คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ผมว่ามันก็อยู่ที่ตัวผู้ปฏิบัตินะครับว่าจะเลือกแนวทางไหน
ถ้า "ไหว" ก็ตึงไปเลยครับ ลำบากก็แค่ช่วงแรกๆ พอผ่านไป 4-5 วันก็เริ่มปรับตัวได้แล้วครับ(ปกติผมสมาทานธุดงควัตรข้อกินอาสนะเดียวอยู่บ่อยๆครับ ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ แต่อันนี้คือผมรู้ตัวว่าผมไหวไงครับ)
แต่ถ้า "ไม่ไหว" ทำแล้วมันทุกข์มันยาก ท้อแท้ทรมานหรือวุ่นวายจนเกินเหตุ ก็ลดระดับรองๆลงมาก็ได้ครับ เอาที่มันสอดคล้องกับชีวิตประจำวันของเราก็ได้ ส่วนเรื่องศีลถ้าบางข้อเราทำไมได้จริงๆก็ลดหย่อนลงมาซักข้อสองข้อผมว่าก็ไม่น่าจะเป็นปัญหานะตราบใดที่มันไม่น้อยซะจนทะลุไปต่ำกว่ากรรมกิเลส 4
ผมว่าของแบบนี้ฟรีสไตล์(แต่ต้องอยู่ในกรอบ)น่าจะดีกว่าไปล๊อคสเปคนะครับ เพราะแต่ละคนยืนอยู่บนเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกันครับ
ถ้า "ไหว" ก็ตึงไปเลยครับ ลำบากก็แค่ช่วงแรกๆ พอผ่านไป 4-5 วันก็เริ่มปรับตัวได้แล้วครับ(ปกติผมสมาทานธุดงควัตรข้อกินอาสนะเดียวอยู่บ่อยๆครับ ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ แต่อันนี้คือผมรู้ตัวว่าผมไหวไงครับ)
แต่ถ้า "ไม่ไหว" ทำแล้วมันทุกข์มันยาก ท้อแท้ทรมานหรือวุ่นวายจนเกินเหตุ ก็ลดระดับรองๆลงมาก็ได้ครับ เอาที่มันสอดคล้องกับชีวิตประจำวันของเราก็ได้ ส่วนเรื่องศีลถ้าบางข้อเราทำไมได้จริงๆก็ลดหย่อนลงมาซักข้อสองข้อผมว่าก็ไม่น่าจะเป็นปัญหานะตราบใดที่มันไม่น้อยซะจนทะลุไปต่ำกว่ากรรมกิเลส 4
ผมว่าของแบบนี้ฟรีสไตล์(แต่ต้องอยู่ในกรอบ)น่าจะดีกว่าไปล๊อคสเปคนะครับ เพราะแต่ละคนยืนอยู่บนเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกันครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากให้ผู้รู้ช่วยกันหาข้อสรุปเรื่องศีล 8 ในข้อ "วิกาลโภชนา..." ครับ
ความคิดเห็นต่างๆผมสรุปได้เป็น 3 แนวทาง
1. เที่ยงวันแล้วต้องงดเว้นอย่างเด็ดขาด พอเที่ยงปุ๊ปแม้จะยังกินไม่เสร็จก็ต้องวางช้อนทันที
2. เที่ยงวันแล้วจะเริ่มมื้ออาหารไม่ได้อีก แต่ถ้ากำลังกินอยู่ ก็กินต่อจนเสร็จได้
3. เที่ยงวันแล้วยังเริ่มมื้อเที่ยงได้อยู่ แต่ต้องไม่เกินเวลา (เท่าไหร่ดี?)
ซี่งแน่นอนว่าแบบที่ 1 นั้นปลอดภัยต่อศีลที่สุด แต่ไม่ยืดหยุ่นเอาซะเลย จนหลายๆคนอาจ
ท้อใจได้ ส่วนแบบ 2-3 ดูยืดหยุ่นดีก็จริง แต่ผมยังไม่เจอหลักฐานสนับสนุนว่าทำได้ ซึ่งถ้า
หากท้ายที่สุดมันผิด ศีลก็ขาด ไม่คุ้มกัน
ดังนั้นจึงอยากให้ช่วยกันหาข้อสรุป รวมถึงเหตุผลสนับสนุน/หักล้างต่างๆด้วยครับ เพื่อจะได้
ทราบว่าแนวทางไหนที่ไม่ทำให้ศีลขาด