กำเนิดคัมภีร์ไบเบิลฉบับคิงเจมส์(3)

ต่อจากตอนที่ ๒  http://pantip.com/topic/32691176
        
         เหมือนพระเจ้าคอนสแตนติน เปิดการประชุมนีเซีย     พระเจ้าเจมส์ กล่าวเปิดการประชุม   คำกล่าวเปิดของพระเจ้าเจมส์กำหนดวัตถุประสงค์ทั่วๆไป.  พระองค์ไม่เปลี่ยนแปลงข้อเชื่อและนโยบายของศาสนจักรของรัฐ :

             ไม่เป็นเครื่องมือสร้างสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน  แต่เป็นไปตามที่กษัตริย์คริสเตียนทุกคนได้วางไว้  เนื่องจากกษัตริย์ได้กำหนดไว้แต่แรกทั้งข้อเชื่อและนโยบาย...โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผ่นดินนี้,  กษัตริย์เฮนรีที่  ๘ จนถึงช่วงปลายสมัยของพระองค์  ข้อเชื่อและนโยบายเปลี่ยนแปลงไปมาก, สมัยกษัตริย์เอ็ดเวิร์ด ที่ ๖  ยิ่งเปลี่ยนแปลงขึ้นไปอีก,  ราชินีแมรี เปลี่ยนแปลงหมดสิ้น   และสุดท้ายราชินีอาลิซาเบต (ที่คนจดจำกันมากที่สุด) ตอนนี้ศาสนาปักแน่นมั่นคงแล้ว  

         ในที่นี้   ข้าพเจ้า(พระเจ้าเจมส์) มีความสุขกว่าพวกเขา(กษัตริย์องค์ที่ผ่านมา)  เพราะว่าพวกเขา เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง   ที่พวกเขาได้ตั้งขึ้น,  ในขณะที่ ข้าพเจ้า ยังไม่มีเหตุที่จะต้องเปลี่ยนแปลง   ตามที่ยืนยันว่า ข้าพเจ้าพบว่าได้ก่อตั้งเรียบร้อยแล้ว.”  
          
         พระเจ้าเจมส์พูดเป็นนัยว่าพระองค์พบความมั่นคงในโครงสร้าง และการสืบทอดอำนาจยิ่งใหญ่ของคจ.อังกฤษ, ตรงกันข้ามกับแบบเพรสไบทีเรียน  ที่พระองค์ได้เห็นแล้วในสก๊อตแลนด์. ตรงจุดนี้ พระองค์ได้เปิดเผยพระองค์เองอย่างน่าแปลกใจ  แม้พระองค์ตั้งใจให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีความยินดี, พระเจ้าเจมส์ไม่พยายามซ่อนเร้นความกระวนกระวายใจของพระองค์กับสิ่งที่เกิดขึ้นในสก๊อตแลนด์:
          
         สำหรับพระพร ที่เกิดจากความกรุณาคุณของพระเจ้า  ที่ได้นำข้าพระองค์มาสู่แผ่นดินตามพันธสัญญา สถานที่ ที่ศาสนาบริสุทธิ์  ที่ข้าพเจ้านั่งท่ามกลางหลุมฝังศพ, คนมีการศึกษาและสาธุคุณ อย่างไม่มีมาก่อน  ไม่ว่าที่ใด  กษัตริย์องค์หนึ่งที่ไม่มีรัฐ  ไม่มีเกียรติ ข้าพเจ้า เด็กหนุ่มไม่มีเครา กล้าเผชิญหน้า.

          พระเจ้าเจมส์ กล่าวอย่างชัดเจนว่า แม้ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานในด้านข้อเชื่อ และการปฏิบัติ, แต่อาจมีที่ว่างสำหรับการปรับปรุงให้สวยงามบ้าง   “ข้าพเจ้าให้ท่านมั่นใจว่า  แม้ระบบที่ดีที่สุดของคจ.อังกฤษ ถูกฉ้อฉล มานาน.  และพระองค์รู้ว่า  “ข้าพเจ้าได้รับคำร้องมาก, ตั้งแต่การเข้ามาในอาณาจักรนี้แห่งครั้งแรก,  ความไร้ระเบียบอย่างมาก, และความไม่เชื่อฟังกับกฎหมาย  ความผิดพลาดไปจากหลักคำสอนของนิกายโรมันคาทอลิก.”  
        
           ฉะนั้น พระองค์จะใช้บทบาทของ “นายแพทย์ที่ดี,”   “ที่จะตรวจและพิจารณาคำร้องและพยายามกำจัด ที่มีโอกาส , ถ้าอื้อฉาว;เยียวยา,  ถ้าอันตราย  และฟังจากเขา  ถ้าเล็กน้อย  ...”
          
           ทั้งๆ ที่พระองค์ยินยอม   พระเจ้าเจมส์ ไม่อนุญาตให้พวกพิวริตันเข้าประชุมวันแรก.  แต่ในวันอื่น เมื่อพระเจ้าเจมส์แลกเปลี่ยนความเห็นกับที่ปรึกษา,  บิชอป,  และคณบดีสถาบันการศึกษา เกี่ยวกับการปฏิบัติของศาสนาจักร เป็นต้นว่า การให้บัศติสมา, การให้อภัยบาป, และการพับชนียกรรม.
          
           วันที่สอง พวกพิวริตัน  สี่คน ได้รับอนุญาตให้ร่วมการประชุมนี้   มี  จอห์น  เรโนน ทำหน้าที่ผู้นำของพวกพิวริตัน  และที่จุดหนึ่งของการพิจารณาหารือ  มีการยกคำถามเรื่องการปกครองศาสนาจักร  แต่ถ้า เรโนน  มีโอกาสได้ยิน เขาแพ้เนื่องจากความไม่เหมาะสม  แต่ไม่ต้องสงสัย ด้วยไม่มีเจตนา,พาดพิง.
          
            เรโนน ต้องการ รู้ว่า สถาบันการศึกษาที่อยู่กับคจ.   การบริหารควรอยู่ในระเบียบ ขยายฐานการตัดสินใจที่กว้างยิ่งขึ้น. โชคไม่ดี เขาตั้งคำถามแบบนี้: “ทำไม   บิชอปไม่ควร ปกครองพี่น้องเพรสไบทีเรียนและผู้รับใช้คจ.ร่วมกับศิษยาภิบาล.?”
          
            การใช้คำ ว่า “ชาวเพรสไบเรียน” ต่อหน้าพระเจ้าเจมส์   เหมือนการโบกผ้าแดงหน้าวัว,พระเจ้าเจมส์ ระเบิดออกมาว่า “ถ้าท่านหมายถึงเพรสไบทีเรียนชาวสก๊อตแลนด์, ชาวสก๊อต  พวกเขาเข้ากับพระเจ้าแผ่นดิน  ได้ดี  เหมือนพระเจ้ากับซาตาน! ไม่ว่า จะเป็นใคร  จะพบและตำหนิ ข้าพเจ้าและที่ปรึกษาของข้าพเจ้าและการพิจารณาคดีทุกอย่างของพวกเรา.”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่