คิดอยู่เสมอๆค่ะว่า "การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ" เป็นหนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ต้องรีบจ่ายๆไปให้มันหมดถ้าเราหามาได้ก่อนที่ดอกเบี้ยมันจะบานปลาย ซึ่งเราก็ไม่เคยไปกู้ยืมใครเลยถ้าไม่จำเป็น ยืมก็แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างตอนอยู่หอกับเพื่อนลืมเอาเงินลงมาซื้อข้าวก็ขอให้เพื่อนออกให้ก่อน พอกลับขึ้นไปก็จ่ายเลยกลัวลืม
แต่พอมาเจอเคสของป้าสังเวียนแล้ว
เราได้อีกคตินึงเพิ่มขึ้นมาค่ะ
"การไม่มีลูกหนี้ ก็เป็นลาภอันประเสริฐเช่นกัน"
คือเงินแต่ละบาทกว่าจะหามาได้ เอาไปให้คนอื่นยืมใช้ฟุ่มเฟือย สุดท้ายไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ไปฟ้องร้องเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายหนี้ ไม่ได้ดั่งใจจุดไฟเผาตัวเองแม่มเลย เจ้าหนี้ก็แบบว่าตาปริบๆ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่งแถมยังโดนกระดูกเขวี้ยงใส่เบ้าตาอีก และส่งท้ายข้อความที่ว่าเจ้าหนี้หน้าเลือดรังแกคนจนไม่มีทางสู้ รวยจะตายอยู่แล้วแค่นี้ไม่เสียหายหรอก (อนึ่ง คนรวยที่ทำสัมมาอาชีพเขาไม่ได้เสกเงินขึ้นมาจากอากาศนะคะอย่าเข้าใจผิด เขาขยันอดออมและบริหารจัดการเงินดีกว่าคนอื่นเท่านั้นเองค่ะ เงินที่ลำบากได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงถ้าเขาจะแจกจะบริจาคคงไม่เอามาให้กู้นะคะ)
ตอนยืมนี่ถ้าให้เดาคงเข้าไปกราบกรานขอยืม พอเขาทวงเงินคืนก็ด่าซะไม่มีดี หัวหมอว่าเป็นเงินกู้นอกระบบไม่ต้องจ่ายก็ได้เพราะผิดกฎหมาย พอเขาให้ไปเซ็นต์เอกสารรับรู้หนี้สินทำเป็นโวยวายหาว่าเขาหลอก เขาหลอกไม่หลอกเราไม่รู้ค่ะ แต่ที่ยืมไปเป็นเรื่องจริงเอาเงินเขาไปก็เป็นเรื่องจริง
ข่าวออกมาแบบนี้แล้วคนในสังคมก็ประนามเจ้าหนี้ ไม่ว่ายังไงเจ้าหนี้ก็ผิดไว้ก่อนเสมอ ยิ่งผู้ใหญ่ในสังคมออกมาช่วยป้าสังเวียนเจรจาเจ้าหนี้ แบบนี้ต่อไปมันจะสร้างบรรทัดฐานที่ว่าคนจนเป็นหนี้ไม่ต้องใช้ หรือเปล่าพอไม่มีจ่ายเดี๋ยวรัฐก็จะช่วยประนอมหนี้ให้ ช่วยเจรจาให้ยกหนี้ให้ คือมีก็ทะยอยๆผ่อนจ่ายเขาไปสิคะ ถ้าไม่มีก็เอาพวกรถหรือของใช้ฟุ่มเฟือยไปขายมาใช้หนี้ค่ะ ตอนไปกู้เขาไม่ได้มาขอให้ป้าสังเวียนไปกู้ มีแต่ป้านั่นแหละที่ไปขอเขากู้เองเป็นผู้ใหญ่โตมาจนป่านนี้แล้วรับผิดชอบต่อหน้าที่ด้วยค่ะ เป็นลูกหนี้มีหน้าที่ชำระหนี้นะคะ ถ้าเจ้าหนี้เขามีดอกเบี้ยมันก็เป็นดอกเบี้ยที่ตกลงกันมาแต่แรกตอนไปกู้เขาก็รับรู้ เงินที่ได้มาไม่ใช่ได้เปล่านะคะ เจ้าหนี้ไม่ใช่พ่อใช่แม่ถึงได้ใจดีให้เงินมาใช้ฟรีๆไม่ต้องคืน
อ่านข่าวป้าสังเวียนนี่แล้วเราขอสัญญากับตัวเองเลยค่ะว่าจะไม่มีวันให้ใครมายืมเงิน
ปล.อันนี้ถามเฉยๆนะคะไม่แน่ใจว่ามีแหล่งอื่นอีกหรือเปล่า ถ้าหนี้นอกระบบหายไปแล้วคนจนๆจะไปกู้เงินจากไหนได้คะ หากไม่มีที่ดินมาค้ำประกัน รายได้ไม่แน่นอน ไม่ได้เป็นชาวนา
กรณีป้าสังเวียน มันเป็นกรณีศึกษาที่ทำให้เราได้ข้อคิดเพิ่มขึ้น
แต่พอมาเจอเคสของป้าสังเวียนแล้ว
เราได้อีกคตินึงเพิ่มขึ้นมาค่ะ
"การไม่มีลูกหนี้ ก็เป็นลาภอันประเสริฐเช่นกัน"
คือเงินแต่ละบาทกว่าจะหามาได้ เอาไปให้คนอื่นยืมใช้ฟุ่มเฟือย สุดท้ายไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ไปฟ้องร้องเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายหนี้ ไม่ได้ดั่งใจจุดไฟเผาตัวเองแม่มเลย เจ้าหนี้ก็แบบว่าตาปริบๆ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่งแถมยังโดนกระดูกเขวี้ยงใส่เบ้าตาอีก และส่งท้ายข้อความที่ว่าเจ้าหนี้หน้าเลือดรังแกคนจนไม่มีทางสู้ รวยจะตายอยู่แล้วแค่นี้ไม่เสียหายหรอก (อนึ่ง คนรวยที่ทำสัมมาอาชีพเขาไม่ได้เสกเงินขึ้นมาจากอากาศนะคะอย่าเข้าใจผิด เขาขยันอดออมและบริหารจัดการเงินดีกว่าคนอื่นเท่านั้นเองค่ะ เงินที่ลำบากได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงถ้าเขาจะแจกจะบริจาคคงไม่เอามาให้กู้นะคะ)
ตอนยืมนี่ถ้าให้เดาคงเข้าไปกราบกรานขอยืม พอเขาทวงเงินคืนก็ด่าซะไม่มีดี หัวหมอว่าเป็นเงินกู้นอกระบบไม่ต้องจ่ายก็ได้เพราะผิดกฎหมาย พอเขาให้ไปเซ็นต์เอกสารรับรู้หนี้สินทำเป็นโวยวายหาว่าเขาหลอก เขาหลอกไม่หลอกเราไม่รู้ค่ะ แต่ที่ยืมไปเป็นเรื่องจริงเอาเงินเขาไปก็เป็นเรื่องจริง
ข่าวออกมาแบบนี้แล้วคนในสังคมก็ประนามเจ้าหนี้ ไม่ว่ายังไงเจ้าหนี้ก็ผิดไว้ก่อนเสมอ ยิ่งผู้ใหญ่ในสังคมออกมาช่วยป้าสังเวียนเจรจาเจ้าหนี้ แบบนี้ต่อไปมันจะสร้างบรรทัดฐานที่ว่าคนจนเป็นหนี้ไม่ต้องใช้ หรือเปล่าพอไม่มีจ่ายเดี๋ยวรัฐก็จะช่วยประนอมหนี้ให้ ช่วยเจรจาให้ยกหนี้ให้ คือมีก็ทะยอยๆผ่อนจ่ายเขาไปสิคะ ถ้าไม่มีก็เอาพวกรถหรือของใช้ฟุ่มเฟือยไปขายมาใช้หนี้ค่ะ ตอนไปกู้เขาไม่ได้มาขอให้ป้าสังเวียนไปกู้ มีแต่ป้านั่นแหละที่ไปขอเขากู้เองเป็นผู้ใหญ่โตมาจนป่านนี้แล้วรับผิดชอบต่อหน้าที่ด้วยค่ะ เป็นลูกหนี้มีหน้าที่ชำระหนี้นะคะ ถ้าเจ้าหนี้เขามีดอกเบี้ยมันก็เป็นดอกเบี้ยที่ตกลงกันมาแต่แรกตอนไปกู้เขาก็รับรู้ เงินที่ได้มาไม่ใช่ได้เปล่านะคะ เจ้าหนี้ไม่ใช่พ่อใช่แม่ถึงได้ใจดีให้เงินมาใช้ฟรีๆไม่ต้องคืน
อ่านข่าวป้าสังเวียนนี่แล้วเราขอสัญญากับตัวเองเลยค่ะว่าจะไม่มีวันให้ใครมายืมเงิน
ปล.อันนี้ถามเฉยๆนะคะไม่แน่ใจว่ามีแหล่งอื่นอีกหรือเปล่า ถ้าหนี้นอกระบบหายไปแล้วคนจนๆจะไปกู้เงินจากไหนได้คะ หากไม่มีที่ดินมาค้ำประกัน รายได้ไม่แน่นอน ไม่ได้เป็นชาวนา