สวัสดีค่ะ ขอแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา B2 ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่จะไปขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา เชื่อว่าหลายคนพออ่านกระทู้ เรื่องวีซ่าในอินเทอร์เน็ต แล้วเจอเคสที่ไม่ผ่าน จะรู้สึกเฟล หนูก็เช่นกันค่ะ เครียดมาก แต่ก็อยากกลับไปเจอเพื่อนไปฉลองคริสต์มาส ไปเที่ยว และเอามาม่าไปฝากเพื่อนที่นับถือกันเป็นพี่ชาย (แ-่ง ทวงทุกวัน)
สถานะของหนู
- เพิ่งกลับจาก work and travel เดือนมิถุนายน ขอวีซ่าเดือนตุลาคม
- เพิ่งเรียบจบ รับปริญญาแล้วด้วย
- ทำงานฟรีแลนซ์ให้กับนิตยสาร 2 ฉบับ และช่วยอาจารย์เปิดห้องสมุด ดังนั้น ใบรับรงรับรองงานอะไรไม่มีหรอกค่ะ ฮ่าๆ
- โสด
- ไปเที่ยวกับเพื่อนอีกคน เป็นผู้หญิง เพื่อนสถานะตกงาน ฮ่าๆ
- ไปมา 2 ประเทศ เกาหลีใต้ตอน ม.5 โรงเรียนพาไป และไปอเมริกา J-1 ต้นปี
เหตุผล
- อยากไปเที่ยวจริงๆ ค่ะ อยากไปโคโรลาโดมากๆ ประหนึ่งเมืองในฝัน เพราะตอนไป work and travel เพื่อนสนิทมันไม่ยอมไป มันจะไปช้อปกัน
- คิดถึงเพื่อนๆ และเมืองที่ไป work and travel ที่นั่นไม่ไหวแล้ว (ปีหน้าหนูวางแผนว่าจะไปเรียนต่อที่อื่น เลยมีแค่ช่วงเดือนธันวาคมนี้เท่านั้นที่จะได้กลับไป)
สุดท้ายเลยตัดสินใจสมัครวีซ่าท่องเที่ยว กรอกเอกสาร บลาๆ (อันนี้หาข้อมูลได้ทางอินเทอร์เน็ตค่ะ) และก็เตรียมเอกสาร
เอกสารที่เตรียมไป (เพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่า อย่างข้อมูลทำสารนิพนธ์)
- ตัวเล่ม Passport
- ใบจ่ายเงินจากธนาคาร
- DS160
- ใบนัดสัมภาษณ์
- รูปถ่าย 2 ใบ (ไม่ได้ใช้)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ไม่ได้ใช้)
- จดหมายแนะนำตัว บอกเหตุผลที่ต้องกลับ คือ ต้องกลับมางานพระราชทานเพลิงศพยาย และเรียน IELTS ต่อให้จบคอร์ส (ไม่ได้ใช้)
- จดหมายยืนยันการกลับมาโดยแม่เซนต์ให้ (ไม่ได้ใช้)
- หลักฐานงานพระราชทานเพลิงศพยาย และตารางเรียน IELTS (ไม่ได้ใช้)
- นิตยสารที่หนูทำอยู่ มีเครดิตชื่อเราในหน้าที่เราเขียนและแปล เอาไป 5 เล่ม แบกไปอย่างบ้าพลังมาก (ไม่ได้ใช้)
- รูปภาพงานห้องสมุดและงานนิตยสารออนไลน์ (ไม่ได้ใช้)
- รูปถ่ายกับเพื่อนๆ ที่อเมริกา (ไม่ได้ใช้)
- แพลนการท่องเที่ยว โคโรลาโด เท็กซัส เวกัส แอลเอ แต่ละที่เขียนว่าจะไปที่ไหนบ้าง เช่น เวกัส ไปช้อปปิ้งที่ outlet ไปดูน้ำพุ (ไม่ได้ใช้)
- ใบจบการศึกษา ใบเกรด (ไม่ได้ใช้)
- หลักฐานร้านขายของชำแม่ เอกสารอาคารเก็บตุนอาหาร ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ไม่ได้ใช้)
- สมุดบัญชีเงินฝากของแม่ (ไม่ได้ใช้)
แล้วใช้อะไรบ้างแว๊ ฮ่าๆ.... หนูขอข้ามเลยนะคะ ว่าพอมาถึงการสัมภาษณ์กับท่านกงสุล(สุดหล่อ) เขาเรียกอะไรไปดูบ้าง
ท่านกงสุลเรียกแค่ซองที่อาเจ้ข้างหน้าใส่มาให้ ในนั้นมีตัวเล่ม Passport กับใบ DS160 หนูก็แบบเอาหลักฐานไหมคะ พยายามยัดเอกสารที่เตรียมมาให้เขา แต่เขาทำบอกไม่เอาๆ หนูแบบ Shipหายล่ะ เอาไปแค่นั้น ตรูจะรอดไหมเนี่ย ขึ้นกับตอบคำถามซินะ
ช่วงคำถาม พยายามจ้องหน้า และยิ้ม (พยายามไม่เคลิ้มในความหล่อของเขา) ถามตอบเป็นภาษาไทยนะคะ พูดไทยชัดมาก
ท่านกงสุล - ชื่ออะไรครับ
หนู - ชื่อ .............. ค่ะ
ท่านกงสุล - ไปทำอะไรครับ
หนู - ไปเที่ยวค่ะ และไปฉลองช่วงคริสต์มาสกับเพื่อน
ท่านกงสุล - ไปที่ไหนครับ
หนู - ไปโคโรลาโด เท็กซัส ลาสเวกัส แอลเอ ก่อนจะกลับบ้านค่ะ
ท่านกงสุล - เคยไปต่างประเทศไหมครับ
หนู - เคยค่ะ ไปเกาหลีใต้ตอน ม.5 และเพิ่งกลับจากอเมริกา ไป work & travel มาเมื่อต้นปี
ท่านกงสุล - ไป work & travel ไปทำอะไรครับ
หนู - เป็นแคชเชียร์ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อารมณ์เหมือนเซเว่นอะค่ะ ร้าน Pinkies ที่เท็กซัส
ท่านกงสุล - มีคนรู้จักที่อเมริกาไหมครับ
หนู - มีค่ะ ก็เพื่อนๆ และผู้จัดการที่ร้าน Pinkies นี่ล่ะค่ะ ที่จะไปฉลองคริสต์มาสด้วยกัน
ท่านกงสุล - ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ครับ
หนู - หนูเพิ่งเรียบจบค่ะ แต่เป็นฟรีแลนซ์ให้กับนิตยสาร
ท่านกงสุล - มีใบรับรองการทำงานไหมครับ
หนู - โหย ฟรีแลนซ์ไม่มีหรอกค่ะ แต่หนูเอานิตยสารมา ดูไหมคะ (ฮียิ้มๆ ตอนนั้นแบบโหย หล่อโฮก แล้วส่ายหน้าไม่เป็นไร)
ท่านกงสุล - ใครออกค่าเดินทางทั้งหมดครับ
หนู - แม่ค่ะ
ท่านกงสุล - คุณแม่ทำอาชีพอะไรคะ
หนู - แม่เปิดร้านขายของชำค่ะ (ท่านเริ่มขมวดคิ้ว) แต่แม่หนูเขาขายที่ดินด้วยอะค่ะ
ท่านกงสุล - มีสมุดบัญชีของตัวเองมาไหมครับ
หนู - คือว่าหนูเพิ่งจบอะค่ะ ไม่มีสมุดบัญชีหรอกค่ะ มีของแม่แทนจะเอาไปดูไหมคะ
ท่านกงสุล - งั้นไม่เป็นไรครับ แล้วนี่จะไปกับใครครับ
หนู - ไปกับเพื่อนค่ะ ชี้มือไปด้านหลัง เนี่ยค่ะ มาด้วยกันค่ะ ไปด้วยกัน ผู้หญิง 2 คนค่ะ
ท่านกงสุลคีย์ข้อมูลอยู่สักพัก ตอนนั้นแบบ เอาแล้ว....เสียงแอร์ดังเลย เข้าสู่ช่วง 100 เมตรสุดท้ายแล้วซินะ
ท่านกงสุล - โอเคครับ เดี๋ยวเราจะจัดส่งวีซ่าให้ภายใน 3 วันทำการนะครับ (ยิ้ม)
หนู - จริงเหรอคะ (เผลอตกใจ) อ่า ขอบคุณค่ะ.... แล้วก็ส่งยิ้มสวยๆ ไปให้ ฮ่าๆ
แล้วก็ผ่าน เพื่อนที่มาด้วยกัน (สถานะตกงาน) ก็ผ่านนะคะ แบบว่าหนูตอบไปเยอะแล้วมันเลยสบายเลย ฮ่าๆ
สรุปคือ หนูว่ามันไม่ได้ยากขนาดที่ควรจะกังวลมากๆ ค่ะ เขาเน้นแค่สิ่งที่เรากรอกไปทางเว็บไซต์กับสิ่งที่เราตอบคำถามมันตรงกัน เราไม่ได้ปิดบังอะไรเขา อย่างหนูมีคนรู้จักก็บอก เขียนไปด้วยซ้ำว่าเป็นร้าน Pinkies และก็ใส่เลขโซเซียลไปด้วย หนูว่าเขาเช็คได้ ถ้าสิ่งไหนไม่มีก็บอกไม่มี ไม่พยายามเค้นความคิด ใสๆ ซื่อๆ แค่ไม่โกหก มีความมั่นใจ ไม่หลบตา (ไม่หลบแน่ๆ ค่ะ ถ้าได้สัมภาษณ์กับกงสุลหล่อ ฮ่า) แค่นี้ก็ผ่านค่ะ
ส่วนตอนนี้ก็ลุ้นอย่างเดียวว่าจะได้กี่ปีเท่า ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ส่วนเรื่องเอกสาร เตรียมไปแน่นๆ ก็ดีค่ะ เพราะถ้าเกิดอะไรผิดพลาด เราก็ยังมีเอกสารมาช่วยได้

))
ปล. หนูไม่รู้ว่าเป็นทริคหรือเปล่านะคะ แต่เลือกสัมภาษณ์เช้าได้ หนูว่าน่าจะดี เพราะเขาดูใจดีค่ะ และรอบเช้าเขารวมๆ ตั้งแต่คิว 7.00 - 7.30 ใครมาต่อแถวหน้าสถาทูตก่อนก็เข้าได้เลย
[CR] ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา เพิ่งเรียนจบ ฟรีแลนซ์ ไม่มีใบรับรองงาน และเพิ่งกลับจาก Work&Travel
สถานะของหนู
- เพิ่งกลับจาก work and travel เดือนมิถุนายน ขอวีซ่าเดือนตุลาคม
- เพิ่งเรียบจบ รับปริญญาแล้วด้วย
- ทำงานฟรีแลนซ์ให้กับนิตยสาร 2 ฉบับ และช่วยอาจารย์เปิดห้องสมุด ดังนั้น ใบรับรงรับรองงานอะไรไม่มีหรอกค่ะ ฮ่าๆ
- โสด
- ไปเที่ยวกับเพื่อนอีกคน เป็นผู้หญิง เพื่อนสถานะตกงาน ฮ่าๆ
- ไปมา 2 ประเทศ เกาหลีใต้ตอน ม.5 โรงเรียนพาไป และไปอเมริกา J-1 ต้นปี
เหตุผล
- อยากไปเที่ยวจริงๆ ค่ะ อยากไปโคโรลาโดมากๆ ประหนึ่งเมืองในฝัน เพราะตอนไป work and travel เพื่อนสนิทมันไม่ยอมไป มันจะไปช้อปกัน
- คิดถึงเพื่อนๆ และเมืองที่ไป work and travel ที่นั่นไม่ไหวแล้ว (ปีหน้าหนูวางแผนว่าจะไปเรียนต่อที่อื่น เลยมีแค่ช่วงเดือนธันวาคมนี้เท่านั้นที่จะได้กลับไป)
สุดท้ายเลยตัดสินใจสมัครวีซ่าท่องเที่ยว กรอกเอกสาร บลาๆ (อันนี้หาข้อมูลได้ทางอินเทอร์เน็ตค่ะ) และก็เตรียมเอกสาร
เอกสารที่เตรียมไป (เพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่า อย่างข้อมูลทำสารนิพนธ์)
- ตัวเล่ม Passport
- ใบจ่ายเงินจากธนาคาร
- DS160
- ใบนัดสัมภาษณ์
- รูปถ่าย 2 ใบ (ไม่ได้ใช้)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ไม่ได้ใช้)
- จดหมายแนะนำตัว บอกเหตุผลที่ต้องกลับ คือ ต้องกลับมางานพระราชทานเพลิงศพยาย และเรียน IELTS ต่อให้จบคอร์ส (ไม่ได้ใช้)
- จดหมายยืนยันการกลับมาโดยแม่เซนต์ให้ (ไม่ได้ใช้)
- หลักฐานงานพระราชทานเพลิงศพยาย และตารางเรียน IELTS (ไม่ได้ใช้)
- นิตยสารที่หนูทำอยู่ มีเครดิตชื่อเราในหน้าที่เราเขียนและแปล เอาไป 5 เล่ม แบกไปอย่างบ้าพลังมาก (ไม่ได้ใช้)
- รูปภาพงานห้องสมุดและงานนิตยสารออนไลน์ (ไม่ได้ใช้)
- รูปถ่ายกับเพื่อนๆ ที่อเมริกา (ไม่ได้ใช้)
- แพลนการท่องเที่ยว โคโรลาโด เท็กซัส เวกัส แอลเอ แต่ละที่เขียนว่าจะไปที่ไหนบ้าง เช่น เวกัส ไปช้อปปิ้งที่ outlet ไปดูน้ำพุ (ไม่ได้ใช้)
- ใบจบการศึกษา ใบเกรด (ไม่ได้ใช้)
- หลักฐานร้านขายของชำแม่ เอกสารอาคารเก็บตุนอาหาร ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ไม่ได้ใช้)
- สมุดบัญชีเงินฝากของแม่ (ไม่ได้ใช้)
แล้วใช้อะไรบ้างแว๊ ฮ่าๆ.... หนูขอข้ามเลยนะคะ ว่าพอมาถึงการสัมภาษณ์กับท่านกงสุล(สุดหล่อ) เขาเรียกอะไรไปดูบ้าง
ท่านกงสุลเรียกแค่ซองที่อาเจ้ข้างหน้าใส่มาให้ ในนั้นมีตัวเล่ม Passport กับใบ DS160 หนูก็แบบเอาหลักฐานไหมคะ พยายามยัดเอกสารที่เตรียมมาให้เขา แต่เขาทำบอกไม่เอาๆ หนูแบบ Shipหายล่ะ เอาไปแค่นั้น ตรูจะรอดไหมเนี่ย ขึ้นกับตอบคำถามซินะ
ช่วงคำถาม พยายามจ้องหน้า และยิ้ม (พยายามไม่เคลิ้มในความหล่อของเขา) ถามตอบเป็นภาษาไทยนะคะ พูดไทยชัดมาก
ท่านกงสุล - ชื่ออะไรครับ
หนู - ชื่อ .............. ค่ะ
ท่านกงสุล - ไปทำอะไรครับ
หนู - ไปเที่ยวค่ะ และไปฉลองช่วงคริสต์มาสกับเพื่อน
ท่านกงสุล - ไปที่ไหนครับ
หนู - ไปโคโรลาโด เท็กซัส ลาสเวกัส แอลเอ ก่อนจะกลับบ้านค่ะ
ท่านกงสุล - เคยไปต่างประเทศไหมครับ
หนู - เคยค่ะ ไปเกาหลีใต้ตอน ม.5 และเพิ่งกลับจากอเมริกา ไป work & travel มาเมื่อต้นปี
ท่านกงสุล - ไป work & travel ไปทำอะไรครับ
หนู - เป็นแคชเชียร์ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อารมณ์เหมือนเซเว่นอะค่ะ ร้าน Pinkies ที่เท็กซัส
ท่านกงสุล - มีคนรู้จักที่อเมริกาไหมครับ
หนู - มีค่ะ ก็เพื่อนๆ และผู้จัดการที่ร้าน Pinkies นี่ล่ะค่ะ ที่จะไปฉลองคริสต์มาสด้วยกัน
ท่านกงสุล - ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ครับ
หนู - หนูเพิ่งเรียบจบค่ะ แต่เป็นฟรีแลนซ์ให้กับนิตยสาร
ท่านกงสุล - มีใบรับรองการทำงานไหมครับ
หนู - โหย ฟรีแลนซ์ไม่มีหรอกค่ะ แต่หนูเอานิตยสารมา ดูไหมคะ (ฮียิ้มๆ ตอนนั้นแบบโหย หล่อโฮก แล้วส่ายหน้าไม่เป็นไร)
ท่านกงสุล - ใครออกค่าเดินทางทั้งหมดครับ
หนู - แม่ค่ะ
ท่านกงสุล - คุณแม่ทำอาชีพอะไรคะ
หนู - แม่เปิดร้านขายของชำค่ะ (ท่านเริ่มขมวดคิ้ว) แต่แม่หนูเขาขายที่ดินด้วยอะค่ะ
ท่านกงสุล - มีสมุดบัญชีของตัวเองมาไหมครับ
หนู - คือว่าหนูเพิ่งจบอะค่ะ ไม่มีสมุดบัญชีหรอกค่ะ มีของแม่แทนจะเอาไปดูไหมคะ
ท่านกงสุล - งั้นไม่เป็นไรครับ แล้วนี่จะไปกับใครครับ
หนู - ไปกับเพื่อนค่ะ ชี้มือไปด้านหลัง เนี่ยค่ะ มาด้วยกันค่ะ ไปด้วยกัน ผู้หญิง 2 คนค่ะ
ท่านกงสุลคีย์ข้อมูลอยู่สักพัก ตอนนั้นแบบ เอาแล้ว....เสียงแอร์ดังเลย เข้าสู่ช่วง 100 เมตรสุดท้ายแล้วซินะ
ท่านกงสุล - โอเคครับ เดี๋ยวเราจะจัดส่งวีซ่าให้ภายใน 3 วันทำการนะครับ (ยิ้ม)
หนู - จริงเหรอคะ (เผลอตกใจ) อ่า ขอบคุณค่ะ.... แล้วก็ส่งยิ้มสวยๆ ไปให้ ฮ่าๆ
แล้วก็ผ่าน เพื่อนที่มาด้วยกัน (สถานะตกงาน) ก็ผ่านนะคะ แบบว่าหนูตอบไปเยอะแล้วมันเลยสบายเลย ฮ่าๆ
สรุปคือ หนูว่ามันไม่ได้ยากขนาดที่ควรจะกังวลมากๆ ค่ะ เขาเน้นแค่สิ่งที่เรากรอกไปทางเว็บไซต์กับสิ่งที่เราตอบคำถามมันตรงกัน เราไม่ได้ปิดบังอะไรเขา อย่างหนูมีคนรู้จักก็บอก เขียนไปด้วยซ้ำว่าเป็นร้าน Pinkies และก็ใส่เลขโซเซียลไปด้วย หนูว่าเขาเช็คได้ ถ้าสิ่งไหนไม่มีก็บอกไม่มี ไม่พยายามเค้นความคิด ใสๆ ซื่อๆ แค่ไม่โกหก มีความมั่นใจ ไม่หลบตา (ไม่หลบแน่ๆ ค่ะ ถ้าได้สัมภาษณ์กับกงสุลหล่อ ฮ่า) แค่นี้ก็ผ่านค่ะ
ส่วนตอนนี้ก็ลุ้นอย่างเดียวว่าจะได้กี่ปีเท่า ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ส่วนเรื่องเอกสาร เตรียมไปแน่นๆ ก็ดีค่ะ เพราะถ้าเกิดอะไรผิดพลาด เราก็ยังมีเอกสารมาช่วยได้
ปล. หนูไม่รู้ว่าเป็นทริคหรือเปล่านะคะ แต่เลือกสัมภาษณ์เช้าได้ หนูว่าน่าจะดี เพราะเขาดูใจดีค่ะ และรอบเช้าเขารวมๆ ตั้งแต่คิว 7.00 - 7.30 ใครมาต่อแถวหน้าสถาทูตก่อนก็เข้าได้เลย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น