแล้วครับ
เรา: เกาหลี ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย ค่ะ
เค้าก็พิมพ์ๆต่อไป
เราก็พูดต่อว่า เราไปญี่ปุ่นเพื่อช่วยลุงเราทำธุรกิจของลุงด้วย
เค้า : อ่อ ดีมากเลยครับ
เรา : ฉันได้จองละจ่ายตั๋วเครื่องบินไปแล้วด้วยค่ะ นี้คือตั๋ว
เค้า : โอเคครับ
เค้า : วีซ่าของคุณผ่านนะครับ รอ3 วัน
เรา : ขอบคุณมากค่ะ ยิ้มหน้าบานเลยตอนนั้น
ดูเหมือนถามเยอะนะแต่ใช้เวลาไม่ถึง3นาที
เสร็จแล้วเราก็เดินออกมา รับของและก็กลับบ้าน
เข้า7:15 ออก 8:45 ใช้เวลาไป ชม กว่า สงสัยมาเช้าด้วย ถ้าใครรีบๆจองเช้าๆจะดีมากจะได้ไม่ต้องรอนาน ^^
นี้แหละค่ะประสบการ์ณของเรา หวังว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
มีอะไรหลังไมค์มาได้นะค่ะ ยินดีช่วยเสมอ
สุดท้ายนี้อยากบอกหลายๆคนให้เตรียมรูปไปดีๆนะค่ะ งั้นต้องไปถ่ายข้างในเสียเวลามาก
ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชตดีกับการขอวีซ่าค่ะ ^^
ทำเรื่องเรียนภาษาและการขอวีซ่า F1 ครั้งแรกสำหรับอเมริกา ด้วยตัวเอง
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่กำลังคิดจะขอวีซ่านักเรียนต่อไปค่ะ
ยังไงก็ถ้าพิมพ์ผิดๆถูก สะกดผิดๆถูกๆ เราขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
เริ่มเลยละกัน
เริ่มแรกเลย พอดีเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายของเราแล้วเราเลยมีความคิดว่าอยากจะทำตามความฝันคือการได้ไปอยู่ที่อเมริกาสักครั้งในชีวิต บวกกับเราโชคดีที่มีญาติสนิทที่เป็นCitizen ของ USA พอดี
เราเลยเริ่มขอพ่อแม่ จนเค้าอนุญาติ จากนั้นก็เริ่มหาโรงเรียน ขั้นตอนนี้มีญาติเราแนะนำโรงเรียนมาให้แต่เราต้องติดต่อไปเองนะค่ะ
จากนั้นพอเราเลือกโรงเรียนได้ ก็เริ่มส่ง เมล์ ไปถามเกี่ยวกับค่าเรียน ตารางการเรียน และการเตรียมเอกสารต่างๆ
บอกได้เลยว่า โรงเรียนที่เราทำเรื่องไปเรียน เอาใจใส่ดีมาก ตอบคำถามเร็วมาก แถม I-20ไม่ถึงอาทิตย์ ก็ส่งมาถึงบ้านเราแล้ว
พอเราจัดแจงเอกสารต่างๆได้เราก็เริ่มไปกรอก DS-160 และ นัดวันสัมพาทย์
และแล้ววันนั้นก็มาถึง ก็คือวันนี้ตอน 7:15 นี้เอง สดๆร้อนๆมาก
เริ่มแรกเลยคือเราบอกได้เลยว่าวันนี้ตื่นสายเลยไปช้ากว่าที่วางแผนไว้ คือ ไปถึง 7:00 ตอนนั้นหน้าสถาทูตคนเยอะมาก
เราเลยเข้าไปถามพี่ รปภ ว่ารอบเรา7:15 ต้องไปต่อแถวไหนเค้าก็บอกให้เข้าไปต่อข้างหน้าข้างหลังผู้ชายคนนึง
จากนั้นยืนรอสักพักก็มี พี่ผู้หญิงเสื้อน้ำเงินเดินมาตรวจ DS-160 กับใบยืนยันนัดว่าเรามาวันไหนเวลาไหน เสร็จแล้วก็จะได้ใบมา
หลังจากได้ใบแล้ว ก็เดินไปรอหน้าทางเข้ารอเค้าเรียกไปตรวจของ ต้องเอามือถือ หูฟัง แบตสำรองไปฝากไว้ รวมทั้ง บัตร ปชช ด้วย
จากนั้นก็เดินไปสแกนตัว หลังจากทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ก็เดินเข้าไปต่อแถวรอตรวจเอกสาร ซึ่งเอกสารที่ต้องเตรียมให้ด่านนี้ มี DS-160 , Passport, I-20, I-20 confirmation fee,และComfirmation letter from school
หลังจากผ่านด้านนี้แล้วเค้าจะเอาเลขtracking number มาติดให้ให้เราจดเอาไว้เอง ในกรณีที่ผ่านวีซ่าเราจะได้เช็คได้ว่าพาสปอตเราถึงไหนแล้ว
จากนั้นเดินไปต่อแถวต่อรอยื่นเอกสารให้ด่านต่อไป ซึ่งคือคนไทย วันนี้เราได้ช่อง3 เค้าก็ถามว่า ไปเรียนที่ไหน กี่เดือน เรียนจบแน่นะ และจะให้สแกนลายนิ้วมือ ตอนสแกนลายนิ้วมือเราเบลอๆไป งง ๆเลยโดนพี่เค้าดุไปนิดๆ แต่โดยรวม พี่เค้าน่ารักดี>< สุดท้ายเค้า เขียนให้ F-1 multiple และให้เลขที่ และเข้าไปรอในห้อง
รอบแรก
เราก็เข้าไปในห้องนั่งรอจนเค้าเรียกให้ไป ช่อง9 เค้าจะเรียกประมาน 10คน นะค่ะ เรียกสองรอบ
รอบแรกคือเรียกเหมือนไปเช็คเอการ ซึ่งเราเจอผู้หญิงชาวต่างชาติ ไม่ค่อยเป็นมิตรเลย ขนาดยิ้มให้ยังหน้าบึ้ง แต่ตอนนั้นเราก็ยิ้มต่อไป
หลังจากเค้าตรวจเอกสารเสร็จก็ให้เราไปนั่งรอต่อ
รอบสอง
พอเค้าเรียกเลขรอบที่สองให้ไปช่อง12 และพอดีเราได้ช่อง11 ซึ่งเป็นผู้ชายต่างชาติ อ้วนๆขาวๆ น่ารักมาก
เค้าก็พูดว่า สวัสดีครับ ชัดมากๆ
เรา : สวัสดีค่ะ
เค้า : จะไปที่ไหนครับ
เรา : I will go to Miami (รัวแต่อังกฤษเลย พี่สาวเราแนะนำมา)
ต่อไปคือเค้าถามเราเป็นภาษาอังกฤษละนะค่ะแต่เราพิมพ์เป็นไทยแทน
เค้า : จะไปทำอะไรครับ (ยิ้ม)
เรา : ไปเรียนภาษาอังกฤษค่ะ
เค้า : นานเท่าไหร่ครับ
เรา : สิบเดือนค่ะ
เค้า : หลังจากเรียนจะทำอะไรต่อ
เรา : กลับมาต่อยอดธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นเราก็ยื่นเอกสารที่แม่เราเอามาให้ ได้แก่ Bank statement,Sponsor letter, ใบรับรองการจดทะเบียนของบริษัท และ ก็ รูปโรงงานของบ้านเรา
เค้า : อ่อ บ้านคุณทำ เกี่ยวกับ........หรอค่ะ
เรา : ใช่ค่ะ
เค้า : พ่อแม่เป็นเจ้าของทั้งสองเลยรึป่าว
เรา : ป่าวค่ะแค่แม่คนเดียว ส่วนพ่อเป็นผู้จัดการบริษัท....ค่ะ
เค้า : อ่อ โอเค ครับ
เอ่อเราลืมบอกไปว่าระหว่างเค้าถามเราเค้าก็พิมอะไรไม่รู้ไปเรื่อยๆนะค่ะ
เค้า: เคยไปประเทศไหนมาบ้างแล้วครับ
เรา: เกาหลี ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย ค่ะ
เค้าก็พิมพ์ๆต่อไป
เราก็พูดต่อว่า เราไปญี่ปุ่นเพื่อช่วยลุงเราทำธุรกิจของลุงด้วย
เค้า : อ่อ ดีมากเลยครับ
เรา : ฉันได้จองละจ่ายตั๋วเครื่องบินไปแล้วด้วยค่ะ นี้คือตั๋ว
เค้า : โอเคครับ
เค้า : วีซ่าของคุณผ่านนะครับ รอ3 วัน
เรา : ขอบคุณมากค่ะ ยิ้มหน้าบานเลยตอนนั้น
ดูเหมือนถามเยอะนะแต่ใช้เวลาไม่ถึง3นาที
เสร็จแล้วเราก็เดินออกมา รับของและก็กลับบ้าน
เข้า7:15 ออก 8:45 ใช้เวลาไป ชม กว่า สงสัยมาเช้าด้วย ถ้าใครรีบๆจองเช้าๆจะดีมากจะได้ไม่ต้องรอนาน ^^
นี้แหละค่ะประสบการ์ณของเรา หวังว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
มีอะไรหลังไมค์มาได้นะค่ะ ยินดีช่วยเสมอ
สุดท้ายนี้อยากบอกหลายๆคนให้เตรียมรูปไปดีๆนะค่ะ งั้นต้องไปถ่ายข้างในเสียเวลามาก
ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชตดีกับการขอวีซ่าค่ะ ^^