วัตถุประสงค์ของกระทู้นี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่คิดจะไปทำแท้งให้เลิกความคิดนี้
จริงๆเรื่องผ่านมาประมาณเกือบ 8 ปี แต่ปัจจุบันนี้ยังเป็นตราบาปในใจอยู่เลย
ก่อนนอนทุกคืนแทบจะไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิด ทุกครั้งที่ทำบุญสวดมนต์ก็จะแผ่เมตตา ขออโหสิกรรม
แต่ความรู้สึกผิดในใจมันมีมาตลอดค่ะ รู้สึกผิดต่อพ่อ แม่ ฝ่ายเรา และทางฝ่ายสามีด้วย
เรื่องมีอยู่ว่าตอนนั้นเราคบกับแฟนมาได้เกือบ 2 ปี แฟนเป็นคนดีมากค่ะ เสมอต้นเสมอปลายตลอด
ระหว่างคบกันเราก็คอยศึกษานิสัยกันไปเหมือนคู่รักทั่วไป เวลามีอะไรกันก็มีการป้องกันมั่งแต่ไม่ทุกครั้ง
จนคบกับมาได้ซักระยะนึงเขาก็บอกว่าอยากแต่งงาน แต่เราบอกว่าเรายังไม่พร้อมเลยดูกันไปก่อนนะ
เราก็เคยคุยกันเรื่องอนาคดนะว่าอีกหน่อยจะวางแผนครอบครัวยังไง เขาบอกว่าถ้าจะทำธุรกิจ
ให้เราทำแต่เขาจะออกทุนให้ ฐานะทางบ้านเขาก็ถือว่าดีมากระดับนึง ความหมายประมาณว่าให้เรา
คิดคนเดียวเหมือนว่าเรานำ แล้วเขาตาม เลยเริ่มรู้สึกว่า ทัศนะคติไม่ค่อยตรงกัน คือเราอยากได้คนช่วยกันคิด
ช่วยกันทำมากกว่าออกแต่เงิน แต่ด้วยเพราะเขาดีเอาใจใส่เราตลอด ก็เลยยังคบกันไปเรื่อยๆ
แล้วมีอยู่ช่วงนึงเราไปดูงานที่ต่างประเทศกัน ไม่คิดว่าจะมีอะไรกันเพราะไปเรื่องงานเลยไม่ได้เตรียมถุงยางป้องกันไปด้วย
และก็ไม่ได้ออกไปซื้อ ในที่สุดก็มีอะไรกันแบบไม่ได้ป้องกัน
เรื่องก็เกิดขึ้น หลังจากกลับมาจากก็มีทะเลาะกันบ้างดีกันบ้าง สักพักผิดสังเกตว่าประจำเดือนขาดไป
เลยไปซื้อที่เช็คมาเช็ค ปรากฎว่าท้อง ตกใจมากๆค่ะ โทรบอกแฟน แฟนพาไปรพ.เช็คอีกที สรุปว่าท้อง 6 สัปดาห์แล้วค่ะ
ใจก็คิดว่าถ้าพ่อ แม่เรารู้ต้องผิดหวังตัวเรามากแน่ๆ แต่บอกแฟน เขาก็บอกว่าเขายอมรับและพร้อมแต่งงาน
แต่เราเองค่ะที่ผิด คิดว่าถ้าแต่งไปก็ไม่น่าจะไปกันได้ บวกกับความกลัวพ่อแม่รู้ ว่าท้องก่อนแต่งทำให้เขาผิดหวัง
พอถึงตอนนี้เราคิดว่า ถ้าตอนนั้นบอกพ่อแม่ไป ถึงเขาผิดหวังเสียใจ ดุด่าว่ากล่าวยังไง ยังไงเขาก็ไม่ให้เอาออกแน่นอน
ถ้าตอนนี้เขารู้ว่าเราเอาเด็กออก เขาคงเสียใจมากกว่ารู้ว่าเราท้อง พอมาคิดได้ก็สายไปแล้ว... คนที่คิดจะทำเราบอกเลยว่าคุณคิดผิดมากๆ
ตอนนั้นเราบอกแฟนว่าเราจะเอาเด็กออกเพราะเราไม่พร้อม ยังไม่อยากแต่งงาน บวกกับทะเลาะกันบ่อยช่วงนั้น
เขาก็บอกว่าตามใจเรา แต่สำหรับเขาเขาก็ไม่อยากให้เอาออก เราเริ่มหาข้อมูลว่าทึ่ไหนมีบริการทำแท้งบ้าง แล้วก็เจอ
ก็นัดแฟนเสร็จสรรพให้พาไปเพราะหลังจากทำต้องมีคนดูแล ขอบอกเลยค่ะว่าก่อนทำตอนนั้นความรู้สึกเสียใจมากๆ
ที่เรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นกับเราเลย หดหู่ กลัวไปหมด ก่อนโดนเรียกเข้าห้อง ยังลูบที่ท้องขอขมาลูกที่ต้องเอาเขาออก
และบอกเขาว่าตอนนี้แม่ยังไม่พร้อม ถ้าวันนึงแม่พร้อมและหนูให้อภัย หนูกลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะ แม่จะเลี้ยงหนูอย่างดีที่สุด
ถ้าไม่เอาเขาออกตอนนี้ เขาคงโตมากแล้ว เวลาเห็นลูกเพื่อนอายุไล่เลี่ยกัน มันอดคิดถึงไม่ได้ คิดแล้วยังเสียใจไม่หายเลยค่ะ
ตอนเอาออกเจ็บปวดมากๆๆๆๆๆๆๆค่ะ ปกติปวดท้องประจำเดือนก็เจ็บปวดมากอยู่แล้วตอนเอาออก คูณ 1000 ค่ะ
เลยอยากบอกคนที่คิดจะทำแท้งว่า อย่าไปทำเลยค่ะ เพราะนอกจากคุณจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแล้ว คุณยังต้องคอยปกปิด
คนที่คุณรักไปตลอดชีวิตอีก และคนที่ไปทำมีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูง บางคนต้องเสียชีวิตเพราะเลือดออกมาก
ต้องทนกับความเจ็บปวดมากๆๆๆๆๆ แล้วถ้าคนที่ทำแท้งให้ ไม่มีความชำนาญพอ หรือสถานที่ไม่สะอาด
ถ้าคุณโชคร้ายคุณก็อาจจะติดเชื้อเพิ่มอีก ลองคิดดูค่ะ ว่าถ้าคุณเสียชีวิตที่สถานที่แบบนี้ พ่อ แม่ คุณจะรู้สึกยังไง
ตอนที่เราทำเราไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้เลย พอมาตอนนี้คิดได้ เลยอยากเตือนคนที่คิดจะไปทำ ผลที่ออกมามันร้ายแรง
และแน่นอนเราเป็นผู้รับผลกรรมนั้นเต็มๆ
หลังจากทำแท้ง ด้วยความรู้สึกผิดยังอยู่ในใจตลอด เราพยามทำบุญไม่ว่าจะร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะสวดมนต์แจก
หรือหาข้อมูลว่าที่วัดไหนมีการทำบุญสวดมนต์ ขอขมาให้กับเด็กที่ถูกทำแท้ง เราก็ไปค่ะ วัดอยู่ต่างจังหวัดเราก็ไป
และก็ชวนแฟนไปด้วย แต่เชื่อไม๊คะว่า ทำบุญไปเท่าไหร่ ความรู้สึกผิด ความรู้สึกแย่ๆในใจมันไม่เคยหายไปจากใจค่ะ
ยิ่งมารู้ว่ากรรมจากการทำแท้งนั้นแรงมาก เท่าๆกับฆ่าพระอรหันต์เลย ถือว่าเป็นบาปอย่างมหันต์
เพระเป็นการฆ่าคนเป็นการตัดชีวิตคนอื่น ชีวิตคุณจะไม่มีวันเจริญ ถ้ายังไม่เห็นผลก็อาจเพราะบุญเก่าคุณยังมี
แต่ถ้าบุญเก่าหมดลงเมื่อไหร่ คุณก็จะได้รับผลกรรมนั้นทันที และหลีกเลี่ยงไม่ได้
เราอยากเตือนเพราะ ไม่อยากให้มีคนต้องมาตกอยู่ในชะตากรรมเหมือนเรา และก็มารู้สึกผิดทีหลังเหมือนกับสิ่งที่เราทำ
ตอนนี้เรากลัวอยู่นะว่าเราจะเจออะไรต่อจากนี้บ้าง คนที่คิดได้ตอนยังไม่ทำ มันยังไม่สายนะคะ
ที่บอกว่าการทำแท้ง เท่าๆกับฆ่าพระอรหันต์ เพราะเราไปอ่านเจอมาค่ะ
***ขออนุญาตคัดลอกข้อความที่เราไปเจอมานะคะ จาก
http://www.96rangjai.com/tang/page2.html****
เนื่องจากว่า...ทารกในครรภ์ยังบริสุทธิ์
มิเคยสร้างบาปกรรมใดๆ เลย
และ ไม่มีเหตุปัจจัยของการสร้างกรรม
ชีวิตของเขาจึงบริสุทธิ์ดั่งพระ อรหันต์ ...
ดังนั้น การทำแท้งฆ่าเด็กทารกในครรภ์หนึ่งคนจึงมีบาป เท่ากับฆ่าพระอรหันต์หนึ่งพระองค์...
ในพุทธธรรมได้กล่าวถึงบาปแห่งการฆ่า ...
ซึ่งเหล่าสรรพสัตว์ ทั้งหลายที่มีจิตญาณ ...
การฆ่ามนุษย์นั้นนับได้ว่าบาปที่สุด ...
แต่ทว่า การฆ่าเด็กทารกที่บริสุทธิ์เป็นบาปหนักยิ่งกว่า...
เพราะฉะนั้น การทำแท้งถือได้ว่าเป็นบาปอย่างมหันต์ !...
พระพุทธองค์ยังได้ตรัสอีกว่า ...
ผู้ที่เคยทำแท้ง ขณะมีชีวิต จะได้รับผลกรรมสนองจากโรคร้าย ป่วยหนัก อายุสั้น ...
ครั้นหลัง จบชีวิตลงแล้วจิตญาณต้องไปรับโทษในนรกเป็นเวลายาวนานอัน มิอาจประมาณ ...
หากวิญญาณเด็กแท้งผูกใจเจ็บติดความอาฆาต แค้น ...
เมื่อเขาได้โอกาสกลับมาเกิดอีกครั้ง ...
การสะสางบัญชีแค้น ก็จะเปิดฉากขึ้นอีก ...
เป็นเช่นนี้เรื่อยไป ทุกภพทุกชาติ จนกว่าแรงกรรมนั้นจะได้ชำระ
แต่ก็ยังไม่สิ้นสุดตราบที่วิญญาณนั้นยังไม่ อโหสิ...
------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาถึงตอนนี้เราได้เลิกกับแฟนเก่าไปเรียบร้อยแล้วค่ะ เขาแต่งงานไปแล้วและมีลูกชาย/หญิง สมใจเลยค่ะ
ส่วนเราก็แต่งงานกับสามีที่อยู่ด้วยกันถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งเราไม่ได้บอกเขาว่าเคยไปทำแท้งมา เพราะกลัวเขารับไม่ได้
ตอนนี้เรากับสามีอยากมีลูกมาก แต่งงานกันมาเกือบ 5 ปี พยามมีลูก มา 2 ปีแล้ว ลูกยังไม่มาสักที แต่ที่สงสารคือ
สงสารสามี เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับบาปกรรมที่เราไปทำมา เขาต้องมารับกรรมไปกับเราด้วย สามีไปเช็คสุขภาพแล้วก็ปกติแข็งแรง
ส่วนเราก็ไปหาหมอเพราะเริ่มมีปัญหาประจำเดือนเริ่มมาไม่ตรง ทั้งที่เมื่อก่อนปกติดีทุกอย่าง หมอก็ให้ยามากิน
ในใจก็คงคิดว่าเป็นกรรมมาตามสนองแล้วแน่ๆ เลยทำให้ยังไม่มีลูก ก็ยังต้องรอต่อไป ถ้าไม่มีก็ต้องยอมรับผลกรรมที่เราทำค่ะ
แต่ปัญหาที่ตามมาต้องมีแน่นอน
อยากจะบอกว่าคนที่คิดจะทำแท้ง แล้วคิดว่าจะมาแก้กรรมทีหลัง ให้เลิกคิดไปค่ะ เพราะมันเป็นไปไม่ได้
กรรมใดที่เราได้ก่อขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว ยังไงผลของกรรมนั้นต้องตามสนองไม่ช้าก็เร็ว
แต่มีวิธีที่ทำให้กรรมชั่วที่เราทำตามสนองช้าก็คือ เราพยามสร้างกรรมดีเพิ่มขึ้นให้มากกว่ากรรมชั่ว
เปรียบกับ กรรมชั่วคือ เกลือ กรรมดีคือ น้ำ ถ้าเอามาผสมกันในแก้ว ปริมาณเกลือมากกว่าน้ำ
นั่นคือกรรมชั่วมีมากกว่ากรรมดี ถ้าต้องการเจือจางความเค็มก็คือการเติมน้ำลงไปเปรียบกับทำความดีเพิ่ม
แต่ถามว่าความเค็มนั้นยังมีอยู่ไหม แน่นอนยังมีอยู่ค่ะ
การทำแท้งไม่เพียงแค่ว่าผิดกับวิญญาณเด็กที่บริสุทธิ์ ยังผิดกับพ่อแม่ของเราด้วย เราปกปิดก็มีความผิด
หรือถ้าเราบอกความจริงไปเขาก็เสียใจ ทำให้พ่อแม่ เสียใจก็เป็นการสร้างกรรมร้ายแรงอย่างนึงเหมือนกัน
เพราะฉนั้นก่อนทำอะไรที่ไม่ดีลงไป ควรคิดถึงผลที่จะตามมาให้มากๆ จะได้ไม่ต้องมารู้สึกผิด
และเป็นบาปไปตลอดชีวิตเหมือนกับเรา
เราได้ตั้งใจแน่นอนไว้ว่าเราจะไม่ทำบาปแบบนี้อีกแล้ว ครั้งนั้นที่ทำ จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย
แค่ครั้งนั้นมันก็เกินพอแล้ว ชีวิตก่อนหน้านี้มีความสุขดี แต่หลังจากที่ไปทำมาไม่เคยมีความสุขเท่าเมื่อก่อนเลย
มันเหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจตลอดเวลาทำยังไงก็ไม่หาย เป็นตราบาปไปตลอดชีวิตเลยจริงๆ
แล้วยิ่งสามีดีกับเราเท่าไหร่ มันยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น เพราะเรายังมีเรื่องนี้ปกปิดเค้าอยู่ ไหนจะพ่อ แม่ของสามีอีก
ผลกรรมชั่วพ่วงเพิ่มขึ้นมาอีก
สำหรับคนที่ไปทำมาแล้ว ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับเรา เราอยากบอกว่ายังไงมันก็ไม่หายไปจากใจ พยามหมั่นทำบุญ
แผ่เมตตา ขออโหสิกรรม กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่เรา พ่อแม่ฝ่ายชาย
โดยเฉพาะกับวิญญาณเด็กลูกของเรา ยิ่งทำได้ทุกวัน ตลอดชีวิตยิ่งดี (เดี๋ยวเราจะโพสบทสวดมนต์ คำแผ่เมตตาและคำขออโหสิกรรม
สวดประจำวัน สำหรับผู้ที่เคยไปทำแท้งมา ถ้าใครอยากได้เป็นไฟล์ เพื่อเอาไป Print แล้วสวดบอกเรานะ เรายินดีส่งให้ค่ะ) การสวดมนต์ช่วยบรรเทาได้บ้าง เน้นว่าบรรเทานะคะ เพราะอย่างน้อยเราก็ได้ทำอะไรบ้าง และการอโหสิกรรม ก็คือการขอขมา ขอโทษ
ให้เขาให้อภัย ควรที่จะทำบ่อยๆ ซึ่งถ้าเขาเกิดมาอายุขัยคนเราจะประมาณ 70-80 ปี แต่เราได้ไปทำลายชีวิตเขาทั้งชีวิต
แทนที่เขาจะได้เกิดมาแล้วทำความดีชดใช้กรรมไปตามบุญตามกรรม คุณไปฆ่าเขาไปตัดชีวิตเขา ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่มาก
ไม่เหมือนกับทำกรรมทั่วไป เพราะฉนั้นเราควรที่จะทำบ่อยๆ ขออโหสิกรรม หรือขอโทษเขาครั้งเดียวแล้วจบ
ถ้าเป็นคุณ คุณจะยกโทษให้ไหม แน่นอนเราต้องขอโทษเขาบ่อยๆ แสดงให้เขารู้ว่าเราได้สำนึกกับสิ่งที่ได้ทำอะไรเลวๆลงไป
และที่สำคัญขอให้ตั้งมั่นว่าจะไม่กลับไปทำอีก
สุดท้ายนี้เราก็หวังว่าเรื่องที่เราแชร์ จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่คิดจะไปทำแท้ง ให้เลิกทำเถอะค่ะ คิดได้ตอนนี้ยังไม่สาย
เราไม่อยากให้ใครมาตกอยู่ในสภาพแบบเราจริงๆ
และให้ผลบุญกุศลจากที่เราเล่าเป็นอุทาหรณ์นี้ เป็นกุศลแด่วิญญาณลูกของข้าพเจ้า พ่อ แม่ สามี
และวิญญาณเด็กทุกดวง ที่ถูกพ่อแม่ทำแท้ง ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา และขอผลบุญนี้สามารถเปลี่ยนความคิดคนที่คิดจะไปทำแท้ง
ให้รู้สึกผิดชอบชั่วดี สาธุ......
18+ อุทาหรณ์ ทำแท้ง คิดได้ยังไม่สาย...
จริงๆเรื่องผ่านมาประมาณเกือบ 8 ปี แต่ปัจจุบันนี้ยังเป็นตราบาปในใจอยู่เลย
ก่อนนอนทุกคืนแทบจะไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิด ทุกครั้งที่ทำบุญสวดมนต์ก็จะแผ่เมตตา ขออโหสิกรรม
แต่ความรู้สึกผิดในใจมันมีมาตลอดค่ะ รู้สึกผิดต่อพ่อ แม่ ฝ่ายเรา และทางฝ่ายสามีด้วย
เรื่องมีอยู่ว่าตอนนั้นเราคบกับแฟนมาได้เกือบ 2 ปี แฟนเป็นคนดีมากค่ะ เสมอต้นเสมอปลายตลอด
ระหว่างคบกันเราก็คอยศึกษานิสัยกันไปเหมือนคู่รักทั่วไป เวลามีอะไรกันก็มีการป้องกันมั่งแต่ไม่ทุกครั้ง
จนคบกับมาได้ซักระยะนึงเขาก็บอกว่าอยากแต่งงาน แต่เราบอกว่าเรายังไม่พร้อมเลยดูกันไปก่อนนะ
เราก็เคยคุยกันเรื่องอนาคดนะว่าอีกหน่อยจะวางแผนครอบครัวยังไง เขาบอกว่าถ้าจะทำธุรกิจ
ให้เราทำแต่เขาจะออกทุนให้ ฐานะทางบ้านเขาก็ถือว่าดีมากระดับนึง ความหมายประมาณว่าให้เรา
คิดคนเดียวเหมือนว่าเรานำ แล้วเขาตาม เลยเริ่มรู้สึกว่า ทัศนะคติไม่ค่อยตรงกัน คือเราอยากได้คนช่วยกันคิด
ช่วยกันทำมากกว่าออกแต่เงิน แต่ด้วยเพราะเขาดีเอาใจใส่เราตลอด ก็เลยยังคบกันไปเรื่อยๆ
แล้วมีอยู่ช่วงนึงเราไปดูงานที่ต่างประเทศกัน ไม่คิดว่าจะมีอะไรกันเพราะไปเรื่องงานเลยไม่ได้เตรียมถุงยางป้องกันไปด้วย
และก็ไม่ได้ออกไปซื้อ ในที่สุดก็มีอะไรกันแบบไม่ได้ป้องกัน
เรื่องก็เกิดขึ้น หลังจากกลับมาจากก็มีทะเลาะกันบ้างดีกันบ้าง สักพักผิดสังเกตว่าประจำเดือนขาดไป
เลยไปซื้อที่เช็คมาเช็ค ปรากฎว่าท้อง ตกใจมากๆค่ะ โทรบอกแฟน แฟนพาไปรพ.เช็คอีกที สรุปว่าท้อง 6 สัปดาห์แล้วค่ะ
ใจก็คิดว่าถ้าพ่อ แม่เรารู้ต้องผิดหวังตัวเรามากแน่ๆ แต่บอกแฟน เขาก็บอกว่าเขายอมรับและพร้อมแต่งงาน
แต่เราเองค่ะที่ผิด คิดว่าถ้าแต่งไปก็ไม่น่าจะไปกันได้ บวกกับความกลัวพ่อแม่รู้ ว่าท้องก่อนแต่งทำให้เขาผิดหวัง
พอถึงตอนนี้เราคิดว่า ถ้าตอนนั้นบอกพ่อแม่ไป ถึงเขาผิดหวังเสียใจ ดุด่าว่ากล่าวยังไง ยังไงเขาก็ไม่ให้เอาออกแน่นอน
ถ้าตอนนี้เขารู้ว่าเราเอาเด็กออก เขาคงเสียใจมากกว่ารู้ว่าเราท้อง พอมาคิดได้ก็สายไปแล้ว... คนที่คิดจะทำเราบอกเลยว่าคุณคิดผิดมากๆ
ตอนนั้นเราบอกแฟนว่าเราจะเอาเด็กออกเพราะเราไม่พร้อม ยังไม่อยากแต่งงาน บวกกับทะเลาะกันบ่อยช่วงนั้น
เขาก็บอกว่าตามใจเรา แต่สำหรับเขาเขาก็ไม่อยากให้เอาออก เราเริ่มหาข้อมูลว่าทึ่ไหนมีบริการทำแท้งบ้าง แล้วก็เจอ
ก็นัดแฟนเสร็จสรรพให้พาไปเพราะหลังจากทำต้องมีคนดูแล ขอบอกเลยค่ะว่าก่อนทำตอนนั้นความรู้สึกเสียใจมากๆ
ที่เรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นกับเราเลย หดหู่ กลัวไปหมด ก่อนโดนเรียกเข้าห้อง ยังลูบที่ท้องขอขมาลูกที่ต้องเอาเขาออก
และบอกเขาว่าตอนนี้แม่ยังไม่พร้อม ถ้าวันนึงแม่พร้อมและหนูให้อภัย หนูกลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะ แม่จะเลี้ยงหนูอย่างดีที่สุด
ถ้าไม่เอาเขาออกตอนนี้ เขาคงโตมากแล้ว เวลาเห็นลูกเพื่อนอายุไล่เลี่ยกัน มันอดคิดถึงไม่ได้ คิดแล้วยังเสียใจไม่หายเลยค่ะ
ตอนเอาออกเจ็บปวดมากๆๆๆๆๆๆๆค่ะ ปกติปวดท้องประจำเดือนก็เจ็บปวดมากอยู่แล้วตอนเอาออก คูณ 1000 ค่ะ
เลยอยากบอกคนที่คิดจะทำแท้งว่า อย่าไปทำเลยค่ะ เพราะนอกจากคุณจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแล้ว คุณยังต้องคอยปกปิด
คนที่คุณรักไปตลอดชีวิตอีก และคนที่ไปทำมีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูง บางคนต้องเสียชีวิตเพราะเลือดออกมาก
ต้องทนกับความเจ็บปวดมากๆๆๆๆๆ แล้วถ้าคนที่ทำแท้งให้ ไม่มีความชำนาญพอ หรือสถานที่ไม่สะอาด
ถ้าคุณโชคร้ายคุณก็อาจจะติดเชื้อเพิ่มอีก ลองคิดดูค่ะ ว่าถ้าคุณเสียชีวิตที่สถานที่แบบนี้ พ่อ แม่ คุณจะรู้สึกยังไง
ตอนที่เราทำเราไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้เลย พอมาตอนนี้คิดได้ เลยอยากเตือนคนที่คิดจะไปทำ ผลที่ออกมามันร้ายแรง
และแน่นอนเราเป็นผู้รับผลกรรมนั้นเต็มๆ
หลังจากทำแท้ง ด้วยความรู้สึกผิดยังอยู่ในใจตลอด เราพยามทำบุญไม่ว่าจะร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะสวดมนต์แจก
หรือหาข้อมูลว่าที่วัดไหนมีการทำบุญสวดมนต์ ขอขมาให้กับเด็กที่ถูกทำแท้ง เราก็ไปค่ะ วัดอยู่ต่างจังหวัดเราก็ไป
และก็ชวนแฟนไปด้วย แต่เชื่อไม๊คะว่า ทำบุญไปเท่าไหร่ ความรู้สึกผิด ความรู้สึกแย่ๆในใจมันไม่เคยหายไปจากใจค่ะ
ยิ่งมารู้ว่ากรรมจากการทำแท้งนั้นแรงมาก เท่าๆกับฆ่าพระอรหันต์เลย ถือว่าเป็นบาปอย่างมหันต์
เพระเป็นการฆ่าคนเป็นการตัดชีวิตคนอื่น ชีวิตคุณจะไม่มีวันเจริญ ถ้ายังไม่เห็นผลก็อาจเพราะบุญเก่าคุณยังมี
แต่ถ้าบุญเก่าหมดลงเมื่อไหร่ คุณก็จะได้รับผลกรรมนั้นทันที และหลีกเลี่ยงไม่ได้
เราอยากเตือนเพราะ ไม่อยากให้มีคนต้องมาตกอยู่ในชะตากรรมเหมือนเรา และก็มารู้สึกผิดทีหลังเหมือนกับสิ่งที่เราทำ
ตอนนี้เรากลัวอยู่นะว่าเราจะเจออะไรต่อจากนี้บ้าง คนที่คิดได้ตอนยังไม่ทำ มันยังไม่สายนะคะ
ที่บอกว่าการทำแท้ง เท่าๆกับฆ่าพระอรหันต์ เพราะเราไปอ่านเจอมาค่ะ
***ขออนุญาตคัดลอกข้อความที่เราไปเจอมานะคะ จาก http://www.96rangjai.com/tang/page2.html****
เนื่องจากว่า...ทารกในครรภ์ยังบริสุทธิ์
มิเคยสร้างบาปกรรมใดๆ เลย
และ ไม่มีเหตุปัจจัยของการสร้างกรรม
ชีวิตของเขาจึงบริสุทธิ์ดั่งพระ อรหันต์ ...
ดังนั้น การทำแท้งฆ่าเด็กทารกในครรภ์หนึ่งคนจึงมีบาป เท่ากับฆ่าพระอรหันต์หนึ่งพระองค์...
ในพุทธธรรมได้กล่าวถึงบาปแห่งการฆ่า ...
ซึ่งเหล่าสรรพสัตว์ ทั้งหลายที่มีจิตญาณ ...
การฆ่ามนุษย์นั้นนับได้ว่าบาปที่สุด ...
แต่ทว่า การฆ่าเด็กทารกที่บริสุทธิ์เป็นบาปหนักยิ่งกว่า...
เพราะฉะนั้น การทำแท้งถือได้ว่าเป็นบาปอย่างมหันต์ !...
พระพุทธองค์ยังได้ตรัสอีกว่า ...
ผู้ที่เคยทำแท้ง ขณะมีชีวิต จะได้รับผลกรรมสนองจากโรคร้าย ป่วยหนัก อายุสั้น ...
ครั้นหลัง จบชีวิตลงแล้วจิตญาณต้องไปรับโทษในนรกเป็นเวลายาวนานอัน มิอาจประมาณ ...
หากวิญญาณเด็กแท้งผูกใจเจ็บติดความอาฆาต แค้น ...
เมื่อเขาได้โอกาสกลับมาเกิดอีกครั้ง ...
การสะสางบัญชีแค้น ก็จะเปิดฉากขึ้นอีก ...
เป็นเช่นนี้เรื่อยไป ทุกภพทุกชาติ จนกว่าแรงกรรมนั้นจะได้ชำระ
แต่ก็ยังไม่สิ้นสุดตราบที่วิญญาณนั้นยังไม่ อโหสิ...
------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาถึงตอนนี้เราได้เลิกกับแฟนเก่าไปเรียบร้อยแล้วค่ะ เขาแต่งงานไปแล้วและมีลูกชาย/หญิง สมใจเลยค่ะ
ส่วนเราก็แต่งงานกับสามีที่อยู่ด้วยกันถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งเราไม่ได้บอกเขาว่าเคยไปทำแท้งมา เพราะกลัวเขารับไม่ได้
ตอนนี้เรากับสามีอยากมีลูกมาก แต่งงานกันมาเกือบ 5 ปี พยามมีลูก มา 2 ปีแล้ว ลูกยังไม่มาสักที แต่ที่สงสารคือ
สงสารสามี เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับบาปกรรมที่เราไปทำมา เขาต้องมารับกรรมไปกับเราด้วย สามีไปเช็คสุขภาพแล้วก็ปกติแข็งแรง
ส่วนเราก็ไปหาหมอเพราะเริ่มมีปัญหาประจำเดือนเริ่มมาไม่ตรง ทั้งที่เมื่อก่อนปกติดีทุกอย่าง หมอก็ให้ยามากิน
ในใจก็คงคิดว่าเป็นกรรมมาตามสนองแล้วแน่ๆ เลยทำให้ยังไม่มีลูก ก็ยังต้องรอต่อไป ถ้าไม่มีก็ต้องยอมรับผลกรรมที่เราทำค่ะ
แต่ปัญหาที่ตามมาต้องมีแน่นอน
อยากจะบอกว่าคนที่คิดจะทำแท้ง แล้วคิดว่าจะมาแก้กรรมทีหลัง ให้เลิกคิดไปค่ะ เพราะมันเป็นไปไม่ได้
กรรมใดที่เราได้ก่อขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว ยังไงผลของกรรมนั้นต้องตามสนองไม่ช้าก็เร็ว
แต่มีวิธีที่ทำให้กรรมชั่วที่เราทำตามสนองช้าก็คือ เราพยามสร้างกรรมดีเพิ่มขึ้นให้มากกว่ากรรมชั่ว
เปรียบกับ กรรมชั่วคือ เกลือ กรรมดีคือ น้ำ ถ้าเอามาผสมกันในแก้ว ปริมาณเกลือมากกว่าน้ำ
นั่นคือกรรมชั่วมีมากกว่ากรรมดี ถ้าต้องการเจือจางความเค็มก็คือการเติมน้ำลงไปเปรียบกับทำความดีเพิ่ม
แต่ถามว่าความเค็มนั้นยังมีอยู่ไหม แน่นอนยังมีอยู่ค่ะ
การทำแท้งไม่เพียงแค่ว่าผิดกับวิญญาณเด็กที่บริสุทธิ์ ยังผิดกับพ่อแม่ของเราด้วย เราปกปิดก็มีความผิด
หรือถ้าเราบอกความจริงไปเขาก็เสียใจ ทำให้พ่อแม่ เสียใจก็เป็นการสร้างกรรมร้ายแรงอย่างนึงเหมือนกัน
เพราะฉนั้นก่อนทำอะไรที่ไม่ดีลงไป ควรคิดถึงผลที่จะตามมาให้มากๆ จะได้ไม่ต้องมารู้สึกผิด
และเป็นบาปไปตลอดชีวิตเหมือนกับเรา
เราได้ตั้งใจแน่นอนไว้ว่าเราจะไม่ทำบาปแบบนี้อีกแล้ว ครั้งนั้นที่ทำ จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย
แค่ครั้งนั้นมันก็เกินพอแล้ว ชีวิตก่อนหน้านี้มีความสุขดี แต่หลังจากที่ไปทำมาไม่เคยมีความสุขเท่าเมื่อก่อนเลย
มันเหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจตลอดเวลาทำยังไงก็ไม่หาย เป็นตราบาปไปตลอดชีวิตเลยจริงๆ
แล้วยิ่งสามีดีกับเราเท่าไหร่ มันยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น เพราะเรายังมีเรื่องนี้ปกปิดเค้าอยู่ ไหนจะพ่อ แม่ของสามีอีก
ผลกรรมชั่วพ่วงเพิ่มขึ้นมาอีก
สำหรับคนที่ไปทำมาแล้ว ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับเรา เราอยากบอกว่ายังไงมันก็ไม่หายไปจากใจ พยามหมั่นทำบุญ
แผ่เมตตา ขออโหสิกรรม กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่เรา พ่อแม่ฝ่ายชาย
โดยเฉพาะกับวิญญาณเด็กลูกของเรา ยิ่งทำได้ทุกวัน ตลอดชีวิตยิ่งดี (เดี๋ยวเราจะโพสบทสวดมนต์ คำแผ่เมตตาและคำขออโหสิกรรม
สวดประจำวัน สำหรับผู้ที่เคยไปทำแท้งมา ถ้าใครอยากได้เป็นไฟล์ เพื่อเอาไป Print แล้วสวดบอกเรานะ เรายินดีส่งให้ค่ะ) การสวดมนต์ช่วยบรรเทาได้บ้าง เน้นว่าบรรเทานะคะ เพราะอย่างน้อยเราก็ได้ทำอะไรบ้าง และการอโหสิกรรม ก็คือการขอขมา ขอโทษ
ให้เขาให้อภัย ควรที่จะทำบ่อยๆ ซึ่งถ้าเขาเกิดมาอายุขัยคนเราจะประมาณ 70-80 ปี แต่เราได้ไปทำลายชีวิตเขาทั้งชีวิต
แทนที่เขาจะได้เกิดมาแล้วทำความดีชดใช้กรรมไปตามบุญตามกรรม คุณไปฆ่าเขาไปตัดชีวิตเขา ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่มาก
ไม่เหมือนกับทำกรรมทั่วไป เพราะฉนั้นเราควรที่จะทำบ่อยๆ ขออโหสิกรรม หรือขอโทษเขาครั้งเดียวแล้วจบ
ถ้าเป็นคุณ คุณจะยกโทษให้ไหม แน่นอนเราต้องขอโทษเขาบ่อยๆ แสดงให้เขารู้ว่าเราได้สำนึกกับสิ่งที่ได้ทำอะไรเลวๆลงไป
และที่สำคัญขอให้ตั้งมั่นว่าจะไม่กลับไปทำอีก
สุดท้ายนี้เราก็หวังว่าเรื่องที่เราแชร์ จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่คิดจะไปทำแท้ง ให้เลิกทำเถอะค่ะ คิดได้ตอนนี้ยังไม่สาย
เราไม่อยากให้ใครมาตกอยู่ในสภาพแบบเราจริงๆ
และให้ผลบุญกุศลจากที่เราเล่าเป็นอุทาหรณ์นี้ เป็นกุศลแด่วิญญาณลูกของข้าพเจ้า พ่อ แม่ สามี
และวิญญาณเด็กทุกดวง ที่ถูกพ่อแม่ทำแท้ง ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา และขอผลบุญนี้สามารถเปลี่ยนความคิดคนที่คิดจะไปทำแท้ง
ให้รู้สึกผิดชอบชั่วดี สาธุ......