เผย❗ประเทศไทย “Sell on Fact” บ่อยที่สุดในโลก



          จากเหตุการณ์ “หุ้นทิ้งดิ่ง” สวนทางกับข่าวดีเรื่องการเจรจาภาษีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมกับยอดซื้อขายแบบ “3รุม1”(แถม Short TFEX หนัก) สร้างความสะพรึงให้กับนักลงทุนไทยแทบทั้งประเทศ โดยเหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจ... เพราะแม้นักลงทุนจำนวนมากจะวิเคราะห์ข่าวและพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง แต่สุดท้ายก็ต้องมาผิดหวังกับผลลัพธ์ เนื่องจากบรรดารายใหญ่เลือกทำการ “Sell on Fact” ดังนั้น เราจึงเขียนบทความนี้เพื่อตอกย้ำถึงความไม่สมเหตสมผลของตลาด เพื่อให้ทุกท่านระวังตัวในทุกครั้งที่ประกาศข่าวดี รวมถึงเสนอตัวอย่างแนวทางการใช้ Data Analysis เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อขาย

นิยามของ Sell On fact
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตารางแสดง %การถูกขายในวันที่ตลาดหุ้นเปิดกระโดดขึ้นของ 10 ประเทศสำคัญ


ประเทศไทยมี %การ Sell on Fact มากที่สุด เม่าแพนด้า

          ประเด็น Sell on Fact เป็นข้อมูลเชิงคุณภาพที่อาจพิสูจน์ได้ยาก เราจึงเลือกกรณีที่มีความชัดเจนที่สุดเป็นตัวกรณีศึกษา นั่นคือ “การรับรู้ข่าวดีในช่วงตลาดเปิด” โดยตั้งสมมุติฐานว่า: หากมีข่าวดีเกิดขึ้นในช่วงค่ำคืนหรือเช้าก่อนตลาดเปิด ตลาดฯจะสะท้อนออกมาด้วยการเปิดกระโดดขึ้น(เช่นกรณีวันศุกร์ที่ SET เปิดกระโดดเกือบ 1% ขานรับข่าวดีเจรจาภาษี) จากนั้นก็ให้ AI วิเคราะห์ “%ของวันที่ถูกทุบลงทันที” และเปรียบเทียบ 10 ประเทศสำคัญ ผลลัพธ์พบว่า ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 โดยมีค่าสูงถึง 72% ตามมาด้วยจีน 70% และค่อย ๆ ลดหลั่นกันไปตามตาราง

Spoil
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตารางแสดง Fund Flow ของวันที่ SET ปรับตัวลดลงจากราคาเปิดมากกว่า 0.5% ในช่วง 5 ปีล่าสุด(2021-2025)



แล้วใครคือผู้อยู่เบื้องหลังจากการ Sell on Fact ?

          จากตารางพบว่าพบว่าในช่วง 5 ปีหลังสุด มีทั้งหมด 26 วัน ที่ตลาดหุ้นไทยเปิดกระโดดขึ้นเกินกว่า 0.5% แต่กลับถูก ขายออกมาอย่างรุนแรง ในวันเดียวกัน โดยมีถึง 18 วันหรือ 70% ที่ "นักลงทุนต่างชาติ" เป็นผู้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมากที่สุด รวมถึง  Short สุทธิมากที่สุดในตลาด TFEX ด้วย ทิ้งห่างจากกลุ่มอื่นแบบเทียบกันไม่ได้ จึงสามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่า ต่างชาติเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจากเหตุการณ์ Sell on Fact อย่างมีนัยสำคัญ

         จากบทความนี้ คงทำให้ทุกท่านเห็นภาพแล้วนะครับว่าปัจจุบัน การวิเคราะห์เพียงแค่ข่าวสารอาจไม่เพียงพอต่อการประเมินทิศทางของตลาดหุ้นอีกต่อไป เพราะ กระแสเงินทุน (Fund Flow) คือปัจจัยสำคัญที่ส่งอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างชัดเจน ดังนั้น นักลงทุนจึงควรจับตาความเคลื่อนไหวของ Fund Flow อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจึงได้จัดทำตัวอย่าง Data Analysis เพื่อแสดงวิธีประยุกต์ใช้งานข้อมูลเหล่านี้ในการรับมือกับสภาวะตลาดปัจจุบัน ดังนี้



การเคลื่อนไหวของวันต่อมา "Upside จำกัด" เมื่อกองทุน&ต่างชาติจับมือกันขาย พร้อม Short TFEX หนัก

          จาก Data พบว่าเหตุการณ์ที่ "กองทุนและต่างชาติขายเกิน 1,000 ล้าน พร้อมกับต่างชาติ Short TFEX  > 10,000 สัญญา" เคยเกิดขึ้นทั้งหมด 36 ครั้งในรอบ 5 ปี และผลลัพธ์ คือ SET50 Futures มีแนวโน้มลงต่อ(จากราคาเปิด) 21 ครั้ง คิดเป็น 58% โดยลงแรงสุดที่ -16.8 จุด ส่วนกรณีรีบาวด์พบเด้งแรงสุดเพียงแค่ +8.8 จุดเท่านั้น ดังนั้น หาก Data Analysis ยังคงใช้งานได้ ก็ยังไม่ใช่จังหวะที่น่าสนใจในการเล่น Long สำหรับวันพรุ่งนี้


         ท้ายที่สุด พวกเราเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ศึกษาและใช้ Data Analysis เพื่อเอาชนะตลาดหุ้นในช่วงสถานการณ์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วย Money game มากกว่าพื้นฐาน หากใครที่สนใจในแนววิเคราะห์แบบนี้ นี้ก็สามารถให้กำลังใจและติดตามพวกเราได้นะครับ เพราะเราจะมีทั้งบทความ& Live ให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงนี้จะเน้นเรื่อง "Fund Flow" เป็นหลัก  หวังว่าข้อมูลที่เราจัดทำนี้จะเป็นประโยชน์กับใครสักคน ขอบคุณครับ  
 

Credit : https://www.facebook.com/tfexforfuture

ร่วมพูดคุยทิศทางราคาหุ้น&TFEX ได้ที่

Line OpenChat : TFEX For Future  
 


https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ
 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่