วันนี้ดิฉันมีเรื่องอยากระบายความอัดอั้นที่ไม่สามารถปรึกษาใครได้เพราะบางคนแนะนำให้เลิก บางคนแนะนำหั้ยอดทนเพื่อลูก ดิฉันสับสนมากค่ะ!!
ปี2550ประมาณเดือนพฤษภาคม ดิฉันเจอผู้ชายคนนี้เขารูปร่างใหญ่ดูมีภูมิฐาน(อบอุ่น)แต่ลักษณะเขาคงเพลบอยน่าดู มีเพื่อนฮ้อมล้อมสี่ห้าคน จนมาวันนึงเราให้เบอร์เขาเพราะเพื่อนเราพูดว่าดูสิจะจีบติดไหม(ตัวเพื่อนนะค่ะ) เย็นวันนั้นเขาโทรมาทันทีแต่โทรมาเจอเรา เราก็คุยปรกติ ธรรมดา ไม่คิดจะชอบมาเป็นแฟนเสียด้วยซ้ำ ผ่านไปซักพักเราคุยกันถูกคอมากขึ้นกันไปเรื่อยๆ ไปเรียนเขาก็มารับ-ส่งทุกวัน แต่ตอนนั้นเราก็มีแฟนอยุ่แล้วนะคบกันมา7ปีเหมือนกัน เขาพาเรามาบ้านแค่สองสามครั้งก็มีคนระแวกบ้านเขาพูดให้ฟังว่าเราโชคดีเนอะเป็นผู้หญิงคนแรกที่แฟนเราพาเข้าบ้านแต่ตอนนั้นความรุ้สึกเราเฉยๆไม่ได้คิดไรจนเขาขอมีอะไรกับเรา ครั้งแรกดิฉันจำได้เลยว่ามีประจำเดือนจึงปฎิเสธเขาต่อมาสามสี่วันเขาขอใหม่อีกดิฉันไม่ได้ตอบอะไรแต่เหตุการณ์มันพาไป จนสามเดือนต่อมาดิฉันแปลกๆกับร่างกายตัวเองอยากนอนอย่างเดียว หิวไปซะทุกอย่าง ตอนนั้นไม่เอะใจเรื่องปจดขาดเพราะเวลามาก้อไม่เคยตรงกันเลยในแต่ละเดือน สรุปคือ...ดิฉันท้องลูกคนแรก แต่ทำไงดีล่ะหาทางแก้ปัญหาโดยการเอาออกเพราะเราไม่รุ้แม่เขาแม่เราจะว่าอย่างไร....จนผ่านไปอีกสามเดือนดิฉันท้องใหม่ท้องนี้จึงตัดสินใจบอกผู้ใหญ่เพราะไม่อยากบาปซ้ำสองดิฉันอุ้มท้องจนคลอด ตลอดเวลาที่ดิฉันท้องสามีก้อมีผู้หญิงเข้ามาเรื่อยๆดิฉันรู้บ้างไม่รู้บ้าง จนเวลาผ่านไปปีกับสามเดือนดิฉันท้องลูกอีกคนเขาก็มีผู้หญิงใหม่อีกคุยกันทุกวันทุกคืนจนเขาเอ่ยปากไล่ให้ดิฉันกลับบ้านแต่เหตุการณ์ยังไม่รุนแรง ผ่านไปร่วมปีเขาก็ผู้หญิงเข้ามาคุยใหม่อีก จนดิฉันบอกว่าขอร้องพอสักทีเถอะดิฉันเหนื่อยแล้วแค่เลี้ยงลูกสองคนก็เหนื่อยพอแล้วอย่าเอาปัญหาอะไรมาให้หนักหัวหนักใจอีกเลยเขาก็สัญญานะว่าจะเป็นคนใหม่ ไม่มีคัย จะตั้งใจทำงานหาเงินให้ลูกได้อยุ่สบาย กินของดีๆ อีกหน่อยลูกเราต้องเข้าเรียนต้องใช้เงิน ตั้งแต่นั้นมาดิฉันไม่เคยระแวงสามีดิฉันเลยจนผ่านมา4ปี ดิฉันท้องอีกคนเพิ่งตรวจเจอเมื่อเดือนกรกฎาที่ผ่านมาว่าท้องได้1เดือนดิฉันขอว่าเป็นคนสุดท้ายนะเพราะไหนๆก็มาแล้วเกิดออกมาตั้งใจส่งยายเลี้ยงที่บ้านเขาก็โอเคจนผ่านไปท้องเข้าเดือนที่สามดิฉันกลับบ้าน เขาไม่โทรหาดิฉันและลูกเลยเกือบอาทิตย์จนดิฉันแปลกใจว่าเพราะอะไร คืนวันนึงเขาปิดโทรศัพไปเที่ยวกับเพื่อนแก๊งค์รถตู้กลับมาตีสามเพิ่งเปิดเครื่องดิฉันกลุ้มใจเพราะกลัวแฟนจะไปเกิดอุบัติเหตุคืนนั้นฉันว้าวุ่นมากเข้าดูตามเพจกู้ภัย พอเขาเปิดเครื่องดิฉันถามว่าไปไหนมารุ้ไหมเป็นห่วง เขากลับตอบมาว่าอย่าวุ่นวายอีกขอร้อง จนเช้าวันถัดมา...ดิฉันโทรไปประโยคนึงที่ดิฉันได้ฟังคือ เขาขออิสละ อยากเที่ยว อยากอยุ่คนเดียว อยากไปไหนก็ไปได้ เขาเบื่อคำว่าครอบครัว เขาเหนื่อยที่จะต้องมารับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง ดิฉันอึ้งและงงมากดิฉันถามเหตุผลว่าเพราะอะไรและคำตอบที่ได้คือเขาบอกว่าดิฉันงี่เง่าเอาแต่ใจเขาต้องทนทรมารแบบนี้มาตลอดสองปีเต็ม ดิฉันได้ฟังมันรู้สึกปวดร้าวไปหมดชาทั้งตัวหน้าชาว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา ทั้งๆที่เรารักกันมากเราเข้าใจเขาและเขาก็เข้าใจเรามากันตลอด ดิฉันไม่เคยไปงี่เง่าเขาเลยสักครั้งเพราะปีหลังมานี้เขาต้องทำงานขับรถกลับบ้านดึกออกเช้าเราเข้าใจเข้าตลอดเขาอยากกินไรเราก้อพากันไปกินทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูก....พอดิฉันกลับมากทม.ดิฉันได้มารับรู้ว่าเขามีผู้หญิงดิฉันจึงโทรไปคุยทันทีบอกทุกสิ่งทุกอย่างขอร้องให้เขาเลิกคุยกับสามีเราเพราะดิฉันสงสารลูกในท้อง ผู้หญิงคนนั้นได้ฟังในสิ่งที่ดิฉันพูดจนเขาอึ้งและยอมถอย(ไม่รุ้ทุกวันนี้ถอยจริงรึป่าว11/11/2014)..........ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ร่วมหนึ่งเดือนเต็มที่ดิฉันไม่สามารถพูดอะไรได้เลยเพราะมันกลายเป็นว่าเราผิดในสายตาเขาไปหมด ทั้งเอาเหตุผลลูกมาเจรจาเขาก้อไม่ให้โอกาศเรา(เราขอโอกาศทั้งๆที่เราไม่ผิดเลยสักนิด)เขาปฎิเสธทุกครั้งและยังพูดให้เราเจ็บปวดใจทุกครั้งแทบจะทุกวันว่ามันไม่มีทางที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรอีกแล้ว (คำพูดเหล่านั้นดิฉันไม่ใช่หรอที่สมควรจะเป็นคนพูด) ทุกวันนี้ดิฉันทำได้แค่เพียงรอ นิ่ง เงียบ เฉย ดิฉันนอนร้องให้ทุกคืนดิฉันทำอะไรผิดทำไมเขาถึงพูดและทำกับดิฉันได้ขนาดนี้ ดิฉันนึกไม่ถึงจากผู้ชายอ่อนโยนรักเด็กอบอุ่นอยุ่ๆมาวันนึงเขาจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนไปโดยที่เราไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรง ดิฉันสมควรทำยังงัยจะตั้งหลักที่ไหนสักแห่งทิ้งลูกสองคนให้อยุ่กับปู่ย่าเขาก็แก่ไม่ไหวไม่สามารถเลี้ยงดูได้ตลอดเวลา เราจะเอาไปบ้านเราพ่อแม่ดิฉันก้อไม่ทราบถึงปัญหานี้เพราะไม่ได้พูดลำพังภาระหนี้สินเขาเยอะเขาต้องทำมาหากินรับผิดชอบลูกน้องเยอะแยะถ้าเราเอาไปก็เท่ากับเขาต้องมาเลี้ยงหลานเพิ่มอีกสองคน...สิ่งเดียวที่ทำได้คือรอเวลา เวลาเท่านั้น ....จนบางครั้งดิฉันเจ็บปวดร้าวมากถามตัวเองตลอดเวลาว่าทนไปเพื่ออะไร ทนไปทำไม...เหตุผลเดียวของดิฉันก็คือ"ลูก"ดิฉันไม่อยากให้ลูกต้องมารับรู้ว่าพ่อแม่แยกทางกัน มีปัญหากัน เพราะมันเป็นสิ่งที่ดิฉันไม่เคยคิดและดิฉันรับมันไม่ได้ ตลอด7ปีกว่าๆมันคือรักจนกลายเป็นความผูกพัน ความเข้าใจมันกลายเป็นความสงสาร แต่ทุกวันนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้คิดไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ดิฉันเสียใจมากเจ็บมาก ปวด ชา ไปหมด ทมองไปทางไหนก้อมืด หาทางออกไม่เจอ มองหน้าลูกยิ่งสงสารจับใจปวดร้าวมันเหมือนใจที่โดนเหยียบย้ำไม่เหลือแม้จะเอากลับมาต่อให้มันเหมือนเดิมได้ใหม่ ดิฉันกล้าพูดเลยเขาจะเลวยังงัยจะเจออะไรจะไปอยุ่กับคัยถ้าเขากลับมาดิฉันยินดีกอดเขา ปลอบใจเขา ได้ตลอดเวลา ถึงแม้บางครั้งก็คิดตัดใจ ช่างมันมันจะไปตายไหนก้อเรื่องของมัน แต่ลึกๆในใจดิฉันรอเขากลับมาเสมอไม่ว่าจะนานแค่ไหนเพราะเหตุผลเดียวที่ดิฉันทำก็คือ "เพื่อลูๆ" เพื่อความอบอุ่นความสุขของลูกๆ
แต่งงานมา7ปีมีลูกสองคนและกำลังท้องอีกคน5เดือน ถูกสามีขอแยกทางขออิสละ??
ปี2550ประมาณเดือนพฤษภาคม ดิฉันเจอผู้ชายคนนี้เขารูปร่างใหญ่ดูมีภูมิฐาน(อบอุ่น)แต่ลักษณะเขาคงเพลบอยน่าดู มีเพื่อนฮ้อมล้อมสี่ห้าคน จนมาวันนึงเราให้เบอร์เขาเพราะเพื่อนเราพูดว่าดูสิจะจีบติดไหม(ตัวเพื่อนนะค่ะ) เย็นวันนั้นเขาโทรมาทันทีแต่โทรมาเจอเรา เราก็คุยปรกติ ธรรมดา ไม่คิดจะชอบมาเป็นแฟนเสียด้วยซ้ำ ผ่านไปซักพักเราคุยกันถูกคอมากขึ้นกันไปเรื่อยๆ ไปเรียนเขาก็มารับ-ส่งทุกวัน แต่ตอนนั้นเราก็มีแฟนอยุ่แล้วนะคบกันมา7ปีเหมือนกัน เขาพาเรามาบ้านแค่สองสามครั้งก็มีคนระแวกบ้านเขาพูดให้ฟังว่าเราโชคดีเนอะเป็นผู้หญิงคนแรกที่แฟนเราพาเข้าบ้านแต่ตอนนั้นความรุ้สึกเราเฉยๆไม่ได้คิดไรจนเขาขอมีอะไรกับเรา ครั้งแรกดิฉันจำได้เลยว่ามีประจำเดือนจึงปฎิเสธเขาต่อมาสามสี่วันเขาขอใหม่อีกดิฉันไม่ได้ตอบอะไรแต่เหตุการณ์มันพาไป จนสามเดือนต่อมาดิฉันแปลกๆกับร่างกายตัวเองอยากนอนอย่างเดียว หิวไปซะทุกอย่าง ตอนนั้นไม่เอะใจเรื่องปจดขาดเพราะเวลามาก้อไม่เคยตรงกันเลยในแต่ละเดือน สรุปคือ...ดิฉันท้องลูกคนแรก แต่ทำไงดีล่ะหาทางแก้ปัญหาโดยการเอาออกเพราะเราไม่รุ้แม่เขาแม่เราจะว่าอย่างไร....จนผ่านไปอีกสามเดือนดิฉันท้องใหม่ท้องนี้จึงตัดสินใจบอกผู้ใหญ่เพราะไม่อยากบาปซ้ำสองดิฉันอุ้มท้องจนคลอด ตลอดเวลาที่ดิฉันท้องสามีก้อมีผู้หญิงเข้ามาเรื่อยๆดิฉันรู้บ้างไม่รู้บ้าง จนเวลาผ่านไปปีกับสามเดือนดิฉันท้องลูกอีกคนเขาก็มีผู้หญิงใหม่อีกคุยกันทุกวันทุกคืนจนเขาเอ่ยปากไล่ให้ดิฉันกลับบ้านแต่เหตุการณ์ยังไม่รุนแรง ผ่านไปร่วมปีเขาก็ผู้หญิงเข้ามาคุยใหม่อีก จนดิฉันบอกว่าขอร้องพอสักทีเถอะดิฉันเหนื่อยแล้วแค่เลี้ยงลูกสองคนก็เหนื่อยพอแล้วอย่าเอาปัญหาอะไรมาให้หนักหัวหนักใจอีกเลยเขาก็สัญญานะว่าจะเป็นคนใหม่ ไม่มีคัย จะตั้งใจทำงานหาเงินให้ลูกได้อยุ่สบาย กินของดีๆ อีกหน่อยลูกเราต้องเข้าเรียนต้องใช้เงิน ตั้งแต่นั้นมาดิฉันไม่เคยระแวงสามีดิฉันเลยจนผ่านมา4ปี ดิฉันท้องอีกคนเพิ่งตรวจเจอเมื่อเดือนกรกฎาที่ผ่านมาว่าท้องได้1เดือนดิฉันขอว่าเป็นคนสุดท้ายนะเพราะไหนๆก็มาแล้วเกิดออกมาตั้งใจส่งยายเลี้ยงที่บ้านเขาก็โอเคจนผ่านไปท้องเข้าเดือนที่สามดิฉันกลับบ้าน เขาไม่โทรหาดิฉันและลูกเลยเกือบอาทิตย์จนดิฉันแปลกใจว่าเพราะอะไร คืนวันนึงเขาปิดโทรศัพไปเที่ยวกับเพื่อนแก๊งค์รถตู้กลับมาตีสามเพิ่งเปิดเครื่องดิฉันกลุ้มใจเพราะกลัวแฟนจะไปเกิดอุบัติเหตุคืนนั้นฉันว้าวุ่นมากเข้าดูตามเพจกู้ภัย พอเขาเปิดเครื่องดิฉันถามว่าไปไหนมารุ้ไหมเป็นห่วง เขากลับตอบมาว่าอย่าวุ่นวายอีกขอร้อง จนเช้าวันถัดมา...ดิฉันโทรไปประโยคนึงที่ดิฉันได้ฟังคือ เขาขออิสละ อยากเที่ยว อยากอยุ่คนเดียว อยากไปไหนก็ไปได้ เขาเบื่อคำว่าครอบครัว เขาเหนื่อยที่จะต้องมารับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง ดิฉันอึ้งและงงมากดิฉันถามเหตุผลว่าเพราะอะไรและคำตอบที่ได้คือเขาบอกว่าดิฉันงี่เง่าเอาแต่ใจเขาต้องทนทรมารแบบนี้มาตลอดสองปีเต็ม ดิฉันได้ฟังมันรู้สึกปวดร้าวไปหมดชาทั้งตัวหน้าชาว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา ทั้งๆที่เรารักกันมากเราเข้าใจเขาและเขาก็เข้าใจเรามากันตลอด ดิฉันไม่เคยไปงี่เง่าเขาเลยสักครั้งเพราะปีหลังมานี้เขาต้องทำงานขับรถกลับบ้านดึกออกเช้าเราเข้าใจเข้าตลอดเขาอยากกินไรเราก้อพากันไปกินทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูก....พอดิฉันกลับมากทม.ดิฉันได้มารับรู้ว่าเขามีผู้หญิงดิฉันจึงโทรไปคุยทันทีบอกทุกสิ่งทุกอย่างขอร้องให้เขาเลิกคุยกับสามีเราเพราะดิฉันสงสารลูกในท้อง ผู้หญิงคนนั้นได้ฟังในสิ่งที่ดิฉันพูดจนเขาอึ้งและยอมถอย(ไม่รุ้ทุกวันนี้ถอยจริงรึป่าว11/11/2014)..........ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ร่วมหนึ่งเดือนเต็มที่ดิฉันไม่สามารถพูดอะไรได้เลยเพราะมันกลายเป็นว่าเราผิดในสายตาเขาไปหมด ทั้งเอาเหตุผลลูกมาเจรจาเขาก้อไม่ให้โอกาศเรา(เราขอโอกาศทั้งๆที่เราไม่ผิดเลยสักนิด)เขาปฎิเสธทุกครั้งและยังพูดให้เราเจ็บปวดใจทุกครั้งแทบจะทุกวันว่ามันไม่มีทางที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรอีกแล้ว (คำพูดเหล่านั้นดิฉันไม่ใช่หรอที่สมควรจะเป็นคนพูด) ทุกวันนี้ดิฉันทำได้แค่เพียงรอ นิ่ง เงียบ เฉย ดิฉันนอนร้องให้ทุกคืนดิฉันทำอะไรผิดทำไมเขาถึงพูดและทำกับดิฉันได้ขนาดนี้ ดิฉันนึกไม่ถึงจากผู้ชายอ่อนโยนรักเด็กอบอุ่นอยุ่ๆมาวันนึงเขาจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนไปโดยที่เราไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรง ดิฉันสมควรทำยังงัยจะตั้งหลักที่ไหนสักแห่งทิ้งลูกสองคนให้อยุ่กับปู่ย่าเขาก็แก่ไม่ไหวไม่สามารถเลี้ยงดูได้ตลอดเวลา เราจะเอาไปบ้านเราพ่อแม่ดิฉันก้อไม่ทราบถึงปัญหานี้เพราะไม่ได้พูดลำพังภาระหนี้สินเขาเยอะเขาต้องทำมาหากินรับผิดชอบลูกน้องเยอะแยะถ้าเราเอาไปก็เท่ากับเขาต้องมาเลี้ยงหลานเพิ่มอีกสองคน...สิ่งเดียวที่ทำได้คือรอเวลา เวลาเท่านั้น ....จนบางครั้งดิฉันเจ็บปวดร้าวมากถามตัวเองตลอดเวลาว่าทนไปเพื่ออะไร ทนไปทำไม...เหตุผลเดียวของดิฉันก็คือ"ลูก"ดิฉันไม่อยากให้ลูกต้องมารับรู้ว่าพ่อแม่แยกทางกัน มีปัญหากัน เพราะมันเป็นสิ่งที่ดิฉันไม่เคยคิดและดิฉันรับมันไม่ได้ ตลอด7ปีกว่าๆมันคือรักจนกลายเป็นความผูกพัน ความเข้าใจมันกลายเป็นความสงสาร แต่ทุกวันนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้คิดไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ดิฉันเสียใจมากเจ็บมาก ปวด ชา ไปหมด ทมองไปทางไหนก้อมืด หาทางออกไม่เจอ มองหน้าลูกยิ่งสงสารจับใจปวดร้าวมันเหมือนใจที่โดนเหยียบย้ำไม่เหลือแม้จะเอากลับมาต่อให้มันเหมือนเดิมได้ใหม่ ดิฉันกล้าพูดเลยเขาจะเลวยังงัยจะเจออะไรจะไปอยุ่กับคัยถ้าเขากลับมาดิฉันยินดีกอดเขา ปลอบใจเขา ได้ตลอดเวลา ถึงแม้บางครั้งก็คิดตัดใจ ช่างมันมันจะไปตายไหนก้อเรื่องของมัน แต่ลึกๆในใจดิฉันรอเขากลับมาเสมอไม่ว่าจะนานแค่ไหนเพราะเหตุผลเดียวที่ดิฉันทำก็คือ "เพื่อลูๆ" เพื่อความอบอุ่นความสุขของลูกๆ