สวัสดีครับผมเทรดหุ้นได้ช่วงหนึ่ง ช่วงแรกเน้นเทคนิคคอลเพียวๆก็พอได้กำไรบ้าง ช่วงหลังๆคิดว่าถ้าหากเราทราบปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเกิดต่อตลาด มันน่าจะทำให้เราบริหารความเสี่ยงได้ดีพอ ดีกว่าเดิมที่เข้าไปเดิมพันด้วยอารมณ์และกราฟเท่านั้น
ผมวิเคราะห์ได้คร่าวๆนะครับ (หลังจากพยายามเก็บข้อมูลมาช่วงหนึ่ง)
ปัจจัยที่มีผลต่ตลาดหุ้นไทย มี 2 ปัจจัยคือ ภายใน และ ภายนอก
1) ภายใน - น่าจะพวกนโยบายรัฐบาลที่ประกาศ หรือ รอประกาศ เช่น โครงการ 2 ล้านๆ ก็ส่งผลในกลุ่มอุตสหากรรมหนึ่คึกคัก ได้ช่วงนึง , หรือ อย่างนโยบายสนับสนุน ADDER ก็ส่งผลต่อกลุ่ม Renewable Power แต่ผมสังเกตุว่ามันก้ได้ช่วงหนึ่ง
- ภาวะทางการเมือง : อันนี้เห็นชัดเมื่อ พย ปีก่อน คงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และ อารมณ์ของนักลงทุน นักเก็งกำไรบ้านเรา
- ตัวเลขเศรษฐกิจ : อย่างเช่น GDP , Balance Trade , อัตราดอกเบี้ย ผมมองว่า ปัจจัยนี้ไม่แน่นอนเท่าไหร่ (ในช่วงนี้) เพราะบางครั้งเหมือนจะข่าวดีแต่ตลาดกลับตรงข้าม
- การลงทุนภาคเอกชน : ก็น่าจะพอทำให้คึกคัก เป็นกลุ่ม แต่น่าจะไม่ใช่ทั้งตลาด
- ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ : ปัจจัยนี้ผมมองดูพบว่า ก็มีผลกับหุ้นได้เช่นกันแต่ไม่ทั้งตลาด
- การประกาศผลประกอบการ : ตัวนี้จะมีผกับหุ้นรายตัว ไม่เกิดทั้งตลาด ยกเว้น กลุ่ม Big Cap ที่มีผประกอบการย่ำแย่ ก็อาจจะส่งผต่อภาพรวมได้
2) ปัยใจภายนอก ปัจจัยนี้ผมคิดว่ามีความสำคัญมากๆต่อบ้านเราทั้งแง่เม็ดเงินและจิตวิทยาครับ
- Fund Flow : น่าจะชัดเจนที่สุดว่ามีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นบ้านเราอย่างมาก คำถามที่อยากทราบคือ ตอนนี้ยังมี Fund Flow มาบ้างไหม ทำอย่างไรถึงจะเข้ามา เพราะอเมริกาหยุดQE และ แต่ EU กับ Japan ก็ทำ QE อย่างต่อเนื่อง ไม่รู้มันเข้าบ้านเราบ้างหรือเปล่าครับ
- Economic Reccesion : จากที่ตามปัจจุบัน ผลว่าภาวะนี้รุนแรงทุกที่ japan เองก็มีข่าวว่าเข้าสู่ Reccesion ถึงแม้จะสร้าง QE , EU ก็สาหัส
- ราคาน้ำมัน : มันสอดคล้องกับ สภาพรวมทั้งโลก และผมคิดว่าน่าจะมีผลต่อหุ้นกลุ่ม Energy แต่ผลยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ว่า ราคาน้ำมันโลกกับหุ้นพลังงานเรา มันสัมพันธ์กันอย่างไรครับผู้รู้ช่วยบอกทีครับ
ที่ผมวิเคราะห์ไว้ก็มีเพียงเท่านี้ครับ เลยอยากปรึกษาผู้รู้ในที่นี้ช่วยแนะนำด้วยครับ
เพราะผมคิดว่าถ้าเราเข้าใจพวก Macro Economic มันน่าจะช่วยเราวางแผนคุมความเสี่ยงได้ดี และ run ได้ถูกทางครับ
รบกวนปรึกษาปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยครับ
ผมวิเคราะห์ได้คร่าวๆนะครับ (หลังจากพยายามเก็บข้อมูลมาช่วงหนึ่ง)
ปัจจัยที่มีผลต่ตลาดหุ้นไทย มี 2 ปัจจัยคือ ภายใน และ ภายนอก
1) ภายใน - น่าจะพวกนโยบายรัฐบาลที่ประกาศ หรือ รอประกาศ เช่น โครงการ 2 ล้านๆ ก็ส่งผลในกลุ่มอุตสหากรรมหนึ่คึกคัก ได้ช่วงนึง , หรือ อย่างนโยบายสนับสนุน ADDER ก็ส่งผลต่อกลุ่ม Renewable Power แต่ผมสังเกตุว่ามันก้ได้ช่วงหนึ่ง
- ภาวะทางการเมือง : อันนี้เห็นชัดเมื่อ พย ปีก่อน คงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และ อารมณ์ของนักลงทุน นักเก็งกำไรบ้านเรา
- ตัวเลขเศรษฐกิจ : อย่างเช่น GDP , Balance Trade , อัตราดอกเบี้ย ผมมองว่า ปัจจัยนี้ไม่แน่นอนเท่าไหร่ (ในช่วงนี้) เพราะบางครั้งเหมือนจะข่าวดีแต่ตลาดกลับตรงข้าม
- การลงทุนภาคเอกชน : ก็น่าจะพอทำให้คึกคัก เป็นกลุ่ม แต่น่าจะไม่ใช่ทั้งตลาด
- ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ : ปัจจัยนี้ผมมองดูพบว่า ก็มีผลกับหุ้นได้เช่นกันแต่ไม่ทั้งตลาด
- การประกาศผลประกอบการ : ตัวนี้จะมีผกับหุ้นรายตัว ไม่เกิดทั้งตลาด ยกเว้น กลุ่ม Big Cap ที่มีผประกอบการย่ำแย่ ก็อาจจะส่งผต่อภาพรวมได้
2) ปัยใจภายนอก ปัจจัยนี้ผมคิดว่ามีความสำคัญมากๆต่อบ้านเราทั้งแง่เม็ดเงินและจิตวิทยาครับ
- Fund Flow : น่าจะชัดเจนที่สุดว่ามีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นบ้านเราอย่างมาก คำถามที่อยากทราบคือ ตอนนี้ยังมี Fund Flow มาบ้างไหม ทำอย่างไรถึงจะเข้ามา เพราะอเมริกาหยุดQE และ แต่ EU กับ Japan ก็ทำ QE อย่างต่อเนื่อง ไม่รู้มันเข้าบ้านเราบ้างหรือเปล่าครับ
- Economic Reccesion : จากที่ตามปัจจุบัน ผลว่าภาวะนี้รุนแรงทุกที่ japan เองก็มีข่าวว่าเข้าสู่ Reccesion ถึงแม้จะสร้าง QE , EU ก็สาหัส
- ราคาน้ำมัน : มันสอดคล้องกับ สภาพรวมทั้งโลก และผมคิดว่าน่าจะมีผลต่อหุ้นกลุ่ม Energy แต่ผลยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ว่า ราคาน้ำมันโลกกับหุ้นพลังงานเรา มันสัมพันธ์กันอย่างไรครับผู้รู้ช่วยบอกทีครับ
ที่ผมวิเคราะห์ไว้ก็มีเพียงเท่านี้ครับ เลยอยากปรึกษาผู้รู้ในที่นี้ช่วยแนะนำด้วยครับ
เพราะผมคิดว่าถ้าเราเข้าใจพวก Macro Economic มันน่าจะช่วยเราวางแผนคุมความเสี่ยงได้ดี และ run ได้ถูกทางครับ