_/\_ สวัสดีจร้า ... เราก็จะมาเล่าต่อจากตอนที่แล้วกันนะ ^^ เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ? กับตอนที่แล้ว ... มือใหม่หัดพิมพ์ ขอฝากเนื้อฝากตัวแก่ผู้อ่านกันด้วยนะคะ อาจจะอ่านแล้วมึนๆงงๆไปบ้าง ติ๊งต๊อง บ้าบอไปบ้าง ก็ขออภัยด้วยนะจ๊ะ ^^ แห่ะๆ
>> **เรื่องเล่าต่อมา .... ก็จะเริ่มต้นการฝึกงานวันแรกในเมืองหลวง ชิลล์ๆจ่ะ บอกเลยว่าชิลล์มากจริงๆ 5555 ไม่เชื่อลองอ่านดูกันเล้ยยยยย
... รู้มั้ยๆ วันแรกที่เราเริ่มฝึกงานอ่ะ ตื่นเต้นมากๆเลย รีบตื่นแต่เช้าตรู่ (ปกติตื่นสายมาก) เนื่องจากคนเมืองหลวงเนี่ยะ กลัวรถติด ต้องตื่นไปทำงานบ้างหล่ะ ไปเรียนบ้างหล่ะ ไอ่เราก็นะ เพิ่งจะมาใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวงจริงๆก็ไอ่ตอนฝึกงานนี่แหละ !! คิคิ ... รีบตื่นหน่อย เพราะบ้านที่เราอยู่ไม่มีรถเมล์ผ่าน (หมูบ้านไฮโซเน้อะ ว่ามั้ย 555 ) แล้วเราก็รีบออกไปยืนโบกรถสองแถวไปลงหน้าแฟชั่นฯ แล้วก็ต้องต่อรถเมล์ หรือรถสองแถวไปลงหน้าป้ายรถเมล์แถวหน้าสหฟาร์ม (รู้ป่ะเราประหยัดแค่ไหน เรารีบตื่นแต่เข้าตรู่ เพื่อไปรอนั่งรถเมล์ฟรีทุกเช้าเลยน่ะ 55555) พอถึงหน้าป้ายรถเมล์เราก็ลงเดินขึ้นสะพานแล้วเดินเข้าไปในซอยเดินไปสักพัก ดูนาฬิกา อ่าว ! นี่มันเพิ่งจะ 7 โมงนิดๆ (ไม่ต้องบอกเลยว่าตื่นตั้งแต่กี่โมง เราใช้เวลาเดินทางจากบ้านมาที่ออฟฟิตประมาณ 20 นาทีนะ) ด้วยความที่มาเร็วออฟฟิตก็ยังเปิดแน่ๆ เจอร้านอาหารตามสั่งในซอยก็ไม่ชักช้าจ้า ... รีบเดินเข้าไปสั่ง แล้วหยิบมือถือโทรหารุ่นพี่คนนั้นเล้ย .. ว่าหนูถึงแล้วนะคะ --- อิอิ --- พี่เค้าก็บอกว่าเดินเข้าไปรอได้เลย พี่กำลังไป .... (เราก็นั่งกินข้าวแบบสบายๆทั้งที่ในใจตื่นเต้นโคตรๆ กลัวหลายๆอย่างเลยกับการเริ่มต้นหาประสบการณ์เนี่ย!) ....... จากนั้นกินข้าวเสร็จ เราก็เดินมาถึงออฟฟิต ซึ่งออฟฟิตเป็นบ้านแฝด ประตูไม่ได้ปิด เราก็เดินเข้าไปนั่งรอที่ม้าหินอ่อน รอไปสักพัก รุ่นพี่คนนั้นมาถึงแล้วจ้า เราก็ยกมือไหว้สวัสดี ... ประโยคแรกที่พี่เค้าทักเราคือ มาๆ น้ำตามพี่เข้ามา 555555555 เราก็เดินตามไปแบบเกร็งๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก .... (เกือบลืมบอก ออฟฟิตเริ่มทำการตั้งแต่ 09.00-17.00 น.นะจ๊ะ) พี่ๆคนอื่นๆเค้าก็เริ่มมา ... เราก็ถามๆว่ามีอะไรให่ช่วยมั้ยคะ ? วันแรกๆพี่ๆเค้าก็ยังไม่ค่อยมีอะไรให้ทำสักเท่าไหร่ งานแรกที่ได้ทำคือ นั่งตัดริบบิ้น ผูกแท็กกระเป๋าแยกเป็นสีๆค่ะ ฮ่าๆ // ช่วงเช้าก็ไม่มีอะไรมาก ตอนเที่ยงของที่นี่ก็จะทำอาหารกลางวันกินรวมกัน (อยากบอกว่าอาหารอร่อยฝีมือพี่ๆเค้าอร่อยทุกอย่างเล้ยย จริงๆนะ) กินข้าวเสร็จ ก็แยกย้ายกันทำงานต่อ ทุกคนก็นั่งประจำโต๊ะของตัวเอง เราก็มีโต๊ะเป็นของตัวเองด้วยนะ แห่ะๆ พอตกเย็นเลิกงาน 5 โมงเย็นตรงเป๊ะ ! รุ่นพี่เราก็บอกว่า หนูน้ำกลับบ้านได้เลิกงานแล้ว หนูเป็นเด็กฝึกงานไม่ใช่พนักงานนะรู้ป่าว กลับบ้านๆได้แล้ว (เห็นมั้ยล่ะพี่ๆเค้าใจดีขนาดไหน นี่คิดในใจถ้าเป็นที่อื่นนะจะยังไงเนี่ย?) ^__^ วันแรกงานสบายๆชิลล์ๆ ..... ด้วยความที่เราก็ว่านอนงอนง่าย ก็กลับบ้านสิจ๊ะ ฮ่าๆ

..... ที่นี้หล่ะ ความชิลล์เริ่มไม่บังเกิดแก่เราแล้วแหละ เมื่อเราออกมายืนรอรถเมล์ทีป้าย รอเท่าไหร่สายที่จะขึ้นก็ไม่มาสักที พอมาก็เต็มแน่นเอี๊ยดเลย เอาไงต่อหล่ะทีนี้ รถสองแถวจ้ารถสองแถว (เรามีข้อมูลในการนั่งรถไป-กลับบ้านเป๊ะมาก ถ้าไม่เชื่อมาดูกัน อิอิ) เราก็ขึ้นรถสองแถว นั่งไปเรื่อยๆสักพักไปลงหน้าแฟชั่นฯ แล้วไงอีกอ่ะ ด้วยความที่ความจำเราแม่นม๊ากกกกก ถนนหนทางหน้าแฟชั่นฯ มันหลายเลนอ่ะ (คิดในใจทางไหนแล้วว่ะที่จะต่อรถเข้าบ้าน) ด้วยความที่อยากจะประหยัดและเนื่องด้วยทางเข้าบ้านไม่มีรถเมล์ผ่านตามที่บอกไว้ข้างต้น เราก็ขึ้นรถสองแถวอีกแหละจ่ะ งุนงงกับถนนมาก ไม่รู้ว่าขึ้นถูกคันรึป่าว ? นั่งไปนั่งไป เอาว่ะยังไม่ถึง นั่งต่อไป .. รถก็ติดมาก เวลานั้นเป็นเวลาที่เด็กเลิกเรียน คนทำงานก็เลิกงาน โอโห .... รถติดเป็นชั่วโมงเลย เหมือนเต่าคลานเลยอ่ะ !! เราก็นั่งรถไปพักใหญ่ๆ ความชิลล์ที่ไม่บังเกิดก็เริ่มขึ้นแล้วไง นี่ทางมันไม่คุ้นเลย จะออกไปตลาดมีนฯแล้วเนี่ย !!!! เอาไงล่ะคะคุณ กดกริ่งอย่างเร่งรีบเลย 5555555

แล้วเดินๆไปสักพัก ขึ้นรถสองแถวต่อไปลงหน้าแฟชั่นฯ (บอกเลยว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปในหลายๆที่เลยก็ว่าได้) หลังจากนั้น ก็กลัวๆ เพราะบอกไปแล้วความจำเราแม่นมาก ฮ่าๆๆๆๆ (แม่นมากจนนั่งรถผิดสาย) ไอ่เราก็กลัวนั่งรถผิดไปไกลอีก .... ด้วยความที่มีไหวพริบอันชาญฉลาด (ที่มีเพียงอันน้อยนิด อิอิ) จะหลงอีกไม่ได้ๆ พอเริ่มค่ำหน่อย สายตาก็ไม่ค่อยจะดีอีก ... ขืนช้ากว่านี้ซวยแน่ๆ 5555 เราก็โบกวินมอไซต์สิจ๊ะ ถึงบ้านแน่นอน .... รอดตายอย่างหวุดหวิด ฮรี่ๆ // วันแรกผ่านไปด้วยความชิลล์ (หราาาา) ฝันดีราตรีสวัสดิ์ Zzzzz....




>> วันที่สองของการฝึกงาน เราก้ไปทำปกติ ทีนี้รู้แล้วว่าต้องกะเวลายังไง ถึงออฟฟิตเวลาพอเหมาะไม่เร็วเกินไป ไม่ช้าเกินไป --- ถือว่ารักษาเวลาได้ดี เราเป็นคนตรงต่อเวลานะบอกเลย อิอิ /// เรานั่งทำงานตามที่ได้รับมอบหมายไปเรื่อยๆ จนเลิกงาน .... ก็อยากจะเดินห้างบ้าง เปิดหูเปิดตาบ้าง .... พอถึงแฟชั่นไอซ์แลนด์ปุ๊บ ก็เดินจ้ำๆ เข้าไปในห้างเลยจ้า .... เดินดูนู้นนี่นั่นทุกชั่นเลยจร้า คือมันกว้างมากๆ ภายใต้การออกแบบที่ทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่นตามแบบฉบับของ Tropical ด้วยหลังคา Fabric Roof ทำให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่สดใสและความตระการตามากอ่ะ ... เดินไปเดินมา ขึ้นๆลงๆ อยุ่หลายรอบ ด้วยความที่หิวและเมื่อยมากแล้ว .... ก็อยากกลับบ้าน ก็ลงบันไดเลื่อนมาถึงชั้น 1 แล้วไงอีกล่ะทีนี้ ..... ด้วยความที่งุนงงมาก ตรงนี้มันไม่ใช่ และไม่เหมือนกับที่เราเดินเข้ามานี่หว่า !!!!!! เอาอีกแล้วเธอจ๋า .... เปิดหูเปิดตาจริงๆด้วย ... 5555555 มาโผล่ที่ไหนอีกล่ะเนี่ย ... โอ้ย ตายๆ ... ยืนอยู่สักพัก ด้วยความที่มีไหวพริบอีกแล้วไง ฮ่าๆๆๆๆ --- นึกถึงถนนจ้า .... รีบเดินออกไปที่หน้าถนนแบบเร่งรีบมากกกกก
ถึงหน้าถนนแล้วไง มองไปมองมา หันกลับมามองห้างที่เราเดินออกมา อ้าวเห้ย ! แฟชั่นฯมันเชื่อมต่อกับห้างเดอะพรอมานาดนี่หว่า -.- ปล่อยไก่อีกแล้วพะยะค่ะ 55555 //// อ่ะคริ ..... หลังจากนี้ถึงคราวนั่งรถกลับบ้านบ้างแล้ว ... (ฉันจะไม่พลาดแบบเมื่อวานอีกแล้ว) โบกสองแถวเข้าบ้านอย่างสบายใจเฉิบเลยจร้า บอกแล้วไม่พลาด !! .. ฮ่าๆๆๆ ^^ คนที่บ้านก็ถามทำไมกลับช้าจัง .... เราก็บอก เดินเล่นกีดกรายในห้างอยู่เลยกลับมาช้านิดนึง ฮิ้วๆๆๆๆ .... (ทั้งๆที่จริงๆแล้วเราหลงอยู่ในห้างตามที่บอกว่าเดินขึ้นๆลงๆอยู่อ่ะแหละ 55555) และแล้วมันก็ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวันของการใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวง ^___^
เริ่มต้นจากประสบการณ์เล็กๆ ในเมืองหลวง ^^ ตอนที่ 2
>> **เรื่องเล่าต่อมา .... ก็จะเริ่มต้นการฝึกงานวันแรกในเมืองหลวง ชิลล์ๆจ่ะ บอกเลยว่าชิลล์มากจริงๆ 5555 ไม่เชื่อลองอ่านดูกันเล้ยยยยย
... รู้มั้ยๆ วันแรกที่เราเริ่มฝึกงานอ่ะ ตื่นเต้นมากๆเลย รีบตื่นแต่เช้าตรู่ (ปกติตื่นสายมาก) เนื่องจากคนเมืองหลวงเนี่ยะ กลัวรถติด ต้องตื่นไปทำงานบ้างหล่ะ ไปเรียนบ้างหล่ะ ไอ่เราก็นะ เพิ่งจะมาใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวงจริงๆก็ไอ่ตอนฝึกงานนี่แหละ !! คิคิ ... รีบตื่นหน่อย เพราะบ้านที่เราอยู่ไม่มีรถเมล์ผ่าน (หมูบ้านไฮโซเน้อะ ว่ามั้ย 555 ) แล้วเราก็รีบออกไปยืนโบกรถสองแถวไปลงหน้าแฟชั่นฯ แล้วก็ต้องต่อรถเมล์ หรือรถสองแถวไปลงหน้าป้ายรถเมล์แถวหน้าสหฟาร์ม (รู้ป่ะเราประหยัดแค่ไหน เรารีบตื่นแต่เข้าตรู่ เพื่อไปรอนั่งรถเมล์ฟรีทุกเช้าเลยน่ะ 55555) พอถึงหน้าป้ายรถเมล์เราก็ลงเดินขึ้นสะพานแล้วเดินเข้าไปในซอยเดินไปสักพัก ดูนาฬิกา อ่าว ! นี่มันเพิ่งจะ 7 โมงนิดๆ (ไม่ต้องบอกเลยว่าตื่นตั้งแต่กี่โมง เราใช้เวลาเดินทางจากบ้านมาที่ออฟฟิตประมาณ 20 นาทีนะ) ด้วยความที่มาเร็วออฟฟิตก็ยังเปิดแน่ๆ เจอร้านอาหารตามสั่งในซอยก็ไม่ชักช้าจ้า ... รีบเดินเข้าไปสั่ง แล้วหยิบมือถือโทรหารุ่นพี่คนนั้นเล้ย .. ว่าหนูถึงแล้วนะคะ --- อิอิ --- พี่เค้าก็บอกว่าเดินเข้าไปรอได้เลย พี่กำลังไป .... (เราก็นั่งกินข้าวแบบสบายๆทั้งที่ในใจตื่นเต้นโคตรๆ กลัวหลายๆอย่างเลยกับการเริ่มต้นหาประสบการณ์เนี่ย!) ....... จากนั้นกินข้าวเสร็จ เราก็เดินมาถึงออฟฟิต ซึ่งออฟฟิตเป็นบ้านแฝด ประตูไม่ได้ปิด เราก็เดินเข้าไปนั่งรอที่ม้าหินอ่อน รอไปสักพัก รุ่นพี่คนนั้นมาถึงแล้วจ้า เราก็ยกมือไหว้สวัสดี ... ประโยคแรกที่พี่เค้าทักเราคือ มาๆ น้ำตามพี่เข้ามา 555555555 เราก็เดินตามไปแบบเกร็งๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก .... (เกือบลืมบอก ออฟฟิตเริ่มทำการตั้งแต่ 09.00-17.00 น.นะจ๊ะ) พี่ๆคนอื่นๆเค้าก็เริ่มมา ... เราก็ถามๆว่ามีอะไรให่ช่วยมั้ยคะ ? วันแรกๆพี่ๆเค้าก็ยังไม่ค่อยมีอะไรให้ทำสักเท่าไหร่ งานแรกที่ได้ทำคือ นั่งตัดริบบิ้น ผูกแท็กกระเป๋าแยกเป็นสีๆค่ะ ฮ่าๆ // ช่วงเช้าก็ไม่มีอะไรมาก ตอนเที่ยงของที่นี่ก็จะทำอาหารกลางวันกินรวมกัน (อยากบอกว่าอาหารอร่อยฝีมือพี่ๆเค้าอร่อยทุกอย่างเล้ยย จริงๆนะ) กินข้าวเสร็จ ก็แยกย้ายกันทำงานต่อ ทุกคนก็นั่งประจำโต๊ะของตัวเอง เราก็มีโต๊ะเป็นของตัวเองด้วยนะ แห่ะๆ พอตกเย็นเลิกงาน 5 โมงเย็นตรงเป๊ะ ! รุ่นพี่เราก็บอกว่า หนูน้ำกลับบ้านได้เลิกงานแล้ว หนูเป็นเด็กฝึกงานไม่ใช่พนักงานนะรู้ป่าว กลับบ้านๆได้แล้ว (เห็นมั้ยล่ะพี่ๆเค้าใจดีขนาดไหน นี่คิดในใจถ้าเป็นที่อื่นนะจะยังไงเนี่ย?) ^__^ วันแรกงานสบายๆชิลล์ๆ ..... ด้วยความที่เราก็ว่านอนงอนง่าย ก็กลับบ้านสิจ๊ะ ฮ่าๆ
>> วันที่สองของการฝึกงาน เราก้ไปทำปกติ ทีนี้รู้แล้วว่าต้องกะเวลายังไง ถึงออฟฟิตเวลาพอเหมาะไม่เร็วเกินไป ไม่ช้าเกินไป --- ถือว่ารักษาเวลาได้ดี เราเป็นคนตรงต่อเวลานะบอกเลย อิอิ /// เรานั่งทำงานตามที่ได้รับมอบหมายไปเรื่อยๆ จนเลิกงาน .... ก็อยากจะเดินห้างบ้าง เปิดหูเปิดตาบ้าง .... พอถึงแฟชั่นไอซ์แลนด์ปุ๊บ ก็เดินจ้ำๆ เข้าไปในห้างเลยจ้า .... เดินดูนู้นนี่นั่นทุกชั่นเลยจร้า คือมันกว้างมากๆ ภายใต้การออกแบบที่ทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่นตามแบบฉบับของ Tropical ด้วยหลังคา Fabric Roof ทำให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่สดใสและความตระการตามากอ่ะ ... เดินไปเดินมา ขึ้นๆลงๆ อยุ่หลายรอบ ด้วยความที่หิวและเมื่อยมากแล้ว .... ก็อยากกลับบ้าน ก็ลงบันไดเลื่อนมาถึงชั้น 1 แล้วไงอีกล่ะทีนี้ ..... ด้วยความที่งุนงงมาก ตรงนี้มันไม่ใช่ และไม่เหมือนกับที่เราเดินเข้ามานี่หว่า !!!!!! เอาอีกแล้วเธอจ๋า .... เปิดหูเปิดตาจริงๆด้วย ... 5555555 มาโผล่ที่ไหนอีกล่ะเนี่ย ... โอ้ย ตายๆ ... ยืนอยู่สักพัก ด้วยความที่มีไหวพริบอีกแล้วไง ฮ่าๆๆๆๆ --- นึกถึงถนนจ้า .... รีบเดินออกไปที่หน้าถนนแบบเร่งรีบมากกกกก
ถึงหน้าถนนแล้วไง มองไปมองมา หันกลับมามองห้างที่เราเดินออกมา อ้าวเห้ย ! แฟชั่นฯมันเชื่อมต่อกับห้างเดอะพรอมานาดนี่หว่า -.- ปล่อยไก่อีกแล้วพะยะค่ะ 55555 //// อ่ะคริ ..... หลังจากนี้ถึงคราวนั่งรถกลับบ้านบ้างแล้ว ... (ฉันจะไม่พลาดแบบเมื่อวานอีกแล้ว) โบกสองแถวเข้าบ้านอย่างสบายใจเฉิบเลยจร้า บอกแล้วไม่พลาด !! .. ฮ่าๆๆๆ ^^ คนที่บ้านก็ถามทำไมกลับช้าจัง .... เราก็บอก เดินเล่นกีดกรายในห้างอยู่เลยกลับมาช้านิดนึง ฮิ้วๆๆๆๆ .... (ทั้งๆที่จริงๆแล้วเราหลงอยู่ในห้างตามที่บอกว่าเดินขึ้นๆลงๆอยู่อ่ะแหละ 55555) และแล้วมันก็ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวันของการใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวง ^___^