เรื่องเล่าประสบการณ์เตือนคุณผู้หญิงกับรถยนต์ที่ใช้อยู่

กระทู้สนทนา
เราตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวของเราที่เกิดขึ้นจริง ในห้องนี้ เพราะเราอ่านห้องนี้บ่อยและที่สำคัญ มันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้หญิงที่ใช้รถยนต์ส่วนบุคคล คิดว่าคงไม่ผิดกติกาของห้องนะคะ ขอแท็กพิเศษที่ Single Mom เพราะเราคิดว่าเรื่องของเราอาจจะจำเป็นสำหรับคุณแม่ที่ต้องดุแลตัวเองค่ะ

เราใช้ปลาวาฬตัวเขื่องอยู่ เป็นรถยนต์มือสอง ได้มาระยะหนึ่งแล้วและไม่เคยเกเรอะไรนักหนา (ยกเว้นเราไปทำให้มันเกเรเองเช่นโหลดเตี้ย...มันก็ต้องครูดคราดไปกับเนินหรือคลื่นบ้าง) เป็นความพอใจของเราส่วนตัว (กรุณาอย่าถามว่าทำไมไม่ซื้อรถยนตืป้ายแดง เอาง่ายๆคือ ความพอใจค่ะ)

เรื่องมีอยู่ว่า ในวันนั้นเราสวมบทบาทที่จะเป็นเถ้าแก่ยาง(พารา) เราต้องเข้าสวนไปดูการทำงานของลูกน้องที่กรีดยางและคนรับซื้อน้ำยาง  ราคายางตกกระหน่ำแทบจะเอาไปเททิ้งแล้ว ไม่ไปดูเอาเลยก้ไม่ได้ ลงทุนไปกับมันหลายล้าน ยังผ่อนแบงค์แบบกระอักกระอ่วนอยู่เลยเนี่ยะ...( เราอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ขอบอกพิกัด...จบการบ่นแต่เพียงเท่านี้)

วันนั้นเราเอาปลาวาฬเข้าสวนไป รถโหลดเตี้ยเหมาะแก่การเข้าสวนจริงๆ (คิดได้ไงวะกรู...) ...แต่จะบอกว่าถนนเข้าสวนยางของอีฉานเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กนะค๊าคู๊ณ เผื่อชาวภาคอื่นจะไม่รู้...อีฉันกู้แบงค์ลงทุนทำถนนส่วนบุคคลทางเข้าสวนตั้งแต่ครั้งที่เพิ่งสร้างสวนใหม่ๆเมื่อครั้งที่ยางพารากิโลละ 200อัพโน่นเลย (นี่ล่ะ สาเหตุหนึ่งที่กรูเป็นหนี้ท่วมหัวอยู่)

ตลอดทาง ไม่มีอะไรเลยนอกจากต้นยางพารา เพราะถนนตัดผ่านสวนยาง สองข้างทางเป็นต้นยางหมด เป็นทางหลวงชนบทแต่ราดยางตามปกติ ไม่มีหลุ่มบ่อผุพัง เรียกได้ว่าสบายๆแบบขึ้นๆลงๆตามสภาพภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาและที่ราบ สลับกับเลี้ยวลดคดเคี้ยวพอสมควร ขับไปขับมา ถนนเริ่มจะขึ้นเนิน...ปลาวาฬเกิดสะอึกเล็กน้อย...แววมรณาเริ่มมาเยือน!!! รถกรูเป็นอัลไล???

กระตุกสามสี่ครั้งบนทางขึ้นเนิน (กรุณามโนภาพตาม) สาว(ไม่)สวยเริ่มอกสั่น "เฮ้ยๆเมิง...เป็นไรฟระ?"

หน้าปัทม์ของปลาวาฬแสดงการทำงานที่ยังสมบูรณ์ เกจ์ความร้อนปกติ ระดับน้ำมันต่ำแต่ไม่ถึงขั้น E (น้ำมันหมด) มีน้ำมันอยู่ในถังคาดว่าน่าจะมากกว่า 20 ลิตร (ถือว่าน้อยสำหรับรถยนต์อย่างปลาวาฬ) แต่มันเพียงพอที่จะไปเติมที่สวน (เรามีน้ำถังมันส่วนตัวที่สวน) แต่...แต่...แต่...

จู่ๆรูปกาน้ำมันเครื่องกระพริบแว่บขึ้นมาให้เห็นนิดหนึ่งก่อนดับไป ณ ขณะนั้นเครื่องยนต์ยังติด และเราก็ไม่ได้ดับเครื่อง พอเห็นเท่านั้นเล่ะ แม้รูปกาน้ำมันเครื่องนั่นจะดับไปแล้ว...กรูปิดสวิชต์ดับเครื่องทันที (อารมณ์หวั่นเกรงอย่างยิ่งยวดและพ่อสอนไว้...ผิดปกติ ดับเครื่องก่อนเลย ไม่ต้องเร่งเครื่องเพราะจะยิ่งทำให้การทำงานของเครื่องยนต์เสียหายมากไปกว่าเดิม...อารมณ์กรูรักรถนั่นล่ะ)

เอาสิโว๊ย...ดับเครื่องแล้ว ทีนี้ ทำไงดี...

เราเงยหน้าขึ้นหลังจากที่มองหน้าปัทม์รถยนต์...ไอ้ชิกหาย...กรูอยู่กลางป่ายาง!!!

แล้วชีวิตที่ดุจดั่งละครก็เริ่มต้นขึ้นทันที...ท้องฟ้าที่สดใส เริ่มครึ้ม (แม่ม...มันต้องมีอุปสรรคกับกรูทุกทีเลยสินะ)

ใครๆก็รู้ว่าพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นชื่อเรื่องโจร น่าสงสารโจรจริงๆที่ดูจะตกเป็นจำเลยในทุกกรณีที่กรูตกยาก (ก็ไม่ให้คิดได้ไง ตรงนั้นมันเป็นพื้นที่สีแดงเลือดสาด ทั้งระเบิด ทั้งยิงกัน ไอ้ตอนที่ซื้อสวนมาก็ไม่คิดนี่ว่ามันจะกลายมาเป็นแบบนี้ เป็นหนี้ แถมโจร แถมยางตกอีก ออพชั่นครบเลยล่ะ)

...หลังจากที่ตื่นกลัวเรื่องโจรเล็กน้อย(ไม่น้อยอ่ะ มว๊ากกกเลยล่ะ) อีฉานก็จัดการเอา .45 หรือที่บ้านเราเรียกว่า '11มม.' ขึ้นมาจากใต้เบาะ (ไม่ใช่หนังคาวบอย นี่คือเรื่องจริง!!) จัดการสวมสายสะพายไหล่คู่ (สายสะพายสำหรับพกอาวุธปืน) ***ขอบอกว่า การเอาปืนเหน็บเอวอย่างในหนัง ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในความเป็นจริงสำหรับการพกปืนที่พร้อมจะใช้งานหรืออาจจะสำหรับเราคนเดียวก็ได้ เพราะเราไม่เห็นว่ามันจะทำให้สะดวกและดึงปืนออกมาใช้ได้ง่ายเลยซักกะติ๊ดดดด

สำหรับเรา ไม่ว่าจะเป็นปืนแบบ Auto หรือ Semi Auto ลูกปืนไม่มีตานะท่านผู้อ่าน เหน็บเอวทำเป็นเท่ห์ไม่ได้ มันลั่นขึ้นมา คิดเองว่าลูกปืนจะพ้นหัวแม่เท้าไหมนั่นน่ะ เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่เรื่องติ๊ต่างหรือยกเมฆ เราเอาเรื่องจริงมาเล่า ใครพกปืน ต้องระวังเรื่องนี้ด้วย!!!
(เป็นประโยชน์หรือไม่แล้วแต่จะพิจารณานะคะ)

ต่อๆ...หลังจากที่จัดการกับอาวุธเรียบร้อย แล้วค่อยลงจากรถ เราไม่เลือกที่จะชักปืนขึ้นมาแล้วเหลียวซ้ายแลขวาอย่างในละคร และเลือกที่จะสวมเบรเซอร์ทับ ไม่อวดอาวุธให้ใครเห็น เผื่อมีใครซุ่มดูอยู่แทนที่จะไม่ตาย พาลจะตายเอาสิคราวนี้(กรูไม่ได้มาทำเท่ห์แถวป่ายาง...เพราะฉะนั้นไม่ต้องอวด)

ดึงสลัดเปิดกระโปรงเรา...เฮ้ย...กระโปรงรถสิ ลงรถมองซ้ายขวาแล้วพยายามเงียบฟังเสียงความเคลื่อนไหว อย่าไว้ใจ แม้ไม่มีอะไรแต่ข่มความกลัวไว้ด้วยความนิ่ง......ถอนใจหนึ่งครั้งก่อนที่จะดึงฝากระโปรงรถขึ้นแล้วดึงก้านวัดน้ำมันเครื่อง ปัญหาอยู่ตรงนั้นตามที่หน้าปัทม์โชว์ ไฟ Engine ยังไม่โชว์แปลว่าการทำงานของเครื่องยนต์ยังใช้ได้ แต่เราต้องประเมินระยะทางก่อน (บอกก่อนว่าวันนั้นเป็นวันอาทิตย์...อู่ไม่เปิด ช่างซ่อมอาจจะพร้อมใจกันปิดเครื่องมือสื่อสารกับลูกค้าหนีด้วย)

ระดับน้ำมันเครื่องที่เราดึงคันชักขึ้นมาดู บ่งบอกว่า 'น้ำมันเครื่องแห้ง' ...ไอ้ชิกหาย...ลูกน้องที่คอยดูแลรถเล่นกรูเสียแล้ว..เลี้ยงเสียเงินเดือนจริงๆ!!!

ก่อนที่จะกลับไปเฉดหัวลูกน้องออก บอกตรงๆ โค-ตะ-ระโมโหเลยค่ะท่านผู้อ่านขา เราเดินกลับไปเอาโทรศัพท์มือถือคิดว่าจะโทรไปบอกลูกน้องให้จัดการเอาน้ำมันเครื่องมาให้...

***ถามว่าทนขับไปได้หรือไม่???
***ตอบเลยว่า 'ได้' ถ้าเพียงไฟกระพริบขึ้นมานั่นคือเตือน สามารถใช้งานได้ระยะหนึ่งค่ะ ถ้าเจอสถานการณ์แบบเรา แนะนำให้ออกจากพื้นที่นั้นแล้วค่อยไปจัดการกับรถหลังจากนั้นทันที  

...แต่เราไม่ได้ทำตามที่ตอบไว้ด้านบน เพราะบอกตรงๆเลยคือ สำหรับเรา เราไม่รู้จักเจ้าปลาวาฬเพรชฆาตตัวนี้เลย ที่บ้านไม่เคยมี HONDA เราไม่รู้ว่าการทำงานจะเหมือนใน BENZ หรือ TOYOTA หรือเปล่า รู้ว่ามันก็เหมือนๆกันนั่นล่ะ แต่คงเพราะตกใจมั้ง หรืออาจจะคิดเยอะว่าเป็นอะไรมากกว่านั้น เพราะอาการเครื่องสะอึก เราไม่ได้จบช่างยนต์มานี่นา ว่าง่ายๆ ตอนนั้นเราคิดได้เท่านั้นเอง (...จบนะ)

วิกฤตไม่หยุดเท่านั้น ที่นั่นกลางป่า แน่นอนว่าทั้ง AIS DTAC และ TRUE ไม่เหลือเลยสักค่ายที่จะใช้ได้ Iphone Lumia & Samsung HERO กลายเป็นก้อนนวัตกรรมที่เอาไว้เขวี้ยงหัวโจรไปในทันที (...ซีดเลยสิทีนี้)

จากจุดที่รถยนต์จอดอยู่ เดินไปข้างหน้ากลางป่าประมาณ 3 กิโลเมตรจะมีบ้านคน ซึ่งเราไม่รู้ว่าเปิดหรือไม่ เผื่อเขาไปเที่ยวลัลลา ก็คงจะปิดต้องเดินต่อไปอีก 2 กิโลเมตรถึงจะเป็นเขตสวนของเรา รวม 5 กิโลเมตร...กรูตายพอดี

เดินกลับหลังไม่ต้องคิด 30 กิโลเมตรห่างจากตัวเมือง ท่ามกลางป่าลำเนาไพร...กรูอยากตายรอบที่สอง

...ฝนก็กำลังจะตก ลมเริ่มแรง กรูอยากจะร้องไห้...แต่ไม่ร้อง เดี๋ยวตาบวม โจรมาเจอเข้าจะไม่สวย เดี๋ยวมันจะรีบฆ่าตายก่อนพิจารณาอัญเชิญไปเป็นเมียโจร (เวรกรรม คิดได้ไง) เล่าขำขำหรอกนะ อันที่จริงคือ เราไม่คิดว่าร้องไห้มันจะช่วยอะไรได้มากกว่า เราไม่คิดจะปลงอนิจจังอยู่นาน จัดการล็อคล้อ...เฮ้ย..ล้อครถ ทรัพย์สินมีค่าไม่มี กระเป๋าเงินเราเอาเงินออก กระเป๋าถือจัดการซุกไว้ใต้เบาะรถ ปืนเอาติดตัวไป แล้วก็โทรศัพท์มือถือ แล้วเดินออกจากตรงนั้น ภาวนาให้บ้านหลังแรกที่เราจะต้องเดินไปขอความช่วยเหลือข้างหน้าอีก 3 กิโลเมตรไม่ไปเที่ยวลัลลากัน

...เดินมาไกลนะ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-4ร้อยเมตร ตลอดทางอัด...(สิ่งเสียสุขภาพ)...มาตลอด ขอบอกว่ากัดฟันอดทนจริงๆ ทางเปลี่ยว หญิงสาว(ไม่)สวย โอ้...พระเจ้าให้บททดสอบกรูแต่ละบท ยังกับจะทำด็อกเตอรือีกใบ...เวรแท้!!!
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ครอบครัว Single Mom
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่