[CR] กาลครั้งหนึ่ง...ต้องไป "เขาช้างเผือก" :) Thailand Dream Destinations

ทางเดินสู่ฝัน ณ "เขาช้างเผือก" อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี



สวัสดีค่าาาาา ^______^

พอดีเมื่ออาทิตย์ก่อนเราได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ 'เขาช้างเผือก' อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ตามโครงการ "Dream Destinations กาลครั้งหนึ่ง...ต้องไป" ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันความสวยงามของประเทศไทยให้คนที่ไม่มีโอกาส หรือมีโอกาสแต่ไม่ได้ไป หรือคนที่กำลังจะไปได้ดูบ้าง ยิ้ม ตามไปดูกันเลยค่าาา~

เราเริ่มการเดินทางกันที่กรุงเทพฯโดยรถตู้ค่ะ เจ็ดชีวิตกับอีกหนึ่งคนขับรถพร้อมหน้าพร้อมตากันราวประมาณตีสองครึ่งเป็นฤกษ์งามยามดีของการออกเดินทาง ณ ตอนนั้น เอาจริงๆคือว่า เรายังไม่รู้เลยค่ะว่าใครไปบ้าง เพิ่งจะมาเจอหน้าเจอตากันตอนจะขึ้นรถตู้ เพราะเพื่อนเราเป็นคนหาสมาชิกสำหรับทริปนี้ ประมาณว่าเราก็ชวนเพื่อนเราคนนึง ส่วนเพื่อนเราก็ชวนเพื่อนมาอีกจนได้ครบเจ็ดคนนั่นแหละค่ะ แต่ไม่เป็นไร ไม่รู้จักกันก็ทำความรู้จักกันได้~ สนุกดี ยิ้ม

แนะนำตัวกันเสร็จก็พากันขึ้นรถ แล้วก็ถึงเวลาออกเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เย้! ไปโลดค่ะ~

ตลอดทางจากกรุงเทพฯ-ทองผาภูมิขอบอกว่าเรานอนไม่หลับเลยค่ะ คือแบบตื่นเต้น! ฮ่าๆ คือเราก็นั่งดูทางไปเรื่อย สักพักเริ่มเห็นเพื่อนๆที่นั่งหลับกันเริ่มขยับ แล้วก็มีกระซิบกระซาบกัน คือแบบ งงสิคะ เกิดอะไรขึ้น? เราเลยชะโงกหน้าไปดูถนน ปรากฎว่าหมอกค่ะ ข้างหน้าคือหมอกอย่างหนาแทบจะมองไม่เห็นทางหรือรถข้างหน้าเลย ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้นค่ะ พี่คนขับของเราแกเหยียบมิดเลยค่ะ ทุกคนแบบอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอยากจะตะโกนบอกพี่เค้าว่า พี่! ขับช้าๆหน่อย หนูอยากไปถึงอุทยานชาตินี้ค่ะ ไม่ใช่ชาติหน้า TT^TT พี่แกเล่นเหยียบไม่มียั้งแบบซิ่งนรกเหมือนชีวิตจำโค้งทุกโค้งบนถนนสายนี้ได้หมดแล้ว ณ จุดจุดนั้นทุกคนแบบลุ้นค่ะ ถ้าเสกคาถาไล่หมอกได้นี่เสกไปแล้วว~ จังหวะลุ้นระทึกยังคงต่อเนื่องมาอีกสักระยะ แต่สุดท้ายก็ผ่านดงหมอกหนาตึ๊บมาได้อย่างปลอดภัย อาเมน =/\=

ราวๆเจ็ดโมงเศษๆ คุณพี่นักซิ่งหมอกมรณะของเราก็พารถตู้กับอีกเจ็ดชีวิตที่สลบไสลมาจอดแวะพักยืดเส้นยืดสายที่จุดชมวิวก่อนถึงอุทยานค่ะ ได้เวลาตื่นแล้ว~ ลงไปเดินเล่นชมทะเลหมอกยามเช้า กดสักแชะสองแชะสักหน่อย



เห็นวิวสวยๆก็คงจะเริ่มหายง่วงกันแล้ว ถ้างั้นก็ออกเดินทางต่อเลยค่ะพี่ ลุยโลดดด~

ประมาณแปดโมงเศษ ในที่สุดก็เดินทางมาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เย้~ จัดการลงทะเบียนกันให้เรียบร้อย (อ้อ! ต้องมาลงทะเบียนกันก่อนเก้าโมงนะคะ ถ้าไม่อยากเหนื่อยก็แนะนำว่ามานอนค้างที่อุทยานกันก่อนสักคืนก็ได้ค่ะ สบายๆ) แล้วก็แวะลงไปกินข้าวเช้ากับคุณป้าที่สวัสดิการระหว่างรอเจ้าหน้าที่เตรียมเต๊นท์กับถุงนอน หลังจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ

เราต้องนั่งรถตู้ต่อไปยังบ้านอีต่องซึ่งอยู่เลยที่ทำการอุทยานขึ้นไปอีก เพราะว่าจุดเริ่มต้นเส้นทางพิชิตยอดเขาช้างเผือกจะเริ่มกันที่นี่ค่ะ จอดรถกันหน้าหมู่บ้านแล้วก็เดินเข้าไปในตลาดเพื่อหาลูกหาบให้เค้ามาแพ๊คของที่รถค่ะ ลูกหาบคนนึงก็แบกน้ำหนักได้ประมาณ 25-30 กิโลกรัมค่ะ ค่าลูกหาบก็อยู่ที่ 1,100 บาทต่อคน สำหรับกลุ่มเราเราจ้างแค่คนเดียวค่ะ เน้นประหยัด (ไม่รู้คิดผิดคิดถูก แต่ระหว่างทางนี่คือทุกคนอยากจะโยนกระเป๋าทิ้งหมดเลย ฮาาา~) ให้เค้าแบกแค่น้ำ อาหารสำหรับ 2 มื้อ แล้วก็เต๊นท์กับถุงนอนค่ะ สำหรับคนที่แพลนว่าจะไป น้ำนี่เตรียมขึ้นไปคนละประมาณ 3 ลิตรนะคะ คือปกติเรากินน้ำน้อยเลยคิดว่า 3 ลิตรนี่เยอะไป แต่พอขึ้นไปนี่คือแบบ น้ำหนึ่งหยดนี่มีค่าที่สุดในชีวิตเลยค่ะ TT โอเค เลิกพูดเรื่องน้ำกันดีกว่า หลังจากลูกหาบแพ๊คของเสร็จพวกเราก็เตรียมตัวสะพายเป้ขึ้นหลังพร้อมออกลุย~

การเดินทางจากบ้านอีต่องไปยังลานกางเต๊นท์รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตรค่ะ ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-5 ชั่วโมง พวกเราเริ่มออกเดินทางกันประมาณสิบโมงเศษๆโดยมีพี่ทหารหนึ่งคนเป็นคนนำทางประจำกลุ่มเราค่ะ เริ่มออกเดินทางจากบ้านอีต่องไปสักระยะ ช่วงแรกยังเป็นทางสบายๆ เดินไปคุยไป ชิวๆค่ะ (ถึงชิวแต่เราก็เริ่มรู้สึกเหนื่อย TT เพราะปกติก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายน่ะค่ะ) เนื่องจากพวกเราออกเดินทางสาย เราก็เลยได้เจอกลุ่มอื่นที่กำลังเดินสวนกลับลงมาบ้างแล้วค่ะ ตลอดทางก็จะมีคนสวนลงมาแล้วบอกสู้ๆกันตลอดทางเลย ยิ้ม

ตอนแรกเราก็คิดว่าจากบ้านอีต่องนี่คือเริ่มนับเป็นเส้นทางพิชิตยอดเขาแล้วค่ะ แต่เปล่าค่ะ คือเราต้องเดินผ่านหมู่บ้านไปสักพักถึงจะเจอป้าย “ขอต้อนรับสู่เส้นทางผู้พิชิตยอดเขาช้างเผือก” จากจุดนี้มองไปก็เหนื่อย เอ้ย! สวยแล้วค่ะ เค้าล้อเล่น ต่อจากนี้ไปก็เริ่มรู้สึกว่าจะเป็นเส้นทางเดินป่าจริงๆแล้วนะ มาเจอป้ายกันแล้วก็ต้องถ่ายรูปรวมกันสักหน่อย แต่รูปไม่ได้อยู่กล้องเราค่ะ แป่ว~

ระหว่างทางขึ้นนั้นโชคดีว่าเจอพี่ๆกลุ่มนึง เค้าก็บริจาคไม้เท้าให้ค่ะ คือความจริงมันก็คือไม้ไผ่เนี่ยล่ะค่ะ เอามาช่วยค้ำตอนเดินแทนไม้เท้า คือแรกๆก็จะรู้สึกว่า ไม่ต้องใช้หรอกมั้ง เกะกะ แต่ขอบอกว่า มันดีมากค่ะ คือมันช่วยลดภาระเข่าให้เราด้วย แล้วบางช่วงที่ลื่นๆ หรือช่วงขาลงชันๆนี่ช่วยได้มากค่ะ เดินง่ายขึ้นเยอะ ของเค้าดีจริง เยี่ยม

ดูเหมือนเราจะเล่าละเอียดเกินไปแล้ว เดี๋ยวจะเบื่อซะก่อน เอารูปริมทางสวยๆไปชมกันนะคะ คือทางเดินมันเหนื่อยจริงค่ะ ช่วงแรกก็ไม่เท่าไหร่เพราะยังไม่ค่อยชัน ก็เลยมีอารมณ์จะเก็บวิวข้างทางมาให้ดูกัน เอาว่า เห็นวิวก็หายเหนื่อยแล้วล่ะค่ะ คืออยากจะลงไปนอนกลิ้งกับหญ้าเขียวๆเลย ฮ่าๆ



เห็นวิวข้างทางแล้วอยากจะช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวประเทศไทยเลยจับเพื่อนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เที่ยวเมืองไทยสักหน่อย ฮาาาา~



เดินไปเดินมาก็มาถึงจุดพักพอดี เดินมาได้ประมาณ 3 กิโลเมตรแล้วค่ะ แต่ยังไม่ถึงครึ่งทาง TT^TT เริ่มเหนื่อยกันแล้ว เลยขอพักกันสักหน่อย
คือกลุ่มเรานี่ตอนก่อนจะมาที่นี่คือทุกคนแทบจะไม่รู้จักกันเลยค่ะ แต่ตอนขากลับนี่ทุกคนคุยกันแบบสนิทมากกกก~ เหมือนรู้จักกันแต่ชาติปางก่อน เค้าล้อเล่น



ต่อเรื่อยๆค่ะ ช่วงนี้ไม่รู้จะเล่าอะไรมาก เดินไปถ่ายรูปไปเรื่อย วิวดี อากาศร้อนหน่อย แต่เพื่อนๆเราก็ยังไหว ยังยิ้มได้อยู่ค่าา ยิ้ม



นี่งานพาเพื่อนมาทรมานค่ะ ไม่รู้แม่เค้าจะสั่งเลิกคบหรือเปล่า ฮาาาาาาา~ คือเพื่อนบอกว่ามาทริปนี้แล้วรู้สึกแก่เลย หัวเราะ



ไปชมวิวกันต่อค่าา~ ฟ้าสวยๆกับภูเขาเขียวๆ ฟินค่ะบอกเลย~



ตลอดทางนี่คือเขียวมาตลอดเลยค่ะ เมืองไทยนี่สุดยอดไปเลย ไปเที่ยวกันนะคะ ดอกไม้



นานๆทีขอหนีบรรยากาศเมืองมารับลมรับแดดบ้างจะเป็นอะไรไป



อันนี้เพื่อนๆในกลุ่มเรากับพี่ทหารนำทางที่ไปปิดท้ายกรุ๊ปซะแล้ว สู้ต่อไป~



มาไกลแล้วค่ะ อันนี้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าข้ามเขาอีกสามลูกก็น่าจะถึงลานกางเต๊นท์แล้ว คือทางมันทั้งเสียวทั้งสวย ไปไม่เป็นเลยจ้า~ แต่ก็ต้องไป TT
อยากเห็นวิวสวยๆก็ต้องเดินดีๆ ถ้าก้าวพลาดทีอาจจะเป็นฉากแบบหนังผี คือเพื่อนๆได้ยินแต่เสียงกรี๊ดแล้วหายไป ฮาาาาาา



เลยจากตรงนี้ไปคือทางชันสุดๆ เหนื่อยแล้วด้วย~ ขออนุญาติเก็บกล้องก่อนแล้วกันนะคะ เพื่อความอยู่รอด อีกนิดเดียวเท่านั้น จะถึงลานกางเต๊นท์แล้ว

สักประมาณบ่ายสามโมงได้ พวกเราทั้ง 7 คนก็ได้ลากสังขารตัวเองมาถึงลานกางเต๊นท์อย่างปลอดภัย แบบเหนื่อยขาดใจ~ แล้วไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย คือพอพวกเรามาถึงกันได้ไม่นาน นั่งพักกันนอกเต๊นท์อยู่ประมาณไม่ถึง 10 นาที ฝนตกเลยค่าาาาา วิ่งเข้าเต๊นท์กันแทบไม่ทัน แต่คือพอเข้าไปในเต๊นท์แล้วแบบอบมาก ไม่ไหวค่ะ เราเลยไปขออาศัยกลุ่มพี่ๆใจดีที่นั่งกันอยู่นอกเต๊นท์แบบมีผ้าใบบังฝนนั่งด้วย ขอบพระคุณในความกรุณาของพี่ๆต่อพวกเราเด็กตาดำๆค่ะ ^/\^ เหมือนชีวิตจะแฮปปี้ประการฉะนั้นแล แต่ไม่ค่ะ! คือฝนมันเทลงมาหนักขึ้น น้ำก็ไหลเข้าผ้าใบสิคะ ทีนี้คือแบบไม่ว่าใครก็ใครคงต้องระเห็จกลับไปอยู่ในเต๊นท์ตัวเองแล้วล่ะค่ะ เศร้า TT^TT

อ้อ! ลืมเล่าไปค่ะ คือเราไปกัน 7 คนใช่มั๊ยคะ มีเต๊นท์ 3 หลัง ปรากฎว่ามีหลังนึงรั่วค่ะ น้ำเข้าทั้งจากข้างบนแล้วก็ข้างล่าง เพื่อนเราคนนึงเลยต้องนอนน้ำท่วมอยู่ในเต๊นท์ เศร้าแทน ถือว่าเป็นประสบการณ์ละกันนะ โชคดี~ บาย~ ฮ่าๆ

เนื่องจากฝนตก ไม่มีอะไรทำ และเหนื่อยมาก~ ทุกคนก็เลยสลบไสลกันอยู่ในเต๊นท์ตั้งแต่ตอนนั้นเลยค่ะ เพราะดูท่าฝนตกแบบนี้คงจะไม่ได้ขึ้นไปยอดเขาแล้วเย็นนี้ แย่จัง~ TT^TT

ยังไม่จบนะคะ เดี๋ยวมาต่อ~
ชื่อสินค้า:   เขาช้างเผือก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่