*ขอเริ่มเรื่องก่อนนะคะ จขกท ไม่ได้เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์แต่เพื่อนเป็นผู้โดยสาร เล่าให้ จขกท ฟัง เราก็บอกว่าน่าจะมาตั้งกระทู้ เพราะเหตุการณ์ออกจะคล้ายๆ กระทู้ฮิตมนุษย์ลุงที่สนามบินนครศรี เพื่อนตั้งกระทู้ไม่เป็นเลยให้เราตั้งกระทู้ โดยที่สไกปคุยรายละเอียด และก่อนตั้งกระทู้เราพิมพ์ไปให้เพื่อนอ่านก่อนว่าถูกต้องไหมนะคะ
นี่คือตั๋วแสดงให้เห็นว่าอยู่ในเหตุการณ์จริง
ตามตั๋วเพื่อนเราจะต้องนั่ง 49D แต่มีคนในกรุ๊ปที่ไปด้วยกันขอเปลี่ยน เพื่อนเราจึงนั่ง 50 B ส่วนผู้ชายนั่งตรงสีน้ำเงินค่ะ
เหตุการณ์คือ หลังจากปิดประตูเครื่อง กำลัง push back ไปที่รันเวย์ เตรียมบิน แอร์เดินตรวจความเรียบร้อย
อยู่ๆก็มีเสียงผู้ชายพูดคำว่า NO เสียงแข็ง และดัง แหวกความเงียบขึ้นมา
เพื่อนเราก็หันไปดู เจอผู้ชายผิวขาวหน้าออกจีนๆอวบหน่อย ตอนแรกคิดว่าเป็นคนจีนเพราะไฟล์ทนี้ทัวร์จีนเยอะมาก
แล้วก็ได้ความว่าแอร์บอกว่าให้เอากระเป๋าวางไว้ใต้เก้าอี้ข้างหน้า ตามกฎความปลอดภัย
ผู้ชายก็ไม่ยอม NO NO NO อย่างเดียว แอร์ก็เลยต้องไปตามเพเซอร์มา (เพื่อนเราคิดว่าใช่นะเพราะเห็นแต่งตัวไม่เหมือนคนอื่น) เพื่อนเราได้ยินแต่เสียงผู้ชายนะ เพราะแอร์พูดเบา แล้วทำไมถึงรู้ว่าแอร์พูดว่าอะไร ก็เพราะเพื่อนเราไปเที่ยวกันกรุ๊ปใหญ่มีเพื่อนในกรุ๊ปนั่งใกล้ๆผู้ชายคนนั้น
เพเซอร์เป็นคนไทยก็มาคุย
เพื่อนเราก็ได้ยินแต่เสียงผู้ชาย พูดว่า ไม่ ก็บอกว่า ไม่ ไม่ ไม่ เสียงแข็งและดังมาก ผมเดินทางมาหลายร้อยเที่ยว ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกับกระเป๋า แล้วก็ ไม่ๆๆๆ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ยอมท่าเดียว (ทีนี้รู้แล้วว่าเป็นคนไทย และเพเซอร์ก็เป็นคนไทย)
[นี่คือเพื่อนในกรุ๊ปเล่าให้ฟัง ว่าผู้ชายคนนั้นบอกเหตุผลว่าทำไมถึงเอากระเป๋าไว้ใต้ที่นั่งไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่องเท่าไร แอร์ต่างชาติเลยไปตามหัวหน้าแอร์คนไทย ผู้ชายก็บอกว่า มีพระจะไว้กับพื้นได้ยังไง เพเซอร์ก็บอกว่าให้ไว้ข้างบนที่เก็บของ ผู้ชายก็ไม่ยอมท่าเดียว]
คราวนี้แอร์ก็เดินกันวุ่นเลย เพเซอร์ก็เดินไปโทรศัพท์ คาดว่าน่าจะโทรไปหากัปตัน แล้วเครื่องก็หยุดสนิท ระหว่างที่แอร์คงไปหาวิธีจัดการ ผู้หญิงคนที่นั่งข้างหน้าผู้ชายคนนั้นก็มาช่วยแก้ไขสถาณะการณ์ บอกผู้ชายคนนั้นว่า เป็นข้อกำหนดของแต่ละสายการบินนะ มันไม่เหมือนกัน ถ้าตั้งกระเป๋าไว้บนตักจะขวาง เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินคนที่นั่งข้างๆพี่ จะลุกออกมาลำบาก ( เพื่อนไปสอบถามเหตุการณ์เพิ่มเติมจากผู้หญิงคนนั้น ภายหลัง)
แต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่ยอมจนผู้หญิง ต้องพูดอีกโน้มน้าวอีกว่า ถ้างั้นพี่ไม่วางข้างล่าง พี่ก็ใส่ที่เก็บของข้างบนสัก 5 นาที รอให้เครื่องขึ้นให้เรียบร้อย แล้วค่อยเอาออกมาวางไว้ที่ตัก
ในที่สุดผู้ชายก็ยอม แต่เรื่องยังไม่จบ ผู้ชายก็โมโหทำกระแทก-ดันเปิดที่เก็บของแรง จนเกือบโดนหน้าแอร์ต่างชาติ จนเหมือนแอร์จะเอาเรื่อง แต่เพเซอร์รีบพาเดินออกไปจากตรงนั้น และคาดว่าคงเพเซอร์คงโทรไปบอกกัปตันว่าเรียบร้อยแล้ว
ในที่สุดสักพัก เครื่องก็เคลื่อนไป เหตุการณ์ทั้งหมด อาจจะเป็นแค่ระยะเวลา 5-10 นาที เท่านั้น แต่ถ้าเรื่องมันไม่จบด้วยดีแบบนี้ล่ะคะ
ถ้าเกิดแอร์เอาเรื่อง แจ้งพฤติกรรมว่าผู้โดยสารก้าวร้าว และเชิญออกจากเครื่อง คนอีกเท่าไรต้องเสียเวลา เพราะพฤติกรรมไม่เคารพกฎ
#กระเป๋าใบไม่ใหญ่นะคะ เป็นแบบกระเป๋าของผู้ชายสะพายข้าง ใบเล็กกว่ากระเป๋าถือผู้หญิงบางคนด้วยซ้ำ
## มีหลายคนที่ตอนแรกวางกระเป๋าวางไว้บนตัก แต่แอร์ก็เดินมาบอก ให้วางใต้ที่นั่ง หรือเก็บขึ้นข้างบน ทุกคนก็ไม่มีปัญหา นอกจากผู้ชายคนนั้น
###รู้ทีหลังทราบว่า ผู้ชายคนนี้มากับลูกสาวและญาติๆ ญาติๆก็ไม่ทำอะไร ลูกสาวก็นั่งข้างๆไม่อายลูกหรืออย่างไร ว่าพ่อมีพฤติกรรมไม่เคารพกฎระเบียบแบบนี้
สรุป นิสัยว่าเคยทำได้ บินมาเป็นร้อยๆเที่ยวไม่เคยมีปัญหา นี่ช่างน่าอายชะมัด คุณไม่อายบ้างหรือ ถ้าจะทำให้ผู้โดยสารอีกเท่าไรเสียเวลา ถ้าเกิดถูกอันเชิญลงจากเครื่องที่ฮ่องกง คงได้เป็นที่กล่าวถึงไปอีกนาน คนไทยหลายคนชอบว่า มารยาทของทัวร์จีน ก็ต้องทำตัวให้ดีกว่าเขาด้วย เพราะว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
เมื่อผู้โดยสารคนหนึ่งในไฟลท์CX703 ฮ่องกง – กรุงเทพ ไม่ยอมรับกฎระเบียบจนเกือบมีเรื่องมีราวบานปลาย
นี่คือตั๋วแสดงให้เห็นว่าอยู่ในเหตุการณ์จริง
ตามตั๋วเพื่อนเราจะต้องนั่ง 49D แต่มีคนในกรุ๊ปที่ไปด้วยกันขอเปลี่ยน เพื่อนเราจึงนั่ง 50 B ส่วนผู้ชายนั่งตรงสีน้ำเงินค่ะ
เหตุการณ์คือ หลังจากปิดประตูเครื่อง กำลัง push back ไปที่รันเวย์ เตรียมบิน แอร์เดินตรวจความเรียบร้อย
อยู่ๆก็มีเสียงผู้ชายพูดคำว่า NO เสียงแข็ง และดัง แหวกความเงียบขึ้นมา
เพื่อนเราก็หันไปดู เจอผู้ชายผิวขาวหน้าออกจีนๆอวบหน่อย ตอนแรกคิดว่าเป็นคนจีนเพราะไฟล์ทนี้ทัวร์จีนเยอะมาก
แล้วก็ได้ความว่าแอร์บอกว่าให้เอากระเป๋าวางไว้ใต้เก้าอี้ข้างหน้า ตามกฎความปลอดภัย ผู้ชายก็ไม่ยอม NO NO NO อย่างเดียว แอร์ก็เลยต้องไปตามเพเซอร์มา (เพื่อนเราคิดว่าใช่นะเพราะเห็นแต่งตัวไม่เหมือนคนอื่น) เพื่อนเราได้ยินแต่เสียงผู้ชายนะ เพราะแอร์พูดเบา แล้วทำไมถึงรู้ว่าแอร์พูดว่าอะไร ก็เพราะเพื่อนเราไปเที่ยวกันกรุ๊ปใหญ่มีเพื่อนในกรุ๊ปนั่งใกล้ๆผู้ชายคนนั้น
เพเซอร์เป็นคนไทยก็มาคุย เพื่อนเราก็ได้ยินแต่เสียงผู้ชาย พูดว่า ไม่ ก็บอกว่า ไม่ ไม่ ไม่ เสียงแข็งและดังมาก ผมเดินทางมาหลายร้อยเที่ยว ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกับกระเป๋า แล้วก็ ไม่ๆๆๆ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ยอมท่าเดียว (ทีนี้รู้แล้วว่าเป็นคนไทย และเพเซอร์ก็เป็นคนไทย)
[นี่คือเพื่อนในกรุ๊ปเล่าให้ฟัง ว่าผู้ชายคนนั้นบอกเหตุผลว่าทำไมถึงเอากระเป๋าไว้ใต้ที่นั่งไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่องเท่าไร แอร์ต่างชาติเลยไปตามหัวหน้าแอร์คนไทย ผู้ชายก็บอกว่า มีพระจะไว้กับพื้นได้ยังไง เพเซอร์ก็บอกว่าให้ไว้ข้างบนที่เก็บของ ผู้ชายก็ไม่ยอมท่าเดียว]
คราวนี้แอร์ก็เดินกันวุ่นเลย เพเซอร์ก็เดินไปโทรศัพท์ คาดว่าน่าจะโทรไปหากัปตัน แล้วเครื่องก็หยุดสนิท ระหว่างที่แอร์คงไปหาวิธีจัดการ ผู้หญิงคนที่นั่งข้างหน้าผู้ชายคนนั้นก็มาช่วยแก้ไขสถาณะการณ์ บอกผู้ชายคนนั้นว่า เป็นข้อกำหนดของแต่ละสายการบินนะ มันไม่เหมือนกัน ถ้าตั้งกระเป๋าไว้บนตักจะขวาง เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินคนที่นั่งข้างๆพี่ จะลุกออกมาลำบาก ( เพื่อนไปสอบถามเหตุการณ์เพิ่มเติมจากผู้หญิงคนนั้น ภายหลัง)
แต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่ยอมจนผู้หญิง ต้องพูดอีกโน้มน้าวอีกว่า ถ้างั้นพี่ไม่วางข้างล่าง พี่ก็ใส่ที่เก็บของข้างบนสัก 5 นาที รอให้เครื่องขึ้นให้เรียบร้อย แล้วค่อยเอาออกมาวางไว้ที่ตัก
ในที่สุดผู้ชายก็ยอม แต่เรื่องยังไม่จบ ผู้ชายก็โมโหทำกระแทก-ดันเปิดที่เก็บของแรง จนเกือบโดนหน้าแอร์ต่างชาติ จนเหมือนแอร์จะเอาเรื่อง แต่เพเซอร์รีบพาเดินออกไปจากตรงนั้น และคาดว่าคงเพเซอร์คงโทรไปบอกกัปตันว่าเรียบร้อยแล้ว
ในที่สุดสักพัก เครื่องก็เคลื่อนไป เหตุการณ์ทั้งหมด อาจจะเป็นแค่ระยะเวลา 5-10 นาที เท่านั้น แต่ถ้าเรื่องมันไม่จบด้วยดีแบบนี้ล่ะคะ
ถ้าเกิดแอร์เอาเรื่อง แจ้งพฤติกรรมว่าผู้โดยสารก้าวร้าว และเชิญออกจากเครื่อง คนอีกเท่าไรต้องเสียเวลา เพราะพฤติกรรมไม่เคารพกฎ
#กระเป๋าใบไม่ใหญ่นะคะ เป็นแบบกระเป๋าของผู้ชายสะพายข้าง ใบเล็กกว่ากระเป๋าถือผู้หญิงบางคนด้วยซ้ำ
## มีหลายคนที่ตอนแรกวางกระเป๋าวางไว้บนตัก แต่แอร์ก็เดินมาบอก ให้วางใต้ที่นั่ง หรือเก็บขึ้นข้างบน ทุกคนก็ไม่มีปัญหา นอกจากผู้ชายคนนั้น
###รู้ทีหลังทราบว่า ผู้ชายคนนี้มากับลูกสาวและญาติๆ ญาติๆก็ไม่ทำอะไร ลูกสาวก็นั่งข้างๆไม่อายลูกหรืออย่างไร ว่าพ่อมีพฤติกรรมไม่เคารพกฎระเบียบแบบนี้
สรุป นิสัยว่าเคยทำได้ บินมาเป็นร้อยๆเที่ยวไม่เคยมีปัญหา นี่ช่างน่าอายชะมัด คุณไม่อายบ้างหรือ ถ้าจะทำให้ผู้โดยสารอีกเท่าไรเสียเวลา ถ้าเกิดถูกอันเชิญลงจากเครื่องที่ฮ่องกง คงได้เป็นที่กล่าวถึงไปอีกนาน คนไทยหลายคนชอบว่า มารยาทของทัวร์จีน ก็ต้องทำตัวให้ดีกว่าเขาด้วย เพราะว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง