ทำไมถึงไม่รู้จักพอ หยุดไม่ได้รึยังไง การที่เป็นชายรักชายแบบนี้มันก็แย่พออยู่แล้ว ความรักของชายรักชายแบบนี้มันยิ่งหาคน ที่จริงใจกับยากพอแหละ แต่กับไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ไม่หยุดเจ้าชู้หาไปเรื่อย
รู้ไมว่ามันเหนื่อยที่จะต้องวิ่งตามใครสักคน ทั้ง ๆ ที่ จริง ๆ แล้ว เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเราเลย
พูดถึงความรักแล้ว ความรักครั้งล่าสุดถึงมันจะนาน แต่ก็ยังจำได้เสมอ ไม่เคยลืม ตอนนี้เราอายุ 23 ปีครับ เรียนอยู่ปีที่ 5 คณะครุศาสตร์ ตอนนี้กำลังออกฝึกสอนอยู่ ย้อนไปถึงตอนที่เรียนอยู่ปี 1 เทอม 2
มีพี่คนนึงเข้ามาจีบ อายุมากกว่า เรียนอยู่ต่างสถาบัน อยู่ในจังหวัดเดียวกัน หน้าตาดี บุคลิกดี ตอนแรก ๆ เราก็ไม่ได้คิดอะไร ในเมื่อมีเข้ามาเราก็คุย เพราะ ถ้าเราจะคบในสักคนเป็นแฟน เราคิดว่าต้องดูเขาให้ดีๆ ว่าเขานิสัยเป็นยังไง เราก็เลยคุยกันมาเรื่อย ๆ จนกะทั้งตกลงคบกันเป็นแฟน เพราะเขาทำให้เราเห็นว่าเขาจริงใจกับเราจริง ๆ คอยมารับ มาส่ง หลังช่วงเวลาที่เราไม่มีเรียน ไปไหนมาไหนด้วยกัน นั่งคุยกัน ไปทานข้าว ดูหนัง ซื้อของ ซึ่งเราชอบอย่างหนึ่งในตัวเขา เขาจะเปิดตัวกับทุกคนว่าเราเป็นแฟนกัน ซึ่งไม่รู้สึกว่าอาย
แฟน :
“ เขาบอกว่าจะอายอะไร ในเมื่อเราเป็นแฟนกัน ”
เรา :
“บอกตามตรงคิดในใจ ดีใจมากๆๆ ก็บอกกับตัวเองว่า คนนี้แหละที่เราจะคบให้นาน ๆ
เพราะเขาไม่เหมือนคนอื่นที่เราเคยคบมา และอีกอย่างหนึ่งที่เราเหมือนกัน เราจะเป็นคนที่ชอบ
ทำบุญ สวดมนต์ เพราะปกติ ถ้าเป็นวันพระ เราจะขึ้นสวดมนต์”
เรา :
“(อ่อ ถึงเราจะไปไหนมาไหนด้วยกันแต่เราไม่เคยมีอะไรกันเลยสักครั้ง เพราะเราเรียนเสร็จ
เราจะต้องนั่งรถเมล์กลับบ้านทุกวัน 6 โมงเย็นก็ต้องกลับ รถเมล์จะหมด 6 โมงครึ่ง เราไม่ได้
พักหอเหมือนเพื่อนคนอื่น ก็เลยไปกลับ ตลอดเวลา 4 ปี ที่ เรียนในมหาวิทยาลัย ก็มีเขาที่มาส่ง
ขึ้นรถเมล์ และวันหยุด เราจะชอบอยู่บ้านซะมากกว่า ไม่ค่อยออกไปไหน เราจะเป็นคนที่ไม่
ชอบเที่ยวกลางคืน ไม่ดื่มเหล้า ไม่ชอบบุหรี่ ตอนนั้นเป็นยังไง ปัจจุบันก็เป็นแบบนั้น จะบอกว่า
เป็นคนติดบ้าน ปิดเทอม ก็อยู่แต่บ้าน)”
เขาก็เป็นแบบนี้ตลอดที่เรา ดู ๆ กัน และเราก็ตกลงเป็นแฟนกัน คบกันมาได้ประมาณ 4-5 เดือน ทุกอย่างเหมือนจะเป็นความรักที่ดูมีความสุข แต่มันเริ่มต้นมีอะไรเปลี่ยนไป เริ่มดูแปลก ๆ มีโทรศัพท์เข้ามา ปกติ ถ้ามีเรื่องอะไรเขาก็จะคุยให้เราได้ยินตลอด ไม่เคยเดินออกไปคุยคนเดียว แต่ครั้งนี้ เดินออกไปคุยคนเดียว ซึ่งมันนานมาก แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาอาจจะมีเรื่องส่วนตัวก็ได้ ปกติที่คบกันมา เราไม่เคยขอดูโทรศัพท์เลยสักครั้ง เพราะเชื่อใจ คิดว่าเขาไม่มีใครแน่นอน แต่หลัง ๆ มา เริ่มบ่อยขึ้น และก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์และก็นาน พอมันเริ่มบ่อย ก็เลยขอดูโทรศัพท์ แต่กับโดนปฏิเสธ
เรา :
มีเรื่องอะไรรึป่าว ทำไมเวลา ตัวเองคุยโทรศัพท์ทำไมต้องเดินออกไปคุยคนกันเดียวด้วยอ่ะ
ตังเองคุยกับใครอยู่ ปกติตัวเองไม่เป็นแบบนี้นิ
แฟน :
เขาก็บอกว่าป่าวนิ ไม่อะไรหรอก
เรา :
ตอนนั้นเราคิดว่าเขากำลังนอกใจเราอยู่แน่ ๆ เราก็เลยพูดขึ้นว่า ถ้าตัวเองกำลังคุยกับใครอยู่หรือ
กำลังนอกใจเขาล่ะก็ ก็เลิกซะ แต่พอถามไปถามมา กับได้คำตอบมาว่า
แฟน :
เขาขอโทษ อย่างที่ตัวเองพูดเขากำลังคุยกับอีกคนอยู่จริง ๆ
เรา :
เราคิดว่าเรื่องแบบนี้คงจะไม่เกิดกับเราอีกเป็นครั้งที่สอง แต่มันก็เกิดขึ้นจนได้
เราก็เลยบอกเขาให้เลิกซะ เลิกคุย
เรา :
ถามว่าตอนนั้นเราร้องให้ไหม ร้องดิใครจะไม่ร้อง เราบอกเขาว่า ตัวเองคิดดูแล้วกัน ถ้าเขาทำกับ
ตัวเองบ้างตัวเองจะรู้สึกยังไง หรือใครทำกับตัวเองแบบนี้ เขาว่าตัวเองก็คงเสียใจเหมือนกัน อย่าง
ที่เขาเสียใจอยู่ตอนนี้ เพราะตัวเองกำลังคิดนอกใจเขา…..กอดกันนั่งร้องให้…..
แฟน :
เขาขอโทษตัวเองจริงๆ มันจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกแล้วครับ ตัวเองเขาขอโทษครับ…..”
แต่พอทุกอย่างคิดว่ามันจะดีขึ้น แต่กับยิ่งเลวร้ายลง พอเข้าเดือนที่ 6 ยิ่งเข้าใกล้วันเกิดของเขา วันศุกร์พอเราเรียนเสร็จเราก็นั่งรถเมล์กับบ้านเป็นเรื่องปกติ พอมาวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ วันเสาร์เราโทรไป ไม่รับสายเลย แต่ก็คิดว่าเขาคงยุ่ง ๆ อยู่ คงไม่มีอะไร แต่พอมาวันอาทิตย์ เราโทรไปอีก กับไม่รับสายเราเลย ทั้งตอนกลางวัน และตอนกลางคืน โทรไปหลายครั้งเข้า เราเริ่มสงสัย ปกติเขาไม่เป็นแบบนี้เลย ถ้าคนมันยุ่งแค่ไหน หรือมีเรื่องอะไร อย่างน้อยเขาก็น่าจะรับโทรศัพท์บ้างแหละ น่าจะบอกกับเราบ้างว่าตอนนี้เขายุ่งอยู่ไม่สะดวกจริงๆ บอกเลยว่าอารมณ์ตอนนั้นเริ่มเสียใจ ตอนกลางคืนเรานอนไม่หลับเลย ประมาณเที่ยงคืน เขาก็ส่งข้อความมาว่า “…พี่ขอโทษเราด้วยจริงๆ ที่ทำให้เราเสียใจ เราทำให้พี่รักเราจริงๆ อย่างที่เรารู้ จริงๆๆ แล้วคนที่โทรมาบ่อย ๆ นั้น เขาเป็นแฟนพี่ที่คบกันมานานแล้ว พี่กำลังดูแลเขาอยู่ พี่ก็เสียใจไม่ต่างอะไรกับเราเลย ขอโทษจริง ๆ …” ข้อความนี้ทำให้เราไม่หลับไม่นอนตั้งหลายวัน ไม่มีอารมณ์จะออกไปไหน เสียใจมากๆๆๆ เจ็บสุดๆ
“ ที่จริงแล้วเราไม่ใช่คนที่มาก่อนเลย แต่เรากับเป็นคนมาที่หลัง”
เจ็บซะยิ่งกว่าเจ็บ ข้อความนี้ส่งมาใกล้ ๆ วันเกิดของเขา ซึ่งเราได้ทำป้ายคำ เพื่อที่จะเซอร์ไพรส์เราคิดว่าจะอวยพรวันเกิน ชูป้ายคำ ต่อหน้าเขา ที่หน้าห้องแต่กับไม่ได้ทำ วันจันทร์ก็เลยโทรนัดมาเจอกัน รู้ไหมด้วยความที่รักเขามาก ๆ
เรา:
ไม่เป็นไร เขายอมมาที่หลังก็ได้ ขอให้ตัวเองรักเขาก็พอ แล้วเราก็เอาป้ายคำให้เขาดู
เรา:
เขาทำป้ายคำให้ เพื่อที่จะอวยพรวันเกิดให้ตัวเอง เขารู้ว่ามันไม่มีราคาอะไรมากมาย แต่เขาก็
ตั้งใจทำ อยากจะเซอร์ไพรส์ตัวเองจริงๆ ทั้งพูดทั้งร้องให้
…แต่สุดท้ายเขาก็เริ่มทำตัวออกห่าง ไม่โทร ไม่รับสาย โทรครั้งสุดท้ายรับสาย บอกเลย เราโมโหมาก
เรา:
ทำไมนายต้องทำแบบนี้กับเราด้วย ไม่สงสารกันบ้างหรอ คำตอบที่ได้
แฟน :
ก็มันเหงา ไม่มีใคร เวลาเรียนเสร็จกับมาอยู่ที่ห้องคนเดียวมันเหงา มันเหงามาก แฟนก็อยู่คน
ละที่ นาน ๆ เจอกัน
เรา :
แล้วถ้านาน ๆ เจอกัน ทำไมไม่เลิกกันแล้วมาคบกับเราแทน
แฟน :
ไม่ได้ เราคบกันมาหลายปีแล้วพ่อกับแม่ก็รู้เรื่อง เรารักมากจริงๆ เลิกไม่ได้
เรา :
แล้วเราแหละ นายไม่สงสารเราบ้างรึยังไง แต่นายกับมาเอาความเหงา มาทำให้เรารัก แล้วก็ทิ้ง
เราไปแบบนี้น่ะหรอ
แล้วก็โดนตัดสายไป และก็ไม่รับสายอีกเลย และช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ โห ทรมานมาก คิดอะไรไม่ออกเลย สอบเกือบไม่ผ่าน เป็นอะไรที่สุดๆๆ …..
แต่สุดท้ายต้องมารักษาใจอยู่ประมาณ 1 เดือน แล้วพูดกับตัวเองว่า “เราต้องทำตัวให้มีค่าเข้าไว้” เราจะไม่เปิดรับใครเขามาอีกเลย ตลอด 4 ปี ที่เรียนในมหาวิทยาลัย ปัจจุบันนี้อยู่ปีที่ 5 เริ่มเปิดใจรับใครเข้ามามากขึ้น ถามว่าอยากมีใครสักคนไหม ก็อยากมีนะครับ แต่มันหาคนจริงใจยากมาก เข้ามาก็อย่าเข้ามาหลอกกันเลย อยากนอกใจกันเลย แค่นี้ก็พอแหละ ถามว่าเป็นโสดมันเหงาไหม มันก็มีเหงาบ้าง มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ทำงานไปมันก็หายเหงาแหละ แต่ถามว่ามีคนเข้ามาคุยบ้างรึป่าว ก็มีนะ แต่นานๆๆที แต่สุดท้ายคนที่คุยด้วยเขาก็ทิ้งเราไปหายไปเลย ก็คิดว่า คนนี้อาจจะยังไม่ใช่สำหรับเรา แต่ก็เสียใจนะ กับมา“โสดเหมือนเดิม” มันยิ่งทำให้เรากลัวที่จะรักใคร กลัวโดนหลอก กลัวที่จะเสียใจอีกครั้ง กลัวที่จะต้องกับไปนั่งเสียใจอยู่ในห้องคนเดียว พูดกับใครก็ไม่ได้ ปรึกษาใครก็ไม่ได้ ระบายกับใครก็ไม่ได้ เจ็บก็ต้องรักษาตัวเราเอง การที่เราออกมาเล่านั้น ไม่ได้ออกมาประกาศว่า เออ โสดนะโปรดจีบ คือมันเหมือนเป็นการได้ระบายความเสียใจที่อยู่ในใจตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่เก็บมาตลอด มันเป็นเหมือนประสบการณ์ เป็นเหมือนบทเรียน มันทำให้เราเข้มแข็ง ฟังดูเหมือนมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดูธรรมดามาก ซึ่งเทียบกับคนอื่นที่เขาเจอมามากกว่า ซึ่งมันก็มีที่หนักกว่านี้ แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่า จริง ๆ แล้ว ความรักไม่เคยทำร้ายใครเลย มีแค่คนเรานี่แหละที่ทำร้ายกันเอง เพราะคนเราไม่รู้จักพอ มี 1 ก็อยากจะมี 2 มี 2 ก็อยากจะมี 3 อย่างที่เราเคยได้ยินมาคบ 4 คนพร้อมกันก็มี ถึงจะเป็นความรักของชายรักชายก็ตามแต่ แต่มันก็คือความรัก รักไม่จำกัดว่าคุณจะเป็นเพศไหน หรือชายรักหญิง มันก็มาจาก คำว่า “ความรัก” อย่ากำหนดความรักด้วยเรื่องเพศ เมื่อคุณเจอคนที่ใช่ หรือ กำลังคบกับใครอยู่ มีรักเดียว คบคนเดียว ไม่นอกใจ ถ้าคนใดคนหนึ่งทำแล้ว ถ้าเราโดนแฟนเรานอกใจ เราก็เสียใจ แต่ถ้าเราทำกับแฟนเรา แฟนเราก็เสียใจไม่ต่างอะไรกันเลย ใจเขาใจเรา แต่เมื่อต่างคนต่างหยุด หยุดที่จะไม่นอกใจ และอีกอย่างถ้าเราจะคบใคร เราความดูเขาให้ดีๆ ก่อนที่จะตกลงคบใครสักคน ถ้าเป็นแบบนี้ความรักที่สวยงามมันก็ยังคงอยู่กับเราตลอดไป

อย่าหลอกกันเลย เจ็บมามากพอแล้ว (คนมาที่หลัง)
ทำไมถึงไม่รู้จักพอ หยุดไม่ได้รึยังไง การที่เป็นชายรักชายแบบนี้มันก็แย่พออยู่แล้ว ความรักของชายรักชายแบบนี้มันยิ่งหาคน ที่จริงใจกับยากพอแหละ แต่กับไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ไม่หยุดเจ้าชู้หาไปเรื่อย
รู้ไมว่ามันเหนื่อยที่จะต้องวิ่งตามใครสักคน ทั้ง ๆ ที่ จริง ๆ แล้ว เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเราเลย
พูดถึงความรักแล้ว ความรักครั้งล่าสุดถึงมันจะนาน แต่ก็ยังจำได้เสมอ ไม่เคยลืม ตอนนี้เราอายุ 23 ปีครับ เรียนอยู่ปีที่ 5 คณะครุศาสตร์ ตอนนี้กำลังออกฝึกสอนอยู่ ย้อนไปถึงตอนที่เรียนอยู่ปี 1 เทอม 2
มีพี่คนนึงเข้ามาจีบ อายุมากกว่า เรียนอยู่ต่างสถาบัน อยู่ในจังหวัดเดียวกัน หน้าตาดี บุคลิกดี ตอนแรก ๆ เราก็ไม่ได้คิดอะไร ในเมื่อมีเข้ามาเราก็คุย เพราะ ถ้าเราจะคบในสักคนเป็นแฟน เราคิดว่าต้องดูเขาให้ดีๆ ว่าเขานิสัยเป็นยังไง เราก็เลยคุยกันมาเรื่อย ๆ จนกะทั้งตกลงคบกันเป็นแฟน เพราะเขาทำให้เราเห็นว่าเขาจริงใจกับเราจริง ๆ คอยมารับ มาส่ง หลังช่วงเวลาที่เราไม่มีเรียน ไปไหนมาไหนด้วยกัน นั่งคุยกัน ไปทานข้าว ดูหนัง ซื้อของ ซึ่งเราชอบอย่างหนึ่งในตัวเขา เขาจะเปิดตัวกับทุกคนว่าเราเป็นแฟนกัน ซึ่งไม่รู้สึกว่าอาย
แฟน : “ เขาบอกว่าจะอายอะไร ในเมื่อเราเป็นแฟนกัน ”
เรา : “บอกตามตรงคิดในใจ ดีใจมากๆๆ ก็บอกกับตัวเองว่า คนนี้แหละที่เราจะคบให้นาน ๆ
เพราะเขาไม่เหมือนคนอื่นที่เราเคยคบมา และอีกอย่างหนึ่งที่เราเหมือนกัน เราจะเป็นคนที่ชอบ
ทำบุญ สวดมนต์ เพราะปกติ ถ้าเป็นวันพระ เราจะขึ้นสวดมนต์”
เรา : “(อ่อ ถึงเราจะไปไหนมาไหนด้วยกันแต่เราไม่เคยมีอะไรกันเลยสักครั้ง เพราะเราเรียนเสร็จ
เราจะต้องนั่งรถเมล์กลับบ้านทุกวัน 6 โมงเย็นก็ต้องกลับ รถเมล์จะหมด 6 โมงครึ่ง เราไม่ได้
พักหอเหมือนเพื่อนคนอื่น ก็เลยไปกลับ ตลอดเวลา 4 ปี ที่ เรียนในมหาวิทยาลัย ก็มีเขาที่มาส่ง
ขึ้นรถเมล์ และวันหยุด เราจะชอบอยู่บ้านซะมากกว่า ไม่ค่อยออกไปไหน เราจะเป็นคนที่ไม่
ชอบเที่ยวกลางคืน ไม่ดื่มเหล้า ไม่ชอบบุหรี่ ตอนนั้นเป็นยังไง ปัจจุบันก็เป็นแบบนั้น จะบอกว่า
เป็นคนติดบ้าน ปิดเทอม ก็อยู่แต่บ้าน)”
เขาก็เป็นแบบนี้ตลอดที่เรา ดู ๆ กัน และเราก็ตกลงเป็นแฟนกัน คบกันมาได้ประมาณ 4-5 เดือน ทุกอย่างเหมือนจะเป็นความรักที่ดูมีความสุข แต่มันเริ่มต้นมีอะไรเปลี่ยนไป เริ่มดูแปลก ๆ มีโทรศัพท์เข้ามา ปกติ ถ้ามีเรื่องอะไรเขาก็จะคุยให้เราได้ยินตลอด ไม่เคยเดินออกไปคุยคนเดียว แต่ครั้งนี้ เดินออกไปคุยคนเดียว ซึ่งมันนานมาก แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาอาจจะมีเรื่องส่วนตัวก็ได้ ปกติที่คบกันมา เราไม่เคยขอดูโทรศัพท์เลยสักครั้ง เพราะเชื่อใจ คิดว่าเขาไม่มีใครแน่นอน แต่หลัง ๆ มา เริ่มบ่อยขึ้น และก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์และก็นาน พอมันเริ่มบ่อย ก็เลยขอดูโทรศัพท์ แต่กับโดนปฏิเสธ
เรา : มีเรื่องอะไรรึป่าว ทำไมเวลา ตัวเองคุยโทรศัพท์ทำไมต้องเดินออกไปคุยคนกันเดียวด้วยอ่ะ
ตังเองคุยกับใครอยู่ ปกติตัวเองไม่เป็นแบบนี้นิ
แฟน : เขาก็บอกว่าป่าวนิ ไม่อะไรหรอก
เรา : ตอนนั้นเราคิดว่าเขากำลังนอกใจเราอยู่แน่ ๆ เราก็เลยพูดขึ้นว่า ถ้าตัวเองกำลังคุยกับใครอยู่หรือ
กำลังนอกใจเขาล่ะก็ ก็เลิกซะ แต่พอถามไปถามมา กับได้คำตอบมาว่า
แฟน : เขาขอโทษ อย่างที่ตัวเองพูดเขากำลังคุยกับอีกคนอยู่จริง ๆ
เรา : เราคิดว่าเรื่องแบบนี้คงจะไม่เกิดกับเราอีกเป็นครั้งที่สอง แต่มันก็เกิดขึ้นจนได้
เราก็เลยบอกเขาให้เลิกซะ เลิกคุย
เรา : ถามว่าตอนนั้นเราร้องให้ไหม ร้องดิใครจะไม่ร้อง เราบอกเขาว่า ตัวเองคิดดูแล้วกัน ถ้าเขาทำกับ
ตัวเองบ้างตัวเองจะรู้สึกยังไง หรือใครทำกับตัวเองแบบนี้ เขาว่าตัวเองก็คงเสียใจเหมือนกัน อย่าง
ที่เขาเสียใจอยู่ตอนนี้ เพราะตัวเองกำลังคิดนอกใจเขา…..กอดกันนั่งร้องให้…..
แฟน : เขาขอโทษตัวเองจริงๆ มันจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกแล้วครับ ตัวเองเขาขอโทษครับ…..”
แต่พอทุกอย่างคิดว่ามันจะดีขึ้น แต่กับยิ่งเลวร้ายลง พอเข้าเดือนที่ 6 ยิ่งเข้าใกล้วันเกิดของเขา วันศุกร์พอเราเรียนเสร็จเราก็นั่งรถเมล์กับบ้านเป็นเรื่องปกติ พอมาวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ วันเสาร์เราโทรไป ไม่รับสายเลย แต่ก็คิดว่าเขาคงยุ่ง ๆ อยู่ คงไม่มีอะไร แต่พอมาวันอาทิตย์ เราโทรไปอีก กับไม่รับสายเราเลย ทั้งตอนกลางวัน และตอนกลางคืน โทรไปหลายครั้งเข้า เราเริ่มสงสัย ปกติเขาไม่เป็นแบบนี้เลย ถ้าคนมันยุ่งแค่ไหน หรือมีเรื่องอะไร อย่างน้อยเขาก็น่าจะรับโทรศัพท์บ้างแหละ น่าจะบอกกับเราบ้างว่าตอนนี้เขายุ่งอยู่ไม่สะดวกจริงๆ บอกเลยว่าอารมณ์ตอนนั้นเริ่มเสียใจ ตอนกลางคืนเรานอนไม่หลับเลย ประมาณเที่ยงคืน เขาก็ส่งข้อความมาว่า “…พี่ขอโทษเราด้วยจริงๆ ที่ทำให้เราเสียใจ เราทำให้พี่รักเราจริงๆ อย่างที่เรารู้ จริงๆๆ แล้วคนที่โทรมาบ่อย ๆ นั้น เขาเป็นแฟนพี่ที่คบกันมานานแล้ว พี่กำลังดูแลเขาอยู่ พี่ก็เสียใจไม่ต่างอะไรกับเราเลย ขอโทษจริง ๆ …” ข้อความนี้ทำให้เราไม่หลับไม่นอนตั้งหลายวัน ไม่มีอารมณ์จะออกไปไหน เสียใจมากๆๆๆ เจ็บสุดๆ
“ ที่จริงแล้วเราไม่ใช่คนที่มาก่อนเลย แต่เรากับเป็นคนมาที่หลัง”
เจ็บซะยิ่งกว่าเจ็บ ข้อความนี้ส่งมาใกล้ ๆ วันเกิดของเขา ซึ่งเราได้ทำป้ายคำ เพื่อที่จะเซอร์ไพรส์เราคิดว่าจะอวยพรวันเกิน ชูป้ายคำ ต่อหน้าเขา ที่หน้าห้องแต่กับไม่ได้ทำ วันจันทร์ก็เลยโทรนัดมาเจอกัน รู้ไหมด้วยความที่รักเขามาก ๆ
เรา: ไม่เป็นไร เขายอมมาที่หลังก็ได้ ขอให้ตัวเองรักเขาก็พอ แล้วเราก็เอาป้ายคำให้เขาดู
เรา: เขาทำป้ายคำให้ เพื่อที่จะอวยพรวันเกิดให้ตัวเอง เขารู้ว่ามันไม่มีราคาอะไรมากมาย แต่เขาก็
ตั้งใจทำ อยากจะเซอร์ไพรส์ตัวเองจริงๆ ทั้งพูดทั้งร้องให้
…แต่สุดท้ายเขาก็เริ่มทำตัวออกห่าง ไม่โทร ไม่รับสาย โทรครั้งสุดท้ายรับสาย บอกเลย เราโมโหมาก
เรา: ทำไมนายต้องทำแบบนี้กับเราด้วย ไม่สงสารกันบ้างหรอ คำตอบที่ได้
แฟน : ก็มันเหงา ไม่มีใคร เวลาเรียนเสร็จกับมาอยู่ที่ห้องคนเดียวมันเหงา มันเหงามาก แฟนก็อยู่คน
ละที่ นาน ๆ เจอกัน
เรา : แล้วถ้านาน ๆ เจอกัน ทำไมไม่เลิกกันแล้วมาคบกับเราแทน
แฟน : ไม่ได้ เราคบกันมาหลายปีแล้วพ่อกับแม่ก็รู้เรื่อง เรารักมากจริงๆ เลิกไม่ได้
เรา : แล้วเราแหละ นายไม่สงสารเราบ้างรึยังไง แต่นายกับมาเอาความเหงา มาทำให้เรารัก แล้วก็ทิ้ง
เราไปแบบนี้น่ะหรอ
แล้วก็โดนตัดสายไป และก็ไม่รับสายอีกเลย และช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ โห ทรมานมาก คิดอะไรไม่ออกเลย สอบเกือบไม่ผ่าน เป็นอะไรที่สุดๆๆ …..
แต่สุดท้ายต้องมารักษาใจอยู่ประมาณ 1 เดือน แล้วพูดกับตัวเองว่า “เราต้องทำตัวให้มีค่าเข้าไว้” เราจะไม่เปิดรับใครเขามาอีกเลย ตลอด 4 ปี ที่เรียนในมหาวิทยาลัย ปัจจุบันนี้อยู่ปีที่ 5 เริ่มเปิดใจรับใครเข้ามามากขึ้น ถามว่าอยากมีใครสักคนไหม ก็อยากมีนะครับ แต่มันหาคนจริงใจยากมาก เข้ามาก็อย่าเข้ามาหลอกกันเลย อยากนอกใจกันเลย แค่นี้ก็พอแหละ ถามว่าเป็นโสดมันเหงาไหม มันก็มีเหงาบ้าง มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ทำงานไปมันก็หายเหงาแหละ แต่ถามว่ามีคนเข้ามาคุยบ้างรึป่าว ก็มีนะ แต่นานๆๆที แต่สุดท้ายคนที่คุยด้วยเขาก็ทิ้งเราไปหายไปเลย ก็คิดว่า คนนี้อาจจะยังไม่ใช่สำหรับเรา แต่ก็เสียใจนะ กับมา“โสดเหมือนเดิม” มันยิ่งทำให้เรากลัวที่จะรักใคร กลัวโดนหลอก กลัวที่จะเสียใจอีกครั้ง กลัวที่จะต้องกับไปนั่งเสียใจอยู่ในห้องคนเดียว พูดกับใครก็ไม่ได้ ปรึกษาใครก็ไม่ได้ ระบายกับใครก็ไม่ได้ เจ็บก็ต้องรักษาตัวเราเอง การที่เราออกมาเล่านั้น ไม่ได้ออกมาประกาศว่า เออ โสดนะโปรดจีบ คือมันเหมือนเป็นการได้ระบายความเสียใจที่อยู่ในใจตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่เก็บมาตลอด มันเป็นเหมือนประสบการณ์ เป็นเหมือนบทเรียน มันทำให้เราเข้มแข็ง ฟังดูเหมือนมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดูธรรมดามาก ซึ่งเทียบกับคนอื่นที่เขาเจอมามากกว่า ซึ่งมันก็มีที่หนักกว่านี้ แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่า จริง ๆ แล้ว ความรักไม่เคยทำร้ายใครเลย มีแค่คนเรานี่แหละที่ทำร้ายกันเอง เพราะคนเราไม่รู้จักพอ มี 1 ก็อยากจะมี 2 มี 2 ก็อยากจะมี 3 อย่างที่เราเคยได้ยินมาคบ 4 คนพร้อมกันก็มี ถึงจะเป็นความรักของชายรักชายก็ตามแต่ แต่มันก็คือความรัก รักไม่จำกัดว่าคุณจะเป็นเพศไหน หรือชายรักหญิง มันก็มาจาก คำว่า “ความรัก” อย่ากำหนดความรักด้วยเรื่องเพศ เมื่อคุณเจอคนที่ใช่ หรือ กำลังคบกับใครอยู่ มีรักเดียว คบคนเดียว ไม่นอกใจ ถ้าคนใดคนหนึ่งทำแล้ว ถ้าเราโดนแฟนเรานอกใจ เราก็เสียใจ แต่ถ้าเราทำกับแฟนเรา แฟนเราก็เสียใจไม่ต่างอะไรกันเลย ใจเขาใจเรา แต่เมื่อต่างคนต่างหยุด หยุดที่จะไม่นอกใจ และอีกอย่างถ้าเราจะคบใคร เราความดูเขาให้ดีๆ ก่อนที่จะตกลงคบใครสักคน ถ้าเป็นแบบนี้ความรักที่สวยงามมันก็ยังคงอยู่กับเราตลอดไป