จากเหตุการณ์
“หุ้นทิ้งดิ่ง” สวนทางกับข่าวดีเรื่องการเจรจาภาษีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมกับยอดซื้อขายแบบ
“3รุม1”(แถม Short TFEX หนัก) สร้างความสะพรึงให้กับนักลงทุนไทยแทบทั้งประเทศ โดยเหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจ... เพราะแม้นักลงทุนจำนวนมากจะวิเคราะห์ข่าวและพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง แต่สุดท้ายก็ต้องมาผิดหวังกับผลลัพธ์ เนื่องจากบรรดารายใหญ่เลือกทำการ
“Sell on Fact” ดังนั้น เราจึงเขียนบทความนี้เพื่อตอกย้ำถึงความไม่สมเหตสมผลของตลาด เพื่อให้ทุกท่านระวังตัวในทุกครั้งที่ประกาศข่าวดี รวมถึงเสนอตัวอย่างแนวทางการใช้ Data Analysis เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อขาย
นิยามของ Sell On fact
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คือเหตุการณ์ที่ราคาหุ้น “ปรับตัวลง” หลังจากที่ข่าวดี หรือปัจจัยบวกที่ทุกคนรอคอย ได้ถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรจากการซื้อหุ้นไว้ก่อนหน้า ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด คือ ช่วงประกาศผลเลือกตั้งไทย 2019
ก่อนเลือกตั้ง:
SET วิ่งขึ้นแรงจาก 1,620 จุด → 1,675 จุด เพราะคาดหวังว่าการเมืองจะชัดเจน เศรษฐกิจจะเดินหน้าได้
วันที่ประกาศผล (Fact):
นักลงทุน ขายทำกำไรพร้อมกัน ทำให้ SET ดิ่งกลับลงอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน
ตารางแสดง %การถูกขายในวันที่ตลาดหุ้นเปิดกระโดดขึ้นของ 10 ประเทศสำคัญ
ประเทศไทยมี %การ Sell on Fact มากที่สุด
ประเด็น Sell on Fact เป็นข้อมูลเชิงคุณภาพที่อาจพิสูจน์ได้ยาก เราจึงเลือกกรณีที่มีความชัดเจนที่สุดเป็นตัวกรณีศึกษา นั่นคือ
“การรับรู้ข่าวดีในช่วงตลาดเปิด” โดยตั้งสมมุติฐานว่า: หากมีข่าวดีเกิดขึ้นในช่วงค่ำคืนหรือเช้าก่อนตลาดเปิด ตลาดฯจะสะท้อนออกมาด้วยการเปิดกระโดดขึ้น(เช่นกรณีวันศุกร์ที่ SET เปิดกระโดดเกือบ 1% ขานรับข่าวดีเจรจาภาษี) จากนั้นก็ให้ AI วิเคราะห์ “%ของวันที่ถูกทุบลงทันที” และเปรียบเทียบ 10 ประเทศสำคัญ ผลลัพธ์พบว่า
ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 โดยมีค่าสูงถึง 72% ตามมาด้วยจีน 70% และค่อย ๆ ลดหลั่นกันไปตามตาราง
Spoil
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ตารางแสดง %การถูกขายในวันที่ตลาดหุ้นเปิดกระโดด > 0.5% ในช่วง 5 ปีล่าสุด(2021-2025)

เพื่อความถูกต้องของข้อมูล เราจึงทำการ Cross Check ซ้ำด้วยการเก็บเฉพาะ 5 ปีหลังสุด (2021-ก.ค.2025) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ยังคงสอดคล้องกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่าดัชนี SET เมื่อเปิดกระโดดขึ้น > 0.5% มีโอกาสถึง 48.25% ที่ราคาจะ ปิดต่ำกว่าราคาเปิด เป็นรองเพียงจีนที่มีโอกาส 53.49% แม้ว่าข้อสรุปนี้อาจไม่สมบูรณ์ทั้งหมด เนื่องจากทั้งไทยและจีนต่างอยู่ในภาวะตลาด "ขาลง”(Downtrend) เมื่อเทียบกับตลาดประเทศอื่น ดังนั้น การจะเห็นหุ้นปรับตัวลดลงในแต่ละวันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สาระสำคัญที่ต้องการสื่อก็ไม่ได้เปลี่ยน นั้นคือ "อยากให้ทุกท่านระวังกับการเข้าซื้อตอนข่าวดีประกาศ"
ตารางแสดง Fund Flow ของวันที่ SET ปรับตัวลดลงจากราคาเปิดมากกว่า 0.5% ในช่วง 5 ปีล่าสุด(2021-2025)
แล้วใครคือผู้อยู่เบื้องหลังจากการ Sell on Fact ?
จากตารางพบว่าพบว่าในช่วง 5 ปีหลังสุด มีทั้งหมด
26 วัน ที่ตลาดหุ้นไทยเปิดกระโดดขึ้นเกินกว่า
0.5% แต่กลับถูก
ขายออกมาอย่างรุนแรง ในวันเดียวกัน โดยมีถึง 18 วันหรือ 70% ที่ "
นักลงทุนต่างชาติ" เป็นผู้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมากที่สุด รวมถึง Short สุทธิมากที่สุดในตลาด TFEX ด้วย ทิ้งห่างจากกลุ่มอื่นแบบเทียบกันไม่ได้ จึงสามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่า
ต่างชาติเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจากเหตุการณ์ Sell on Fact อย่างมีนัยสำคัญ
จากบทความนี้ คงทำให้ทุกท่านเห็นภาพแล้วนะครับว่าปัจจุบัน การวิเคราะห์เพียงแค่ข่าวสารอาจไม่เพียงพอต่อการประเมินทิศทางของตลาดหุ้นอีกต่อไป เพราะ กระแสเงินทุน (Fund Flow) คือปัจจัยสำคัญที่ส่งอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างชัดเจน ดังนั้น นักลงทุนจึงควรจับตาความเคลื่อนไหวของ Fund Flow อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจึงได้จัดทำตัวอย่าง Data Analysis เพื่อแสดงวิธีประยุกต์ใช้งานข้อมูลเหล่านี้ในการรับมือกับสภาวะตลาดปัจจุบัน ดังนี้
การเคลื่อนไหวของวันต่อมา "Upside จำกัด" เมื่อกองทุน&ต่างชาติจับมือกันขาย พร้อม Short TFEX หนัก
จาก Data พบว่าเหตุการณ์ที่
"กองทุนและต่างชาติขายเกิน 1,000 ล้าน พร้อมกับต่างชาติ Short TFEX > 10,000 สัญญา" เคยเกิดขึ้นทั้งหมด 36 ครั้งในรอบ 5 ปี และผลลัพธ์ คือ SET50 Futures มีแนวโน้มลงต่อ(จากราคาเปิด) 21 ครั้ง คิดเป็น 58% โดยลงแรงสุดที่ -16.8 จุด ส่วนกรณีรีบาวด์พบเด้งแรงสุดเพียงแค่ +8.8 จุดเท่านั้น ดังนั้น หาก Data Analysis ยังคงใช้งานได้ ก็
ยังไม่ใช่จังหวะที่น่าสนใจในการเล่น Long สำหรับวันพรุ่งนี้
ท้ายที่สุด พวกเราเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ศึกษาและใช้ Data Analysis เพื่อเอาชนะตลาดหุ้นในช่วงสถานการณ์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วย Money game มากกว่าพื้นฐาน หากใครที่สนใจในแนววิเคราะห์แบบนี้ นี้ก็สามารถให้กำลังใจและติดตามพวกเราได้นะครับ เพราะเราจะมีทั้งบทความ& Live ให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงนี้จะเน้นเรื่อง "Fund Flow" เป็นหลัก หวังว่าข้อมูลที่เราจัดทำนี้จะเป็นประโยชน์กับใครสักคน ขอบคุณครับ
Credit :
https://www.facebook.com/tfexforfuture
ร่วมพูดคุยทิศทางราคาหุ้น&TFEX ได้ที่
Line OpenChat : TFEX For Future
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ
เผย❗ประเทศไทย “Sell on Fact” บ่อยที่สุดในโลก
จากเหตุการณ์ “หุ้นทิ้งดิ่ง” สวนทางกับข่าวดีเรื่องการเจรจาภาษีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมกับยอดซื้อขายแบบ “3รุม1”(แถม Short TFEX หนัก) สร้างความสะพรึงให้กับนักลงทุนไทยแทบทั้งประเทศ โดยเหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจ... เพราะแม้นักลงทุนจำนวนมากจะวิเคราะห์ข่าวและพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง แต่สุดท้ายก็ต้องมาผิดหวังกับผลลัพธ์ เนื่องจากบรรดารายใหญ่เลือกทำการ “Sell on Fact” ดังนั้น เราจึงเขียนบทความนี้เพื่อตอกย้ำถึงความไม่สมเหตสมผลของตลาด เพื่อให้ทุกท่านระวังตัวในทุกครั้งที่ประกาศข่าวดี รวมถึงเสนอตัวอย่างแนวทางการใช้ Data Analysis เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อขาย
นิยามของ Sell On fact
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตารางแสดง %การถูกขายในวันที่ตลาดหุ้นเปิดกระโดดขึ้นของ 10 ประเทศสำคัญ
ประเทศไทยมี %การ Sell on Fact มากที่สุด
ประเด็น Sell on Fact เป็นข้อมูลเชิงคุณภาพที่อาจพิสูจน์ได้ยาก เราจึงเลือกกรณีที่มีความชัดเจนที่สุดเป็นตัวกรณีศึกษา นั่นคือ “การรับรู้ข่าวดีในช่วงตลาดเปิด” โดยตั้งสมมุติฐานว่า: หากมีข่าวดีเกิดขึ้นในช่วงค่ำคืนหรือเช้าก่อนตลาดเปิด ตลาดฯจะสะท้อนออกมาด้วยการเปิดกระโดดขึ้น(เช่นกรณีวันศุกร์ที่ SET เปิดกระโดดเกือบ 1% ขานรับข่าวดีเจรจาภาษี) จากนั้นก็ให้ AI วิเคราะห์ “%ของวันที่ถูกทุบลงทันที” และเปรียบเทียบ 10 ประเทศสำคัญ ผลลัพธ์พบว่า ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 โดยมีค่าสูงถึง 72% ตามมาด้วยจีน 70% และค่อย ๆ ลดหลั่นกันไปตามตาราง
Spoil
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตารางแสดง Fund Flow ของวันที่ SET ปรับตัวลดลงจากราคาเปิดมากกว่า 0.5% ในช่วง 5 ปีล่าสุด(2021-2025)
แล้วใครคือผู้อยู่เบื้องหลังจากการ Sell on Fact ?
จากตารางพบว่าพบว่าในช่วง 5 ปีหลังสุด มีทั้งหมด 26 วัน ที่ตลาดหุ้นไทยเปิดกระโดดขึ้นเกินกว่า 0.5% แต่กลับถูก ขายออกมาอย่างรุนแรง ในวันเดียวกัน โดยมีถึง 18 วันหรือ 70% ที่ "นักลงทุนต่างชาติ" เป็นผู้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมากที่สุด รวมถึง Short สุทธิมากที่สุดในตลาด TFEX ด้วย ทิ้งห่างจากกลุ่มอื่นแบบเทียบกันไม่ได้ จึงสามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่า ต่างชาติเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจากเหตุการณ์ Sell on Fact อย่างมีนัยสำคัญ
จากบทความนี้ คงทำให้ทุกท่านเห็นภาพแล้วนะครับว่าปัจจุบัน การวิเคราะห์เพียงแค่ข่าวสารอาจไม่เพียงพอต่อการประเมินทิศทางของตลาดหุ้นอีกต่อไป เพราะ กระแสเงินทุน (Fund Flow) คือปัจจัยสำคัญที่ส่งอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างชัดเจน ดังนั้น นักลงทุนจึงควรจับตาความเคลื่อนไหวของ Fund Flow อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจึงได้จัดทำตัวอย่าง Data Analysis เพื่อแสดงวิธีประยุกต์ใช้งานข้อมูลเหล่านี้ในการรับมือกับสภาวะตลาดปัจจุบัน ดังนี้
การเคลื่อนไหวของวันต่อมา "Upside จำกัด" เมื่อกองทุน&ต่างชาติจับมือกันขาย พร้อม Short TFEX หนัก
จาก Data พบว่าเหตุการณ์ที่ "กองทุนและต่างชาติขายเกิน 1,000 ล้าน พร้อมกับต่างชาติ Short TFEX > 10,000 สัญญา" เคยเกิดขึ้นทั้งหมด 36 ครั้งในรอบ 5 ปี และผลลัพธ์ คือ SET50 Futures มีแนวโน้มลงต่อ(จากราคาเปิด) 21 ครั้ง คิดเป็น 58% โดยลงแรงสุดที่ -16.8 จุด ส่วนกรณีรีบาวด์พบเด้งแรงสุดเพียงแค่ +8.8 จุดเท่านั้น ดังนั้น หาก Data Analysis ยังคงใช้งานได้ ก็ยังไม่ใช่จังหวะที่น่าสนใจในการเล่น Long สำหรับวันพรุ่งนี้
ท้ายที่สุด พวกเราเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ศึกษาและใช้ Data Analysis เพื่อเอาชนะตลาดหุ้นในช่วงสถานการณ์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วย Money game มากกว่าพื้นฐาน หากใครที่สนใจในแนววิเคราะห์แบบนี้ นี้ก็สามารถให้กำลังใจและติดตามพวกเราได้นะครับ เพราะเราจะมีทั้งบทความ& Live ให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงนี้จะเน้นเรื่อง "Fund Flow" เป็นหลัก หวังว่าข้อมูลที่เราจัดทำนี้จะเป็นประโยชน์กับใครสักคน ขอบคุณครับ
Credit : https://www.facebook.com/tfexforfuture
ร่วมพูดคุยทิศทางราคาหุ้น&TFEX ได้ที่
Line OpenChat : TFEX For Future
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ