🛒 ทำงานแคชเชียร์โกลบอลเฮ้าส์ 4 เดือน…เหนื่อยยันกระดูก แต่ได้บทเรียนชีวิต 😂
สวัสดีค่ะทุกคน 🙋♀️
วันนี้มาแชร์ ประสบการณ์ทำงานแคชเชียร์ (เล็ก) ที่โกลบอลเฮ้าส์ เผื่อใครกำลังสนใจงานบริการ จะได้เตรียมใจไว้บ้างนะคะ
ระยะเวลา: มิ.ย. 67 – ต.ค. 67 (4 เดือน)
ตำแหน่ง: แคชเชียร์
สาขา: ขอไม่บอกตรงๆ นะคะ 😅
💸 เงินเดือน & สวัสดิการ
ฐานเงินเดือนประมาณ 10,500–12,000 บาท (รวม incentive เล็กๆ น้อยๆ)
หักประกันสังคมตามปกติ
ส่วนลดพนักงานร้านกาแฟ/น้ำดื่ม
พูดตรงๆ คือพออยู่ได้ แต่ไม่ได้เหลือกินเหลือเก็บแบบฟรุ้งฟริ้ง 😅
บางทีคิดเงินลูกค้าไปแอบนับเงินในใจว่า “นี่เราจะมีเงินซื้อขนมกินมั้ยเนี่ย”
⏰ เวลาทำงาน & กะ
กะเช้า: 07.30–16.30
กะบ่าย: 11.00–20.30
ต้องมาก่อนเวลาเพื่อประชุม/นับเงิน
พักกลางวัน 1 ชม. แต่บางวันลูกค้าเยอะ → ต้องยืดเวลา
วันไหนพักแค่ 45 นาที…กินข้าวกับเครื่องคิดเงินไปพร้อมกัน 😅 แบบว่า multitasking สุดๆ
🛒 หน้าที่หลัก
คิดเงิน + ออกบิล + ตรวจเงิน
แนะนำบัตรสมาชิก/บัตรเครดิตให้ลูกค้า (สำเร็จได้ incentive)
หาของ/ของแถมให้ลูกค้า
งานเสริม: จัดของเล็กๆ น้อยๆ, เวียนเครื่อง POS
เหมือนเล่นเกม “หาสมบัติในห้าง” ตลอดเวลา 😆
💻 ระบบ & เครื่องมือ
เครื่อง POS บางวันช้า/ค้าง → ลูกค้ารอ → เราต้องยิ้มสู้
วันไหนระบบล่ม เราอยากกรี๊ด แต่ก็ได้ฝึกความอดทนขั้นเทพ
บางทีแอบพึมพำ “เอ้า…อีกแล้วเหรอ โอเคใจเย็นๆ”
🧑🏻🤝🧑🏻 เพื่อนร่วมงาน & บรรยากาศ
ทีมเราโอเคมาก คอยช่วยสอนงาน
เจอคนบางคนพูดตรงๆ จนเรากดดัน → ถือเป็นบทเรียนเรื่อง “การทำงานกับคนหลายประเภท”
ลูกค้า/ระบบล่มบางทีก็หัวหมุน
บางวันเหมือนอยู่ในละครเวที “ลูกค้าร้อง เราร้อง เครื่องค้าง เรากรี๊ด”
📱 กฎระเบียบที่ต้องรู้
ไม่สามารถพกมือถือลงเคาน์เตอร์
ลาป่วยต้องมีใบรับรองแพทย์
ชดเชยวันหยุดถ้ายังไม่ผ่านโปร → ประสบการณ์จำขึ้นใจ
ตอนนั้นเราต้องลาไปรับปริญญาที่กรุงเทพ แต่ยังไม่ผ่านโปร เลยต้องชดเชยวันหยุดแทน…เกือบสองเดือนแทบไม่ได้หยุดเลย 😅
บางวันรู้สึกชีวิตวนอยู่แค่ระหว่างเคาน์เตอร์กับเตียง 🛏️
🌊 เหตุการณ์พิเศษ: น้ำท่วม
บางช่วงน้ำท่วมหนัก → ต้องเข้าเวรปกติ แต่บ้านเราโดนน้ำ 😭
รู้สึกเหมือนอยู่ในเกม RPG ที่ต้องลุยน้ำเก็บคะแนน สกิลชีวิต +10 💪
❌ เหตุผลลาออก
อยากเปลี่ยนสายงานไปเป็น ครู (ตรงกับที่เรียนมา)
งานหนัก ความเหนื่อยไม่บาลานซ์กับเงินเดือน
เรื่องชดเชยวันหยุด + น้ำท่วม → ตัดสินใจลาออก
ไม่ใช่เพราะเราขี้เกียจนะคะ แต่เพราะงานมันหนักกว่าที่เงินเดือนบอก 😅
แต่เราก็ยังว่างงานมาจะ1ปีแล้วค่ะแหะๆมาพักผ่อนให้แฟนเลี้ยงก่อนเริ่มงานใหม่ฮึบฮึบ
🏁 สรุป
งานแคชเชียร์ที่โกลบอลเฮ้าส์ เหนื่อยจริง แต่คุ้มค่า
ฝึกความอดทน, ความรอบคอบ, การทำงานร่วมกับคนหลายประเภท
ได้ประสบการณ์จริงกับลูกค้า, ระบบงาน, และเพื่อนร่วมทีม
ใครกำลังสนใจงานแนวบริการ เตรียมใจเรื่องกะหนักหน่อย แต่รับรองประสบการณ์เต็มๆ แน่นอน!
👩💻 ท้ายสุด: โพสต์นี้เล่าจากมุมเราเอง ไม่ได้มีเจตนาโจมตีบริษัทหรือเพื่อนร่วมงานนะคะ
ใครเคยทำงานแนวนี้หรือเจอสถานการณ์แบบเดียวกัน มาแชร์กันได้นะคะ 😆
ปล.นี่เป็นฉบับที่AIช่วยกรองเพื่อป้องกันการโดนเอาผิดได้ค่ะถ้าเป็นฉบับจริงมีหวังโดนฟ้องแน่ๆถถถถ
รีวิวทำงานที่โกลบอลเฮ้าส์ฉบับGenZ
สวัสดีค่ะทุกคน 🙋♀️
วันนี้มาแชร์ ประสบการณ์ทำงานแคชเชียร์ (เล็ก) ที่โกลบอลเฮ้าส์ เผื่อใครกำลังสนใจงานบริการ จะได้เตรียมใจไว้บ้างนะคะ
ระยะเวลา: มิ.ย. 67 – ต.ค. 67 (4 เดือน)
ตำแหน่ง: แคชเชียร์
สาขา: ขอไม่บอกตรงๆ นะคะ 😅
💸 เงินเดือน & สวัสดิการ
ฐานเงินเดือนประมาณ 10,500–12,000 บาท (รวม incentive เล็กๆ น้อยๆ)
หักประกันสังคมตามปกติ
ส่วนลดพนักงานร้านกาแฟ/น้ำดื่ม
พูดตรงๆ คือพออยู่ได้ แต่ไม่ได้เหลือกินเหลือเก็บแบบฟรุ้งฟริ้ง 😅
บางทีคิดเงินลูกค้าไปแอบนับเงินในใจว่า “นี่เราจะมีเงินซื้อขนมกินมั้ยเนี่ย”
⏰ เวลาทำงาน & กะ
กะเช้า: 07.30–16.30
กะบ่าย: 11.00–20.30
ต้องมาก่อนเวลาเพื่อประชุม/นับเงิน
พักกลางวัน 1 ชม. แต่บางวันลูกค้าเยอะ → ต้องยืดเวลา
วันไหนพักแค่ 45 นาที…กินข้าวกับเครื่องคิดเงินไปพร้อมกัน 😅 แบบว่า multitasking สุดๆ
🛒 หน้าที่หลัก
คิดเงิน + ออกบิล + ตรวจเงิน
แนะนำบัตรสมาชิก/บัตรเครดิตให้ลูกค้า (สำเร็จได้ incentive)
หาของ/ของแถมให้ลูกค้า
งานเสริม: จัดของเล็กๆ น้อยๆ, เวียนเครื่อง POS
เหมือนเล่นเกม “หาสมบัติในห้าง” ตลอดเวลา 😆
💻 ระบบ & เครื่องมือ
เครื่อง POS บางวันช้า/ค้าง → ลูกค้ารอ → เราต้องยิ้มสู้
วันไหนระบบล่ม เราอยากกรี๊ด แต่ก็ได้ฝึกความอดทนขั้นเทพ
บางทีแอบพึมพำ “เอ้า…อีกแล้วเหรอ โอเคใจเย็นๆ”
🧑🏻🤝🧑🏻 เพื่อนร่วมงาน & บรรยากาศ
ทีมเราโอเคมาก คอยช่วยสอนงาน
เจอคนบางคนพูดตรงๆ จนเรากดดัน → ถือเป็นบทเรียนเรื่อง “การทำงานกับคนหลายประเภท”
ลูกค้า/ระบบล่มบางทีก็หัวหมุน
บางวันเหมือนอยู่ในละครเวที “ลูกค้าร้อง เราร้อง เครื่องค้าง เรากรี๊ด”
📱 กฎระเบียบที่ต้องรู้
ไม่สามารถพกมือถือลงเคาน์เตอร์
ลาป่วยต้องมีใบรับรองแพทย์
ชดเชยวันหยุดถ้ายังไม่ผ่านโปร → ประสบการณ์จำขึ้นใจ
ตอนนั้นเราต้องลาไปรับปริญญาที่กรุงเทพ แต่ยังไม่ผ่านโปร เลยต้องชดเชยวันหยุดแทน…เกือบสองเดือนแทบไม่ได้หยุดเลย 😅
บางวันรู้สึกชีวิตวนอยู่แค่ระหว่างเคาน์เตอร์กับเตียง 🛏️
🌊 เหตุการณ์พิเศษ: น้ำท่วม
บางช่วงน้ำท่วมหนัก → ต้องเข้าเวรปกติ แต่บ้านเราโดนน้ำ 😭
รู้สึกเหมือนอยู่ในเกม RPG ที่ต้องลุยน้ำเก็บคะแนน สกิลชีวิต +10 💪
❌ เหตุผลลาออก
อยากเปลี่ยนสายงานไปเป็น ครู (ตรงกับที่เรียนมา)
งานหนัก ความเหนื่อยไม่บาลานซ์กับเงินเดือน
เรื่องชดเชยวันหยุด + น้ำท่วม → ตัดสินใจลาออก
ไม่ใช่เพราะเราขี้เกียจนะคะ แต่เพราะงานมันหนักกว่าที่เงินเดือนบอก 😅
แต่เราก็ยังว่างงานมาจะ1ปีแล้วค่ะแหะๆมาพักผ่อนให้แฟนเลี้ยงก่อนเริ่มงานใหม่ฮึบฮึบ
🏁 สรุป
งานแคชเชียร์ที่โกลบอลเฮ้าส์ เหนื่อยจริง แต่คุ้มค่า
ฝึกความอดทน, ความรอบคอบ, การทำงานร่วมกับคนหลายประเภท
ได้ประสบการณ์จริงกับลูกค้า, ระบบงาน, และเพื่อนร่วมทีม
ใครกำลังสนใจงานแนวบริการ เตรียมใจเรื่องกะหนักหน่อย แต่รับรองประสบการณ์เต็มๆ แน่นอน!
👩💻 ท้ายสุด: โพสต์นี้เล่าจากมุมเราเอง ไม่ได้มีเจตนาโจมตีบริษัทหรือเพื่อนร่วมงานนะคะ
ใครเคยทำงานแนวนี้หรือเจอสถานการณ์แบบเดียวกัน มาแชร์กันได้นะคะ 😆
ปล.นี่เป็นฉบับที่AIช่วยกรองเพื่อป้องกันการโดนเอาผิดได้ค่ะถ้าเป็นฉบับจริงมีหวังโดนฟ้องแน่ๆถถถถ