IFEC ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง เป็นผู้นำ เจ้าแห่งพลังงานทดแทน SOLAR FARM

กระทู้คำถาม
BLS

ประเด็นการลงทุน

เราเริ่มต้นแนะนำIFEC ด้วยคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท (อิงสมมุติฐานอนุรักษ์นิยม WACC 9.2% ทั้งนี้หากอิงค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ให้ WACC เฉลี่ย 7-8% คาดราคาเหมาะสมอยู่ 20-25 บาท) หลังจากบริษัทฯได้ขายธุรกิจจำหน่ายและให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสารในปีนี้ และก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าทดแทนอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะรับรู้รายได้การลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าทดแทน เต็มปีในปีหน้า คาดหนุนให้กำไรหลักเติบโตก้าวกระโดด 3,855% เป็น 356 ล้านบาท และปี 2016 คาดกำไรเติบโตอีก 336% เป็น 1,553 ล้านบาท บนสมมุติฐานเชิงอนุรักษ์นิยมกำลังผลิตไฟฟ้า 130MW

มีแหล่งเงินทุนและแผนลงทุนที่ชัดเจนสนับสนุนการเติบโต
หลังจากการเพิ่มทุนคาดว่าส่วนทุนของ IFEC จะเพิ่มขึ้นเป็น 5,330 ล้านบาท (บนสมมุติฐาน IFEC-W1 แปลงสภาพเพียง 1 ใน 3 ต่อปี) ขณะที่บริษัทฯ มีหนี้สินต่อทุน DE เพียง 0.2 เท่า ทำให้มีช่องทางในการขยายการลงทุนจากปัจจุบันไปได้อีกมาก

ปัจจุบันโครงการพลังงานทดแทนทั้งหมด ที่ IFEC ดำเนินการอยู่ และแผนอนาคตประกอบไปด้วย 1) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ สิ้นปีนี้ที่ 35.5MW และอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการราว 100 MW(ไม่รวมโซล่าร์รูฟ) 2) โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ได้สัญญาขายไฟแล้ว (PPA) 10MW และอยู่ในแผนการผลิตอีก 87.5MWได้ PPA ต้นปีหน้า3) โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 6.8MW 4) โรงไฟฟ้าขยะที่ชลบุรี 5MWและ 5) โรงไฟฟ้าในต่างประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าขยะกัมพูชาซึ่งได้ MOU แล้ว โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชาอีกราว 15MWและการร่วมลงทุนกับ Strategic partnerทำโซล่าร์ฟาร์มญี่ปุ่น

ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานลม
IFEC ได้เข้าซื้อธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม Green Growthที่นครศรีธรรมราช (ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีลมทุกประเภท ทั้งลมบก ลมทะเล และ ลมฤดูกาล) เมื่อ เดือน กย.ที่ผ่านมา (ถือหุ้น 80%) ด้วยเงินลงทุนราว 270 ล้านบาท และคาดผลตอบแทน NPV project กว่า 500 ล้านบาท จากรายได้สัญญาขายไฟฟ้าแก่ภาครัฐฯที่ 10 MW เริ่มขายตั้งแต่ พค.ปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งยังไม่รวมเฟส 2 อีก 87.5 MW ที่จะขายไฟได้ตั้งแต่ กลางปี 2016 เป็นต้นไป ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพในการพัฒนาเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ราว 200-300 MW โดย IFEC มีศักยภาพในการขยายธุรกิจพลังงานลมได้อีกมากจากการร่วมพัฒนาเทคโนโลยี Wind turbine กับ Strategic partner ต่างชาติที่ใส่เงินเพิ่มทุนล่าสุด และพื้นที่ที่ได้เปรียบจากความเร็วลมที่สูงสม่ำเสมอถึง 5-6 เมตร/วินาที (ค่าเฉลี่ยแรงลมทั้งประเทศอยู่ที่ 3-4 เมตร/วินาที)

จับตากระแสพลังงานไฟฟ้าจากลม และขยะในปีหน้า คาดมาแรง
เรามองว่า IFEC ซึ่งมี Project pioneer ทั้งหมดอยู่แล้ว จะได้ประโยชน์สูงสุด จากการสนับสนุนของภาครัฐฯ อาทิเช่น การเพิ่มค่า Adder สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งล่าสุดสภาอุตสาหกรรม (สอท.) ได้เสนอภาครัฐฯ ให้เพิ่มค่า Adderจากพลังงานลมเป็น 4.5 บาท (เราคาด Feed in tariff พลังงานลม จะอยู่ในช่วง 6.00-13.55 บาท/kWh) และ เราคาดว่าปีหน้ารัฐบาลจะเปิดให้มีการทำสัญญาซื้อไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้นทั้งพลังงานลม และ Bio wasteซึ่งคาดจะเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่