เมื่อวานยอดซื้อขายจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาหนาแน่นมากอย่างมีนัยยะสำคัญ และวันนี้คาดว่าก็คงซื้อเพิ่มอีก เม่าที่รีๆรอๆเก้ๆกังๆกล้าๆกลัวๆ ก็รีบเข้าได้แล้ว เดี๋ยวจะตกรถไม่รู้ด้วยนะ คนที่รอ 1.2 หรือไปขายทิ้งที่ 1.2-1.3 ยืนมองตาปริบๆด้วยความเสียดาย
Symbol Buy Sell Total Net
SUPER 42,615,900 27,820,000 70,435,900 14,795,900
########################################################################################################
HotNews: SUPER ปั้นดีลโรงไฟฟ้าพลังงานลม 700 Mw ในเวียดนาม
มูลค่าลงทุน 5.6 หมื่นลบ. สานฝันปี62 มีกำลังผลิต 2,500 Mw
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 23สิงหาคม 2560 ) -------SUPER คาดเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม 700 Mw ในเวียดนาม ภายในปีนี้ ประเมินดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 ปีข้างหน้า คาด IRR 18-24% คาดโรงไฟฟ้าพลังงานลม 700 Mw ใช้เงินลงทุน 5.6 หมื่นลบ. เผยแหล่งเงินมาจากการกู้ -ตั้งกองทุน IFF และหุ้นกู้ มั่นใจปีนี้กำไร-รายได้ขายไฟ เป็นนิวไฮ หลังทยอยรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มในจีน เลื่อนนำ"ซุปเปอร์ โซลาร์ เอนเนอร์ยี่"เข้าตลาดหุ้นปลายปี 61 เหตุขอตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานฯ ก่อน
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้มีการลงนามตกลงความร่วมมือ (MOA) พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม กำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม โดยบริษัทฯได้มีการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการก่อสร้างเอาไว้แล้ว โดยจะว่างจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ มาทำงานให้ โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนก่อสร้างได้ภายในปี 2560 นี้ และไม่ต้องกังวลในด้านเงินทุนเนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการประสานงานกับสถาบันการเงินและเตรียมความพร้อมในด้านนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามที่ได้มีการเซ็น MOA ครั้งนี้ พันธมิตรจากเวียดนามคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตขายไฟฟ้า (PPA) ทั้งหมดภายในปลายปีนี้ โดยโปรเจ็กนี้คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้มีสัญญารับซื้อไฟอยู่ที่ 0.098 ดอลลาร์สหรัฐมีอายุสัญญา 20 ปี
สำหรับบริษัทพันธมิตรในเวียดนามที่บริษัทเข้าไปร่วมลงทุน ถือเป็นบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงในประเทศเวียดนาม มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานโดยตรง ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานในประเทศเวียดนามมีมาก ซึ่งมั่นใจว่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย และสนับสนุนต่อการสร้างรายได้และกำไรของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ทั้งนี้ นอกจากโครงการพลังงานลมในเวียดนามครั้งนี้แล้ว SUPER อยู่ระหว่างการเจรจาในการร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในอนาคตด้วยเช่นกัน
นายจอมทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ คาดจะใช้งบลงทุนรวมทั้งสิ้น 56,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินลงทุนมาจากการกู้ยืม สถาบันการเงินรายใหญ่ที่ให้การสนับสนุนและอีกส่วนมาจากเงินสดในมือ รวมถึงเงินที่จะได้รับจากตั้งกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ มูลค่าราว 10,000 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ที่จะอยู่ในกองดังกล่าวนั้นคือโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม กำลังการผลิตรวม 118 เมกะวัตต์ คาดจะสามารถยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) ได้ทันภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทจะออกหุ้นกู้เพิ่มเติม
ส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR) โรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ บริษัทประเมินว่าจะอยู่ที่ราว18-24% เนื่องจากกระแสลมที่ประเทศเวียดนามค่อนข้างแรง จึงผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า แต่ในส่วนของค่าไฟอาจจะต่ำกว่าประเทศไทย
นอกเหนือจากประเทศเวียดนามแล้ว SUPER มีแผนที่จะขยายการลงทุนในตลาดต่างประเทศอื่นๆ อาทิ จีนและญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น รวมถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติมด้วยเช่นกันตามแผนธุรกิจ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ระหว่างปี 2560-2562) สัดส่วนรายได้จะมาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบัน 5%
"ปัจจุบัน SUPER มีใบอนุญาตขายไฟฟ้า 809 เมกะวัตต์ ดำเนินการขายไฟเชิงพาณิชย์แล้ว หรือCOD จำนวน 735 เมกะวัตต์ ถือเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียในขณะนี้ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมี PPA มากกว่า 809 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสนับสนุนให้ มีรายได้จากการขายไฟฟ้าเป็น New High และส่งให้ผลกำไรในปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในแรงหนุนมาจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศจีน ที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 3/60 นี้ จะช่วยผลักดันให้การเติบโตของธุรกิจขยายตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ"นายจอมทรัพย์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆภายในประเทศ อาทิ โครงการ SPP Hybrid กำลังการผลิตรวมประมาณ 340 เมกะวัตต์ โดยบริษัทคาดมีโอกาสชนะประมูลราว7% ซึ่งจากการขยายการลงทุนโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้กำลังการผลิตของบริษัทแตะ 2,500 เมกะวัตต์ ปี2562 โดยบริษัทขอให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่ามีศักยภาพและมีความในการลงทุน 1.5-2 หมื่นล้านบาท/ปี ในระยะปีนี้ถึงปี 2562 เพื่อรองรับเป้าหมายกำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์
สำหรับแผนการนำบริษัทย่อย บริษัทซุปเปอร์ โซลาร์ เอ็นเนอยี จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทอาจต้องเลื่อนออกไปเป็นปลายปี 61 เนื่องจาก ต้องการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จก่อน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้รับความสนใจ จากนักลงทุนสถาบันมากขึ้น ซึ่งบริษัทมองว่ามาจากปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่ง ขณะที่บริษัทได้ให้ข้อมูลนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และในช่วง ปลายปีนี้ได้บริษัทได้รับเชิญจาก บล.ทิสโก้ ให้ไปโรดโชว์ที่ ฮ่องกง , สิงค์โปร์
"หลังจากที่เราเข้า SET100 บรรดากองทุนก็สนใจธุรกิจเราอย่างมาก เพราะมีเป้าหมายการเติบโตชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้มีกองทุนเสนอซื้อบิ๊กล็อตจากผมและกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วนถึง 25% แต่ได้ปฏิเสธไป เพราะอยากให้ไปซื้อขายในกระดานมากกว่า และผมก็ไม่อยากขายหุ้นที่ถือด้วย รวมถึงไม่มีแผนขาย PP แน่นอนเพราะเรามีช่องทางการระดมทุนที่เพียงพอแล้ว" นายจอมทรัพย์ กล่าว
ขาขึ้น SUPER รอบใหญ่กำลังจะมา
Symbol Buy Sell Total Net
SUPER 42,615,900 27,820,000 70,435,900 14,795,900
########################################################################################################
HotNews: SUPER ปั้นดีลโรงไฟฟ้าพลังงานลม 700 Mw ในเวียดนาม
มูลค่าลงทุน 5.6 หมื่นลบ. สานฝันปี62 มีกำลังผลิต 2,500 Mw
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 23สิงหาคม 2560 ) -------SUPER คาดเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม 700 Mw ในเวียดนาม ภายในปีนี้ ประเมินดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 ปีข้างหน้า คาด IRR 18-24% คาดโรงไฟฟ้าพลังงานลม 700 Mw ใช้เงินลงทุน 5.6 หมื่นลบ. เผยแหล่งเงินมาจากการกู้ -ตั้งกองทุน IFF และหุ้นกู้ มั่นใจปีนี้กำไร-รายได้ขายไฟ เป็นนิวไฮ หลังทยอยรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มในจีน เลื่อนนำ"ซุปเปอร์ โซลาร์ เอนเนอร์ยี่"เข้าตลาดหุ้นปลายปี 61 เหตุขอตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานฯ ก่อน
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้มีการลงนามตกลงความร่วมมือ (MOA) พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม กำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม โดยบริษัทฯได้มีการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการก่อสร้างเอาไว้แล้ว โดยจะว่างจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ มาทำงานให้ โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนก่อสร้างได้ภายในปี 2560 นี้ และไม่ต้องกังวลในด้านเงินทุนเนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการประสานงานกับสถาบันการเงินและเตรียมความพร้อมในด้านนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามที่ได้มีการเซ็น MOA ครั้งนี้ พันธมิตรจากเวียดนามคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตขายไฟฟ้า (PPA) ทั้งหมดภายในปลายปีนี้ โดยโปรเจ็กนี้คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้มีสัญญารับซื้อไฟอยู่ที่ 0.098 ดอลลาร์สหรัฐมีอายุสัญญา 20 ปี
สำหรับบริษัทพันธมิตรในเวียดนามที่บริษัทเข้าไปร่วมลงทุน ถือเป็นบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงในประเทศเวียดนาม มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานโดยตรง ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานในประเทศเวียดนามมีมาก ซึ่งมั่นใจว่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย และสนับสนุนต่อการสร้างรายได้และกำไรของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ทั้งนี้ นอกจากโครงการพลังงานลมในเวียดนามครั้งนี้แล้ว SUPER อยู่ระหว่างการเจรจาในการร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในอนาคตด้วยเช่นกัน
นายจอมทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ คาดจะใช้งบลงทุนรวมทั้งสิ้น 56,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินลงทุนมาจากการกู้ยืม สถาบันการเงินรายใหญ่ที่ให้การสนับสนุนและอีกส่วนมาจากเงินสดในมือ รวมถึงเงินที่จะได้รับจากตั้งกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ มูลค่าราว 10,000 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ที่จะอยู่ในกองดังกล่าวนั้นคือโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม กำลังการผลิตรวม 118 เมกะวัตต์ คาดจะสามารถยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) ได้ทันภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทจะออกหุ้นกู้เพิ่มเติม
ส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR) โรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ บริษัทประเมินว่าจะอยู่ที่ราว18-24% เนื่องจากกระแสลมที่ประเทศเวียดนามค่อนข้างแรง จึงผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า แต่ในส่วนของค่าไฟอาจจะต่ำกว่าประเทศไทย
นอกเหนือจากประเทศเวียดนามแล้ว SUPER มีแผนที่จะขยายการลงทุนในตลาดต่างประเทศอื่นๆ อาทิ จีนและญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น รวมถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติมด้วยเช่นกันตามแผนธุรกิจ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ระหว่างปี 2560-2562) สัดส่วนรายได้จะมาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบัน 5%
"ปัจจุบัน SUPER มีใบอนุญาตขายไฟฟ้า 809 เมกะวัตต์ ดำเนินการขายไฟเชิงพาณิชย์แล้ว หรือCOD จำนวน 735 เมกะวัตต์ ถือเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียในขณะนี้ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมี PPA มากกว่า 809 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสนับสนุนให้ มีรายได้จากการขายไฟฟ้าเป็น New High และส่งให้ผลกำไรในปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในแรงหนุนมาจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศจีน ที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 3/60 นี้ จะช่วยผลักดันให้การเติบโตของธุรกิจขยายตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ"นายจอมทรัพย์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆภายในประเทศ อาทิ โครงการ SPP Hybrid กำลังการผลิตรวมประมาณ 340 เมกะวัตต์ โดยบริษัทคาดมีโอกาสชนะประมูลราว7% ซึ่งจากการขยายการลงทุนโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้กำลังการผลิตของบริษัทแตะ 2,500 เมกะวัตต์ ปี2562 โดยบริษัทขอให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่ามีศักยภาพและมีความในการลงทุน 1.5-2 หมื่นล้านบาท/ปี ในระยะปีนี้ถึงปี 2562 เพื่อรองรับเป้าหมายกำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์
สำหรับแผนการนำบริษัทย่อย บริษัทซุปเปอร์ โซลาร์ เอ็นเนอยี จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทอาจต้องเลื่อนออกไปเป็นปลายปี 61 เนื่องจาก ต้องการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จก่อน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้รับความสนใจ จากนักลงทุนสถาบันมากขึ้น ซึ่งบริษัทมองว่ามาจากปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่ง ขณะที่บริษัทได้ให้ข้อมูลนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และในช่วง ปลายปีนี้ได้บริษัทได้รับเชิญจาก บล.ทิสโก้ ให้ไปโรดโชว์ที่ ฮ่องกง , สิงค์โปร์
"หลังจากที่เราเข้า SET100 บรรดากองทุนก็สนใจธุรกิจเราอย่างมาก เพราะมีเป้าหมายการเติบโตชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้มีกองทุนเสนอซื้อบิ๊กล็อตจากผมและกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วนถึง 25% แต่ได้ปฏิเสธไป เพราะอยากให้ไปซื้อขายในกระดานมากกว่า และผมก็ไม่อยากขายหุ้นที่ถือด้วย รวมถึงไม่มีแผนขาย PP แน่นอนเพราะเรามีช่องทางการระดมทุนที่เพียงพอแล้ว" นายจอมทรัพย์ กล่าว