เมื่อวานวันอาทิตย์ที่ 16 เวลา 06.00 น. คุณแม่มาหาผมที่บ้าน เพื่อตามไปช่วยเกี่ยวข้าว ถึงแม้จะใช้รถเกี่ยว แต่ก็ต้องใช้คนคอยเก็บตามซอกตามมุมอยู่ดี
ผมก็ไปช่วยตามประสาลูกที่แสนดีของคุณแม่ ผมละทิ้งอาชีพชาวนามานานแล้ว มาเป็นข้าหลวงของรัฐ ลงนา 1 วันยอมรับว่าแรงตกเยอะเลย เหนื่อยเอาการเหมือนกัน
ต้องยอมรับว่าปีนี้ข้าวที่นาออกผลผลิตดีพอสมควร 30 ไร่ ได้เม็ดข้าวราว 15 ตัน อาจจะดูน้อยกว่าที่อื่น แต่ที่นี้ก็ถือว่าพอใจแล้วเพราะดินไม่ค่อยดี
ตอนบ่ายก็เอาข้าวไปขาย 7 ตัน ได้เงินมาทั้งสิ้น 70,000 นิดๆ เพราะราคา กก.ละ 10.20 บาท ถ้าข้าวแห้งราคาจะอยู่ที่ 12 บาท
แต่ถ้าขายทั้งหมดก็จะได้เงินประมาณ 150,000 หน่อยๆ
หักค่าใช้จ่ายตั้งแต่ค่าพันธ์ุข้าว จ้างไถ จ้างหว่าน จ้างฉีดหญ้า ค่าปุ๋ย จ้างหว่านปุ๋ย จ้างเกี๋ยว จ้างขน เบ็ดเสร็จ ราว 80,000
ได้เงินกลับมาราวๆ 70,000 บาท พ่อแม่ดูแลกันสองคน ก็ตกคนละ 35,000 บาทต่อปี เฉลี่ยรายได้จากทำนาเดือนละ 2916 บาท ไม่ถึงสามพันดี
สรุปแล้วพอมีรายได้เข้ามาจุนเจือ ซึ่งก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
.......................................................................................................................................
ต่างจากปีก่อนราคาข้าวตากแห้งอยู่ที่ 17-18 บาท ซึ่งแม่บอกว่าทำนามาจนจะเกษียณเกษตรการ ยังไม่เคยได้ราคามากขนาดนี้มาก่อน ทำให้พอมีเงินเหลือเก็บส่งหลานๆ ไปโรงเรียนอย่างสบายๆ แต่ไมได้ฟุ่มเฟือยนะครับ
ปีก่อนคนที่เป็นสันหลังของชาติได้ลืมตาอ้าปากกับเขาบ้าง เพราะราคาการเกษตรค่อนข้างดี แต่จากนี้เป็นต้นไปชาวนาไทยต้องกลับไปวงวนเดิมอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ เจ็กให้กี่บาทก็ต้องขาย ไม่ขายก็ขนกลับบ้านคืน
และผลพวงในการช่วยเหลือชาวนา ก็ปรากฏว่า พี่ปู กลับโดนโจมตีอย่างหนักว่าประสบการขาดทุนในโครงการจำนำข้าว มีการปล่อยปละละเลยในการปล่อยให้มีการโกงอย่างมโหฬาร แต่จับคนโกงไม่ได้สักคน
และคนฝั่งตรงกันข้ามชอบเอาตัวเลขมาโจมตีการขาดทุนของรัฐในการช่วยเหลือชาวนา 5 แสนล้านบ้าง 6 แสนล้านบ้าง 9 แสนล้านบ้าง ทั้งที่โครงการยังไม่จบกลับสรุปล่วงหน้าซะงั้น
ถ้าช่วยชาวนาแล้วขาดทุน แล้วโครงการอื่นได้กำไรเท่าไหร่ครับ โครงการไหนบ้างของรัฐที่ทำแล้วได้กำไร ไอ้โครงการที่ประกอบธุรกิจแท้ๆยังขาดทุนเลย ไม่ว่าจะเป็น กฟฝ กบท เป็นต้น
โอ้ว พิมพ์ไปยาวไปหน่อย โทษที
ขอบคุณพี่ปูครับ คุณคือคนที่ทำให้ชาวนาได้รู้จักคำว่ากำไรจากการทำนาเคยมีจริง
ผมก็ไปช่วยตามประสาลูกที่แสนดีของคุณแม่ ผมละทิ้งอาชีพชาวนามานานแล้ว มาเป็นข้าหลวงของรัฐ ลงนา 1 วันยอมรับว่าแรงตกเยอะเลย เหนื่อยเอาการเหมือนกัน
ต้องยอมรับว่าปีนี้ข้าวที่นาออกผลผลิตดีพอสมควร 30 ไร่ ได้เม็ดข้าวราว 15 ตัน อาจจะดูน้อยกว่าที่อื่น แต่ที่นี้ก็ถือว่าพอใจแล้วเพราะดินไม่ค่อยดี
ตอนบ่ายก็เอาข้าวไปขาย 7 ตัน ได้เงินมาทั้งสิ้น 70,000 นิดๆ เพราะราคา กก.ละ 10.20 บาท ถ้าข้าวแห้งราคาจะอยู่ที่ 12 บาท
แต่ถ้าขายทั้งหมดก็จะได้เงินประมาณ 150,000 หน่อยๆ
หักค่าใช้จ่ายตั้งแต่ค่าพันธ์ุข้าว จ้างไถ จ้างหว่าน จ้างฉีดหญ้า ค่าปุ๋ย จ้างหว่านปุ๋ย จ้างเกี๋ยว จ้างขน เบ็ดเสร็จ ราว 80,000
ได้เงินกลับมาราวๆ 70,000 บาท พ่อแม่ดูแลกันสองคน ก็ตกคนละ 35,000 บาทต่อปี เฉลี่ยรายได้จากทำนาเดือนละ 2916 บาท ไม่ถึงสามพันดี
สรุปแล้วพอมีรายได้เข้ามาจุนเจือ ซึ่งก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
.......................................................................................................................................
ต่างจากปีก่อนราคาข้าวตากแห้งอยู่ที่ 17-18 บาท ซึ่งแม่บอกว่าทำนามาจนจะเกษียณเกษตรการ ยังไม่เคยได้ราคามากขนาดนี้มาก่อน ทำให้พอมีเงินเหลือเก็บส่งหลานๆ ไปโรงเรียนอย่างสบายๆ แต่ไมได้ฟุ่มเฟือยนะครับ
ปีก่อนคนที่เป็นสันหลังของชาติได้ลืมตาอ้าปากกับเขาบ้าง เพราะราคาการเกษตรค่อนข้างดี แต่จากนี้เป็นต้นไปชาวนาไทยต้องกลับไปวงวนเดิมอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ เจ็กให้กี่บาทก็ต้องขาย ไม่ขายก็ขนกลับบ้านคืน
และผลพวงในการช่วยเหลือชาวนา ก็ปรากฏว่า พี่ปู กลับโดนโจมตีอย่างหนักว่าประสบการขาดทุนในโครงการจำนำข้าว มีการปล่อยปละละเลยในการปล่อยให้มีการโกงอย่างมโหฬาร แต่จับคนโกงไม่ได้สักคน
และคนฝั่งตรงกันข้ามชอบเอาตัวเลขมาโจมตีการขาดทุนของรัฐในการช่วยเหลือชาวนา 5 แสนล้านบ้าง 6 แสนล้านบ้าง 9 แสนล้านบ้าง ทั้งที่โครงการยังไม่จบกลับสรุปล่วงหน้าซะงั้น
ถ้าช่วยชาวนาแล้วขาดทุน แล้วโครงการอื่นได้กำไรเท่าไหร่ครับ โครงการไหนบ้างของรัฐที่ทำแล้วได้กำไร ไอ้โครงการที่ประกอบธุรกิจแท้ๆยังขาดทุนเลย ไม่ว่าจะเป็น กฟฝ กบท เป็นต้น
โอ้ว พิมพ์ไปยาวไปหน่อย โทษที