ไม่ทราบจะใช้คำคุณศัพท์ใดที่เหมาะสมกับหัวข้อกระทู้ เพราะเรื่องที่มะระฝันเห็นพระองค์ท่านนี่จะเรียกได้ว่าแปลกหรือไม่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะ คืออาจมีคนอื่นเคยฝันถึงพระองค์ท่านแบบแปลก ๆ มากกว่านี้ก็เป็นได้
ต้องเริ่มด้วยการเล่าปูพื้นแบบสรุปรวบยอดก่อนว่า มะระเพิ่งเลี้ยงและรักสุนัขเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมานี่เอง เริ่มจากรักหมาของตัวเองก่อน แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ แล้วได้เห็นถึงความแตกต่างของชีวิตระหว่างหมาบ้านกับหมาจร จึงได้เริ่มเผื่อแผ่รักไปทั่วนับจากนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ 10 กว่าปีมาแล้ว
เช้าวันจันทร์วันหนึ่งในเดือนมิถุนายน ปี 2544 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง มะระกำลังนั่งเพลียทั้งกายและใจกับชีวิตอยู่ที่โต๊ะทำงานที่ออฟฟิศ รู้สึกเซ็ง ๆ ว่าจะมีใครฉลองวันเกิดตัวเองด้วยการตื่นตี 3.30 เพื่อพาหมาจรโดนรถเหยียบไปส่งโรงพยาบาลสัตว์เหมือนเรามั่งมั้ยว๊า ... คืออิหมาดำนัวร์ (ตั้งชื่อให้มันอย่างหรูเชียว นัวร์ Noir ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า สีดำ) ตัวที่ว่านี่ มะระเจอที่โรงพยาบาลสัตว์จุฬาฯ ในวันอาทิตย์ เนื่องจากว่าพาหมาวัดแถวบ้านที่ดูแลอยู่และโดนรถชนไปหาหมอ แล้วไปเจอคนขับแท็กซี่พาเจ้าดำนัวร์ตัวนี้ที่โดนรถเหยียบเหมือนกันมารักษา เลยรับอาสาจากพี่โชเฟอร์ใจดีรับดำนัวร์กลับมาอยู่วัด 1 คืน (อาการเจ้าดำนัวร์ตอนนั้นคือเดินไม่ได้) เพื่อที่เช้าวันรุ่งขึ้นคือวันจันทร์จะได้รีบขับรถจากวัดแถวบางแค แซะอิดำนัวร์จากซอกแคบ ๆ ในห้องเก็บของรกร้างที่วัดไปส่งที่โรงพยาบาลสัตว์เอกชนในซอยทองหล่อที่เปิด 24 ชั่วโมงเพื่อรักษา แล้วขับกลับมาที่ออฟฟิศที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้ทันก่อนที่รถจะติดสาหัสในช่วงเช้า
เสร็จธุระส่งดำนัวร์ที่รพส. และมาถึงที่ทำงานเวลาประมาณ 6.30 น. กำลังนั่งง่วง ๆ เพลีย ๆ เพราะตื่นเช้ากว่าเวลาปกติอยู่ที่โต๊ะทำงาน ยังไม่มีเพื่อนร่วมงานคนใดมาถึงในเวลานั้น ความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่จำความฝันที่เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีก่อนได้ว่า ฝันเห็นพระองค์ท่าน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประทับอยู่บนพระเก้าอี้ และมีสุนัขตัวหนึ่งซึ่งรายละเอียดตรงนี้จำไม่ได้แน่นอนนะคะว่าหมอบอยู่แทบพระบาท หรือทรงอุ้มอยู่บนพระเพลา แต่น่าจะหมอบอยู่แทบพระบาทมากกว่า แล้วก็จำรายละเอียดของสุนัขไม่ได้หรอกนะคะว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะแค่ชั่วแวบเดียวเอง ในฝันนั้นพระองค์ท่านตรัสเหมือนกับตรัสกับตัวมะระแต่ไม่ได้เป็นประโยคยาว เป็นแค่วลีสั้น ๆ 2 คำ ... ลาฮีล ... อะไรประมาณนี้ เหมือนกับจะเป็นชื่อของอะไรสักอย่าง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าจะเป็นชื่อของเจ้าตัวที่เห็นในฝันนั่นละค่ะ
มะระตกใจตื่นขึ้นมาแบบงง ๆ นั่งทบทวนความฝันแล้วก็ติดใจสงสัย เพราะไม่เคยทราบ ไม่เคยมีข้อมูลมาก่อนว่าพระองค์ท่านทรงรักหรือทรงเลี้ยงสุนัขด้วย แต่ถ้าเป็นพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ละก็ เราต่างก็ทราบกันดีว่าท่านทรงเลี้ยงและรักสุนัขมาก
มะระเป็นคนที่อยากรู้อะไรก็มักจะมีเหตุ มีโอกาสให้ได้รู้ในเรื่องนั้นอยู่เนือง ๆ แต่เรื่องนี้นี่ใช้เวลาข้ามปีกันเลยทีเดียวกว่าจะได้คำตอบ
นิตยสารดิฉัน ฉบับที่ 602 วันที่ 31 มีนาคม 2545 คอลัมน์ “เรื่องไทยไทย” ผู้เขียนใช้นามปากกาว่า “วิเศษไชยศรี” คือคำตอบที่ทำให้มะระได้มีโอกาสรู้ในที่สุด
ขอคัดลอกเนื้อหาบางตอนเฉพาะที่กล่าวถึงสุนัขทรงเลี้ยงของพระองค์ท่านมาตามนี้นะคะ
... พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชอัธยาศัยโปรดสุนัขและได้ทรงเลี้ยงอยู่เสมอ นอกจากโปรดเลี้ยงสุนัขแล้วยังโปรดในการประพาสด้วย ...
... ยังมีผู้ตามเสด็จในกระบวนเสด็จอีกรายหนึ่ง นั่นคือ “หลุย” หรือที่ตรัสเรียกว่า “อ้ายหลุย” สุนัขที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงเลี้ยง หลุยเป็นสุนัขพันธุ์เทอเรียอังกฤษลูกผสมซึ่งทรงเลี้ยงมาแต่เล็ก
เมื่อเรือพระที่นั่งมหาจักรีซึ่งเป็นพระราชพาหนะในการเสด็จประพาสเกาะชวาครั้งนี้ ออกจากท่าตำหนักแพ กรุงเทพฯ วันที่ 5 พฤษภาคม 2444 พอวันที่ 13 พฤษภาคม หลุย สุนัขของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ตาย ได้ทรงบันทึกในจดหมายรายวันไว้ดังนี้
เวลาเช้าลมจัด มีลูกกลิ้งมาทางตะวันออกตลอดทั้งวัน คนอยู่ข้างจะเมากันมาก อ้ายหลุยไม่สบายมาหลายวัน มันเมาคลื่นด้วย เป็นโรคจึ๊กกึ๊กจึ๊กก้อกซึ่งเคยเป็นมาแต่เล็ก ยิ่งเมาคลื่นมากก็ยิ่งเป็นมากขึ้น ง่วงงุนมาสองสามวันแล้ว ครั้นวันนี้คลื่นมากเข้าก็เป็นมากจนหายใจไม่ได้ ลิ้นหดไม่หอบ กรอกยาเลยกัดลิ้นทลุ เวลาดึกเข้าหัวและตัวเบื้องบนร้อนตลอดจนลงปลายที่สุด หมอไรเตอรให้ดมคลอรอฟอม เวลายามเศษตาย รู้สึกเปลี่ยวเปล่าเป็นอันมาก เมื่อเวลาเย็นได้หารือกันถึงจะฝากหมอเฮส์ไว้ เพราะกลัวขึ้นไปบกจะหาย ได้บรรจุหีบมีธงช้างคลุมลงฝังในทะเลยาวาเวลา 5 ทุ่ม (สะกดอักษรตามพระราชนิพนธ์ต้นฉบับ)
กับอีกตอนหนึ่งที่สำคัญ ดังนี้
... เมื่อทรงมีลูกสุนัขเกิดใหม่จากสุนัขที่ทรงเลี้ยงอยู่ ก็ทรงแจกพระราชทานไปยังผู้ที่ทรงทราบว่าเป็นผู้รักและเลี้ยงดูอย่างจริงจัง ในบรรดาลูกหมาชุดหนึ่งนั้นมี 5 ตัว ได้โปรดพระราชทานไปยังผู้มีพระนามและนามต่อไปนี้ พร้อมทั้งพระราชทานชื่อ (สุนัข) ไปด้วย คือ
1. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ 1 ตัว ชื่อ ชีกกี้ (Shieky)
2. พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าประเวศวรสมัย 1 ตัว ชื่อ บาง
3. เจ้าจอมพิศว์ 1 ตัว ชื่อ เนล (Nail)
4. เจ้าจอมเอิบ 1 ตัว จำชื่อไม่ได้
5. เจ้าจอมเลี่ยม 1 ตัว ชื่อ ฮิคลิพ (Hiclipe)
...
มีใครเคยฝันถึงพระองค์ท่านแบบแปลก ๆ ที่ต้องหาคำตอบแบบนี้กันอีกบ้างไหมคะ
เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ อยากอ่าน
และขอคำแนะนำถึงวิธีที่พึงปฏิบัติ หากมะระจะบูชาพระองค์ท่านนอกเหนือจากการสวดบทสวดบูชาแต่เพียงสั้น ๆ ว่าควรทำอย่างไร
และขอคำแนะนำล่วงหน้าสำหรับโอกาสในวันข้างหน้า หากมะระจะได้ไปวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดประจำรัชกาลของพระองค์ท่าน เพื่อไปกราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกราบบูชาพระองค์ท่าน ว่าควรไปยังที่ใดของวัดแห่งนี้
ขอบคุณมากค่ะ
มีใครเคยฝันถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในแบบที่เป็นมากกว่าเพียงฝันเห็นพระองค์ท่านบ้างไหมคะ
ต้องเริ่มด้วยการเล่าปูพื้นแบบสรุปรวบยอดก่อนว่า มะระเพิ่งเลี้ยงและรักสุนัขเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมานี่เอง เริ่มจากรักหมาของตัวเองก่อน แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ แล้วได้เห็นถึงความแตกต่างของชีวิตระหว่างหมาบ้านกับหมาจร จึงได้เริ่มเผื่อแผ่รักไปทั่วนับจากนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ 10 กว่าปีมาแล้ว
เช้าวันจันทร์วันหนึ่งในเดือนมิถุนายน ปี 2544 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง มะระกำลังนั่งเพลียทั้งกายและใจกับชีวิตอยู่ที่โต๊ะทำงานที่ออฟฟิศ รู้สึกเซ็ง ๆ ว่าจะมีใครฉลองวันเกิดตัวเองด้วยการตื่นตี 3.30 เพื่อพาหมาจรโดนรถเหยียบไปส่งโรงพยาบาลสัตว์เหมือนเรามั่งมั้ยว๊า ... คืออิหมาดำนัวร์ (ตั้งชื่อให้มันอย่างหรูเชียว นัวร์ Noir ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า สีดำ) ตัวที่ว่านี่ มะระเจอที่โรงพยาบาลสัตว์จุฬาฯ ในวันอาทิตย์ เนื่องจากว่าพาหมาวัดแถวบ้านที่ดูแลอยู่และโดนรถชนไปหาหมอ แล้วไปเจอคนขับแท็กซี่พาเจ้าดำนัวร์ตัวนี้ที่โดนรถเหยียบเหมือนกันมารักษา เลยรับอาสาจากพี่โชเฟอร์ใจดีรับดำนัวร์กลับมาอยู่วัด 1 คืน (อาการเจ้าดำนัวร์ตอนนั้นคือเดินไม่ได้) เพื่อที่เช้าวันรุ่งขึ้นคือวันจันทร์จะได้รีบขับรถจากวัดแถวบางแค แซะอิดำนัวร์จากซอกแคบ ๆ ในห้องเก็บของรกร้างที่วัดไปส่งที่โรงพยาบาลสัตว์เอกชนในซอยทองหล่อที่เปิด 24 ชั่วโมงเพื่อรักษา แล้วขับกลับมาที่ออฟฟิศที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้ทันก่อนที่รถจะติดสาหัสในช่วงเช้า
เสร็จธุระส่งดำนัวร์ที่รพส. และมาถึงที่ทำงานเวลาประมาณ 6.30 น. กำลังนั่งง่วง ๆ เพลีย ๆ เพราะตื่นเช้ากว่าเวลาปกติอยู่ที่โต๊ะทำงาน ยังไม่มีเพื่อนร่วมงานคนใดมาถึงในเวลานั้น ความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่จำความฝันที่เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีก่อนได้ว่า ฝันเห็นพระองค์ท่าน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประทับอยู่บนพระเก้าอี้ และมีสุนัขตัวหนึ่งซึ่งรายละเอียดตรงนี้จำไม่ได้แน่นอนนะคะว่าหมอบอยู่แทบพระบาท หรือทรงอุ้มอยู่บนพระเพลา แต่น่าจะหมอบอยู่แทบพระบาทมากกว่า แล้วก็จำรายละเอียดของสุนัขไม่ได้หรอกนะคะว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะแค่ชั่วแวบเดียวเอง ในฝันนั้นพระองค์ท่านตรัสเหมือนกับตรัสกับตัวมะระแต่ไม่ได้เป็นประโยคยาว เป็นแค่วลีสั้น ๆ 2 คำ ... ลาฮีล ... อะไรประมาณนี้ เหมือนกับจะเป็นชื่อของอะไรสักอย่าง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าจะเป็นชื่อของเจ้าตัวที่เห็นในฝันนั่นละค่ะ
มะระตกใจตื่นขึ้นมาแบบงง ๆ นั่งทบทวนความฝันแล้วก็ติดใจสงสัย เพราะไม่เคยทราบ ไม่เคยมีข้อมูลมาก่อนว่าพระองค์ท่านทรงรักหรือทรงเลี้ยงสุนัขด้วย แต่ถ้าเป็นพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ละก็ เราต่างก็ทราบกันดีว่าท่านทรงเลี้ยงและรักสุนัขมาก
มะระเป็นคนที่อยากรู้อะไรก็มักจะมีเหตุ มีโอกาสให้ได้รู้ในเรื่องนั้นอยู่เนือง ๆ แต่เรื่องนี้นี่ใช้เวลาข้ามปีกันเลยทีเดียวกว่าจะได้คำตอบ
นิตยสารดิฉัน ฉบับที่ 602 วันที่ 31 มีนาคม 2545 คอลัมน์ “เรื่องไทยไทย” ผู้เขียนใช้นามปากกาว่า “วิเศษไชยศรี” คือคำตอบที่ทำให้มะระได้มีโอกาสรู้ในที่สุด
ขอคัดลอกเนื้อหาบางตอนเฉพาะที่กล่าวถึงสุนัขทรงเลี้ยงของพระองค์ท่านมาตามนี้นะคะ
... พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชอัธยาศัยโปรดสุนัขและได้ทรงเลี้ยงอยู่เสมอ นอกจากโปรดเลี้ยงสุนัขแล้วยังโปรดในการประพาสด้วย ...
... ยังมีผู้ตามเสด็จในกระบวนเสด็จอีกรายหนึ่ง นั่นคือ “หลุย” หรือที่ตรัสเรียกว่า “อ้ายหลุย” สุนัขที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงเลี้ยง หลุยเป็นสุนัขพันธุ์เทอเรียอังกฤษลูกผสมซึ่งทรงเลี้ยงมาแต่เล็ก
เมื่อเรือพระที่นั่งมหาจักรีซึ่งเป็นพระราชพาหนะในการเสด็จประพาสเกาะชวาครั้งนี้ ออกจากท่าตำหนักแพ กรุงเทพฯ วันที่ 5 พฤษภาคม 2444 พอวันที่ 13 พฤษภาคม หลุย สุนัขของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ตาย ได้ทรงบันทึกในจดหมายรายวันไว้ดังนี้
เวลาเช้าลมจัด มีลูกกลิ้งมาทางตะวันออกตลอดทั้งวัน คนอยู่ข้างจะเมากันมาก อ้ายหลุยไม่สบายมาหลายวัน มันเมาคลื่นด้วย เป็นโรคจึ๊กกึ๊กจึ๊กก้อกซึ่งเคยเป็นมาแต่เล็ก ยิ่งเมาคลื่นมากก็ยิ่งเป็นมากขึ้น ง่วงงุนมาสองสามวันแล้ว ครั้นวันนี้คลื่นมากเข้าก็เป็นมากจนหายใจไม่ได้ ลิ้นหดไม่หอบ กรอกยาเลยกัดลิ้นทลุ เวลาดึกเข้าหัวและตัวเบื้องบนร้อนตลอดจนลงปลายที่สุด หมอไรเตอรให้ดมคลอรอฟอม เวลายามเศษตาย รู้สึกเปลี่ยวเปล่าเป็นอันมาก เมื่อเวลาเย็นได้หารือกันถึงจะฝากหมอเฮส์ไว้ เพราะกลัวขึ้นไปบกจะหาย ได้บรรจุหีบมีธงช้างคลุมลงฝังในทะเลยาวาเวลา 5 ทุ่ม (สะกดอักษรตามพระราชนิพนธ์ต้นฉบับ)
กับอีกตอนหนึ่งที่สำคัญ ดังนี้
... เมื่อทรงมีลูกสุนัขเกิดใหม่จากสุนัขที่ทรงเลี้ยงอยู่ ก็ทรงแจกพระราชทานไปยังผู้ที่ทรงทราบว่าเป็นผู้รักและเลี้ยงดูอย่างจริงจัง ในบรรดาลูกหมาชุดหนึ่งนั้นมี 5 ตัว ได้โปรดพระราชทานไปยังผู้มีพระนามและนามต่อไปนี้ พร้อมทั้งพระราชทานชื่อ (สุนัข) ไปด้วย คือ
1. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ 1 ตัว ชื่อ ชีกกี้ (Shieky)
2. พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าประเวศวรสมัย 1 ตัว ชื่อ บาง
3. เจ้าจอมพิศว์ 1 ตัว ชื่อ เนล (Nail)
4. เจ้าจอมเอิบ 1 ตัว จำชื่อไม่ได้
5. เจ้าจอมเลี่ยม 1 ตัว ชื่อ ฮิคลิพ (Hiclipe)
...
มีใครเคยฝันถึงพระองค์ท่านแบบแปลก ๆ ที่ต้องหาคำตอบแบบนี้กันอีกบ้างไหมคะ
เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ อยากอ่าน
และขอคำแนะนำถึงวิธีที่พึงปฏิบัติ หากมะระจะบูชาพระองค์ท่านนอกเหนือจากการสวดบทสวดบูชาแต่เพียงสั้น ๆ ว่าควรทำอย่างไร
และขอคำแนะนำล่วงหน้าสำหรับโอกาสในวันข้างหน้า หากมะระจะได้ไปวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดประจำรัชกาลของพระองค์ท่าน เพื่อไปกราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกราบบูชาพระองค์ท่าน ว่าควรไปยังที่ใดของวัดแห่งนี้
ขอบคุณมากค่ะ