ยาวหน่อยนะคะ เนื่องจากเมื่อวานนี้ (23/10/57) เราและสามีได้ไปดูกล่องดิจิตอลทีวีที่บิ๊กซีสาขา ราชดำริ เพราะว่าบ้านพ่อสามีได้คูปองจากรัฐบาลมาและให้สามีเราไปจัดการเลือกซื้อให้ สามีเราก็พอหาข้อมูลมทาเยอะพอสมควร (ส่วนหนึ่งก็จากในพันทิปค่ะ) และประจวบเหมาะพอดี เราและแฟนจะไปดูหนังที่เซ็นทรัล เวิร์ล เลยตกลงกันไปดูที่บิ๊กซีราชดำริ เพราะเห็นว่าที่บิ๊กซีมีกล่องหลายรุ่น และมีโปรโมชั่นเยอะ อีกอย่างเราก็ลูกค้าบิ๊กซีประจำอยู่แล้ว พอไปถึงก็ตั้งใจจะหารุ่นที่ไม่ต้องเพิ่มเงินก่อน แต่ถ้ามีรุ่นที่ดีกว่าก็เพิ่มเงินนิดหน่อยได้ มาถึงก็เจอกับโปรโมชั่นตามรูปนี้ค่ะ
พอดีมีพนักงานผู้ชายคนนึงเดินมา แล้วเราเลยถามว่าโปรโมชั่นนี้หมายความว่ายังไง น้องคนนั้นเลยบอกว่า เอาคูปองมาแลกบิ๊กซีลดให้อีก500บาท แล้วพอดีมี2รุ่น คือยี่ห้อ A แต่ของหมดแล้ว เหลือแต่ยี่ห้อ C อีกอย่างตอนนี้ยี่ห้อ C ลดราคาเหลือ 1,090 บาท วันนี้วันสุดท้ายด้วย เท่ากับพี่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเลย เพราะบิ๊กซีลดให้อีก500บาท บวกกับ คูปองราคา 690 บาท เราก็ดูที่ป้าย ก็ติดไว้ว่า ลดราคาจาด1,590 บาท เหลือ 1,090 บาท แล้วพนักงานก็แนะนำมาเอง โอเค ได้กล่องราคาหลักพันแต่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และแฟนเราก็ดูพอใจรุ่นนี้เพราะมีฟังค์ชั่นตามที่เค้าตั้งมาทั้งหมด เราเลยตกลงเอารุ่นนี้ก็ได้ รอทำเรื่องลงทะเบียน ระหว่างที่รอลงทะเบียนก็มีคุณน่าคุณลุงมาคุยด้วย ถามเรื่องการเลือกกล่อง การติดตั้งตามประสาของคนทั่วๆไปที่ยังไม่เข้าใจว่าทีวีดิจิตอลคืออะไร เรากับแฟนก็อธิบายให้ฟัง มีคุณลุงคนนึงก็เข้ามาถามเราแบบคนอื่นๆ ก็คุยกันแล้วคุณลุงก็บอกว่าแล้วรุ่นนี้ที่หนูจะเอามันดีหรอ ก็บอกคุณลุงว่าก้ดี ราคาเดิมมัน1,590บาท แต่ตอนนี้มีโปรโมชั่นลดราคาและยังมีโปรโมชั่นคูปองแล้วบิ๊กซีลดให้อีก500บาท ก็เท่ากับเราไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม คุณลุงก็ถามว่าอยู่ตรงไหน เราก็ชี้บอกคุณลุง เราก็เห็นคุณลุงเดินไป พนักงานก็รับคุณลุงต่อเราก็ยืนมองอยู่
พอเราทำเรื่องเสร็จ ก็เข้าแคชเชียร์ น้องแคชเชียร์ก้บอกว่าต้องเพิ่มเงินอีก400บาทนะคะ เราก็อ้าว โดนแล้วไง เราเลยบยอกกับน้องแคชเชียร์ว่า ไหนเมื่อกี้นี้น้องพนักงานผู้ชายแนะนำสินค้าแล้วบอกว่าไม่ต้องจ่ายเพิ่ม พนักงานแคชเชียร์เลยเรียกน้องผู้ชายคนนั้นเดินมาดู น้องผู้ชายบอกว่ามันไม่ตัดหรอ น้องก็คุยกัน ก้บอกว่าก็ทำไมไม่ตัดล่ะ ตัดไปแค่ 690 คือราคาคูปอง เรากับแฟนก็ยืนงง น้องแคชเชียร์ก็งง น้องผู้ชายเดินไปเอาป่ายมาให้แคชเชียร์ดู ก็บอกก็นี่ไงโปรก็ลดไง น้องแคชเชียร์ก็บอกว่ามันไม่ตัด ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มอีก 400 เราก็บอกแล้วน้องเค้าแนะนำมาแบบนี้ทำยังไง พอดีคุณลุงท่านเดิมเดินกลับมาหาที่เรา แล้วถามว่า สรุปต้องเพิ่มเงินหรอ ก็พนักงานตรงนั้นก็บอกว่าไม่ต้องเพิ่มแบบที่หนูบอกเลย เราก็บอกนี่ไงคุณลุงก็เจอเหมือนกัน เราเลยพูดกับน้องคชเชียร์ว่า เราไม่ได้ติดใจอะไรมากหรอก แต่คนอื่นๆอย่างคุณลุงคนนั้นเค้าก็ต้องมาเจอเหมทือนกัน แล้วถ้าเค้าไม่ต้องการเพิ่มเงินเลยจะทำยังไง สักพัก ก็มีผู้ชายร่างท้วมเดินมา ความคิดของเราเค้าคนนี้น่าจะเป็นผู้จัดการแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมประโยคว่า บิ๊กซีสวัสดีครับคุณลูกค้ามีอะไรครับ น้องแคชเชียร์เลยอธิบายให้ฟัง แล้วผู้ชายร่างท้วมก็บอกเราว่า ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มครับ แล้วก็เดินจากไป เราก็แบบงงๆ น้องๆพนักงานก็พยายามจะหาตัวคนที่แนะนำสินค้าให้เราให้เรายืนรอก่อน เราก็ยืนรอ จนพักใหญ่ๆก็พนักงานก็เดินกันไปมา พนักงานแคชเชียร์เลยบอกเราว่าสงสัยวว่าาป้าย 1,090 น่าจะเป็นราคาลด 500 แล้ว สักพักผู้ชายร่างท้วมก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมประโยคเดิม บิ๊กซีสวัสดีครับคุณลูกค้ามีอะไรครับ เราเลยบอกว่าแล้วจะเอายังไงต้องเพิ่มเงินใช่มั้น แล้วทำไมพนักงานแนะนำมาแบบนี้ว่าไม่ต้องเพิ่มเงินเพราโปรโมชั่นพอดี ผู้ชายคนนั้นย้อนเราด้วยคำพูดน้ำเสียงกวนๆว่า คนไหนครับพูด ชี้เลยคนไหน เราก็อ้าว แล้วชั้นจะจำได้มั้ยน้องก็เดินไปไหนก็ไม่รู้ บอกตรงๆเราเองก็จำไมได้ว่าน้องคนนั้นคือคนไหน เราเลยบอกว่าก็จำไม่ได้หรอก แต่คุณลุงคนนี้ก็โดนว่าพนักงานแนะนำมา ผู้ชายร่างท้วมเลยบอกว่าต้องเพิ่มเงินครับ เค้าถือป้ายโปรโมชั่นในมืออยู่ เราเลยถามเค้าว่า โปรโมชั่นบิ๊กซีลดให้500คืออะไร เค้าบอกว่าคือลดพร้อมคูปอง690 เราเลยย้อนถามว่าถ้าอย่างนั้นราคา1,590ไม่มีคูปองมาจะได้ลด500มั้ย เค้าก็ตอบมาที่เราอย่างมั่นใจว่า ไม่ลด!!! เราเลยใส่เลยค่ะ ของขึ้นเลย ยืนเสียงดังบอกเลยว่างั้นก็หลอกลวงประชาชนน่ะสิ ติดป้ายมาแบบนี้ได้ยังไง แล้วเมื่อกี้นี้น้องแคชเชียร์ก็บอกว่าราคาลด 500แล้ว ผู้ชายร่างท้วมนั้นก็เดินจากไปแบบไม่แยแสลูกค้าเลย เราเลยหันไปหาแฟนแล้วบอกขอเปลี่ยนเครื่องเลย น้องแคชเชียร์ก็บอกว่าเปลี่ยนไม่ได้แล้วเพราะลงทะเบียนคูปองไปแล้ว เราก็เลยโอเค จ่าย400 เราเลยบอกว่าได้จ่ายไปแต่ขอคอมเพลนนะ น้องๆแคชเชียร์ก้ขอโทษเรากันใหญ่ คือน้องๆผู้หญิงพยายามจะช่วยเราให้เคลียร์ พยายามหาพนักงานตัวปัญหาที่แนะนำลูกค้ามาแบบนี้ แต่กลับกันพนักงานผู้ชายของที่นี่ ทั้งพนักงานแนะนำสินค้าและผู้จัดการร่างท้วมกลับไม่แยแสหรือจะสนใจลูกค้าเลยแม้แต่น้อย
อยากได้คำตอบของทางบิ๊กซีว่าการจัดโปรโมชั่นเพื่อมาทำให้ลูกค้าสับสนยังม่พอ แล้วยังไม่เทรนพนักงานแนะนำสินค้าให้ดี แถมให้มีผุ้จัดการห่วยๆแบบนี้มารับลูกค้าได้ยังไง
บิ๊กซีคุณทำอย่างนี้กับลูกค้าหรือ??....กล่องทีวีดิจิตอลกับคูปอง690
พอดีมีพนักงานผู้ชายคนนึงเดินมา แล้วเราเลยถามว่าโปรโมชั่นนี้หมายความว่ายังไง น้องคนนั้นเลยบอกว่า เอาคูปองมาแลกบิ๊กซีลดให้อีก500บาท แล้วพอดีมี2รุ่น คือยี่ห้อ A แต่ของหมดแล้ว เหลือแต่ยี่ห้อ C อีกอย่างตอนนี้ยี่ห้อ C ลดราคาเหลือ 1,090 บาท วันนี้วันสุดท้ายด้วย เท่ากับพี่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเลย เพราะบิ๊กซีลดให้อีก500บาท บวกกับ คูปองราคา 690 บาท เราก็ดูที่ป้าย ก็ติดไว้ว่า ลดราคาจาด1,590 บาท เหลือ 1,090 บาท แล้วพนักงานก็แนะนำมาเอง โอเค ได้กล่องราคาหลักพันแต่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และแฟนเราก็ดูพอใจรุ่นนี้เพราะมีฟังค์ชั่นตามที่เค้าตั้งมาทั้งหมด เราเลยตกลงเอารุ่นนี้ก็ได้ รอทำเรื่องลงทะเบียน ระหว่างที่รอลงทะเบียนก็มีคุณน่าคุณลุงมาคุยด้วย ถามเรื่องการเลือกกล่อง การติดตั้งตามประสาของคนทั่วๆไปที่ยังไม่เข้าใจว่าทีวีดิจิตอลคืออะไร เรากับแฟนก็อธิบายให้ฟัง มีคุณลุงคนนึงก็เข้ามาถามเราแบบคนอื่นๆ ก็คุยกันแล้วคุณลุงก็บอกว่าแล้วรุ่นนี้ที่หนูจะเอามันดีหรอ ก็บอกคุณลุงว่าก้ดี ราคาเดิมมัน1,590บาท แต่ตอนนี้มีโปรโมชั่นลดราคาและยังมีโปรโมชั่นคูปองแล้วบิ๊กซีลดให้อีก500บาท ก็เท่ากับเราไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม คุณลุงก็ถามว่าอยู่ตรงไหน เราก็ชี้บอกคุณลุง เราก็เห็นคุณลุงเดินไป พนักงานก็รับคุณลุงต่อเราก็ยืนมองอยู่
พอเราทำเรื่องเสร็จ ก็เข้าแคชเชียร์ น้องแคชเชียร์ก้บอกว่าต้องเพิ่มเงินอีก400บาทนะคะ เราก็อ้าว โดนแล้วไง เราเลยบยอกกับน้องแคชเชียร์ว่า ไหนเมื่อกี้นี้น้องพนักงานผู้ชายแนะนำสินค้าแล้วบอกว่าไม่ต้องจ่ายเพิ่ม พนักงานแคชเชียร์เลยเรียกน้องผู้ชายคนนั้นเดินมาดู น้องผู้ชายบอกว่ามันไม่ตัดหรอ น้องก็คุยกัน ก้บอกว่าก็ทำไมไม่ตัดล่ะ ตัดไปแค่ 690 คือราคาคูปอง เรากับแฟนก็ยืนงง น้องแคชเชียร์ก็งง น้องผู้ชายเดินไปเอาป่ายมาให้แคชเชียร์ดู ก็บอกก็นี่ไงโปรก็ลดไง น้องแคชเชียร์ก็บอกว่ามันไม่ตัด ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มอีก 400 เราก็บอกแล้วน้องเค้าแนะนำมาแบบนี้ทำยังไง พอดีคุณลุงท่านเดิมเดินกลับมาหาที่เรา แล้วถามว่า สรุปต้องเพิ่มเงินหรอ ก็พนักงานตรงนั้นก็บอกว่าไม่ต้องเพิ่มแบบที่หนูบอกเลย เราก็บอกนี่ไงคุณลุงก็เจอเหมือนกัน เราเลยพูดกับน้องคชเชียร์ว่า เราไม่ได้ติดใจอะไรมากหรอก แต่คนอื่นๆอย่างคุณลุงคนนั้นเค้าก็ต้องมาเจอเหมทือนกัน แล้วถ้าเค้าไม่ต้องการเพิ่มเงินเลยจะทำยังไง สักพัก ก็มีผู้ชายร่างท้วมเดินมา ความคิดของเราเค้าคนนี้น่าจะเป็นผู้จัดการแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมประโยคว่า บิ๊กซีสวัสดีครับคุณลูกค้ามีอะไรครับ น้องแคชเชียร์เลยอธิบายให้ฟัง แล้วผู้ชายร่างท้วมก็บอกเราว่า ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มครับ แล้วก็เดินจากไป เราก็แบบงงๆ น้องๆพนักงานก็พยายามจะหาตัวคนที่แนะนำสินค้าให้เราให้เรายืนรอก่อน เราก็ยืนรอ จนพักใหญ่ๆก็พนักงานก็เดินกันไปมา พนักงานแคชเชียร์เลยบอกเราว่าสงสัยวว่าาป้าย 1,090 น่าจะเป็นราคาลด 500 แล้ว สักพักผู้ชายร่างท้วมก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมประโยคเดิม บิ๊กซีสวัสดีครับคุณลูกค้ามีอะไรครับ เราเลยบอกว่าแล้วจะเอายังไงต้องเพิ่มเงินใช่มั้น แล้วทำไมพนักงานแนะนำมาแบบนี้ว่าไม่ต้องเพิ่มเงินเพราโปรโมชั่นพอดี ผู้ชายคนนั้นย้อนเราด้วยคำพูดน้ำเสียงกวนๆว่า คนไหนครับพูด ชี้เลยคนไหน เราก็อ้าว แล้วชั้นจะจำได้มั้ยน้องก็เดินไปไหนก็ไม่รู้ บอกตรงๆเราเองก็จำไมได้ว่าน้องคนนั้นคือคนไหน เราเลยบอกว่าก็จำไม่ได้หรอก แต่คุณลุงคนนี้ก็โดนว่าพนักงานแนะนำมา ผู้ชายร่างท้วมเลยบอกว่าต้องเพิ่มเงินครับ เค้าถือป้ายโปรโมชั่นในมืออยู่ เราเลยถามเค้าว่า โปรโมชั่นบิ๊กซีลดให้500คืออะไร เค้าบอกว่าคือลดพร้อมคูปอง690 เราเลยย้อนถามว่าถ้าอย่างนั้นราคา1,590ไม่มีคูปองมาจะได้ลด500มั้ย เค้าก็ตอบมาที่เราอย่างมั่นใจว่า ไม่ลด!!! เราเลยใส่เลยค่ะ ของขึ้นเลย ยืนเสียงดังบอกเลยว่างั้นก็หลอกลวงประชาชนน่ะสิ ติดป้ายมาแบบนี้ได้ยังไง แล้วเมื่อกี้นี้น้องแคชเชียร์ก็บอกว่าราคาลด 500แล้ว ผู้ชายร่างท้วมนั้นก็เดินจากไปแบบไม่แยแสลูกค้าเลย เราเลยหันไปหาแฟนแล้วบอกขอเปลี่ยนเครื่องเลย น้องแคชเชียร์ก็บอกว่าเปลี่ยนไม่ได้แล้วเพราะลงทะเบียนคูปองไปแล้ว เราก็เลยโอเค จ่าย400 เราเลยบอกว่าได้จ่ายไปแต่ขอคอมเพลนนะ น้องๆแคชเชียร์ก้ขอโทษเรากันใหญ่ คือน้องๆผู้หญิงพยายามจะช่วยเราให้เคลียร์ พยายามหาพนักงานตัวปัญหาที่แนะนำลูกค้ามาแบบนี้ แต่กลับกันพนักงานผู้ชายของที่นี่ ทั้งพนักงานแนะนำสินค้าและผู้จัดการร่างท้วมกลับไม่แยแสหรือจะสนใจลูกค้าเลยแม้แต่น้อย
อยากได้คำตอบของทางบิ๊กซีว่าการจัดโปรโมชั่นเพื่อมาทำให้ลูกค้าสับสนยังม่พอ แล้วยังไม่เทรนพนักงานแนะนำสินค้าให้ดี แถมให้มีผุ้จัดการห่วยๆแบบนี้มารับลูกค้าได้ยังไง