ทำไมเด็กมหาลัยชอบฆ่าตัวตาย !!!????!!

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะคะว่า ... กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นการระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจของหญิงสาวพลัดถิ่น ผู้ที่ต้องมาอยู่กับคนร้อยพ่อพันแม่ เรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตนเอง (แต่ตังค์นี่ขอเกาะทางบ้านก่อนนะคะ ) เรียนรู้งาน เรียนรู้คน เรียน ๆๆๆๆ จนเครียด ! จนเกิดความรู้สึกที่ว่า อ๋ออออออ ... เข้าใจและ ทำไมพวกเด็กมหาลัยถึงชอบฆ่าตัวตายกันนัก !

เข้าเรื่อง ๆ ๆ ๆ ....
เคยมั๊ยคะตอนอยู่อนุบาล อยากไปเป็นพี่ประถมเร็ว ๆ
เคยมั๊ยคะตอนอยู่ประถม อยากไปเป็นพี่มัธยมเร็ว ๆ
แล้วเคยมั๊ยคะตอนอยู่มัธยม อยากไปเป็นพี่มหาลัยเร็ว ๆ
ที่กล่าวมาเนี่ย เราเป็นหมดทุกข้อเลย แต่พอได้เป็นจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เลย !
พอได้อยู่ประถมแรก ๆ นี่ยากนะ ทำไมตอนบ่ายไม่ได้นอน ทำไมต้องเรียนทั้งวัน ทำไมต้องมีการบ้านหลาย ๆ วิชา ( จำได้ว่าตัวเองเริ่มไม่ทำการบ้านตอน ป.4 ค่ะ เพราะโดนครูตี ก่อนหน้านั้นยังทำนะดเพราะตอนนั้นมีสมุดจดการบ้านที่ต้องให้ผู้ปกครองเซ็นต์ แต่พอ ป.2 ก็ใช้สกิลเทพในการปลอมลายเซ็นต์แม่ โดนจับได้ แต่แม่ก็ขำ ๆ ค่ะ )
พอได้อยู่มัธยมจะรู้สึกอีกแบบ คือจากสังคมเด็ก ๆ ใส ๆ มันไม่ใสอีกต่อไป ในโรงเรียนมีเรื่องน่าตื่นเต้นมากมาย จากที่เคยรุมล้อมกระโดดยางกลับกลายเป็นรุมล้อมชกต่อย ตบตี สนุกสนานเพราะเค้าไปไหนเราก็ตาม 555 แต่พอมาอีกด้านที่เป็นเด็กเรียนนี่ก็เรียนเอาเป็นเอาตายนะคะ เราเป็นหนึ่งในห้องเด็กที่เรียนเอาเป็นเอาตายแหละ แต่เราชิว ดีที่ได้เพื่อนช่วย เพื่อนดีค่ะ เพื่อนบังคับทำงานทำการบ้านตลอดเพราะเราติดเล่น ตอนม.ต้นนี่เล่นบอล เล่นตะกร้อกับเพื่อน ผช.สบายเลยจ้า แต่พอมา ม.ปลาย เงิบแป๊บ คือตกลงมาจากห้องคิง (แต่ยังอยู่ในแผนวิทย์-คณิต) ผญ. ม.ปลายนี่รักสวยรักงามค่ะ จากที่ว่างเคยเตะบอลนี่เคว้งเลยค่ะ เพื่อน ๆ อยู่กับกระจก หวี แป้ง จะไปเล่นกับ ผช. ตอนม.ปลายก็ไม่ไหว มันไม่สนใจเราเลย มันไม่ยั้งเลย มันหยาบคาย ไม่น่ารักเหมือเหมือนเพื่อน ผช. สมัย ม.ต้น แล้วก็ตอนที่อยู่ม.ปลายนะเรารู้สึกว่ายากที่สุดในชีวิตค่ะคณิต  ฟิสิกส์ เคมี ชีวะค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเยอะ มันยาก เรียนพิเศษแทบตาย  พอเข้ามหาลัยมาเรียนแผนศิลป์ ! จะว่าดีใจก็ดีใจนะจบ ม.ปลายมาได้ ตัดขาดจากฟิสิกส์ เคมี ชีวะได้ หยุดวงจรชีวิตเรียน ทำงาน ลอกการบ้าน เรียนพิเศษได้ แต่สิ่งที่ยังค้างคาใจคือจะเรียนแผนวิทย์มาทำไมวะ ไม่ได้ใช้ไรเลยเนี่ย ค่าเรียนพิเศษเท่าไหร่ หนังสือที่ต้องซื้อมาอ่านเพิ่มอีกเท่าไหร่ !!!
มาถึงจุดที่เรียกว่าสุด ๆ ของสุด ๆ เลยดีกว่าค่ะ ...... ชีวิตมหาหลอก ! เอ้ย ! ชีวิตมหาลัย !
ชีวิตที่วาดฝันว่าอิสรภาพอันไกลโพ้นนนนน ติดที่เรียนแถวบ้านเราไม่เอา มันใกล้บ้านไป อยู่กับสภาพแวดล้อมเดิม ๆ สังคมเดิม ๆ ไม่เอาาาา !
มาเอาตอนรอบแอดค่ะ ห่างจากที่บ้านกว่าเดิม ! มาแบบงง ๆ ไม่รู้หรอกมีรุ่นพี่เราอยู่ที่นี่บ้างรึป่าว เพื่อนแอดไรบ้างไม่สนละ ณ จุดนี้ชีวิตชั้น ทางเดินชั้น เลือกเลยยยยย มั่นมาก ... ติดด้วยค่ะ เลือกอันดับแรกแล้วติด ดีใจค่ะ แต่พอเช็คคะแนนสูงสุด ต่ำสุดแล้วพบว่า ไอ้คะแนนต่ำสุดนี่มันคุ้น ๆ จนถึงทศนิยมหลักสุดท้ายยย ! น้ำตาไหลค่ะ คะแนนช๊านนนน ( คะแนนต่ำสุดนะคะ จะสูงกว่านี้ก็ไม่มีปัญญาละ 555 )
จากเด็กที่ชิว ๆ เรียน ๆ เล่น ๆ มาอยู่มหาลัยเทอมแรกนี่ก็มีการรักษาภาพพจน์อยู่พักนึงนะคะ ชั้นเคร่งเลย ตั้งใจ เอาเกรด ๆๆ เทอมแรกก็ยังโอเคอ่ะถึงแม้จะมีรับน้องด้วยอะไรด้วย แต่ด้วยความที่เป็นปีหนึ่งมั้ง งานเลยยังไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็ยากแหละนะ วิชาแปลก ๆ ก็มา
เอาเป็นว่าปีหนึ่งผ่านไปละกันนะ ... ก้าวข้ามมาปัจจุบัน !
ต้องมาก่อน ม.เปิด เตรียมรับน้อง แล้วความปราณีที่อาจารย์เคยมีเหมือนตอนปีหนึ่งก็ค่อย ๆ สลายหายไปค่ะ สั่งงานกันแบบสุดฤทธิ์สุดเดช
แล้วคือกิจกรรมมันก็เยอะไง กิจกรรมส่วนใหญ่เนี่ยปีหนึ่งจะเป็นผู้เข้าร่วม ปีสองจะเริ่มมีบทบาทในฐานะผู้จัดมากขึ้น ก็มาเข้าร่วมแล้วรับผิดชอบหน้าที่นู่นนี่นั่น อะไรก็ว่ากันไป
กิจกรรมมาจนจะถึงสอบมิดเทอม คะแนนนี่ออกมารุ่งริ่งเลย ก่อเกิดเป็นความเครียดขั้นที่หนึ่ง ! และวางแผนเอาไว้ว่าไฟนอลต้องฟิตละ สู้ว้อยยยยย
แต่สภาพตอนนี้ค่ะ เข้าช่วงไฟนอลค่ะ อาทิตย์สุดท้ายของการเรียนแต่การไฟนอลมันไม่รอเรียนเสร็จก่อนไง สอบนอกตารางค่ะ ! งานก็บานเต็มโต๊ะ งานศิลป์ งานสร้างสรรค์ งานงบบาน งานกระเป๋าฉีก ทำกันเข้าไป ไหนจะสอบ ไหนจะควิซ คืออาจารย์เค้าเหมือนจะเข้าใจนะคะ แต่เค้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะ สั่งงานสุดแรงเกิด โปรเจคใหญ่ คะแนน 10% มันควรมาสั่งก่อนช่วงไฟนอลหรอคะ คืองานเก่าเรายังไม่ไป งานใหม่เราก็มา งานกลุ่มอีกไม่รู้กี่กลุ่ม คุยงานทีงงที ไม่รู้งานไหนอยู่กลุ่มไหนละค่ะ ห้องที่พักกับเมทอยู่ต่างคณะกันค่ะ แต่เหมือนมีแค่เราที่เดินสายตัวแทบขาด คือในชีวิตไม่เคยเครียดขนาดนี้มาก่อนเลยนะ เรียนแบบชิว ๆ มาตลอด แต่พอมหาลัยทุกอย่างมันเปลี่ยนไป มันไม่สวยงาม ไม่มีกลีบกุหลาบ ไม่มีแม้กระทั่งเวลา มีแต่งาน มีแต่สอบ จากคนที่เคยพูดว่าบ้านคือนรก ! (ตอนเด็กกว่านี้เฟี๊ยวค่ะ) ตอนนี้กลับกันเลยค่ะ บางอารมณ์เหนื่อยแบบสุด ๆ นี่โทรไปร้องไห้กับที่บ้านเลย ว่างปุณบก็กลับบ้านปั๊บ ไม่มีอารมณ์อิสระไปเที่ยวแบบที่วาดฝันเอาไว้เลย เพื่อนมันก็เข้าใจเราไม่ทั้งหมดอ่ะ บางครั้งเราก็รู้สึกนะว่าเพื่อนในมหาลัยมันคงโตเกินกว่าจะมาปรับตัวเข้าหากันแล้วมั้ง ความเป็นตัวของตัวเองในแต่ละคนมีสูง
อารมณ์แบบมัธยมหายไปเลย นี่คิดถึงชีวิตมัธยมมากนะ เพื่อนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ไปไหนไปกัน เข้าใจกัน ต่างกับเพื่อนมหาลัยเหลือเกินที่อยู่ด้วยกันแต่ไม่ค่อยเข้าใจกัน จะไปไหนก็ไป ใช้ชีวิตคนเดียวมากขึ้นค่ะ เพราะขี้เกียจพูด ขี้เกียจง้อ เค้าไม่ใจกะเรา เราก็จบ !!!
ไม่รู้ว่าชีวิตมหาลัยของคนอื่น ๆ เป็นยังไงบ้างคะ .... ตอนนี้อยู่ในสภาพซอมบี้เหมือนกันรึป่าวววววว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่