พี่ชายคนที่สามเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เซ็นชื่อพินัยกรรมยกมรดกทั้งหมดให้ผู้หญิงที่อยู่กินด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสแต่เพียงคนเดียว (ไม่มีบุตร)
โดยมีพี่ชายคนโตเราเซ็นชื่อเป็นพยาน
เราคุยว่าถ้าเป็นเจตนาของเจ้าตัว ก็ไม่มีปัญหา ถามย้ำกับพี่ชายคนโตว่าได้ถามเจ้าตัวแล้วใช่หรือเปล่า
ปรากฎว่าพี่ชายคนโตเราไม่ได้อยู่ด้วยตอนลงชื่อในพินัยกรรม และไม่มีโอกาสถามยืนยัน เนื่องจากหลังจากนั้นอาการก็ทรุดหนักและเสียชีวิตไป
มาเซ็นชื่อตามหลังไปเฉยๆ
หากเรายื่นคำร้องคัดค้าน พี่ชายคนโตเราจะมีความผิดหรือไม่ อย่างไรคะ
ที่มาที่ไป
แม้จะมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่าทำไมต้องงุบงิบทำพินัยกรรมตอนพี่ชายคนโตเราไม่อยู่ เพราะพี่ชายคนโตเราอยู่บ้านใกล้กัน เป็นคนพาไปโรงพบาบาล และไปเยี่ยมทุกวัน ช่วงกลับมารักษาตัวที่บ้านก็ไปเยี่ยมทุกวัน เราก็กะจะปล่อยให้เรื่องผ่านไปจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้อีก
แต่ผู้หญิงคนนี้มีพฤติกรรมน่าหมั่นไส้ หลังจากเร่งรัดให้พี่ชายคนโตเราเซ็นเป็นพยานก็
- บอกว่าเงินช่วยงานศพ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะให้แม่เราทั้งหมด ทั้งที่เงินช่วยทางเพื่อนและครอบครัวเราได้มาแค่ไม่กี่บาท
- ที่บ้านมีบัญชีที่เปิดเก็บไว้เผื่ออนาคตต้องจ้างคนมาดูแลพ่อ ให้จ่ายคนละ 1000 บาทต่อเดือน ผู้หญิงคนนี้บอกว่าจะจ่ายให้เลย 10 ปี .....ทั้งที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เราจะอยู่ถึง 10 ปีหรือเปล่า !!!
ทั้งที่เรื่องเงินนี่ที่บ้านเราไม่เคยพูดเลยนะ ตอนเขาป่วยก็ออกค่าใช้จ่ายบางส่วนให้ด้วยเพราะรู้ว่าโรคนี้จะเสียค่าใช้จ่ายเยอะ
- มาขอสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของพ่อแม่เรา บอกว่าพี่เรามีกรมธรรม์(ที่ขาดส่งไประยะหนึ่งแล้ว) ยกประโยชน์ให้ตัวเขา พ่อ และแม่เรา เขาจะไปทำเรื่องให้ พี่คนโตบอกว่าเดี๋ยวจะไปทำเรื่องเองให้บอกเบอร์กรมธรรม์มาเขาก็ไม่บอก บอกว่าเอาเอกสารให้เขา เขาจะไปจัดการให้ทีเดียว
-ในพินัยกรรมนอกจากระบุทรัพย์สินเฉพาะเจาะจงแล้ว ยังมีข้อสุดท้ายว่า ทรัพย์สินอื่นๆทั้งหลายนอกจากนี้ยกให้ผู้หญิงคนนี้ทั้งหมด ... เล่นเอาปวดขมับว่าตั้งใจจะเอาอะไรกันแน่ ก็คิดอยู่ว่าต้องให้พ่อแม่เขียนพินัยกรรมเสียละมัง ป้องกันเธอมาอ้างสิทธิภายหลัง (ซึ่งคิดว่าไม่ได้หรอก แต่อยากปลอดภัยไว้ก่อน)
แนวโน้มคือคงไม่ยื่นคัดค้าน เพราะไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้อีก ไม่ต้องเจอกันอีกเลยทั้งชาตินี้และชาติไหนจะดีมาก
แต่ถามเผื่อไว้กรณีเธอเรื่องมากปากเสียนัก อาจจะทนไม่ไหวต้องจัดการอะไรบ้าง
ขอบคุณค่ะ
ยื่นคำร้องคัดค้านพินัยกรรม พยานลงชื่อโดยไม่ได้อยู่ในขณะผู้ทำพินัยกรรมลงชื่อ
โดยมีพี่ชายคนโตเราเซ็นชื่อเป็นพยาน
เราคุยว่าถ้าเป็นเจตนาของเจ้าตัว ก็ไม่มีปัญหา ถามย้ำกับพี่ชายคนโตว่าได้ถามเจ้าตัวแล้วใช่หรือเปล่า
ปรากฎว่าพี่ชายคนโตเราไม่ได้อยู่ด้วยตอนลงชื่อในพินัยกรรม และไม่มีโอกาสถามยืนยัน เนื่องจากหลังจากนั้นอาการก็ทรุดหนักและเสียชีวิตไป
มาเซ็นชื่อตามหลังไปเฉยๆ
หากเรายื่นคำร้องคัดค้าน พี่ชายคนโตเราจะมีความผิดหรือไม่ อย่างไรคะ
ที่มาที่ไป
แม้จะมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่าทำไมต้องงุบงิบทำพินัยกรรมตอนพี่ชายคนโตเราไม่อยู่ เพราะพี่ชายคนโตเราอยู่บ้านใกล้กัน เป็นคนพาไปโรงพบาบาล และไปเยี่ยมทุกวัน ช่วงกลับมารักษาตัวที่บ้านก็ไปเยี่ยมทุกวัน เราก็กะจะปล่อยให้เรื่องผ่านไปจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้อีก
แต่ผู้หญิงคนนี้มีพฤติกรรมน่าหมั่นไส้ หลังจากเร่งรัดให้พี่ชายคนโตเราเซ็นเป็นพยานก็
- บอกว่าเงินช่วยงานศพ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะให้แม่เราทั้งหมด ทั้งที่เงินช่วยทางเพื่อนและครอบครัวเราได้มาแค่ไม่กี่บาท
- ที่บ้านมีบัญชีที่เปิดเก็บไว้เผื่ออนาคตต้องจ้างคนมาดูแลพ่อ ให้จ่ายคนละ 1000 บาทต่อเดือน ผู้หญิงคนนี้บอกว่าจะจ่ายให้เลย 10 ปี .....ทั้งที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เราจะอยู่ถึง 10 ปีหรือเปล่า !!!
ทั้งที่เรื่องเงินนี่ที่บ้านเราไม่เคยพูดเลยนะ ตอนเขาป่วยก็ออกค่าใช้จ่ายบางส่วนให้ด้วยเพราะรู้ว่าโรคนี้จะเสียค่าใช้จ่ายเยอะ
- มาขอสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของพ่อแม่เรา บอกว่าพี่เรามีกรมธรรม์(ที่ขาดส่งไประยะหนึ่งแล้ว) ยกประโยชน์ให้ตัวเขา พ่อ และแม่เรา เขาจะไปทำเรื่องให้ พี่คนโตบอกว่าเดี๋ยวจะไปทำเรื่องเองให้บอกเบอร์กรมธรรม์มาเขาก็ไม่บอก บอกว่าเอาเอกสารให้เขา เขาจะไปจัดการให้ทีเดียว
-ในพินัยกรรมนอกจากระบุทรัพย์สินเฉพาะเจาะจงแล้ว ยังมีข้อสุดท้ายว่า ทรัพย์สินอื่นๆทั้งหลายนอกจากนี้ยกให้ผู้หญิงคนนี้ทั้งหมด ... เล่นเอาปวดขมับว่าตั้งใจจะเอาอะไรกันแน่ ก็คิดอยู่ว่าต้องให้พ่อแม่เขียนพินัยกรรมเสียละมัง ป้องกันเธอมาอ้างสิทธิภายหลัง (ซึ่งคิดว่าไม่ได้หรอก แต่อยากปลอดภัยไว้ก่อน)
แนวโน้มคือคงไม่ยื่นคัดค้าน เพราะไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้อีก ไม่ต้องเจอกันอีกเลยทั้งชาตินี้และชาติไหนจะดีมาก
แต่ถามเผื่อไว้กรณีเธอเรื่องมากปากเสียนัก อาจจะทนไม่ไหวต้องจัดการอะไรบ้าง
ขอบคุณค่ะ