อยากขอความเห็นของเพื่อนๆคะว่า เรายังรักกันอยู่ใช่มั๊ย (เข้าใจว่าเป็นเรื่องของคนสองคนแต่อยากขอคำแนะนำจริงๆคะ)
ดิฉันแต่งงานมาประมาณ10ปี ไม่มีลูก ซื้อบ้านอยู่สองคนกับสามี (พ่อแม่สามีอยู่ ตจว.) แต่เนื่องจากสามีต้องไปๆมาๆ เพราะต้องดูแลงานทั้งใน กรุงเทพและตจว.บ่อยๆ ทำให้ดิฉันต้องอยู่บ้านคนเดียวหรือบางครั้งต้องไปอยู่บ้านแม่ตัวเอง เดิมทีสามีจะพยายามกลับมาบ่อยๆแต่ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจะกลับมาอาทิตย์ละวัน บางครั้งก็มาเช้ากลับไปตจว.ตอนเย็นบอกมีงานด่วน ทำให้ช่วงเวลาที่เคยมีหายไปหมด และดิฉันก็เริ่มชินกับการไม่มีเค้า แต่สิ่งนึงที่ดิฉันไม่อยากจะนำมาคิดเพราะเราทั้งคู่ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวคือ มือถือ โดยปกติจะล็อคพาสเวิร์ดทั้งคู่และเราจะไม่เคยขอของกันและกันเพื่อเช็คอะไรที่ผิดปกติ แต่ดิฉันจะล็อคเฉพาะหน้าจอ แต่เค้าจะล็อคทั้งหน้าจอและLineตลอด ดิฉันเห็นแต่ไม่เคยถาม ระยะหลังเวลาไปห้องน้ำก็เอามือถือติดตัวตลอด แม้กระทั่งจอดรถวิ่งลงไปซื้อกาแฟ มือถือชาร์ตอยู่ก็ต้องดึงออกไป จนล่าสุดมือถือดิฉันเสีย เค้าเลยเอาiPhone มาให้ยืม(เค้ามีสองเครื่องตอนให้ยืมใช้โอนเบอร์จากเครื่องนึงไปอีกเครื่องนึง) พอเราเอามาใช้ต้องlogin password เราเข้าไปแต่ไม่ได้ลบแอปเดิมที่เข้าใช้อยู่เช่น EmailกับLine จึงเห็นมี Email จากสาวๆ Badoo เข้ามาเรื่อยๆ (เค้าสามารถเปิดดูMailได้จากอีกเครื่อง) มีรูปprofile เค้าใน badoo ช่วงเวลาที่ดิฉันใช้มือถือนั้นประมาณ1อาทิตย์ ไม่เห็นมีการ comment ในBadoo. ส่วน Lineไม่สามารถดูได้เนื่องจากเค้าล็อคไว้ พยายามไม่คิดมากคะ จนล่าสุดstatement บัตรเครดิตมา พอเปิดดูวันที่...มีการรูดทานร้านอาหารในกทม. อ้าวเป็นวันที่บอกเราว่าต้องอยู่ ตจว. ไม่สามารถกลับมาได้(เก็บความสงสัยไว้รอถาม) รอจนกลับมาเค้าไปทำธุระ ส่วนเรานั่งรอที่รถเลยเอื้อมไปหยิบบัตรที่เค้าชอบวางข้างประตูคนขับมาดู เจอ Key card condo นึงอยู่ในนั้น (มึน งง มาก) เป็นคอนโดในกรุงเทพแถวลาดพร้าว เลยถ่ายบัตรเก็บไว้แล้ววางไว้ที่เดิม. พอถึงบ้านเลยถามเค้าว่า
**วันที่....ไหนบอกว่าอยู่ ตจว.ทำไมมีstatement ค่าอาหาร ทำไมถึงโกหก เค้าบอกว่าพอดีนัดเพื่อนทานอาหารแล้วไม่อยากให้เรารู้ว่ามาแล้วไม่กลับบ้านเลยไม่ได้บอกเพราะต้องรีบกลับมีงานวันรุ่งขึ้น
**ไปคอนโด.....ที่ลาดพร้าวทำไม. เค้าบอกว่าไม่เคยไป เราเลยไปหยิบหลักฐานมาให้เค้าดูเค้าบอกไม่เคยเห็นไม่รู้ของใคร สงสัยมีคนทำตกที่รถเค้าเลยเก็บวางไว้ และยังไม่มีใครมาทวงคืน
**วันนั้นเลยขอมือถือจากเค้าว่าขอเช็คมือถือหน่อย เค้าไม่ยอมบอกว่าอยู่ด้วยกันมา ไม่เคยเช็คของกันเลย ทำไมถึงไม่ไว้ใจกัน ดิฉันไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ร้องไห้. ไม่เช็คทั้งมือถือแถมคืนkey cardให้เค้าไปแล้ว ตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าสิ่งที่เจอเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด หรือคิดไปเอง
ที่ผ่านมาเค้าเป็นคนรับภาระทุกอย่างในบ้าน ซื้อทรัพย์สินทุกอย่างจะใช้ชื่อร่วมตลอด แต่เค้าจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ ล่าสุดบอกจะซื้อรถใหม่ให้ดิฉันคันนึง. เคยคุยกันคะว่าเงินทองพอมีพอกินแล้ว แต่เวลาที่อยู่ด้วยกันมันนับถอยหลัง เค้าบอกว่างานมาเป็นที่หนึ่ง เราก็อึ้งๆไปนิดๆแต่ไม่อยากคิดมาก เค้าเป็นคนมีเพื่อนเยอะมาก. เค้าบอกว่าเพื่อต่อยอดธุรกิจ. แต่สิ่งที่เค้ายังทำเสมอคือโทรหาเช้าเย็น แต่ใจดิฉันตอนนี้มันสับสนเหมือนเย็นชา. พยายามปล่อยวางคิดว่ามีพบก็ต้องมีจาก สวดมนต์ มีสังคมกับเพื่อนร่วมงาน ออกกำลังกาย สลัดความคิดที่แย่ๆออกไป จากวันนั้นเราก็คุยกับเค้าปกติคะ บอกว่าเราเชื่อใจ ไม่โกรธ. ถ้าเค้าว่าไม่มีอะไร ก็ตามนั้น. เค้าก็ยิ้มดีใจเข้ามากอดแล้วหอมแก้ม บอกว่าดีแล้วให้เชื่อเค้า. ที่ผ่านมาไม่เคยเล่าปัญหาให้ที่บ้านหรือใครฟังกลัว กลัวเค้าจะกังวลแทนเราไปด้วย. เท่าที่ทุกท่านได้อ่าน เรายังรักกันอยู่หรือป่าวคะ. บางคนอาจจะบอกว่าให้ถามใจตัวเองดีกว่า ใจดิฉันตอนนี้บอกไม่ถูกคะเพราะมันไม่หวือหวา หรือรู้สึกคิดถึงเหมือนเก่า เค้าก็คงเป็นเหมือนกัน พยายามหากิจกรรมไปเที่ยว เค้าก็บอกแต่ว่าไม่ว่างหยุดนานไม่ได้ แล้วจะทำไงดีคะ เหงาคะ เห็นบางคนไม่มีลูกแต่ไปไหนมาไหนกันสองคน แอบอิจฉา เราต้องไปกับเพื่อนตลอด
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำนะคะ
เรายังรักกันอยู่ใช่มั้ย??
ดิฉันแต่งงานมาประมาณ10ปี ไม่มีลูก ซื้อบ้านอยู่สองคนกับสามี (พ่อแม่สามีอยู่ ตจว.) แต่เนื่องจากสามีต้องไปๆมาๆ เพราะต้องดูแลงานทั้งใน กรุงเทพและตจว.บ่อยๆ ทำให้ดิฉันต้องอยู่บ้านคนเดียวหรือบางครั้งต้องไปอยู่บ้านแม่ตัวเอง เดิมทีสามีจะพยายามกลับมาบ่อยๆแต่ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจะกลับมาอาทิตย์ละวัน บางครั้งก็มาเช้ากลับไปตจว.ตอนเย็นบอกมีงานด่วน ทำให้ช่วงเวลาที่เคยมีหายไปหมด และดิฉันก็เริ่มชินกับการไม่มีเค้า แต่สิ่งนึงที่ดิฉันไม่อยากจะนำมาคิดเพราะเราทั้งคู่ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวคือ มือถือ โดยปกติจะล็อคพาสเวิร์ดทั้งคู่และเราจะไม่เคยขอของกันและกันเพื่อเช็คอะไรที่ผิดปกติ แต่ดิฉันจะล็อคเฉพาะหน้าจอ แต่เค้าจะล็อคทั้งหน้าจอและLineตลอด ดิฉันเห็นแต่ไม่เคยถาม ระยะหลังเวลาไปห้องน้ำก็เอามือถือติดตัวตลอด แม้กระทั่งจอดรถวิ่งลงไปซื้อกาแฟ มือถือชาร์ตอยู่ก็ต้องดึงออกไป จนล่าสุดมือถือดิฉันเสีย เค้าเลยเอาiPhone มาให้ยืม(เค้ามีสองเครื่องตอนให้ยืมใช้โอนเบอร์จากเครื่องนึงไปอีกเครื่องนึง) พอเราเอามาใช้ต้องlogin password เราเข้าไปแต่ไม่ได้ลบแอปเดิมที่เข้าใช้อยู่เช่น EmailกับLine จึงเห็นมี Email จากสาวๆ Badoo เข้ามาเรื่อยๆ (เค้าสามารถเปิดดูMailได้จากอีกเครื่อง) มีรูปprofile เค้าใน badoo ช่วงเวลาที่ดิฉันใช้มือถือนั้นประมาณ1อาทิตย์ ไม่เห็นมีการ comment ในBadoo. ส่วน Lineไม่สามารถดูได้เนื่องจากเค้าล็อคไว้ พยายามไม่คิดมากคะ จนล่าสุดstatement บัตรเครดิตมา พอเปิดดูวันที่...มีการรูดทานร้านอาหารในกทม. อ้าวเป็นวันที่บอกเราว่าต้องอยู่ ตจว. ไม่สามารถกลับมาได้(เก็บความสงสัยไว้รอถาม) รอจนกลับมาเค้าไปทำธุระ ส่วนเรานั่งรอที่รถเลยเอื้อมไปหยิบบัตรที่เค้าชอบวางข้างประตูคนขับมาดู เจอ Key card condo นึงอยู่ในนั้น (มึน งง มาก) เป็นคอนโดในกรุงเทพแถวลาดพร้าว เลยถ่ายบัตรเก็บไว้แล้ววางไว้ที่เดิม. พอถึงบ้านเลยถามเค้าว่า
**วันที่....ไหนบอกว่าอยู่ ตจว.ทำไมมีstatement ค่าอาหาร ทำไมถึงโกหก เค้าบอกว่าพอดีนัดเพื่อนทานอาหารแล้วไม่อยากให้เรารู้ว่ามาแล้วไม่กลับบ้านเลยไม่ได้บอกเพราะต้องรีบกลับมีงานวันรุ่งขึ้น
**ไปคอนโด.....ที่ลาดพร้าวทำไม. เค้าบอกว่าไม่เคยไป เราเลยไปหยิบหลักฐานมาให้เค้าดูเค้าบอกไม่เคยเห็นไม่รู้ของใคร สงสัยมีคนทำตกที่รถเค้าเลยเก็บวางไว้ และยังไม่มีใครมาทวงคืน
**วันนั้นเลยขอมือถือจากเค้าว่าขอเช็คมือถือหน่อย เค้าไม่ยอมบอกว่าอยู่ด้วยกันมา ไม่เคยเช็คของกันเลย ทำไมถึงไม่ไว้ใจกัน ดิฉันไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ร้องไห้. ไม่เช็คทั้งมือถือแถมคืนkey cardให้เค้าไปแล้ว ตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าสิ่งที่เจอเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด หรือคิดไปเอง
ที่ผ่านมาเค้าเป็นคนรับภาระทุกอย่างในบ้าน ซื้อทรัพย์สินทุกอย่างจะใช้ชื่อร่วมตลอด แต่เค้าจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ ล่าสุดบอกจะซื้อรถใหม่ให้ดิฉันคันนึง. เคยคุยกันคะว่าเงินทองพอมีพอกินแล้ว แต่เวลาที่อยู่ด้วยกันมันนับถอยหลัง เค้าบอกว่างานมาเป็นที่หนึ่ง เราก็อึ้งๆไปนิดๆแต่ไม่อยากคิดมาก เค้าเป็นคนมีเพื่อนเยอะมาก. เค้าบอกว่าเพื่อต่อยอดธุรกิจ. แต่สิ่งที่เค้ายังทำเสมอคือโทรหาเช้าเย็น แต่ใจดิฉันตอนนี้มันสับสนเหมือนเย็นชา. พยายามปล่อยวางคิดว่ามีพบก็ต้องมีจาก สวดมนต์ มีสังคมกับเพื่อนร่วมงาน ออกกำลังกาย สลัดความคิดที่แย่ๆออกไป จากวันนั้นเราก็คุยกับเค้าปกติคะ บอกว่าเราเชื่อใจ ไม่โกรธ. ถ้าเค้าว่าไม่มีอะไร ก็ตามนั้น. เค้าก็ยิ้มดีใจเข้ามากอดแล้วหอมแก้ม บอกว่าดีแล้วให้เชื่อเค้า. ที่ผ่านมาไม่เคยเล่าปัญหาให้ที่บ้านหรือใครฟังกลัว กลัวเค้าจะกังวลแทนเราไปด้วย. เท่าที่ทุกท่านได้อ่าน เรายังรักกันอยู่หรือป่าวคะ. บางคนอาจจะบอกว่าให้ถามใจตัวเองดีกว่า ใจดิฉันตอนนี้บอกไม่ถูกคะเพราะมันไม่หวือหวา หรือรู้สึกคิดถึงเหมือนเก่า เค้าก็คงเป็นเหมือนกัน พยายามหากิจกรรมไปเที่ยว เค้าก็บอกแต่ว่าไม่ว่างหยุดนานไม่ได้ แล้วจะทำไงดีคะ เหงาคะ เห็นบางคนไม่มีลูกแต่ไปไหนมาไหนกันสองคน แอบอิจฉา เราต้องไปกับเพื่อนตลอด
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำนะคะ