สืบเนื่องจากกรณี “ลี ชอง เหว่ย” นักแบดมินตันมืออันดับ 1 ของโลกชาวมาเลเซียน วัย 32 น่าจะเป็นนักกีฬา “ชั้นนำ” ของมาเลเซีย ที่ถูกตรวจพบสารกระตุ้น ในการสุ่มตรวจโด๊ประหว่างการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก ค.ศ.2014 ที่กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา
สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานสอดคล้องกันว่า ทันทีที่สื่อมวลชนของมาเลเซียระบุชื่อ “ลี ชอง เหว่ย” ออกมาโดยตรงว่า น่าจะเป็นนักกีฬา “ชั้นนำ” ที่ถูกตรวจโด๊ปพบแล้ว ปรากฏว่า สื่อออนไลน์ในมาเลเซียไม่ว่าจะเป็นเวบไซต์, เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม ฯลฯ ล้วนแต่มีการกล่าวขานถึง “เทพลี” ซึ่งเป็นนักกีฬาขวัญใจของมาเลเซียทั้งชาติอย่างแพร่หลาย ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด ต่างพากัน “ช็อก” กับข่าวดังกล่าว จึงพากันแสดงความคิดเห็นในท่วงทำนองของการเสียใจ ผิดหวัง และเศร้าโศกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ กับนักกีฬาขวัญใจประชาชนเช่นนี้
สำนักข่าว “เบอร์นาม่า” ของมาเลเซียรายงานว่า นายไคห์รี่ จามาลุดดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬา ได้แจ้งกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า จะเป็นผู้รับผิดชอบในการแถลงข่าวกรณีนี้ ด้วยตนเองเพียงคนเดียวเท่านั้น และมีการเตรียมพร้อมสำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้แล้ว
นอกจาก รัฐมนตรีกีฬามาเลเซียยังได้ประกาศแต่งตั้งคณะทำงานติดตามความคืบหน้าและจข้อเท็จจริงของกรณีนี้ 2 คน คือ ดะตุ๊ก ดร.รัมลัน อับดุล อาซีส ผู้อำนวยการสถาบันกีฬาแห่งชาติ และ นีเชล กุมาร ผู้อำนวยการสถาบันการตรวจสารกระตุ้นแห่งชาติ (วาด้าแห่งมาเลเซีย) โดยมีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการทุกอย่าง ในนามกระทรวงเยาวชนและกีฬา หรือรัฐบาลมาลเซียอย่างเป็นทางการ ทั้งในและนอกประเทศ
นีเชล กุมาร ผู้อำนวยการวาด้าแห่งมาเลเซียให้สัมภาษณ์ “เบอร์นาม่า” ว่า ได้รับแจ้งจากสหพันธ์กีฬานานาชาติผู้รับผิดชอบ ด้วยจดหมายเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 และได้แจ้งนักกีฬา “ผู้ถูกกล่าวหา” ดังกล่าวทันที นักกีฬาคนนั้น ถึงกับช็อกและความตกใจ หลังจากนั้น ก็มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อผู้เกี่ยวข้องของสมาคมกีฬาต้นสังกัด ที่อยู่ในระหว่างการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 “อินชอนเกมส์” ที่เมืองอินชอน เกาหลีใต้อีกด้วย
“หลังจากนั้น นักกีฬาก็ยืนยันว่า จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยการตรวจตัวอย่าง บี เป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยมีเงื่อนไขว่า ขอมีส่วนร่วมการเปิดตัวอย่างที่จะทำการตรวจซ้ำ เพื่อให้เห็นกับตาว่า ไม่มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น และจะรอผลการตรวจครั้งสุดท้ายตามระเบียบต่อไป” นีเชลกล่าว
ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็ได้ตรวจสอบความถูกต้องของข่าวนี้ จากผู้บริหารและผู้รับผิดชอบองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จนมีการยืนยันจาก ดะตุ๊ก เชียห์ ก็อก ชีห์ เลขาธิการสภาโอลิมปิกแห่งมาเลเซีย และผู้บริหารระดับสูงของสมาคมแบดมินตันแห่งมาเลเซีย ฯลฯ ว่า ทุกอย่างเป็นความจริง แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดมากไปกว่านี้ ขณะที่ สื่อมวลชนทุกสำนักรายงานตรงกันว่า ตลอดวันที่ 22 ตุลาคม 2557 ก็ยังไม่สามารถติดต่อรัฐมนตรีกีฬาและ “เทพลี” ได้เลย
ทางด้าน หนังสือพิมพ์ “ไชน่า นิวส์” ของสาธารณรัฐประชาชนจีนรายงานเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2557 ว่า สมาคมแบดมินตันแห่งมาเลเซียยอมรับว่า “เทพลี” ถูกตรวจพบการใช้สารกระตุ้น ในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก ค.ศ.2014 และมีแนวโน้มว่า จะถูกลงโทษห้ามแข่งขันทั่วโลก เป็นเวลา 2 ปี ตามบรรทัดฐานของสหพันธ์แบดมินตันโลกที่ผ่านมา
“ไชน่า นิวส์” รายงานว่า หาก “เทพลี” ถูกลงโทษดังกล่าวจริง ก็เท่ากับว่า “เทพลี” หมดสิทธิแข่งขันแบดมินตันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 31 ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ของบราซิลใน ค.ศ.2016 แน่นอน
นอกจากนี้ “ไชน่า นิวส์” ยังรายงานว่า “เทพลี” เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยว ผู้ครองตำแหน่งมืออันดับ 1 ของโลกติดต่อกันอย่างยาวนานที่สุด เป็นเวลา 8 ปี นับตั้งแต่ค.ศ.2006 จนถึงปัจจุบัน และเป็นนักแบดมินตันต่างชาติคนเดียว ที่มีแฟนคลับนับล้านคนในจีนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย.
อนาตคเทพในตำนานคงจะจบแล้วละคับ เทพลีจอโดนแบน 2 ปี ปิดอนาตคที่จะคว้า เหรียญทองที่ ริโอ 2016
สืบเนื่องจากกรณี “ลี ชอง เหว่ย” นักแบดมินตันมืออันดับ 1 ของโลกชาวมาเลเซียน วัย 32 น่าจะเป็นนักกีฬา “ชั้นนำ” ของมาเลเซีย ที่ถูกตรวจพบสารกระตุ้น ในการสุ่มตรวจโด๊ประหว่างการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก ค.ศ.2014 ที่กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา
สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานสอดคล้องกันว่า ทันทีที่สื่อมวลชนของมาเลเซียระบุชื่อ “ลี ชอง เหว่ย” ออกมาโดยตรงว่า น่าจะเป็นนักกีฬา “ชั้นนำ” ที่ถูกตรวจโด๊ปพบแล้ว ปรากฏว่า สื่อออนไลน์ในมาเลเซียไม่ว่าจะเป็นเวบไซต์, เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม ฯลฯ ล้วนแต่มีการกล่าวขานถึง “เทพลี” ซึ่งเป็นนักกีฬาขวัญใจของมาเลเซียทั้งชาติอย่างแพร่หลาย ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด ต่างพากัน “ช็อก” กับข่าวดังกล่าว จึงพากันแสดงความคิดเห็นในท่วงทำนองของการเสียใจ ผิดหวัง และเศร้าโศกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ กับนักกีฬาขวัญใจประชาชนเช่นนี้
สำนักข่าว “เบอร์นาม่า” ของมาเลเซียรายงานว่า นายไคห์รี่ จามาลุดดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬา ได้แจ้งกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า จะเป็นผู้รับผิดชอบในการแถลงข่าวกรณีนี้ ด้วยตนเองเพียงคนเดียวเท่านั้น และมีการเตรียมพร้อมสำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้แล้ว
นอกจาก รัฐมนตรีกีฬามาเลเซียยังได้ประกาศแต่งตั้งคณะทำงานติดตามความคืบหน้าและจข้อเท็จจริงของกรณีนี้ 2 คน คือ ดะตุ๊ก ดร.รัมลัน อับดุล อาซีส ผู้อำนวยการสถาบันกีฬาแห่งชาติ และ นีเชล กุมาร ผู้อำนวยการสถาบันการตรวจสารกระตุ้นแห่งชาติ (วาด้าแห่งมาเลเซีย) โดยมีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการทุกอย่าง ในนามกระทรวงเยาวชนและกีฬา หรือรัฐบาลมาลเซียอย่างเป็นทางการ ทั้งในและนอกประเทศ
นีเชล กุมาร ผู้อำนวยการวาด้าแห่งมาเลเซียให้สัมภาษณ์ “เบอร์นาม่า” ว่า ได้รับแจ้งจากสหพันธ์กีฬานานาชาติผู้รับผิดชอบ ด้วยจดหมายเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 และได้แจ้งนักกีฬา “ผู้ถูกกล่าวหา” ดังกล่าวทันที นักกีฬาคนนั้น ถึงกับช็อกและความตกใจ หลังจากนั้น ก็มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อผู้เกี่ยวข้องของสมาคมกีฬาต้นสังกัด ที่อยู่ในระหว่างการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 “อินชอนเกมส์” ที่เมืองอินชอน เกาหลีใต้อีกด้วย
“หลังจากนั้น นักกีฬาก็ยืนยันว่า จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยการตรวจตัวอย่าง บี เป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยมีเงื่อนไขว่า ขอมีส่วนร่วมการเปิดตัวอย่างที่จะทำการตรวจซ้ำ เพื่อให้เห็นกับตาว่า ไม่มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น และจะรอผลการตรวจครั้งสุดท้ายตามระเบียบต่อไป” นีเชลกล่าว
ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็ได้ตรวจสอบความถูกต้องของข่าวนี้ จากผู้บริหารและผู้รับผิดชอบองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จนมีการยืนยันจาก ดะตุ๊ก เชียห์ ก็อก ชีห์ เลขาธิการสภาโอลิมปิกแห่งมาเลเซีย และผู้บริหารระดับสูงของสมาคมแบดมินตันแห่งมาเลเซีย ฯลฯ ว่า ทุกอย่างเป็นความจริง แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดมากไปกว่านี้ ขณะที่ สื่อมวลชนทุกสำนักรายงานตรงกันว่า ตลอดวันที่ 22 ตุลาคม 2557 ก็ยังไม่สามารถติดต่อรัฐมนตรีกีฬาและ “เทพลี” ได้เลย
ทางด้าน หนังสือพิมพ์ “ไชน่า นิวส์” ของสาธารณรัฐประชาชนจีนรายงานเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2557 ว่า สมาคมแบดมินตันแห่งมาเลเซียยอมรับว่า “เทพลี” ถูกตรวจพบการใช้สารกระตุ้น ในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก ค.ศ.2014 และมีแนวโน้มว่า จะถูกลงโทษห้ามแข่งขันทั่วโลก เป็นเวลา 2 ปี ตามบรรทัดฐานของสหพันธ์แบดมินตันโลกที่ผ่านมา
“ไชน่า นิวส์” รายงานว่า หาก “เทพลี” ถูกลงโทษดังกล่าวจริง ก็เท่ากับว่า “เทพลี” หมดสิทธิแข่งขันแบดมินตันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 31 ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ของบราซิลใน ค.ศ.2016 แน่นอน
นอกจากนี้ “ไชน่า นิวส์” ยังรายงานว่า “เทพลี” เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยว ผู้ครองตำแหน่งมืออันดับ 1 ของโลกติดต่อกันอย่างยาวนานที่สุด เป็นเวลา 8 ปี นับตั้งแต่ค.ศ.2006 จนถึงปัจจุบัน และเป็นนักแบดมินตันต่างชาติคนเดียว ที่มีแฟนคลับนับล้านคนในจีนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย.