เกริ่นก่อนนะ
เราเป็นแฟนกับคนที่คบปัจจุบันตั้งแต่เรียนที่มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด พอจบมาก็มาหางานทำในกทม.
อาจจะคล้ายๆฝันของบางคนที่จะหางานทำเก็บเงินแล้วกลับบ้าน
ปีแรกที่จบมาเราทำงานการตลาดที่บริษัทแห่งนึง เงินเดือนรวมๆ ก็ถือว่ามาก เมื่อเทียบกับฐานเงินเดือนเด็กจบใหม่
แต่ต้องไปเช่าหอใกล้โซนรถไฟฟ้า เหมือนพนักออฟฟิตทั่วไป
แฟนเราก็หาที่ทำงานใกล้ๆเรา แต่เค้าได้เงินเดือนน้อยกว่า เพราะทำงานไม่ตรงสาย เหมือนแค่ตามมาทำงานใกล้ๆยังไม่จริงจังอะไร
ช่วงนั้นเรามีเงินเยอะกว่า ก็ Support เค้าได้พอสมควร พากิน เที่ยว ซื้อของให้นู่นนี่นั่น แต่ผ่านไปปีนึง
ก็เหมือนเด็กจบใหม่ทั่วไป ที่รู้สึกว่า งานตรงนี้มันไม่ตอบโจทย์บางอย่าง ก็เลยลาออก พักสัก 3 เดือนแล้วหางานใหม่
เป็นช่วงที่แฟนก็เบื่อๆงานพอดีก็เลยลาออกพร้อมกัน
งานที่สองที่เราได้คือ งานที่ใกล้บ้านญาติ ไม่ต้องเช่าหอพัก เดินทางรถก็ไม่ติดมาก
แต่ก็ได้อย่างเสียงอย่าง รายได้อาจจะไม่เยอะเมื่อเทียบกับงานเก่า ซึ่งมันก็ตอบโจทย์เราในระดับนึง ในงานที่เราอยากเรียนรู้
และสามารถเก็บเงินได้พอๆกับงานใหม่ เพราะค่าใช้จ่ายน้อยกว่า .....คราวนี้กลับกัน
แฟนได้ทำงานตรงสายและเงินเดือนมากกว่าเรา 2 เท่า
การที่เราเงินเดือนน้อยลง ก็ไม่ได้ประหยัดแบบเกินเหตุนะ ก็มีดูหนังบ้าง ถ้าเวลาโอเค
กินนอกบ้านบ้าง ซื้อของบ้าง แต่ก็อาจจะน้อยลงกว่าเมื่อก่อน
สิ่งที่เราเริ่มกังวลเกี่ยวกับงานที่สองคือ สังคมใหม่ของแฟน
ช่วงหลังๆ ดูสนิทกับเพื่อนร่วมงานมาก ถึงขั้นคุยงานหรือแชทกันตอนดึกๆตลอด
ตอนแรกๆ ก็พยายามเข้าใจ แต่หลังๆมาเราเหมือนเป็นส่วนเกินในชีวิต ที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ยังไงไม่รู้
เราพยายามทิ้งความรู้สึกนี้แล้วพยายามเข้าใจ แล้วก็เข้าใจ เวลาที่เค้าไปดูหนังกัน กินข้าวหลังเลิกงาน กลับบ้านดึกๆ
เพราะบางทีเรากลับจากทำงานก็เหนื่อยแล้ว จะทำแบบนั้นทุกครั้งก็ไม่ได้
ก็ให้เค้าไปกับคนอื่นเพื่อเติมเต็มหรือผ่อนคลายในงานที่อาจจะกดดันหรืออะไรประมาณนั้น
เราเป็นเด็กจบใหม่ที่ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร ประมาณว่า พ่อแม่ฐานะปานกลาง แต่ก็ไม่ได้ทิ้งหนี้ไว้ให้
ก็เลยต้องดิ้นรนบ้าง ประหยัด เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว สิ่งที่เรากังวลและกลัวมากถ้ามีคนมายุ่งกับแฟนเราก็คือ
- คนรวย (ที่อายุมากกว่า)
- คนที่มีเวลา
(เพราะ Gu เพิ่งเริ่มลงสนามชีวิตจริงเอง ใครจะมีไอเท็มล้นเหลือ ! ! ! )
ถ้าทุกวันต้องนั่งหรือยืนบนรถเมล์ .... แล้ววันนึง มีเพื่อนร่วมงานให้โดยสารกลับด้วยเพราะทางเดียวกัน มันก็ดีกว่าใช่มั้ยล่ะ?
ถ้าปกติ ได้กินอาหารดีๆแพงๆ ได้แค่อาทิตย์ละครั้ง .... แล้ววันนึง เริ่มได้กินอาหารดีๆ แพงๆ ฟรี อาทิตย์ละ 2 - 3 ครั้ง มันก็ดีกว่าใช่มั้ยล่ะ?
ถ้าปกติ คุยกับแฟนไม่ค่อยแชท ที่อะไรในโลกโซเชียลเท่าไหร่ .... แล้ววันนึง มีเพื่อนร่วมงานที่เป็นแนวเดียวกัน คุยได้ทุกเรื่องทุกเวลา
มันก็ดีกว่าใช่มั้ยล่ะ?
ถ้าปกติ มีคนคอยห้ามเรื่องการใช้จ่าย เตือนเรื่องประหยัด .... แล้ววันนึง มีเพื่อนช๊อป ชิม ชิล มันก็คงดีกว่านั่นแหละ
ความแตกต่างเล็กๆน้อยในสมัยเรียนที่ดูไม่สำคัญในการคบกัน มันเริ่มดูเป็นเรื่องใหญ่ขึ้น
เมื่อทำงาน Lifestyle ที่ต่างกันและเราอยากเป็นตัวเองมากขึ้น อารมณ์ประมาณว่าโตแล้ว อยากทำอะไรก็ได้
ขอโทษที่ยาวนิดนึง ใกล้จบและเดี๋ยวกลับมาต่อ
ช่วง 5 ปีแรก หลังเรียนจบ มีใครมีปัญหาเรื่องความรักบ้างมั้ย?
เราเป็นแฟนกับคนที่คบปัจจุบันตั้งแต่เรียนที่มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด พอจบมาก็มาหางานทำในกทม.
อาจจะคล้ายๆฝันของบางคนที่จะหางานทำเก็บเงินแล้วกลับบ้าน
ปีแรกที่จบมาเราทำงานการตลาดที่บริษัทแห่งนึง เงินเดือนรวมๆ ก็ถือว่ามาก เมื่อเทียบกับฐานเงินเดือนเด็กจบใหม่
แต่ต้องไปเช่าหอใกล้โซนรถไฟฟ้า เหมือนพนักออฟฟิตทั่วไป
แฟนเราก็หาที่ทำงานใกล้ๆเรา แต่เค้าได้เงินเดือนน้อยกว่า เพราะทำงานไม่ตรงสาย เหมือนแค่ตามมาทำงานใกล้ๆยังไม่จริงจังอะไร
ช่วงนั้นเรามีเงินเยอะกว่า ก็ Support เค้าได้พอสมควร พากิน เที่ยว ซื้อของให้นู่นนี่นั่น แต่ผ่านไปปีนึง
ก็เหมือนเด็กจบใหม่ทั่วไป ที่รู้สึกว่า งานตรงนี้มันไม่ตอบโจทย์บางอย่าง ก็เลยลาออก พักสัก 3 เดือนแล้วหางานใหม่
เป็นช่วงที่แฟนก็เบื่อๆงานพอดีก็เลยลาออกพร้อมกัน
งานที่สองที่เราได้คือ งานที่ใกล้บ้านญาติ ไม่ต้องเช่าหอพัก เดินทางรถก็ไม่ติดมาก
แต่ก็ได้อย่างเสียงอย่าง รายได้อาจจะไม่เยอะเมื่อเทียบกับงานเก่า ซึ่งมันก็ตอบโจทย์เราในระดับนึง ในงานที่เราอยากเรียนรู้
และสามารถเก็บเงินได้พอๆกับงานใหม่ เพราะค่าใช้จ่ายน้อยกว่า .....คราวนี้กลับกัน
แฟนได้ทำงานตรงสายและเงินเดือนมากกว่าเรา 2 เท่า
การที่เราเงินเดือนน้อยลง ก็ไม่ได้ประหยัดแบบเกินเหตุนะ ก็มีดูหนังบ้าง ถ้าเวลาโอเค
กินนอกบ้านบ้าง ซื้อของบ้าง แต่ก็อาจจะน้อยลงกว่าเมื่อก่อน
สิ่งที่เราเริ่มกังวลเกี่ยวกับงานที่สองคือ สังคมใหม่ของแฟน
ช่วงหลังๆ ดูสนิทกับเพื่อนร่วมงานมาก ถึงขั้นคุยงานหรือแชทกันตอนดึกๆตลอด
ตอนแรกๆ ก็พยายามเข้าใจ แต่หลังๆมาเราเหมือนเป็นส่วนเกินในชีวิต ที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ยังไงไม่รู้
เราพยายามทิ้งความรู้สึกนี้แล้วพยายามเข้าใจ แล้วก็เข้าใจ เวลาที่เค้าไปดูหนังกัน กินข้าวหลังเลิกงาน กลับบ้านดึกๆ
เพราะบางทีเรากลับจากทำงานก็เหนื่อยแล้ว จะทำแบบนั้นทุกครั้งก็ไม่ได้
ก็ให้เค้าไปกับคนอื่นเพื่อเติมเต็มหรือผ่อนคลายในงานที่อาจจะกดดันหรืออะไรประมาณนั้น
เราเป็นเด็กจบใหม่ที่ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร ประมาณว่า พ่อแม่ฐานะปานกลาง แต่ก็ไม่ได้ทิ้งหนี้ไว้ให้
ก็เลยต้องดิ้นรนบ้าง ประหยัด เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว สิ่งที่เรากังวลและกลัวมากถ้ามีคนมายุ่งกับแฟนเราก็คือ
- คนรวย (ที่อายุมากกว่า)
- คนที่มีเวลา
(เพราะ Gu เพิ่งเริ่มลงสนามชีวิตจริงเอง ใครจะมีไอเท็มล้นเหลือ ! ! ! )
ถ้าทุกวันต้องนั่งหรือยืนบนรถเมล์ .... แล้ววันนึง มีเพื่อนร่วมงานให้โดยสารกลับด้วยเพราะทางเดียวกัน มันก็ดีกว่าใช่มั้ยล่ะ?
ถ้าปกติ ได้กินอาหารดีๆแพงๆ ได้แค่อาทิตย์ละครั้ง .... แล้ววันนึง เริ่มได้กินอาหารดีๆ แพงๆ ฟรี อาทิตย์ละ 2 - 3 ครั้ง มันก็ดีกว่าใช่มั้ยล่ะ?
ถ้าปกติ คุยกับแฟนไม่ค่อยแชท ที่อะไรในโลกโซเชียลเท่าไหร่ .... แล้ววันนึง มีเพื่อนร่วมงานที่เป็นแนวเดียวกัน คุยได้ทุกเรื่องทุกเวลา
มันก็ดีกว่าใช่มั้ยล่ะ?
ถ้าปกติ มีคนคอยห้ามเรื่องการใช้จ่าย เตือนเรื่องประหยัด .... แล้ววันนึง มีเพื่อนช๊อป ชิม ชิล มันก็คงดีกว่านั่นแหละ
ความแตกต่างเล็กๆน้อยในสมัยเรียนที่ดูไม่สำคัญในการคบกัน มันเริ่มดูเป็นเรื่องใหญ่ขึ้น
เมื่อทำงาน Lifestyle ที่ต่างกันและเราอยากเป็นตัวเองมากขึ้น อารมณ์ประมาณว่าโตแล้ว อยากทำอะไรก็ได้
ขอโทษที่ยาวนิดนึง ใกล้จบและเดี๋ยวกลับมาต่อ