
ข้อแรกที่เปลี่ยนแปลงอย่างแรกที่เจอคือ จากที่เคยส่งที่ไปรษณีย์ ได้หลายที่ฟรี ตอนนี้ส่งและรับเองฟรีเฉพาะ 2 ที่ คือ
1. จุดรับยื่นเอกสารที่ Aramex Thailand 335 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
2. จุดรับยื่นเอกสารที่ VFS อาคารศิริพานิช ชั้น 1 เลขที่ 191 ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
ส่วนบริการทาง ปณ. จะต้องเลือกแบบพรีเมียม มีค่าบริการ 400+400 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป โดยเฉพาะไปรษณีย์บางสาขาเท่านั้น
โดยในกรุงเทพฯ เหลือเพียง ไปรษณีย์ หลักสี่ สามเสนใน มีนบุรี พระโขนง เท่านั้น
สำหรับที่อื่นๆ เช็คได้จาก
สถานที่และไปรษณีย์ที่รับเอกสารสำหรับวีซ่าอเมริกา

มาถึงขั้นตอนการทำกันดีกว่า
1. เช็ครูปก่อน ที่
https://tsg.phototool.state.gov/photo
อันนี้ไปถ่ายที่ร้านและขอไฟล์ด้วย ร้านส่งมาให้ 2 แบบคือ 5*5 เซ็นและไฟล์เต็ม ปรากฏว่า ไฟล์ 5*5 ที่ร้านส่งมาอัพไม่ผ่านเลยนำภาพอีกไฟล์ที่ส่งมาให้แบบเต็มตัวอัพขึ้นไป ระบบปรับให้ผ่านเลย
2. กรอก DS-160 สำคัญมาก กรอกตามความเป็นจริงและสอดคล้องกับข้อมูลที่เคยให้มา กรอกเสร็จ กดยืนยัน (submitted)
3. หลังจากนั้นมาสร้าง Profile ในระบบที่
https://www.usvisascheduling.com/th-TH/SignIn
(ตรงนี้จะเป็นตัวกรองสำคัญว่าเข้าข่ายต่อวีซ่าทางไปรษณีย์หรือไม่) ก็จะขึ้นข้อมูลวีซ่าที่ขอขึ้นมา
กฎใหม่ที่ประกาศเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ใน fb สถานทูต ประกาศว่า
ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวเกือบทุกประเภท รวมถึงผู้ที่ยื่นต่ออายุวีซ่า อาจต้องเข้ารับการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล ข้อมูลเพิ่มเติมดูที่
https://www.ustraveldocs.com/th/th/renew-visa#renew-my-visa
และ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป จะมีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่าประเภทชั่วคราว (Non-immigrant visas) รวมถึง วีซ่าท่องเที่ยว (B1/B2) โดยจะเก็บค่าธรรมเนียม(Visa Integrity Fee)เพิ่ม 250 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าธรรมเนียมวีซ่าปกติ 185 ดอลลาร์
สรุปหลัง 1 ตุลาคม 2568 จะต้องจ่ายค่าวีซ่า 435 ดอลลาร์สหรัฐ (เรทไทยต้องดูประกาศของสถานทูตเป็นคราวๆ ไป)
4. เมื่อผ่านเกณฑ์เสร็จก็จะมีหน้าให้พิมพ์ใบชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า พร้อมคำแนะจำจ่ายผ่านช่องทางต่างๆ
ณ วันที่ยืนยันในระบบ เรทสถานทูต 1 ดอลลาร์สหรัฐฯเท่ากับ 34 บาท
สรุปยอด 185*34 = 6,290 บาท
เลือกชำระได้ 3 ทาง คือทางแรก ธนาคารกรุงศรี พิมพ์
ใบนำฝาก ของธนาคารกรุงศรี
ใช้เวลา 24 ชั่วโมงเข้าระบบ
หรือเลือกทางที่สอง คือ ตัดจ่ายผ่านบัตรเครดิต
ทางที่สามที่เราเลือกใช้คือ โอนเงินผ่านแอพธนาคาร ใช้เวลา 2 วันเข้าระบบโดยมีรายละเอียดคำแนะนำชัดเจน
เราเลือกโอนผ่านธนาคารกรุงไทย เข้าไปที่จ่ายบิล เลือก Bank of America N.A., Bangkok Branch
ธนาคารผู้รับเงิน: Bank of America N.A., Bangkok Branch
รหัส SWIFT: BOFATH2X
รหัสธนาคาร: 0270001
เลขที่บัญชี: เลขที่อ้างอิง Virtual Account ID
จำนวน: 6,290 บาท แล้วพิมพ์สลิปเก็บไว้
ใช้เวลา 2 วันเข้าระบบ โดยเช็คจากโพรไฟล์ จะขึ้นจำนวนเงินที่ชำระ และประเภทวีซ่า

หลังจากเงินเข้าระบบก็จะขึ้นฟอร์มให้พิมพ์ เพื่อส่งเอกสารทั้งหมดตามลิสต์ ดังนี้ (ห้ามส่งเกินนะ)
1. The Interview Waiver Confirmation Letter with UID and QR code (ใบต่อวีซ่าทางไปรษณีย์ที่มีเลข UID และ QR โค้ด)
2. พาสปอร์ตปัจจุบันที่มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
3. พาสปอร์ตเก่าที่มีวีซ่าอเมริกาอยู่ ที่ยังไม่หมดอายุ หรือ หมดอายุไม่เกิน 12 เดือน (หลักเกณฑ์ใหม่)
4. ใบยืนยัน DS-160 ที่มีแถบบาร์โค้ด และได้ทำการกดยืนยัน (submitted) ออนไลน์แล้ว
5. รูปถ่ายสี 2 รูป ขนาด 5x5 เซนติเมตร หรือ 2x2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว มีอายุไม่เกินหกเดือน ไม่สวมใส่แว่นตา คอนแทคเลนส์สี หรือหมวก หากผิดเงื่อนไขการพิจารณาจะล่าช้า
6. ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า ตรงนี้เราแนบใบนำจ่ายเงินจากระบบและสลิปธนาคารกรุงไทยที่โอนไป
* ถ้าเปลี่ยนชื่อ นามสกุล และไม่ตรงกับวีซ่าที่ออกมาเมื่อคราวก่อน ก็ส่งใบเปลี่ยนชื่อของราชการ พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
ส่งเอกสารทั้งหมดทางไปรษณีย์ และเขียนใบแลกธนาณัติ 400 บาท (เจ้าหน้าที่แนะนำให้ว่าเขียนอย่างไร) ใส่ซองเดียวกันฝากเข้าระบบ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จะมีในเสร็จให้ Tracking ไว้ ส่งวันศุกร์ก่อนเที่ยง เข้าระบบของ Aramex วันอังคาร มีแจ้งเตือน sms จาก Aramex หลังจากนั้นก็เงียบหายไป
ผ่านไปประมาณ 10 วัน จู่ๆ หน้า Profile ขึ้นในช่องสมาชิก/ครอบครัว/กลุ่มผู้ติดตามเป็น 1
เข้าไปเช็คใน
ระบบติดตามสถานะวีซ่า ของสถานทูต Case Created and Case Last Updated
พบว่า ใช้เวลา 2 วันในการพิจารณาและออกวีซ่า และส่งออกในคืนนั้นเลย โดยมี sms แจ้งเตือนว่า นำส่งเข้าระบบไปรษณีย์
วันรุ่งขึ้นไปรษณีย์มานำส่งวีซ่า อีก 10 ปี พร้อมให้จ่ายค่าบริการ 400 บาท แบบเก็บปลายทาง
สรุปรวมตั้งแต่วันยื่น ถึงวันได้รับ ประมาณ 21 วัน(รวมวันหยุด)
ค่าใช้จ่าย
ค่าวีซ่าธรรมเนียมวีซ่า 6,290 บาท
ค่านำส่งไป – กลับแบบถึงบ้าน 400 + 400 บาท
ค่ารูปถ่ายพร้อมไฟล์ 280 บาท
รวมเป็นค่าใช้จ่ายขอต่อวีซ่าอีก 10 ปี รวมเป็นเงิน 7,370 บาท


[CR] รีวิว ต่อวีซ่าอเมริกาทางไปรษณีย์ รอบสุดท้ายก่อนเปลี่ยนค่าธรรมเนียมและนโยบาย
1. จุดรับยื่นเอกสารที่ Aramex Thailand 335 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
2. จุดรับยื่นเอกสารที่ VFS อาคารศิริพานิช ชั้น 1 เลขที่ 191 ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
ส่วนบริการทาง ปณ. จะต้องเลือกแบบพรีเมียม มีค่าบริการ 400+400 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป โดยเฉพาะไปรษณีย์บางสาขาเท่านั้น
โดยในกรุงเทพฯ เหลือเพียง ไปรษณีย์ หลักสี่ สามเสนใน มีนบุรี พระโขนง เท่านั้น
สำหรับที่อื่นๆ เช็คได้จาก สถานที่และไปรษณีย์ที่รับเอกสารสำหรับวีซ่าอเมริกา
1. เช็ครูปก่อน ที่ https://tsg.phototool.state.gov/photo
อันนี้ไปถ่ายที่ร้านและขอไฟล์ด้วย ร้านส่งมาให้ 2 แบบคือ 5*5 เซ็นและไฟล์เต็ม ปรากฏว่า ไฟล์ 5*5 ที่ร้านส่งมาอัพไม่ผ่านเลยนำภาพอีกไฟล์ที่ส่งมาให้แบบเต็มตัวอัพขึ้นไป ระบบปรับให้ผ่านเลย
2. กรอก DS-160 สำคัญมาก กรอกตามความเป็นจริงและสอดคล้องกับข้อมูลที่เคยให้มา กรอกเสร็จ กดยืนยัน (submitted)
3. หลังจากนั้นมาสร้าง Profile ในระบบที่ https://www.usvisascheduling.com/th-TH/SignIn
(ตรงนี้จะเป็นตัวกรองสำคัญว่าเข้าข่ายต่อวีซ่าทางไปรษณีย์หรือไม่) ก็จะขึ้นข้อมูลวีซ่าที่ขอขึ้นมา
กฎใหม่ที่ประกาศเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ใน fb สถานทูต ประกาศว่า
ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวเกือบทุกประเภท รวมถึงผู้ที่ยื่นต่ออายุวีซ่า อาจต้องเข้ารับการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล ข้อมูลเพิ่มเติมดูที่ https://www.ustraveldocs.com/th/th/renew-visa#renew-my-visa
และ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป จะมีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่าประเภทชั่วคราว (Non-immigrant visas) รวมถึง วีซ่าท่องเที่ยว (B1/B2) โดยจะเก็บค่าธรรมเนียม(Visa Integrity Fee)เพิ่ม 250 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าธรรมเนียมวีซ่าปกติ 185 ดอลลาร์
สรุปหลัง 1 ตุลาคม 2568 จะต้องจ่ายค่าวีซ่า 435 ดอลลาร์สหรัฐ (เรทไทยต้องดูประกาศของสถานทูตเป็นคราวๆ ไป)
4. เมื่อผ่านเกณฑ์เสร็จก็จะมีหน้าให้พิมพ์ใบชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า พร้อมคำแนะจำจ่ายผ่านช่องทางต่างๆ
ณ วันที่ยืนยันในระบบ เรทสถานทูต 1 ดอลลาร์สหรัฐฯเท่ากับ 34 บาท
สรุปยอด 185*34 = 6,290 บาท
เลือกชำระได้ 3 ทาง คือทางแรก ธนาคารกรุงศรี พิมพ์ ใบนำฝาก ของธนาคารกรุงศรี
ใช้เวลา 24 ชั่วโมงเข้าระบบ
หรือเลือกทางที่สอง คือ ตัดจ่ายผ่านบัตรเครดิต
ทางที่สามที่เราเลือกใช้คือ โอนเงินผ่านแอพธนาคาร ใช้เวลา 2 วันเข้าระบบโดยมีรายละเอียดคำแนะนำชัดเจน
เราเลือกโอนผ่านธนาคารกรุงไทย เข้าไปที่จ่ายบิล เลือก Bank of America N.A., Bangkok Branch
ธนาคารผู้รับเงิน: Bank of America N.A., Bangkok Branch
รหัส SWIFT: BOFATH2X
รหัสธนาคาร: 0270001
เลขที่บัญชี: เลขที่อ้างอิง Virtual Account ID
จำนวน: 6,290 บาท แล้วพิมพ์สลิปเก็บไว้
ใช้เวลา 2 วันเข้าระบบ โดยเช็คจากโพรไฟล์ จะขึ้นจำนวนเงินที่ชำระ และประเภทวีซ่า
1. The Interview Waiver Confirmation Letter with UID and QR code (ใบต่อวีซ่าทางไปรษณีย์ที่มีเลข UID และ QR โค้ด)
2. พาสปอร์ตปัจจุบันที่มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
3. พาสปอร์ตเก่าที่มีวีซ่าอเมริกาอยู่ ที่ยังไม่หมดอายุ หรือ หมดอายุไม่เกิน 12 เดือน (หลักเกณฑ์ใหม่)
4. ใบยืนยัน DS-160 ที่มีแถบบาร์โค้ด และได้ทำการกดยืนยัน (submitted) ออนไลน์แล้ว
5. รูปถ่ายสี 2 รูป ขนาด 5x5 เซนติเมตร หรือ 2x2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว มีอายุไม่เกินหกเดือน ไม่สวมใส่แว่นตา คอนแทคเลนส์สี หรือหมวก หากผิดเงื่อนไขการพิจารณาจะล่าช้า
6. ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า ตรงนี้เราแนบใบนำจ่ายเงินจากระบบและสลิปธนาคารกรุงไทยที่โอนไป
* ถ้าเปลี่ยนชื่อ นามสกุล และไม่ตรงกับวีซ่าที่ออกมาเมื่อคราวก่อน ก็ส่งใบเปลี่ยนชื่อของราชการ พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
ส่งเอกสารทั้งหมดทางไปรษณีย์ และเขียนใบแลกธนาณัติ 400 บาท (เจ้าหน้าที่แนะนำให้ว่าเขียนอย่างไร) ใส่ซองเดียวกันฝากเข้าระบบ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จะมีในเสร็จให้ Tracking ไว้ ส่งวันศุกร์ก่อนเที่ยง เข้าระบบของ Aramex วันอังคาร มีแจ้งเตือน sms จาก Aramex หลังจากนั้นก็เงียบหายไป
ผ่านไปประมาณ 10 วัน จู่ๆ หน้า Profile ขึ้นในช่องสมาชิก/ครอบครัว/กลุ่มผู้ติดตามเป็น 1
เข้าไปเช็คใน ระบบติดตามสถานะวีซ่า ของสถานทูต Case Created and Case Last Updated
พบว่า ใช้เวลา 2 วันในการพิจารณาและออกวีซ่า และส่งออกในคืนนั้นเลย โดยมี sms แจ้งเตือนว่า นำส่งเข้าระบบไปรษณีย์
วันรุ่งขึ้นไปรษณีย์มานำส่งวีซ่า อีก 10 ปี พร้อมให้จ่ายค่าบริการ 400 บาท แบบเก็บปลายทาง
สรุปรวมตั้งแต่วันยื่น ถึงวันได้รับ ประมาณ 21 วัน(รวมวันหยุด)
ค่าใช้จ่าย
ค่าวีซ่าธรรมเนียมวีซ่า 6,290 บาท
ค่านำส่งไป – กลับแบบถึงบ้าน 400 + 400 บาท
ค่ารูปถ่ายพร้อมไฟล์ 280 บาท
รวมเป็นค่าใช้จ่ายขอต่อวีซ่าอีก 10 ปี รวมเป็นเงิน 7,370 บาท
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้