กระทู้พลีชีพ สำหรับนักวิ่งมาราธอน และว่าที่ทั้งหลาย

ขอพลีชีพตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาด้วยความหวังดีกับนักวิ่งมาราธอนและว่าที่ฯ

เรายังไม่เคยผ่านมาราธอนเลยค่ะ
แต่คิดว่าปีหน้าหรือปีถัดไปจะไปมาราธอนให้ได้
ระหว่างนี้ก็ได้อ่านเรื่องราวนักวิ่งทั้งหลาย
รวมถึงอยู่ในหลายกรุ๊ปนักวิ่งเลยได้เห็นเรื่องราวต่างๆ
โดยเฉพาะกรุงเทพมาราธอนที่เพิ่งจบไป


ประเด็นคือ เราอยากให้นักวิ่งมาราธอนหรือว่าที่ทั้งหลาย
มีความพร้อมกับการไปมาราธอนมากกว่านี้

เราเข้าใจนะว่า ใจน่ะมันอยาก ใจน่ะมันได้
แต่มาราธอนใครๆก็รู้ว่า ซ้อมแค่ไหน ได้แค่นั้น
ไม่มีฟลุค ไม่มีโชคในการวิ่งมาราธอน

เราเห็นหลายคนไปมาราธอนแบบใจอยากไป แต่ร่างกายไปยอมไปด้วย
ถ้ายอมแพ้ขึ้นรถกลับหรือ DSF ตัวเองไป เรายังไม่ห่วงเท่าคนที่ใจยังไม่ยอมแพ้แต่ร่างกายไม่สู้แล้ว

ขอเถอะค่ะ มาราธอนแข่งทุกปี มีทุก 3 เดือนด้วยซ้ำไป
กับรายการในประเทศ ทั้งจอมบึง ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพฯ ระยอง ฯลฯ
ไม่นับรวมไปถึงสาย Ultra และรายการต่างประเทศ (สำหรับคนมีทุนทรัพย์อีก)

อย่าเร่งไปมาราธอนโดยร่างคุณไม่พร้อม ซ้อมไม่ครบ วินัยยังไม่ได้เลย

ร่างกายเราต้องใช้ไปอีกนาน
คนรักวิ่งอย่างเราเห็นแล้วสยองในใจว่า
เราทุ่มไปกับการวิ่งแค่ 42 กิโลเพียงครั้งเดียว
แลกกับการจะอดวิ่งไปทั้งชีวิตเลยก็เป็นได้นะคะ

เราเพิ่งวิ่ง half งานกรุงเทพฯไปวันอาทิตย์  
วันพฤหัสมีนัดตรวจร่างกายพอดี
เชื่อมั้ยคะว่า เราที่วิ่ง half เข้าเส้นแบบกินขนม ไม่เหนื่อยเลย กล้ามเนื้อไม่เจ็บใดๆทั้งสิ้น
ใช้เวลาไป 2.13 ชั่วโมง ร่าเริงกลับบ้าน
แต่กราฟหัวใจยังผิดปกตินิดหน่อย คุณหมอบอกว่าตรากตรำเกินนะ
เราที่ซ้อมวิ่งเกือบทุกวันเป็นเวลากว่า 4 ปี
วิ่งมินิทุกเดือน เรายังอึ้งกับผลตรวจร่างกายเลย
แฟนบอกว่า เราอยากวิ่งกันไปจนแก่มั้ย ถ้าเราอยาก เราต้องถนอมมันใช้ไว้จนแก่
ไม่เช่นนั้น เราจะไม่มีโอกาสวิ่งอีกเลย

กล้ามาพูดทั้งๆที่ตัวเองไม่เคยผ่านมาราธอนเลย
แต่เราผ่านทุกๆระยะการวิ่งด้วยความมั่นใจมาก
กว่าเราจะขึ้นแต่ละระยะเราต้องมั่นใจแล้วว่า เราไหว
เราจะไม่ไปแบบถูลู่ถูกังร่างกายตัวเอง

อย่าวิ่งเพียงเพราะมันชิค
อย่าไปมาราธอนแค่เพราะคนอื่นเค้าไปกัน
คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้....

จริง.. แต่เราต้องซ้อมค่ะ แล้วซ้อมเยอะด้วย

อีกอย่าง การไปมาราธอนแบบไม่พร้อม
ไม่ได้เป็นแค่ภาระตัวเราเองเท่านั้น
ยังเป็นภาระคนจัดงานด้วย คุณอาจจะคิดว่า เราก็วิ่งของเรา
ถนนเปิดแล้วเราก็วิ่งเองก็ได้ บนฟุตบาทก็ได้
แต่มันก็อันตรายต่อเรา และผู้ขับขี่คนอื่น และเป็นความเสี่ยงของผู้จัดงานเช่นกัน

ขออภัยหากไม่ถูกใจกัน และบอกว่าเราไม่เคยผ่านมาราธอนเราไม่เข้าใจหรอก
แต่เราก็วิ่งมาหลายปี เราวิ่งมา 10 กว่าสนามแล้ว
งานเล็กต่างจังหวัด งานใหญ่ในกทม. หรืองานเทรลก็ตาม เราวิ่งมาหมดแล้ว
เราก็เป็นนักวิ่งที่เข้าใจความรู้สึกนักวิ่งทุกท่านว่าความรู้สึกหลังเส้นชัยมันเป็นอย่างไร
แต่เราก็อยากให้ทุกคนมีความรู้สึกหลังเส้นชัยกันไปนานๆ

ไปกันแบบพร้อมๆ เข้าเส้นกันแบบฟินๆ มีแรงอัพรูปหลังเข้าเส้นแบบชิลๆ

เราจะได้มีความสุขไปกับการวิ่งอีกนานๆนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่