ถ้า NJZ (NewJeans) ชนะคดีหลัก คดีชั่วคราวที่อุทธรณ์ไม่ผ่าน จะไม่มีผลทันที 100%

​คดีหลักในกรณีของ NewJeans vs. ADOR/HYBE คือ:

⚖️ คดีฟ้องขอยกเลิกสัญญา Exclusive Contract ระหว่างสมาชิก NewJeans กับ ADOR

🎯 จุดประสงค์ของคดี: ฝั่ง สมาชิก NewJeans (ผ่านผู้ปกครอง) ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อ ยกเลิกสัญญาศิลปินแบบผูกขาด (exclusive management contract) กับ ADOR
โดยให้เหตุผลว่า หมดความไว้วางใจ, ถูกบิดเบือนสิทธิ, และรู้สึกไม่ปลอดภัยทางจิตใจ

💼 ข้อกล่าวหาหลักที่ใช้ในคดี (เท่าที่เปิดเผย)
• ADOR ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของศิลปิน
• เช่น ไม่เข้าข้างศิลปินเมื่อเกิดปัญหาภายในบริษัทแม่ (HYBE vs มินฮีจิน)
• ความสัมพันธ์ในสัญญาไม่สมดุล
• ศิลปินไม่มีอำนาจต่อรอง, ไม่มีสิทธิเสรีภาพ, ไม่สามารถคัดค้านการเปลี่ยนแปลงได้
• หมดความไว้วางใจต่อฝ่ายบริหาร
• ทั้งในตัว ADOR และ HYBE ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

🧾 แล้วทำไมถึงมี “คดีคำร้องคุ้มครองชั่วคราว” แยกออกมา?
เพราะคดีหลักต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปีในการตัดสิน
ฝ่ายศิลปินจึงยื่นหลักฐานโต้แย้ง ADOR สำหรับคดี "คำร้องคุ้มครองชั่วคราว​" เพิ่มอีก 1 คดี เพื่อขอให้:
“ศาลสั่งให้พวกเธอไม่ต้องอยู่ภายใต้การบริหารของ ADOR ระหว่างรอคำตัดสินคดีหลัก” ​ซึ่งคำร้องนี้เองที่ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ปฏิเสธไปแล้วทั้งสองศาล

❗ สถานะตอนนี้:
• คดีหลัก (ขอยกเลิกสัญญา) ยังไม่ถึงขั้นตัดสิน
• แต่เพราะคำร้องคุ้มครองชั่วคราวแพ้ → พวกเธอต้องอยู่กับ ADOR ไปก่อนตามกฎหมาย

ถ้าสรุปสั้นสุด:
คดีหลัก = ฟ้องขอยกเลิกสัญญากับ ADOR ทั้งระบบ
คดีชั่วคราว = ขอให้ศาลให้หยุดทำงานกับ ADOR ระหว่างรอคดีหลักตัดสิน

ถ้า คดีหลักชนะ (คือศาลสั่งให้ ยกเลิกสัญญาระหว่าง NewJeans กับ ADOR ได้จริง)

ผลของคำร้องคุ้มครองชั่วคราวที่ “แพ้มาก่อนหน้า” → จะหมดความสำคัญไปทันที เพราะ:
🔍 เพราะคดีชั่วคราวมีหน้าที่แค่ “ยื้อเว​ลา” ระหว่างรอคดีหลัก
• มันไม่ใช่คดีตัดสินความผิด-ถูกแบบเต็มรูป
• ใช้เพื่อ “ระงับชั่วคราว” เท่านั้น เช่น ขอไม่ต้องทำงานกับอีกฝ่าย, ขอห้ามบังคับสัญญา ฯลฯ
• ถ้าคดีหลักชนะ → คำร้องชั่วคราวที่เคยแพ้ = ไม่สำคัญแล้ว เพราะศาลตัดสินเรื่องใหญ่ไปแล้ว

❗ สรุปตรง ๆ
• → ถ้าชนะคดีหลัก ​คดีชั่วคราวที่เคยแพ้จะไม่มีผลอะไรอีก 100%

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่