เป็นกระทู้แรก ของเรา.. อาจจะเล่าไม่สนุกนะคะ..
อยากเข้ามาเล่า.. ว่าแบบนี้ก็มีด้วย.. และไม่อยากให้เชื่อใครง่ายๆแม้ว่าเค้าจะหน้าตา บุคลิก การงาน โปรไฟล์ นิสัยดูดี มีการศึกษา เพอร์เฟคแค่ไหนก็ตาม..
เพราะนิสัยเรื่องผู้หญิง อาจจะไม่ธรรมดาก็ได้ค่ะ..
เรื่องของเรา เริ่มต้น ตั้งแต่สมัย มหาลัยค่ะ.. แต่ที่คบกันคือตอนทำงานค่ะ..
[แรกรู้จัก]
ปีหนึ่ง.. วันรับน้อง..
เราเจอเค้าครั้งแรก.. ขอเรียกว่า บ. นะคะ ไม่ได้คุยไรกันมากค่ะ แลกอีเมลล์กัน คือแลกหมดทุกคนที่นั่งข้างๆกันแถวนั้น ไม่ได้คิดอะไรเลย จริงๆ (สมัยนั้น ยังเล่นMSNกันอยู่นะคะ)
แล้วเค้าก็ทักมาคุยบ้างค่ะ เป็นระยะ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจ ไม่ได้คิดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ เราค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยแสดงออก ไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน ไม่เคยมีแฟน แล้วก็ เวลาเค้ามาคุย จะชอบพูดถึงโปรไฟล์ตัวเองเป็นบางครั้ง ว่าเคยแข่งชนะวิชาการบ้าง กีฬาบ้าง ไม่รู้ว่าตั้งใจรึป่าว..
คือ ประมาณว่า เก่งทั้งวิชาการและกีฬา ว่างั้นก็ได้ค่ะ.. ตอนนั้นเราเฉยมากๆ แอบรู้สึกว่าคนอะไร ชอบพูดเรื่องตัวเองเยอะเนอะ.. ดูขี้โอ่นิดๆ เลยคุยขำๆค่ะ.. 555+ แต่คุยกันบ่อยนะคะ เกือบทุกครั้งที่ออนเอ็ม คุยแบบเพื่อน ไม่ได้รู้สึกว่าสนิท เหมือนคุยไปงั้นๆ ทักมาก็คุย ถามก็ตอบค่ะ..
สักพัก เขาก็ขอเบอร์ค่ะ (ไม่ค่อยมีคนขอเบอร์ค่ะ แรกๆทำตัวไม่ถูก) ก็แอบคิดอยู่นะคะ ว่า เอ ให้ดีมั้ย ถ้าไม่ให้น่าเกลียดรึป่าว ถ้าไม่ให้จะอ้างว่าอะไร.. ผลสุดท้ายก็ให้ไปค่ะ.. ยังไงก็เพื่อนร่วมรุ่นกันอะเนอะ.. เค้าก็ยิงมา.. แต่ก็ไม่ได้โทรคุยกันคะ..
แล้วก็คุยเอม เรื่อยๆค่ะ บางทีเค้าก็ดูหยอดๆหรือส่งกลอนที่เค้าแต่งหวานๆมาให้นะคะ แต่เราพยายามไม่คิดอะไร เพราะรู้สึกว่า นี่เรายังไม่รู้จักไรกันเลยนะ.. ออกแนว คิดขำๆด้วย..
แล้วช่วงที่มีรับสมัครกิจกรรมชมรมมหาลัย เรากับเพื่อน รร.เก่า(คนละคณะ) ก็ชวนกันไปหว่านแหสมัครชมรมต่างๆค่ะ ทิ้งชื่อไว้เต็มเลย
ผ่านไปเป็นเดือน พี่ที่ชมรมจะให้ไปทำกิจกรรมค่ะ.. ตา บ. โทรมาถามเราว่า เธอสมัครชมรมนี้ไว้ใช่ไหม จะไปหรือเปล่า.. คือตอนนั้น เพื่อนเราเหมือนไม่อยากไปแล้วค่ะ.. เราก็ไม่ได้ตอบเค้าว่าจะไป.. บอกไปว่ายังไม่รู้..
เค้าก็คุย ก็ทัก มาเรื่อยๆนะคะ แต่ประเด็นคือ สมัยนั้นมี hi5 แล้วเราก็อยากแอดเพื่อนในมหาลัยไว้เยอะๆ อยากมีเพื่อนใหม่เร็วๆ เพราะเพื่อนเก่าโรงเรียนเราในคณะนี้แทบไม่มีเลยค่ะ.. เลยอยากหาเพื่อนมากๆ..
ปรากฏว่า แอดไงไม่รู้ค่ะ แอดเจอแฟนเก่าตา บ. คนนั้นเฉยเลย คือมั่วมาก.. แล้วก็ รู้ว่าเป็นแฟนเก่าเค้าเพราะเข้าไปทักค่ะ(คิดว่าเพื่อนร่วมรุ่นอ้ะ พลาดมาก) แฟนเก่าเค้าก็พูดถึงตาคนนั้นนะคะ เราพอรู้ว่าแอดผิด ไม่ใช่เพื่อนร่วมรุ่น ก็ไม่คิดคุยด้วยอีกเลยค่ะ..
แต่จู่ๆแฟนเก่าเค้าก็มาถามค่ะ รุ้มั้ยคะ ว่า บ. ชอบใครในรุ่น เรานี่ ก็บอกไปว่าไม่รุ้ค่ะ เพราะเราคิดว่า บ. ก็คงแค่หยอดเราเล่นๆไปเรื่อยๆค่ะ.. แล้วhi5 ตา บ.นี่นะคะ มีแต่ผู้หญิงมาเม้นค่ะ เราเลยคิดว่า เค้าคงไม่ได้คุยคนเดียว..
แล้วอีกอย่าง แฟนเก่าเค้ายังดูรู้สึกดีๆกับเค้าอยู่เลยค่ะ.. เราก็รักษาระยะห่างค่ะ.. ไม่ขอยุ่ง ..
คุยกันเรื่อยๆ ห่างเป็นบางช่วงค่ะ.. มีครั้งนึงเราเสียความรู้สึกกับคนที่มาคุยด้วยที่อยู่ดีๆก็ไปมีคนใหม่ ก็โพสสเตตัส ใน MSN ไปว่า คนดีๆยังมีอยู่ไหม.. ตา บ. ก็เข้ามาทัก แล้วบอกว่า มีสิ.. แต่เราก็ยังคงทำเฉย ใส่ตา บ. เหมือนเดิมค่ะ..
ตลอดเวลาช่วงนั้น ที่คุยเราก็ไม่เคย ทำตัวให้ความหวังหรืออะไรเลยนะคะ เรียกว่าเฉยมาก.. อ้อ ไม่เคยมีแฟนนะคะ.. เคยมีแต่คนที่ชอบ แล้วก็ผิดหวังค่ะ.. แล้วก็เป็นพวกจำฝังใจด้วยค่ะ.. เป็นแนวสาวเพ้อเจ้อ หนุ่มในนิยาย/การ์ตูนสาวน้อยอะค่ะ..
ตอนเลิกเรียนมีครั้งนึง เรานั่งรอที่บ้านมารับกลับ กลุ่ม ตา บ. เดินผ่านมาค่ะ.. เราก็นั่งเปิดหนังสือเรื่อยเปื่อย อ่านมั่งไม่อ่านมั่ง.. สักพัก นาย บ. อยู่ๆก็โผล่มาคนเดียวค่ะ ถามเราว่า ทำอะไรอยู่ พอเราตอบไป.. ก็เงียบค่ะ ไม่มีบทสนทนาต่อ ตอนนั้นเราเฉยมากจริงๆค่ะ 555+
บางทีเราก็อยากรู้นะคะ ว่าที่เค้าคุยกะเราบ่อยๆทางMSNนี่มีอะไรรึป่าว แต่พออยู่มหาลัยก็ไม่เห็นเคยมาคุยกันเท่าไหร่เลยค่ะ นับครั้งได้.. ก็เลยคิดว่า จะไม่สนใจมาก เพราะดูไม่จริงจัง ไม่จริงใจค่ะ..
เราหายไปจากMSNนานๆก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ..
มีครั้งนึงมีกิจกรรมศิลปะป้องกันตัวค่ะ..
นาย บ. ถูกเรียกออกไปค่ะ เพราะเป็นสายดำ
บอกตามตรงก็ทึ่งและประทับใจนิดๆนะคะ
ตอนเสียงทุ่ม ดัง นี่ เหมือนเวลาหยุดไป อึ้งค่ะ..
วันนึง เพื่อนก็มาถามว่ามีใครจีบ หรือคุยอยู่ป่าว.. ที่เรานึกออกมีแต่ ตา บ.นี่ละค่ะ แต่ก็บอกให้เพื่อนฟังว่า ก็แปลกๆเนอะ ไม่รุ้มาจีบรึป่าว แซวเราซะแรงเลย.. แล้วบางทีก็มาคุย บางทีก็ไม่มา..
เกิดเรื่องเพราะเหมือน เพื่อนเราอยากจะช่วย แต่เกิดความเข้าใจผิด.. เรื่องเลยบานปลายให้มองหน้ากันลำบากไปพักนึง..เลยค่ะ
แล้วก็ อยู่ๆ ตา บ. ก็เปิดตัวเป็นแฟนกับผู้หญิงอีกคนค่ะ..
เราก็เสียความรู้สึกนะคะ แต่เหมือนเราเองก็ถอยๆ เค้า เพราะกลัวเค้าคุยหลายคนนี่ละค่ะ.. แล้วก็มีเรื่องเข้าใจผิดอีก ก็เลยยิ่งห่างค่ะ..
แล้วอยู่มาวันนึง.. เราต้องทำกิจกรรม ที่ต่างจังหวัดค่ะ..
แล้วบังเอิ๊น ได้อยู่กลุ่มเดียวกับตา บ. ก็หวั่นๆอยู่นะคะ เพราะในกลุ่มมีเพื่อนที่พอจะสนิทแค่คนเดียว
แล้วบ้านพักที่เราอยู่ก็ไกลความเจริญค่ะ มืด และเปลี่ยว เลยมีการจัดให้ชายหนุ่มไปส่งหญิงสาวที่บ้านพักอยู่ไกลค่ะ..
แล้วตา บ. กะเพื่อนของเค้า จะต้องคอยมารับมาส่งเราและเพื่อนสาวอีกคนที่บ้านพักตลอด.. แต่ เราก็ยังคงความเฉยไว้ได้ค่ะ..
จนเพื่อนตา บ. มาเล่าเรื่องตลกๆของตาบ. ให้เราฟังอย่างเช่นโดนหมาแถวบ้านนั้นไล่ หรือการที่บางที ตา บ.ก็จะมาชวนเราคุยนั่นคุยนี่..หรือบางครั้งก็มารับส่งคนเดียว..
เรารู้สึกว่า อ้าว.. ก็ดูเป็นคนไม่มีพิษภัยนะ.. เวลาคุยด้วยแล้ว สบายใจดี.. แต่ ว่าเราก็ยังทำตัวเฉยๆค่ะ.. แม้เค้าจะเข้ามาคุยกับเราบ่อย ชวนคุย หลายอย่าง..
คือจำได้ว่านั่งกินไอติมกันอยู่ เค้าก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ แล้วชวนเราคุยเรื่องไอติมค่ะ แต่เราระลึกเสมอค่ะ ว่าเขามีแฟนแล้ว.. อย่าคุยเยอะ จะไม่ดีรึป่าว.. เราถนัดใส่เกียร์ถอยค่ะ.. งานนี้ก็ถอยตามสเตปค่ะ.. เค้าอาจจะไม่คิดไรก็ได้ค่ะ.. แต่ก็กลัวใจตัวเองด้วย.. ทางที่ดี ก็ถอยไว้ก่อนเนอะ.. สบายใจตัวเอง..
จริงๆเราก็มีแอบปลื้มคนนุ้น คนนี้บ้างไปเรื่อยนะคะ.. แต่ไม่เคยพัฒนาหรือแสดงออกกับใครเลยค่ะ..
ส่วนเค้าก็คบกับแฟนเค้าเรื่อยๆนะคะ ดูหวานกันดี แต่พอเลิกกับแฟน.. ก็ทักเรามาทางเฟซค่ะ.. ชวนคุยนั่นนี่.. คืนวันปีใหม่ ก็ทักมาค่ะ..
เรานี่ นึกถึงเพลง Jar of hearts ของ Christina Perri มากๆเลยค่ะ ช่วงนั้น.. อารมณ์ อย่ากลับมายุ่งกับชั้นเลยนะ.. ชั้นกลัว..
เราก็ทำไงคะ .. บล็อกแชทของเฟสค่ะ!
แต่ ผ่านไปนานๆหน่อย เราก็อันบล็อกค่ะ ทำไรไม่รุ้เนอะ..
จริงๆเวลาก็ผ่านไปนานนะคะ..
ห่างไปพักใหญ่.. เค้าก็มาทักเฟซอีกค่ะ เราก้ไม่ค่อยตอบเค้าเหมือนเดิมค่ะ.. รู้สึกกลัวที่จะคุยด้วยค่ะ..
มีครั้งนึงเค้าเป็นคนดูแลความเรียบร้อยของงาน..
เค้าเดินมา เจอเรานั่งกับเพื่อนๆ..
เค้าเดินมาบอกเราว่า.. เรายังไม่ได้จ่ายตังนะ..
สักพัก พอเค้าเดินไป เพื่อนคนอื่นมองหน้ากัน แล้วพูดว่า อ้าว พวกเราก็ยังไม่ได้จ่ายนี่นา..
อืม ก็แปลกๆใจอะ เป็นสิ่งที่สะดุดใจเล็กๆ..
ก็ไม่ได้ติดต่อไรกันอีก แล้วเค้าก็มีแฟนใหม่ค่ะ..
พอเรียนจบ ก็ต้องแยกย้ายทำงาน..
ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกด้วยซ้ำ..
ไม่รู้จะบอกว่า ตอนช่วงเวลานั้นรู้สึกยังไงกับเค้าเหมือนกันค่ะ..
เหมือนก็.. รับรู้ความเป็นมาเค้าอยู่ตลอด.. แต่ไม่กล้าคุยเยอะค่ะ..
เราหนี เค้ามาตลอด.. หนีมาตลอดจริงๆ..
จบช่วงแรกของการรู้จักกันค่ะ
เดี๋ยวจะมาต่อนะคะ..
ผู้ชายคนแรก ตัดสินใจผิด คิดจนปวดใจ..
อยากเข้ามาเล่า.. ว่าแบบนี้ก็มีด้วย.. และไม่อยากให้เชื่อใครง่ายๆแม้ว่าเค้าจะหน้าตา บุคลิก การงาน โปรไฟล์ นิสัยดูดี มีการศึกษา เพอร์เฟคแค่ไหนก็ตาม..
เพราะนิสัยเรื่องผู้หญิง อาจจะไม่ธรรมดาก็ได้ค่ะ..
เรื่องของเรา เริ่มต้น ตั้งแต่สมัย มหาลัยค่ะ.. แต่ที่คบกันคือตอนทำงานค่ะ..
[แรกรู้จัก]
ปีหนึ่ง.. วันรับน้อง..
เราเจอเค้าครั้งแรก.. ขอเรียกว่า บ. นะคะ ไม่ได้คุยไรกันมากค่ะ แลกอีเมลล์กัน คือแลกหมดทุกคนที่นั่งข้างๆกันแถวนั้น ไม่ได้คิดอะไรเลย จริงๆ (สมัยนั้น ยังเล่นMSNกันอยู่นะคะ)
แล้วเค้าก็ทักมาคุยบ้างค่ะ เป็นระยะ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจ ไม่ได้คิดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ เราค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยแสดงออก ไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน ไม่เคยมีแฟน แล้วก็ เวลาเค้ามาคุย จะชอบพูดถึงโปรไฟล์ตัวเองเป็นบางครั้ง ว่าเคยแข่งชนะวิชาการบ้าง กีฬาบ้าง ไม่รู้ว่าตั้งใจรึป่าว..
คือ ประมาณว่า เก่งทั้งวิชาการและกีฬา ว่างั้นก็ได้ค่ะ.. ตอนนั้นเราเฉยมากๆ แอบรู้สึกว่าคนอะไร ชอบพูดเรื่องตัวเองเยอะเนอะ.. ดูขี้โอ่นิดๆ เลยคุยขำๆค่ะ.. 555+ แต่คุยกันบ่อยนะคะ เกือบทุกครั้งที่ออนเอ็ม คุยแบบเพื่อน ไม่ได้รู้สึกว่าสนิท เหมือนคุยไปงั้นๆ ทักมาก็คุย ถามก็ตอบค่ะ..
สักพัก เขาก็ขอเบอร์ค่ะ (ไม่ค่อยมีคนขอเบอร์ค่ะ แรกๆทำตัวไม่ถูก) ก็แอบคิดอยู่นะคะ ว่า เอ ให้ดีมั้ย ถ้าไม่ให้น่าเกลียดรึป่าว ถ้าไม่ให้จะอ้างว่าอะไร.. ผลสุดท้ายก็ให้ไปค่ะ.. ยังไงก็เพื่อนร่วมรุ่นกันอะเนอะ.. เค้าก็ยิงมา.. แต่ก็ไม่ได้โทรคุยกันคะ..
แล้วก็คุยเอม เรื่อยๆค่ะ บางทีเค้าก็ดูหยอดๆหรือส่งกลอนที่เค้าแต่งหวานๆมาให้นะคะ แต่เราพยายามไม่คิดอะไร เพราะรู้สึกว่า นี่เรายังไม่รู้จักไรกันเลยนะ.. ออกแนว คิดขำๆด้วย..
แล้วช่วงที่มีรับสมัครกิจกรรมชมรมมหาลัย เรากับเพื่อน รร.เก่า(คนละคณะ) ก็ชวนกันไปหว่านแหสมัครชมรมต่างๆค่ะ ทิ้งชื่อไว้เต็มเลย
ผ่านไปเป็นเดือน พี่ที่ชมรมจะให้ไปทำกิจกรรมค่ะ.. ตา บ. โทรมาถามเราว่า เธอสมัครชมรมนี้ไว้ใช่ไหม จะไปหรือเปล่า.. คือตอนนั้น เพื่อนเราเหมือนไม่อยากไปแล้วค่ะ.. เราก็ไม่ได้ตอบเค้าว่าจะไป.. บอกไปว่ายังไม่รู้..
เค้าก็คุย ก็ทัก มาเรื่อยๆนะคะ แต่ประเด็นคือ สมัยนั้นมี hi5 แล้วเราก็อยากแอดเพื่อนในมหาลัยไว้เยอะๆ อยากมีเพื่อนใหม่เร็วๆ เพราะเพื่อนเก่าโรงเรียนเราในคณะนี้แทบไม่มีเลยค่ะ.. เลยอยากหาเพื่อนมากๆ..
ปรากฏว่า แอดไงไม่รู้ค่ะ แอดเจอแฟนเก่าตา บ. คนนั้นเฉยเลย คือมั่วมาก.. แล้วก็ รู้ว่าเป็นแฟนเก่าเค้าเพราะเข้าไปทักค่ะ(คิดว่าเพื่อนร่วมรุ่นอ้ะ พลาดมาก) แฟนเก่าเค้าก็พูดถึงตาคนนั้นนะคะ เราพอรู้ว่าแอดผิด ไม่ใช่เพื่อนร่วมรุ่น ก็ไม่คิดคุยด้วยอีกเลยค่ะ..
แต่จู่ๆแฟนเก่าเค้าก็มาถามค่ะ รุ้มั้ยคะ ว่า บ. ชอบใครในรุ่น เรานี่ ก็บอกไปว่าไม่รุ้ค่ะ เพราะเราคิดว่า บ. ก็คงแค่หยอดเราเล่นๆไปเรื่อยๆค่ะ.. แล้วhi5 ตา บ.นี่นะคะ มีแต่ผู้หญิงมาเม้นค่ะ เราเลยคิดว่า เค้าคงไม่ได้คุยคนเดียว..
แล้วอีกอย่าง แฟนเก่าเค้ายังดูรู้สึกดีๆกับเค้าอยู่เลยค่ะ.. เราก็รักษาระยะห่างค่ะ.. ไม่ขอยุ่ง ..
คุยกันเรื่อยๆ ห่างเป็นบางช่วงค่ะ.. มีครั้งนึงเราเสียความรู้สึกกับคนที่มาคุยด้วยที่อยู่ดีๆก็ไปมีคนใหม่ ก็โพสสเตตัส ใน MSN ไปว่า คนดีๆยังมีอยู่ไหม.. ตา บ. ก็เข้ามาทัก แล้วบอกว่า มีสิ.. แต่เราก็ยังคงทำเฉย ใส่ตา บ. เหมือนเดิมค่ะ..
ตลอดเวลาช่วงนั้น ที่คุยเราก็ไม่เคย ทำตัวให้ความหวังหรืออะไรเลยนะคะ เรียกว่าเฉยมาก.. อ้อ ไม่เคยมีแฟนนะคะ.. เคยมีแต่คนที่ชอบ แล้วก็ผิดหวังค่ะ.. แล้วก็เป็นพวกจำฝังใจด้วยค่ะ.. เป็นแนวสาวเพ้อเจ้อ หนุ่มในนิยาย/การ์ตูนสาวน้อยอะค่ะ..
ตอนเลิกเรียนมีครั้งนึง เรานั่งรอที่บ้านมารับกลับ กลุ่ม ตา บ. เดินผ่านมาค่ะ.. เราก็นั่งเปิดหนังสือเรื่อยเปื่อย อ่านมั่งไม่อ่านมั่ง.. สักพัก นาย บ. อยู่ๆก็โผล่มาคนเดียวค่ะ ถามเราว่า ทำอะไรอยู่ พอเราตอบไป.. ก็เงียบค่ะ ไม่มีบทสนทนาต่อ ตอนนั้นเราเฉยมากจริงๆค่ะ 555+
บางทีเราก็อยากรู้นะคะ ว่าที่เค้าคุยกะเราบ่อยๆทางMSNนี่มีอะไรรึป่าว แต่พออยู่มหาลัยก็ไม่เห็นเคยมาคุยกันเท่าไหร่เลยค่ะ นับครั้งได้.. ก็เลยคิดว่า จะไม่สนใจมาก เพราะดูไม่จริงจัง ไม่จริงใจค่ะ..
เราหายไปจากMSNนานๆก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ..
มีครั้งนึงมีกิจกรรมศิลปะป้องกันตัวค่ะ..
นาย บ. ถูกเรียกออกไปค่ะ เพราะเป็นสายดำ
บอกตามตรงก็ทึ่งและประทับใจนิดๆนะคะ
ตอนเสียงทุ่ม ดัง นี่ เหมือนเวลาหยุดไป อึ้งค่ะ..
วันนึง เพื่อนก็มาถามว่ามีใครจีบ หรือคุยอยู่ป่าว.. ที่เรานึกออกมีแต่ ตา บ.นี่ละค่ะ แต่ก็บอกให้เพื่อนฟังว่า ก็แปลกๆเนอะ ไม่รุ้มาจีบรึป่าว แซวเราซะแรงเลย.. แล้วบางทีก็มาคุย บางทีก็ไม่มา..
เกิดเรื่องเพราะเหมือน เพื่อนเราอยากจะช่วย แต่เกิดความเข้าใจผิด.. เรื่องเลยบานปลายให้มองหน้ากันลำบากไปพักนึง..เลยค่ะ
แล้วก็ อยู่ๆ ตา บ. ก็เปิดตัวเป็นแฟนกับผู้หญิงอีกคนค่ะ..
เราก็เสียความรู้สึกนะคะ แต่เหมือนเราเองก็ถอยๆ เค้า เพราะกลัวเค้าคุยหลายคนนี่ละค่ะ.. แล้วก็มีเรื่องเข้าใจผิดอีก ก็เลยยิ่งห่างค่ะ..
แล้วอยู่มาวันนึง.. เราต้องทำกิจกรรม ที่ต่างจังหวัดค่ะ..
แล้วบังเอิ๊น ได้อยู่กลุ่มเดียวกับตา บ. ก็หวั่นๆอยู่นะคะ เพราะในกลุ่มมีเพื่อนที่พอจะสนิทแค่คนเดียว
แล้วบ้านพักที่เราอยู่ก็ไกลความเจริญค่ะ มืด และเปลี่ยว เลยมีการจัดให้ชายหนุ่มไปส่งหญิงสาวที่บ้านพักอยู่ไกลค่ะ..
แล้วตา บ. กะเพื่อนของเค้า จะต้องคอยมารับมาส่งเราและเพื่อนสาวอีกคนที่บ้านพักตลอด.. แต่ เราก็ยังคงความเฉยไว้ได้ค่ะ..
จนเพื่อนตา บ. มาเล่าเรื่องตลกๆของตาบ. ให้เราฟังอย่างเช่นโดนหมาแถวบ้านนั้นไล่ หรือการที่บางที ตา บ.ก็จะมาชวนเราคุยนั่นคุยนี่..หรือบางครั้งก็มารับส่งคนเดียว..
เรารู้สึกว่า อ้าว.. ก็ดูเป็นคนไม่มีพิษภัยนะ.. เวลาคุยด้วยแล้ว สบายใจดี.. แต่ ว่าเราก็ยังทำตัวเฉยๆค่ะ.. แม้เค้าจะเข้ามาคุยกับเราบ่อย ชวนคุย หลายอย่าง..
คือจำได้ว่านั่งกินไอติมกันอยู่ เค้าก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ แล้วชวนเราคุยเรื่องไอติมค่ะ แต่เราระลึกเสมอค่ะ ว่าเขามีแฟนแล้ว.. อย่าคุยเยอะ จะไม่ดีรึป่าว.. เราถนัดใส่เกียร์ถอยค่ะ.. งานนี้ก็ถอยตามสเตปค่ะ.. เค้าอาจจะไม่คิดไรก็ได้ค่ะ.. แต่ก็กลัวใจตัวเองด้วย.. ทางที่ดี ก็ถอยไว้ก่อนเนอะ.. สบายใจตัวเอง..
จริงๆเราก็มีแอบปลื้มคนนุ้น คนนี้บ้างไปเรื่อยนะคะ.. แต่ไม่เคยพัฒนาหรือแสดงออกกับใครเลยค่ะ..
ส่วนเค้าก็คบกับแฟนเค้าเรื่อยๆนะคะ ดูหวานกันดี แต่พอเลิกกับแฟน.. ก็ทักเรามาทางเฟซค่ะ.. ชวนคุยนั่นนี่.. คืนวันปีใหม่ ก็ทักมาค่ะ..
เรานี่ นึกถึงเพลง Jar of hearts ของ Christina Perri มากๆเลยค่ะ ช่วงนั้น.. อารมณ์ อย่ากลับมายุ่งกับชั้นเลยนะ.. ชั้นกลัว..
เราก็ทำไงคะ .. บล็อกแชทของเฟสค่ะ!
แต่ ผ่านไปนานๆหน่อย เราก็อันบล็อกค่ะ ทำไรไม่รุ้เนอะ..
จริงๆเวลาก็ผ่านไปนานนะคะ..
ห่างไปพักใหญ่.. เค้าก็มาทักเฟซอีกค่ะ เราก้ไม่ค่อยตอบเค้าเหมือนเดิมค่ะ.. รู้สึกกลัวที่จะคุยด้วยค่ะ..
มีครั้งนึงเค้าเป็นคนดูแลความเรียบร้อยของงาน..
เค้าเดินมา เจอเรานั่งกับเพื่อนๆ..
เค้าเดินมาบอกเราว่า.. เรายังไม่ได้จ่ายตังนะ..
สักพัก พอเค้าเดินไป เพื่อนคนอื่นมองหน้ากัน แล้วพูดว่า อ้าว พวกเราก็ยังไม่ได้จ่ายนี่นา..
อืม ก็แปลกๆใจอะ เป็นสิ่งที่สะดุดใจเล็กๆ..
ก็ไม่ได้ติดต่อไรกันอีก แล้วเค้าก็มีแฟนใหม่ค่ะ..
พอเรียนจบ ก็ต้องแยกย้ายทำงาน..
ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกด้วยซ้ำ..
ไม่รู้จะบอกว่า ตอนช่วงเวลานั้นรู้สึกยังไงกับเค้าเหมือนกันค่ะ..
เหมือนก็.. รับรู้ความเป็นมาเค้าอยู่ตลอด.. แต่ไม่กล้าคุยเยอะค่ะ..
เราหนี เค้ามาตลอด.. หนีมาตลอดจริงๆ..
จบช่วงแรกของการรู้จักกันค่ะ
เดี๋ยวจะมาต่อนะคะ..