บทความสั้นๆ เก่า ตามคำร้องขอของเพื่อชาวหุ้น วันละบทความ ที่มีประโยชน์

กระทู้สนทนา
มิติแห่งเวลา
วันนี้เอาบทความเก่าที่เคยเสนอมาหลายแห่ง เพื่อให้บางท่านที่ไม่เคยอ่านได้รู้ หรือท่านที่เคยอ่านก็ทบทวนอีกครั้ง
เรื่องราวของเวลา เป็นเรื่องที่ต้องเล่าขานกันมาก ทั้งส่วนที่เป็นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ และส่วนที่ยังไม่รู้ว่าจริงเท็จตามหลักศาสตร์อื่น
วิทยาศาสตร์ได้แก่.....เวลาตามที่มนุษย์ตกลงกันเป็นสากล ตั้งแต่หน่วยใหญ่ เช่น 1 ปี คือเวลาที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ ลงมาจนถึง เศษ 1 ส่วนล้านของวินาที และยังมีเรื่องประกอบของเวลาที่มีให้ต้องอธิบายกัน กินเวลาเป็นวัน เป็นเดือน ทีเดียว
ศาสตร์อื่นได้แก่....เวลาตามไสยศาสตร์ เช่นการข้ามภพ การก้าวย่างของภพอื่นๆ เทวดา ใช้เวลามากแต่ผลน้อย เช่น เทวดากินข้าว 1 มื้อ อาจต้องใช้เวลาของมนุษย์ 20 เดือน ฯลฯ เวลาตามศาสตร์อื่นๆ เราจะไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่หยั่งรู้และหมดทางพิสูจน์ชัดเชื่อได้
กลับมาที่เรื่องประกอบของเวลา... ในเวลาของมันเองจะมีคุณสมบัติ และคุณภาพแตกต่างกัน เช่น เวลากลางวัน สัตว์โลกจะตื่น ส่วนกลางคืนสัตว์โลกจะนอน (ส่วนมากเป็นเช่นนั้น) เวลาเช้าจะเป็นช่วงที่อาทิตย์ขึ้น แสงจะส่องมาที่พื้นที่(เกิดแสง)    กลางวันจะร้อนกว่าตอนเย็นหรือกลางคืน(เกิดอุณหภูมิ) วันเพ็ญ น้ำทะเลสูงขึ้น (เกิดระดับ) ความจริงรายละเอีดยมาก ๆ  จนถึงเรื่องของหยินหยาง ก็เกี่ยวกับมิติแห่งเวลาทั้งสิ้น แล้วก็มาเกี่ยวกับร่างกายคน ส่วนต่างๆ มีหยินมีหยาง ลองดูสันมือที่นิ้วชี้ จะเห็นว่ามีสีที่ถูกแบ่งจากหยาง(ส่วนครึ่งของสันนิ้วด้านนอกที่อยู่ข้างนิ้วหัว จนถึงหลังข้อนิ้ว) จะมีสีเข้มกว่าด้านฝ่านิ้ว(หยิน) ฯลฯ  หยินหมายถึงส่วนมืด  หยางหมายถึงส่วนสว่าง  
การเล่นหุ้นนั้น เวลาก็มีความหมายมาก มากกว่าที่หลายคนคิดหรือตั้งใจศึกษามันเสียอีก
ส่วนหนึ่งของเวลาหุ้น ถูกกำหนดโดยมนุษย์ คือ กฎของตลาด เช่นเปิดตลาด เวลา 10.00น พักเที่ยง และเปิดบ่ายอีกครั้ง และปิดตลาดตามเวลาที่กำหนด ลองเปลี่ยนเป็นเปิด 08.00 ปิด 24.00 น ดู กลยุทธการเล่นอาจเปลี่ยนไป แล้วลองหนึ่งวันตั้งกฎว่าเวลาเปิดคือ 14.00 -16.00 น ดู มันจะส่งผลต่อหลักการคิดและวิเคราะห์ทางปัจจัยเทคนิคและพื้นฐานทันที และกราฟก็เชื่อถือไม่ได้   คงไม่มีใครบ้ากำหนดเช่นนั้น แต่ถ้าลองกำหนดว่าตลาดหุ้นเปิด 24 ชั่วโมง ไม่มีพัก ทุกวันแล้วให้หยุดเฉพาะวันอาทิตย์ ดู ไม่คนเล่นประสาทกิน ก็มาร์ต้องบ้าแน่ๆ
ในตลาดเวลายังถูกกำหนดโดย รายใหญ่ เช่นพวกใหญ่เทียม ก็จะมาปั่นตอนใกล้ปิดตลาด 16.00-16.30 น หรือพวกใหญ่มหึมาของแท้ ก็มาปั่นหุ้นตลอดวันให้ดู ซื้อตลอดเหมือนมันจะยึดธุรกิจนั้นให้ได้ บ้าจริงๆ ถ้าไม่มีรายใหญ่มากำหนด ตลาดก็เป็นหง่อย หงอยเหงา สิ้นท่าใดๆ รายย่อยก็ได้แต่ซื้อธูปภวานารายใหญ่มาหน่อยมาช่วยซื้อให้ข้าน้อยลงจากดอยด้วย  
มิติเวลาในระบบตลาดหุ้น เราจึงเรียกอีกแบบว่า จังหวะซื้อ จังหวะขาย มันสำคัญมากจนถึงขั้นทำให้คนที่ไม่รู้ไม่เป็น หรือซื่อบื้อ เจ๊งบ้ง หมดตัวเอาเลย คนเก่งจึงคิดกราฟขึ้นมาช่วยเหลือคนที่ไม่รู้ แต่กราฟที่นำมาใช้บ้านเราเป็นกราฟที่เกิดจากการคิดจากประเทศที่เขาพัฒนามานาน ตลาดเขาใหญ่วอลุ่มเขามากจนนำมาเข้าสูตรคำนวณเป็นรูปร่างกราฟจนน่าเชื่อถือได้
ส่วนตลาดไทยหากจะนำสูตรเขามาใช้ก็ต้องปรับแต่งให้เหมาะสมกับธรรมชาติของเรา ที่เรียกว่าการตั้งค่า parameter หรือค่าของมิติเวลา
นอกจากเรื่องมิติเวลาในกราฟ คนเล่นหุ้นยังต้องรู้มิติเวลาของวงจรจิตใจคนปั่นที่ยึดหลักทางสมเหตุสมผลด้วย เช่นรอบขึ้นลงของหุ้น หมายถึงความสัมพันธ์ของจำนวนเงินที่จะปั่นกับจำนวนหุ้นที่ไหลในตลาดที่รายใหญ่คำนวณว่าสู้ได้กับสะตังในกระเป๋าของเขา ฯลฯ นั่นคือรายใหญ่คุณภาพ แต่พวกรายใหญ่เกเร คือพวกที่มีเงินแต่ไม่สนใจใครไม่สนใจใดๆ คิดว่าตลาดคือบ่อน ก็อยากเข้ามาแล้วก็เลือกหุ้นที่จะปั่น จากนั้นก็ปั่น ๆ ๆ ๆ ให้เพลินใจ บางรายก็กำไร อื้อซ่า บางรายก็เจ๊งในเวลาสั้นๆก็มี นั่นขึ้นกับโชคของเขาผู้นั้นจริงๆ (ไม่ใช่ฝีมือ) รายย่อยจึงต้องรู้แล้วอ่านเกมเวลาของคนรายใหญ่ทั้งหลายให้ออก ซึ่งยาก (เพราะง่ายก็มีแต่รายย่อยรวย รายใหญ่เจ๊ง แต่นี่ มีแต่รายย่อยเจ๊งรายใหญ่รวย เอ้อ...)
ในหนึ่งวันทำการจะมีเวลา 270 นาที หลังจากนั้นก็มีเวลาให้คุณกลับบ้านไปคิดอีก 1050 นาทีว่าที่ซื้อขายมาใน 270 นาทีนั้นกำไรหรือขาดทุนเพราะเหตุใด จะแก้ไขอย่างใด เวลา 1050 นาทีจึงไม่มีปรากฎในกราฟ ฉนั้นใน 1 รอบเวลาซื้อขายรวมจะเท่ากับ 1350 นาที แต่ไม่มีใครตั้งparameter เป็นเช่นนั้น อย่างบางท่าน มักตั้ง 120 นาที เป็นต้น เมื่อเอามิติของเวลาที่คิดด้วยหน่วยแตกต่างกันแต่เท่ากันมาเปรียบเทียบดู เช่น ตั้งเป็น day กับ 270 นาที หรือ 1050 นาที ทันทีจะเห็นแตกต่าง มีบางคนเช่น ชาวญี่ปุ่น หรือชาวจีน จึงแบ่งเวลาของตลาดใน 1 วันทำการเป็น 4 คาบเวลาแล้วลองคิดหากราฟมาดูก็จะแตกต่างไปอีกแบบ
ดังนั้นใครคิดเล่นหุ้นให้มีกำไร ให้ปลอดภัยต้องเรียนรู้และคิด หา จังหวะลงมือให้ดี บางท่านถึงขนาดดูฤกษ์ยาม ดูยามอุบากองก็มี ก็ช่างเถิด ขอให้มีกำไรก็พอ
แต่อยากฝากไว้อย่างหนึ่งคือ อะไรก็ตามที่ต้องลงทุนศึกษาจนถึงเหน็ดเหนื่อยล้มป่วยแล้วทำกำไรได้แต่น้อยมากจนไม่คุ้มค่าชีวิต เครื่องมือนั้นๆ ก็ไร้ประโยชน์ไร้ค่าต่อเวลาแห่งชีวืตที่ต้องสูญไป แบบภาษิตที่ว่า ขี่ช้างจับตั๊กแตน
ค้นหาไปเถิดเพื่อนๆชาวหุ้น จนกว่าจะเจอสิ่งที่จะมาหาจังหวะได้ ไม่ว่าจะเชื่อวิธีการใด พื้นฐาน หรือ เทคนิค หรือหมอดู ก็ตามใจ
มีความจริงในเรื่องของเวลามาฝาก(เกี่ยวกับหุ้น ซึ่งยังมีเรื่องเกี่ยวกับอื่นๆ เช่นความรัก การเงิน เทสะ วินัย การทหาร การเรียน ฯลฯ)
.....เวลาคือตัวทำละลายความเสี่ยง แต่ต้องชั่งน้ำหนักกับเวลาของชีวิตที่ถูกเวลากินไปด้วย ซึ่ง vi จะถือครองหุ้นนานกว่า นักเก็งกำไร
.....เวลาคือตัวช่วยที่สำคัญของการหาจังหวะลงมือ เช่นคำสั่ง     ATO ATC FOC  MP H SP เป็นต้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่