ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่า ผมตั้งใจจะนำประสบการณ์ ที่ผมได้ตัดสินใจเดินขึ้นเขียง เพื่อกำจัด เจ้าริซซี่ ที่ว่านี้ มาสักพักใหญ่ จนวันนี้ มีโอกาสสักที
ผมหวังเพียงเพื่อเป็นวิทยาทาน หากใครที่เป็นอยู่หรือยังไม่เป็น ได้อ่านเรื่องของผมแล้ว ได้ข้อคิด รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ชีวิตอันก่อให้เกิดโรค หรือรีบรักษาตั้งแต่ ระยะเริ่มแรก จะได้ไม่ต้องทนทรมาณ และอับอาย เฉกเช่นผม นะครับ
ขออนุญาติเริ่มเรื่องเลยนะครับ โดยปกติ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผม ค่อนข้างจะหนัก ไปในทางอันก่อให้เกิดโรค เช่น ทานน้ำอัดลมจัด เรียกได้ว่า วันละ ไม่ต่ำกว่า 1 ขวด น้ำเปล่า ไม่ค่อยได้ถึงกระเพราะผม สักเท่าใหร่ในระหว่างวัน กาแฟ วันละ 2 แก้วขึ้นไป ทำงานหนัก นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ นั่งนาน ไม่ออกกำลังกาย ที่กล่าวมาทั้งหมด นี้ คือสาเหตุ ให้เกิดอาการ ท้องผูกมาเป็นอันดับแรก ท้องผูก ท้องผูกแล้วยังไง ก็แค่เข้าห้องน้ำนาน เกินครั้งละ ครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งอาการแปลกๆ เริ่มมาเยือนครับ
อาการที่ 1 ประตูเริ่มคันเวลาปล่อยทุกข์ เมื่อคันแล้วยังไงครับ ก็ใช้น้ำระงับคันกันไป ซึ่งในตอนนั้น ไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นอาการเริ่มต้น ของโรคที่เรียกว่า ริดสีดวง ผมก็ยังคงมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตระหว่างวัน ตามปกติ หลังจากนั้นไม่นาน อาการที่ 2 เริ่มปรากฏ
อาการที่ 2 ติ่งน้อยอยากเห็นโลก เวลาปล่อยทุกข์ จะมีติ่ง และมีเลือดออกมาปลอมปน ติ๊งแว่ป ของผมผุดขึ้นมาทันที งานเข้าแล้วกรูส์ ริซซี่ มาแว้ววววววว แต่ช่วงต้น อาการนี้ ก็เริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น จนกระทั่ง ติ่งน้อยเริ่มเติบโต และพร้อมจะแผลงฤทธิ์ และนั้น ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ ถึงความรู้สึกผู้ที่กำลังเป็นโรคนี้ จากเมื่อก่อนเห็น โฆษณา ก็ลมมันเย็น ผมก็ได้แต่นึกในใจ ว่า " ลมมันเย็นขนาดนั้นเลยเหรอ " จนวันนี้ ผมรู้แล้วว่า ลมมันเย็นน่าดู55555
เมื่อผมรู้แล้วว่า ลมมันเย็น สิ่งเดียวที่จะทำให้ลมมันร้อนขึ้น ก็คือร้านขายยา โดยทำทีเป็นซื้อมาให้คนที่บ้านทาน แต่หารู้ไม่คนซื้อนี่แหละ5555 ในช่วงนั้นผม อายไม่กล้าไปหาหมอ คิดว่าแค่ยาจากร้านขายยาก็น่าจะเพียงพอ
ยากที่ผมซื้อ มาทาน เพื่อระงับอาการ มีทั้งหมด 3 ตัว แต่ขอไม่เอ่ยนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมมาโฆษณา ให้กับผลิตภัณฑ์ ยาที่ผมใช้นั้น มีทั้งแก้ปวด รักษาแผลภายใน และยาสอด เพื่อหวังว่า ให้ลมที่เย็นอยู่นั้นร้อนขึ้น ครั้งแรก ผมหมดค่ายา ไป ประมาณ 300 กว่าบาท ทานยาและสอดติดต่อกัน สามวัน และก็ได้ผล ลมมันร้อนขึ้น จริงๆ และไม่รู้สึกว่า และอาการของลมมันเย็น นั้นก็หายไป
หลังจาก ที่ผมไม่รู้สึกถึงลมเย็นนั้นแล้ว ผมก็กลับไปใช้ชีวิตในแบบเดิม พฤติกรรมอันก่อให้เกิดโรคเดิมๆ และแล้ว ลมเย็นก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ ผมหมดค่ายาไป 500 กว่าบาท หลายท่านอาจสงสัยว่า ทำไม ค่ายาแพงขึ้น ที่แพงขึ้นเพราะว่า ร้านขายยา แนนำให้ผมรู้จักยาชนิดหนึ่งที่เป็นสมุนไพร ผมก็จัดแจงซื้อมาทาน ประมาณ 1 สัปดาห์ อาการก็หายไป ครั้งนี้ การทานยาควบคู่กับยาสอด เริ่มนานขึ้น
[b] ผมวนเวียนกับการใช้พฤติกรรม แบบนี้ มาประมาณ 2 ปีกว่า จึงขอสรุป ดังนี้
1 . ผมทานยา รักษาเจ้าโรคนี้ ไม่ต่ำกว่า 8 ครั้ง และแต่ละครั้ง ก็จะเพิ่มจำนวนของยาและวัน เนื่องจากมีอาการที่รุนแรงขึ้น เหมือนกับว่า เจ้าติ่งนั้นดื้อยา
จนร้านขายยาที่เคยซื้อไม่จำหน่ายยาให้กับผม และแนะนำให้ไปหาหมอดีกว่า แต่ด้วยความอายหมอ คุณลองนึกดู ถ้าคุณต้องไปเปิดประตูให้คนที่ไม่รู้จักดู จะน่าอับอายขนาดไหน ถึงจะเป็นคนรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม ผมก็เลยเดินเข้าร้านขายยาร้านอื่นแทน และโดยรวมแล้ว ค่ายาที่ผมใช้มาทั้งหมด หลักหมื่นครับ
จนครั้งสุดท้ายของการที่ใช้ ยาก็มาถึง เมื่อจากลมเย็น เปลี่ยนเป็นลมหนาวมาก มาก มากถึงมากที่สุด หนาวจนไม่อาจนั่งหรือเดินนานๆ ได้เลย
เดี๋ยวมาต่อนะครับขอตัวไปนอนก่อน หากสิ่งที่ผมเขียนขึ้นมานี้ มีข้อความที่คิดว่าไม่สุภาพ หรือ อนาจารต้องขออภัยด้วยนะครับ คือผมพยายาม ปรับคำให้ อ่านแล้ว ไม่รู้สึกสะอิดสะเอียน สุดความสามารถแล้ว ครับ
" ริซซี่ " ความทรงจำที่แสนเจ็บปวด
ผมหวังเพียงเพื่อเป็นวิทยาทาน หากใครที่เป็นอยู่หรือยังไม่เป็น ได้อ่านเรื่องของผมแล้ว ได้ข้อคิด รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ชีวิตอันก่อให้เกิดโรค หรือรีบรักษาตั้งแต่ ระยะเริ่มแรก จะได้ไม่ต้องทนทรมาณ และอับอาย เฉกเช่นผม นะครับ
ขออนุญาติเริ่มเรื่องเลยนะครับ โดยปกติ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผม ค่อนข้างจะหนัก ไปในทางอันก่อให้เกิดโรค เช่น ทานน้ำอัดลมจัด เรียกได้ว่า วันละ ไม่ต่ำกว่า 1 ขวด น้ำเปล่า ไม่ค่อยได้ถึงกระเพราะผม สักเท่าใหร่ในระหว่างวัน กาแฟ วันละ 2 แก้วขึ้นไป ทำงานหนัก นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ นั่งนาน ไม่ออกกำลังกาย ที่กล่าวมาทั้งหมด นี้ คือสาเหตุ ให้เกิดอาการ ท้องผูกมาเป็นอันดับแรก ท้องผูก ท้องผูกแล้วยังไง ก็แค่เข้าห้องน้ำนาน เกินครั้งละ ครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งอาการแปลกๆ เริ่มมาเยือนครับ
อาการที่ 1 ประตูเริ่มคันเวลาปล่อยทุกข์ เมื่อคันแล้วยังไงครับ ก็ใช้น้ำระงับคันกันไป ซึ่งในตอนนั้น ไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นอาการเริ่มต้น ของโรคที่เรียกว่า ริดสีดวง ผมก็ยังคงมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตระหว่างวัน ตามปกติ หลังจากนั้นไม่นาน อาการที่ 2 เริ่มปรากฏ
อาการที่ 2 ติ่งน้อยอยากเห็นโลก เวลาปล่อยทุกข์ จะมีติ่ง และมีเลือดออกมาปลอมปน ติ๊งแว่ป ของผมผุดขึ้นมาทันที งานเข้าแล้วกรูส์ ริซซี่ มาแว้ววววววว แต่ช่วงต้น อาการนี้ ก็เริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น จนกระทั่ง ติ่งน้อยเริ่มเติบโต และพร้อมจะแผลงฤทธิ์ และนั้น ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ ถึงความรู้สึกผู้ที่กำลังเป็นโรคนี้ จากเมื่อก่อนเห็น โฆษณา ก็ลมมันเย็น ผมก็ได้แต่นึกในใจ ว่า " ลมมันเย็นขนาดนั้นเลยเหรอ " จนวันนี้ ผมรู้แล้วว่า ลมมันเย็นน่าดู55555
เมื่อผมรู้แล้วว่า ลมมันเย็น สิ่งเดียวที่จะทำให้ลมมันร้อนขึ้น ก็คือร้านขายยา โดยทำทีเป็นซื้อมาให้คนที่บ้านทาน แต่หารู้ไม่คนซื้อนี่แหละ5555 ในช่วงนั้นผม อายไม่กล้าไปหาหมอ คิดว่าแค่ยาจากร้านขายยาก็น่าจะเพียงพอ
ยากที่ผมซื้อ มาทาน เพื่อระงับอาการ มีทั้งหมด 3 ตัว แต่ขอไม่เอ่ยนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมมาโฆษณา ให้กับผลิตภัณฑ์ ยาที่ผมใช้นั้น มีทั้งแก้ปวด รักษาแผลภายใน และยาสอด เพื่อหวังว่า ให้ลมที่เย็นอยู่นั้นร้อนขึ้น ครั้งแรก ผมหมดค่ายา ไป ประมาณ 300 กว่าบาท ทานยาและสอดติดต่อกัน สามวัน และก็ได้ผล ลมมันร้อนขึ้น จริงๆ และไม่รู้สึกว่า และอาการของลมมันเย็น นั้นก็หายไป
หลังจาก ที่ผมไม่รู้สึกถึงลมเย็นนั้นแล้ว ผมก็กลับไปใช้ชีวิตในแบบเดิม พฤติกรรมอันก่อให้เกิดโรคเดิมๆ และแล้ว ลมเย็นก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ ผมหมดค่ายาไป 500 กว่าบาท หลายท่านอาจสงสัยว่า ทำไม ค่ายาแพงขึ้น ที่แพงขึ้นเพราะว่า ร้านขายยา แนนำให้ผมรู้จักยาชนิดหนึ่งที่เป็นสมุนไพร ผมก็จัดแจงซื้อมาทาน ประมาณ 1 สัปดาห์ อาการก็หายไป ครั้งนี้ การทานยาควบคู่กับยาสอด เริ่มนานขึ้น
[b] ผมวนเวียนกับการใช้พฤติกรรม แบบนี้ มาประมาณ 2 ปีกว่า จึงขอสรุป ดังนี้
1 . ผมทานยา รักษาเจ้าโรคนี้ ไม่ต่ำกว่า 8 ครั้ง และแต่ละครั้ง ก็จะเพิ่มจำนวนของยาและวัน เนื่องจากมีอาการที่รุนแรงขึ้น เหมือนกับว่า เจ้าติ่งนั้นดื้อยา
จนร้านขายยาที่เคยซื้อไม่จำหน่ายยาให้กับผม และแนะนำให้ไปหาหมอดีกว่า แต่ด้วยความอายหมอ คุณลองนึกดู ถ้าคุณต้องไปเปิดประตูให้คนที่ไม่รู้จักดู จะน่าอับอายขนาดไหน ถึงจะเป็นคนรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม ผมก็เลยเดินเข้าร้านขายยาร้านอื่นแทน และโดยรวมแล้ว ค่ายาที่ผมใช้มาทั้งหมด หลักหมื่นครับ
จนครั้งสุดท้ายของการที่ใช้ ยาก็มาถึง เมื่อจากลมเย็น เปลี่ยนเป็นลมหนาวมาก มาก มากถึงมากที่สุด หนาวจนไม่อาจนั่งหรือเดินนานๆ ได้เลย
เดี๋ยวมาต่อนะครับขอตัวไปนอนก่อน หากสิ่งที่ผมเขียนขึ้นมานี้ มีข้อความที่คิดว่าไม่สุภาพ หรือ อนาจารต้องขออภัยด้วยนะครับ คือผมพยายาม ปรับคำให้ อ่านแล้ว ไม่รู้สึกสะอิดสะเอียน สุดความสามารถแล้ว ครับ