ตกลงธุรกิจน้ำมันไทยผูกขาดกึ่งแข่งขัน(คาร์เทล) ใช่ไหม การยอมรับว่าผูกขาดราคา จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรเหรอ

ไทยใช้ราคาน้ำมันอ้างอิงจากสิงคโปร์ ต่อให้ขุดขึ้นมาได้เยอะ กลั่นได้เยอะ ราคาน้ำมันก็เท่าๆเดิม ไม่ถูกลง ผลิตหลังบ้านไม่ได้ ตัดราคาไม่ได้
การตลาดแบบนี้ ฮั้วราคา เป็นตลาดผูกขาดกึ่งแข่งขัน(คาร์เทล) แข่งขันด้านอื่น ไม่แข่งราคา ไม่ใช่เสรีตามข่าวที่บอก  กลุ่มโอเปคก็เป็นแบบนี้

การยอมรับว่าธุรกิจน้ำมันผูกขาด แบบคาร์เทล จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรเหรอ ทำไมต้องพยายามให้ข่าวว่าเสรีๆ จนเกือบเชื่อไปแล้วนะเนี่ย

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
รู้จักไหมว่า cartel คืออะไร? พูดมานี่ไม่ได้แสดงว่ามีความรู้เลย แถมยังสรุปโน่นนี่มั่วๆจากความไม่รู้ของตัวเองให้เกิดความแตกแยกในสังคมอีกต่างหาก แย่มากๆ
- ตลาดนำ้มันใสในไทยไม่มีการจำกัดซับพลาย, ใครอยากจะซื้อเท่าไหร่ก็มีขาย ราคาไม่เปลี่ยนแปลงตามดีมานด์ (ไม่เชื่อกำตังค์ไปซื้อหน้าคลังน้ำมันได้เลย)
- คนขายน้ำมันมีมากกว่าสี่สิบเจ้า (ผู้ค้ามาตราเจ็ด)
สองอย่างนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่คาร์เทล

ที่เขียนๆมาเนี่ย คงคิดว่าแข่งขันเสรีแล้วราคาจะถูกจนเหลือลิตรละบาทเดียวเหรอ? คิดแบบคนไม่เคยทำมาหากินขอตังค์พ่อแม่ไปวันๆนี่หว่า คนเคยค้าขายเคยทำงานบ้างลองเค้าคิดได้อยู่แล้วว่ามันจะถูกลงจนถึงระดับนึงเท่านั้น เพราะมีต้นทุนค้ำไว้
- ขายหมูปิ้งไม้ละห้าบาท ต้นทุนสี่บาท, ถ้าแข่งขันเสรีมีคนขายสิบเจ้า คิดว่าราคาจะเหลือไม้ละสามบาท?
- ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นสูสีกัน ถ้ากลั่นมาแพงก็ไม่มีคนซื้อ ไปซื้อจากตลาดนอกประเทศ หรือถ้าขายต่ำกว่าต้นทุนก็ขาดทุน จะทำไปทำไม? นี่แหละตลาดเสรี
- ราคาขายปลีกหน้าปั้มชัดเจนว่า ปตท กับบางจาก ไม่ยอมฮั้วราคาเหมือนปั้มต่างชาติ เพราะจะลงราคาก่อนและขึ้นราคาช้ากว่าหนึ่งวันเสมอเมื่อมีการปรับราคาน้ำมัน, ถ้าจะบอกว่ามีอะไรที่ใกล้เคียงการฮั้วราคาก็มีแต่ราคาขายปลีกของปั้มต่างชาตินี่แหละที่ใกล้ดคียงที่สุด

สรุป
ไม่มีความรู้ > ไม่คิดหาความรู้ > สรุปมั่วๆ > เชื่อตามที่ตัวเองมั่ว > มาตั้งกระทู้พยายามชักจูงคนหมู่มากให้เชื่อตาม



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่