(ขออนุญาตใช้คำว่า 'เรา' แทนตัวเองเพื่อความสะดวกในการเรียบเรียงความคิดนะคะ)
สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอายุ 17 ปี กำลังอยู่ชั้นม.6 เราคิดว่าเรากำลังเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอเริ่มว่าเรากลัวการเข้าสังคมมาตั้งแต่เด็ก เราพูดน้อย ไม่กล้าคุยหรือสบตากับคนแปลกหน้า ไม่ชอบที่พลุกพล่านหรือคนเยอะ จะมีอาการมือสั่นปากสั่นถ้าต้องพูดต่อหน้าคน ผู้ใหญ่หรือคนรอบข้างก็เลยบอกให้เราเลิกทำตัวขี้อาย เราก็อยากค่ะ แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นทำตัวร่าเริงหรือกล้าแสดงยังไง พอขึ้นมัธยมเราก็ยังทำตัวเหมือนเดิม แต่โรงเรียนนี้ไม่มีเพื่อนเก่าอยู่เลย เราเองก็ไม่กล้าเข้าไปทำตัวสนิทกับเพื่อนกลุ่มใหม่ เคยมีคนเข้ามาพูดด้วยแต่เราตอบแบบถามคำตอบคำ มีคนชวนไปกินข้าวเราก็พยายามเลี่ยง เพราะเราจะเครียดมากถ้ามีคนมองตอนกำลังตักอาหารใส่ปาก จนสุดท้ายบางวันเราก็แทบไม่ได้คุยกับใครเลยค่ะ ตอนแรกเราก็มีความสุขดีกับการอยู่คนเดียวแต่ไปๆมาๆก็เกิดความรู้สึกใหม่ขึ้นมา คือมองโลกในแง่ลบตลอดเวลา คือคิดว่าคนนู้นเกลียดเรา คนนั้นกำลังหัวเราะเรา ไม่มีใครต้องการเราหรอก แต่ทั้งที่เรารู้ว่าเป็นเพราะตัวเราเองที่ไม่มีเพื่อนแต่ก็ห้ามไม่ให้ตัวเองคิดแบบนั้นไม่ได้ ช่วงที่เป็นหนักมากๆ จะเกิดอาการหมดไฟ ไม่อยากทำอะไรเลย รู้สึกว่าชีวิตมันไม่เป้าหมาย ไม่รู้ว่าจะพยายามไปเพื่ออะไรในเมื่อสุดท้ายคนเราก็ต้องตายอยู่ดี แล้วก็มีอาการขี้โมโหแบบไร้สาเหตุด้วยค่ะ พอลองหาข้อมูลก็พบว่าเราเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า แต่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็เลยไม่ได้บอกแม่ ช่วงที่เป็น 'หนักมากๆ' ก็พยายามทำให้ตัวเองคลั่งนิยายหรือซีรี่ส์จะได้ลืมๆไปซะว่าโลกภายนอกกำลังเกิดอะไรขึ้น ซึ่งช่วยได้นิดหน่อยค่ะแต่ไม่ใช่ทั้งหมด
สาเหตุที่ทำให้เรามาตั้งกระทู้ตอนนี้ทั้งๆที่มีอาการแบบนี้มาประมาณ 3 ปีแล้วเป็นเพราะว่ากำลังเราอยู่ในช่วง 'หนักมากๆ' ทั้งๆที่ควรจะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ เราดันรู้สึกแย่กับตัวเองแบบสุดๆ มีความคิดแนวๆว่า เราจะสอบเข้าที่ไหนไม่ได้ เราจะใช้ชีวิตในมหาลัยไม่ได้ เราจะหางานไม่ได้ เราจะทำให้ทุกคนผิดหวัง หรือไม่มีใครสนใจเราตั้งแต่แรกแล้ว? วนอยู่ในหัวตลอดเวลา จะอ่านหนังสือมันก็ไม่มีสมาธิเลย ตอนนี้ก็เลยใช้วิธีเปิดเพลงให้ตัวเองไปจดจ่อที่เพลงแทนความคิดด้านลบทั้งหลายแหล่ เรารู้สึกว่าเราคิดผิดที่พยายามผลักปัญหาไปให้พ้นตัวแทนที่จะพยายามแก้ไขมัน แต่เพราะแก้ไม่ได้แล้วเลยพยายามบอกตัวเองว่าให้ทนอีกสองเดือน แต่เราทำไม่ได้ เราไม่กล้าบอกแม่ เพราะกลัวโดนหาว่าเป็นคำแก้ตัวที่ไม่ได้อ่านหนังสือ (ซึ่งบางทีก็อาจเป็นอย่างนั้น) พอจะมีวิธีไหนที่ทำให้เรามีแรงกระตุ้นอ่านหนังสือจนถึงวันสอบ (ช่วงกลางเดือนธันวา) โดยไม่ต้องไปหาจิตแพทย์มั้ยคะ (เราคิดว่าถ้ามีที่เรียนแล้วค่อยขอให้แม่พาไปหาน่ะค่ะ) ขอบคุณมากค่ะ
คิดว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าแต่ไม่อยากหาหมอ(ตอนนี้) ควรทำยังไงดีคะ
สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอายุ 17 ปี กำลังอยู่ชั้นม.6 เราคิดว่าเรากำลังเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอเริ่มว่าเรากลัวการเข้าสังคมมาตั้งแต่เด็ก เราพูดน้อย ไม่กล้าคุยหรือสบตากับคนแปลกหน้า ไม่ชอบที่พลุกพล่านหรือคนเยอะ จะมีอาการมือสั่นปากสั่นถ้าต้องพูดต่อหน้าคน ผู้ใหญ่หรือคนรอบข้างก็เลยบอกให้เราเลิกทำตัวขี้อาย เราก็อยากค่ะ แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นทำตัวร่าเริงหรือกล้าแสดงยังไง พอขึ้นมัธยมเราก็ยังทำตัวเหมือนเดิม แต่โรงเรียนนี้ไม่มีเพื่อนเก่าอยู่เลย เราเองก็ไม่กล้าเข้าไปทำตัวสนิทกับเพื่อนกลุ่มใหม่ เคยมีคนเข้ามาพูดด้วยแต่เราตอบแบบถามคำตอบคำ มีคนชวนไปกินข้าวเราก็พยายามเลี่ยง เพราะเราจะเครียดมากถ้ามีคนมองตอนกำลังตักอาหารใส่ปาก จนสุดท้ายบางวันเราก็แทบไม่ได้คุยกับใครเลยค่ะ ตอนแรกเราก็มีความสุขดีกับการอยู่คนเดียวแต่ไปๆมาๆก็เกิดความรู้สึกใหม่ขึ้นมา คือมองโลกในแง่ลบตลอดเวลา คือคิดว่าคนนู้นเกลียดเรา คนนั้นกำลังหัวเราะเรา ไม่มีใครต้องการเราหรอก แต่ทั้งที่เรารู้ว่าเป็นเพราะตัวเราเองที่ไม่มีเพื่อนแต่ก็ห้ามไม่ให้ตัวเองคิดแบบนั้นไม่ได้ ช่วงที่เป็นหนักมากๆ จะเกิดอาการหมดไฟ ไม่อยากทำอะไรเลย รู้สึกว่าชีวิตมันไม่เป้าหมาย ไม่รู้ว่าจะพยายามไปเพื่ออะไรในเมื่อสุดท้ายคนเราก็ต้องตายอยู่ดี แล้วก็มีอาการขี้โมโหแบบไร้สาเหตุด้วยค่ะ พอลองหาข้อมูลก็พบว่าเราเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า แต่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็เลยไม่ได้บอกแม่ ช่วงที่เป็น 'หนักมากๆ' ก็พยายามทำให้ตัวเองคลั่งนิยายหรือซีรี่ส์จะได้ลืมๆไปซะว่าโลกภายนอกกำลังเกิดอะไรขึ้น ซึ่งช่วยได้นิดหน่อยค่ะแต่ไม่ใช่ทั้งหมด
สาเหตุที่ทำให้เรามาตั้งกระทู้ตอนนี้ทั้งๆที่มีอาการแบบนี้มาประมาณ 3 ปีแล้วเป็นเพราะว่ากำลังเราอยู่ในช่วง 'หนักมากๆ' ทั้งๆที่ควรจะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ เราดันรู้สึกแย่กับตัวเองแบบสุดๆ มีความคิดแนวๆว่า เราจะสอบเข้าที่ไหนไม่ได้ เราจะใช้ชีวิตในมหาลัยไม่ได้ เราจะหางานไม่ได้ เราจะทำให้ทุกคนผิดหวัง หรือไม่มีใครสนใจเราตั้งแต่แรกแล้ว? วนอยู่ในหัวตลอดเวลา จะอ่านหนังสือมันก็ไม่มีสมาธิเลย ตอนนี้ก็เลยใช้วิธีเปิดเพลงให้ตัวเองไปจดจ่อที่เพลงแทนความคิดด้านลบทั้งหลายแหล่ เรารู้สึกว่าเราคิดผิดที่พยายามผลักปัญหาไปให้พ้นตัวแทนที่จะพยายามแก้ไขมัน แต่เพราะแก้ไม่ได้แล้วเลยพยายามบอกตัวเองว่าให้ทนอีกสองเดือน แต่เราทำไม่ได้ เราไม่กล้าบอกแม่ เพราะกลัวโดนหาว่าเป็นคำแก้ตัวที่ไม่ได้อ่านหนังสือ (ซึ่งบางทีก็อาจเป็นอย่างนั้น) พอจะมีวิธีไหนที่ทำให้เรามีแรงกระตุ้นอ่านหนังสือจนถึงวันสอบ (ช่วงกลางเดือนธันวา) โดยไม่ต้องไปหาจิตแพทย์มั้ยคะ (เราคิดว่าถ้ามีที่เรียนแล้วค่อยขอให้แม่พาไปหาน่ะค่ะ) ขอบคุณมากค่ะ