สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
มาตอบจากอังกฤษค่ะ
1. เสรีเรื่องเซ็กซ์ คือระดับไฮสคูลก็มีอะไรกันได้โดยที่พ่อแม่ไม่ด่า
ที่นี่ค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องเพศ ไม่ได้หมายถึงว่าจะไปนอนกับใครเมื่อไรยังไงก็ได้ หรือลูกจะไปอะไรกับใครก็ได้พ่อแม่ไม่สน แต่หมายถึงว่าถ้าหนุ่มสาววัยรุ่น มีความสนใจ มีคำถามเรื่องเพศ เรื่องคุมกำเนิด เค้าสามารถติดต่อขอความรู้ได้หลายช่องทาง พ่อแม่ก็คุยกับลูกเรื่องเพศได้โดยกระอักกระอ่วนใจน้อยกว่าพ่อแม่คนไทย เราเคยเปิดเจอรายการหนึ่ง Sex Ed มั้งไม่แน่ใจ เขาถ่ายรูปคนเปลือย เห็นอวัยวะทุกอย่าง แล้วเอาไปฉายสไลด์ให้เด็กๆที่โรงเรียนดู มีการเปรียบเทียบขนาดไอ้นั่นไอ้นี่ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อแตกหนุ่มแตกสาว ดังนั้นเหมือนเขาเตรียมพร้อมเด็กๆให้มีความรู้เรื่องเพศแต่เนิ่น พอถึงเวลาโตมามันก็กลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติไป
อายุขั้นต่ำที่สามารถมี พสพ ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการพรากผู้เยาว์คือ 16 เพื่อนอังกฤษเราบอกว่าตอนเค้า 18 เวลาแฟนเค้ามาบ้านก็จะไปขลุกด้วยกันอยู่ในห้อง พ่อแม่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะ 18 แล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว เรื่องของแก มีมาถามบ้างว่ารู้จักป้องกันรึเปล่า ถ้าเค้าทราบว่าลูกเค้าป้องกันเป็น เค้าก็ไม่ค่อยมาว่าอะไรแล้ว แต่แน่นอนว่าก็มีบางครอบครัวที่อาจจะมีความเชื่อหรือแนวคิดในการดำเนินชีวิตที่ต่างออกไป เพื่อนเราหลายคนก็ค่อนข้างเคร่งศาสนา ยังไม่เคยมี พสพ บางคนไม่ได้เคร่ง ไม่มีศาสนาด้วยซ้ำ แต่ไม่อยากมี ก็ไม่ได้ขวนขวายรีบมีค่ะ
2. หัวแข็งกับพ่อ แม่ เถียงพ่อ แม่ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
ข้อนี้เราว่าที่ไทยกับเมืองนอกก็ไม่ต่างกันหรอก หัวแข็ง เถียง เพียงแต่อาจจะเถียงกันคนละเรื่อง แฟนเราตอน 15 ปีนหน้าต่างออกจากบ้านตอนกลางคืนไปก๊งกับเพื่อนที่ริมหาด แม่ออกมาตาม โดนด่าและลากกลับบ้าน สักพักแฟนเราก็หนีออกมาอีก แม่มาตามอีก โดนด่าก็เถียงว่า ผมโตแล้วนะ 15 แล้ว สงสารแม่เค้าคงต้องรับศึกหนักจริงๆ 55 แต่เรื่องความเป็นตัวของตัวเองสูงนั้น ค่อนข้างจริง คือส่วนใหญ่แล้วเด็กอังกฤษจะมีโอกาสในการตัดสินใจเพื่อตัวเองสูง พอเข้าสู่วัย 15 16 ก็มักจะไปหางานทำ หาเส้นทางว่าตัวเองอยากจะเรียนต่อมหาลัยหรือจะไปสายอาชีพ เป็นการสร้างบุคลิกนิสัยที่พึ่งพาตัวเอง ที่พบเจอส่วนมากแล้วคนอังกฤษค่อนข้างให้เกียรติผู้อื่น ไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เขาก็ไม่ชอบให้ไปจุ้นจ้านเรื่องของเขานัก
3. หาเงินกันตั้งแต่เด็ก ทำงานกันเล็กๆน้อยๆ (อันนี้ไม่รู้จริงเท็จอย่างไรครับ มันจะมีงานอะไรให้เด็กทำมากมายขนาดนั้น)
เด็กอังกฤษจำนวนมากมักหางานทำช่วงปิดเทอม เพื่อนเราหลายๆคนเริ่มทำงานพิเศษตั้งแต่อายุ 15 16 เป็นพนง.เสิร์ฟบ้าง คิดเงินบ้าง แฟนเราตอนนั้นก็ไปทำงานร้านรองเท้าในห้าง เด็กจากครอบครัวที่ฐานะดีอาจจะไม่ค่อยไปหางานทำ แต่ครอบครัวที่ดีๆส่วนมากแล้วจะสนับสนุนให้ลูกเค้าออกไปทำงาน ไม่ใช่เพื่อขับไล่ไสส่งออกจากบ้านให้เร็วที่สุด แต่เพื่อให้เด็กมีประสบการณ์ รู้ว่าการทำงานเป็นยังไง ค่าของเงิน และความลำบากกว่าจะได้เงิน บางคนตั้งแต่อายุ 16 ก็คือทำงานหาเงินค่าขนมเองแล้ว พ่อแม่ไม่ต้องจ่ายอย่างอื่นให้นอกจากค่าเรียน ค่าหนังสือ ฯลฯ
4. คำว่าโป๊ ไม่มีในสังคมฝรั่ง & 5. กอดจูบดูดดื่มได้ในที่สาธารณะ
ขอตอบสองข้อนี้รวมกันเพราะมันเป็นการเหมารวมอย่างน่ากลัว จริงอยู่ว่าคนที่นี่แต่งตัวไม่ค่อยแคร์สายตาคนอื่น (เนื่องด้วยความเป็นตัวของตัวเอง และความยึดถือในสิทธิส่วนบุคคล) และการแสดงออกทางความรักก็มีให้เห็นทั่วไป ซึ่งอาจจะแปลกสำหรับคนไทยที่แค่หอมแก้มกันก็ว่าน่าเกลียดแล้ว แต่ใครก็ตามที่แต่งตัวโป๊จนเว่อร์ ผิดกาละเทศะ หรือแสดงความรักชนิดกอดจูบลูบคลำ จูบแบบแลกลิ้นเปิดปากในที่สาธารณะ ก็จะโดนมองและตำหนิไม่ต่างจากบ้านเราค่ะ เพียงแต่ที่นี่มาตรฐานการยอมรับอาจจะมากกว่าไทยเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นเรื่องโป๊เวลาไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ หรือโป๊อยู่บ้าน อันนี้จริง เราเคยไปว่ายน้ำ เปิดเข้าไปเจอป้าๆ ยายๆ และลูกเล็กเด็กแดงแก้ผ้ากันแบบสบายๆ ไม่มีใครมองใคร เรานี่สิไม่ชิน ไม่รู้จะมองไปทางไหนเลย อาย คนอังกฤษหลายคนอยู่บ้านชอบแก้ผ้าโทงเทงท้าทายธรรมชาติ เราเคยไปบ้านแม่แฟน แล้วน้องชายแฟนเดินลงมาชงชา แต่ใส่แค่กางเกงลิงตัวเดียว คือเขาไม่ถือน่ะ แต่เรื่องนี้ยังไงเราก็ไม่ชินจริงๆ
6. ใส่รองเท้าเข้าบ้าน หรือแม้แต่ใส่นอนเล่นบนเตียงนุ่มๆ (สงสัยมาก มันถูกสุขลักษณะเหรอครับ)
เราถอดเกิบเดินในบ้าน แฟนเราก็ถอด เพื่อนอังกฤษส่วนใหญ่เวลามาบ้านเรา เห็นเราเท้าเปล่าก็มักจะถามว่าเค้าต้องถอดด้วยไหม แต่ส่วนใหญ่แล้วใส่รองเท้าเดินในบ้านกันค่ะ ซึ่งเราว่าสกปรกมาก เพราะบ้านอังกฤษมักปูพรม แต่ใส่เกิบขึ้นเตียงนี่เราไม่ค่อยเห็นนะ
เรื่องเหยียดผิว เหยียดชาติพันธุ์ จะไปพูดว่าฝรั่งไม่ให้เกียรติเอเชียเลยมันก็คงไม่ใช่เพราะฝรั่งไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคน ก็เหมือนเราบอกว่าคนไทยชอบเหยียดหยามเพื่อนบ้านเรา มีจริงมั้ย จริง แต่คนไทยเป็นแบบนั้นทุกคนไหม ไม่ ดังนั้นถ้าจะพูดให้ถูกเราว่าต้องบอก ฝรั่งดีๆ ที่มีความคิดเจริญแล้ว เขาไม่ค่อยตั้งป้อมเกลียดใครเพราะผิวแดง ผิวเหลือง ผิวดำเท่านั้น ถึงเขาเหยียดเขาก็ไม่แสดงอาการออกนอกหน้าหรือกลั่นแกล้ง ส่วนใหญ่เราจะรู้เองจากการที่เขามีทีท่าไม่ค่อยอยากคุยกับเรา ถามคำตอบคำอย่างสุภาพ ก็เห็นมีแต่พวกฝรั่งกะลาครอบชั้นล่างๆเท่านั้นที่มองว่าการล้อเลียนเหยียดหยามจนต่างชาติพันธุ์เป็นเรื่องตลก สนุก เท่ และสมควรทำ
1. เสรีเรื่องเซ็กซ์ คือระดับไฮสคูลก็มีอะไรกันได้โดยที่พ่อแม่ไม่ด่า
ที่นี่ค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องเพศ ไม่ได้หมายถึงว่าจะไปนอนกับใครเมื่อไรยังไงก็ได้ หรือลูกจะไปอะไรกับใครก็ได้พ่อแม่ไม่สน แต่หมายถึงว่าถ้าหนุ่มสาววัยรุ่น มีความสนใจ มีคำถามเรื่องเพศ เรื่องคุมกำเนิด เค้าสามารถติดต่อขอความรู้ได้หลายช่องทาง พ่อแม่ก็คุยกับลูกเรื่องเพศได้โดยกระอักกระอ่วนใจน้อยกว่าพ่อแม่คนไทย เราเคยเปิดเจอรายการหนึ่ง Sex Ed มั้งไม่แน่ใจ เขาถ่ายรูปคนเปลือย เห็นอวัยวะทุกอย่าง แล้วเอาไปฉายสไลด์ให้เด็กๆที่โรงเรียนดู มีการเปรียบเทียบขนาดไอ้นั่นไอ้นี่ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อแตกหนุ่มแตกสาว ดังนั้นเหมือนเขาเตรียมพร้อมเด็กๆให้มีความรู้เรื่องเพศแต่เนิ่น พอถึงเวลาโตมามันก็กลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติไป
อายุขั้นต่ำที่สามารถมี พสพ ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการพรากผู้เยาว์คือ 16 เพื่อนอังกฤษเราบอกว่าตอนเค้า 18 เวลาแฟนเค้ามาบ้านก็จะไปขลุกด้วยกันอยู่ในห้อง พ่อแม่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะ 18 แล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว เรื่องของแก มีมาถามบ้างว่ารู้จักป้องกันรึเปล่า ถ้าเค้าทราบว่าลูกเค้าป้องกันเป็น เค้าก็ไม่ค่อยมาว่าอะไรแล้ว แต่แน่นอนว่าก็มีบางครอบครัวที่อาจจะมีความเชื่อหรือแนวคิดในการดำเนินชีวิตที่ต่างออกไป เพื่อนเราหลายคนก็ค่อนข้างเคร่งศาสนา ยังไม่เคยมี พสพ บางคนไม่ได้เคร่ง ไม่มีศาสนาด้วยซ้ำ แต่ไม่อยากมี ก็ไม่ได้ขวนขวายรีบมีค่ะ
2. หัวแข็งกับพ่อ แม่ เถียงพ่อ แม่ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
ข้อนี้เราว่าที่ไทยกับเมืองนอกก็ไม่ต่างกันหรอก หัวแข็ง เถียง เพียงแต่อาจจะเถียงกันคนละเรื่อง แฟนเราตอน 15 ปีนหน้าต่างออกจากบ้านตอนกลางคืนไปก๊งกับเพื่อนที่ริมหาด แม่ออกมาตาม โดนด่าและลากกลับบ้าน สักพักแฟนเราก็หนีออกมาอีก แม่มาตามอีก โดนด่าก็เถียงว่า ผมโตแล้วนะ 15 แล้ว สงสารแม่เค้าคงต้องรับศึกหนักจริงๆ 55 แต่เรื่องความเป็นตัวของตัวเองสูงนั้น ค่อนข้างจริง คือส่วนใหญ่แล้วเด็กอังกฤษจะมีโอกาสในการตัดสินใจเพื่อตัวเองสูง พอเข้าสู่วัย 15 16 ก็มักจะไปหางานทำ หาเส้นทางว่าตัวเองอยากจะเรียนต่อมหาลัยหรือจะไปสายอาชีพ เป็นการสร้างบุคลิกนิสัยที่พึ่งพาตัวเอง ที่พบเจอส่วนมากแล้วคนอังกฤษค่อนข้างให้เกียรติผู้อื่น ไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เขาก็ไม่ชอบให้ไปจุ้นจ้านเรื่องของเขานัก
3. หาเงินกันตั้งแต่เด็ก ทำงานกันเล็กๆน้อยๆ (อันนี้ไม่รู้จริงเท็จอย่างไรครับ มันจะมีงานอะไรให้เด็กทำมากมายขนาดนั้น)
เด็กอังกฤษจำนวนมากมักหางานทำช่วงปิดเทอม เพื่อนเราหลายๆคนเริ่มทำงานพิเศษตั้งแต่อายุ 15 16 เป็นพนง.เสิร์ฟบ้าง คิดเงินบ้าง แฟนเราตอนนั้นก็ไปทำงานร้านรองเท้าในห้าง เด็กจากครอบครัวที่ฐานะดีอาจจะไม่ค่อยไปหางานทำ แต่ครอบครัวที่ดีๆส่วนมากแล้วจะสนับสนุนให้ลูกเค้าออกไปทำงาน ไม่ใช่เพื่อขับไล่ไสส่งออกจากบ้านให้เร็วที่สุด แต่เพื่อให้เด็กมีประสบการณ์ รู้ว่าการทำงานเป็นยังไง ค่าของเงิน และความลำบากกว่าจะได้เงิน บางคนตั้งแต่อายุ 16 ก็คือทำงานหาเงินค่าขนมเองแล้ว พ่อแม่ไม่ต้องจ่ายอย่างอื่นให้นอกจากค่าเรียน ค่าหนังสือ ฯลฯ
4. คำว่าโป๊ ไม่มีในสังคมฝรั่ง & 5. กอดจูบดูดดื่มได้ในที่สาธารณะ
ขอตอบสองข้อนี้รวมกันเพราะมันเป็นการเหมารวมอย่างน่ากลัว จริงอยู่ว่าคนที่นี่แต่งตัวไม่ค่อยแคร์สายตาคนอื่น (เนื่องด้วยความเป็นตัวของตัวเอง และความยึดถือในสิทธิส่วนบุคคล) และการแสดงออกทางความรักก็มีให้เห็นทั่วไป ซึ่งอาจจะแปลกสำหรับคนไทยที่แค่หอมแก้มกันก็ว่าน่าเกลียดแล้ว แต่ใครก็ตามที่แต่งตัวโป๊จนเว่อร์ ผิดกาละเทศะ หรือแสดงความรักชนิดกอดจูบลูบคลำ จูบแบบแลกลิ้นเปิดปากในที่สาธารณะ ก็จะโดนมองและตำหนิไม่ต่างจากบ้านเราค่ะ เพียงแต่ที่นี่มาตรฐานการยอมรับอาจจะมากกว่าไทยเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นเรื่องโป๊เวลาไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ หรือโป๊อยู่บ้าน อันนี้จริง เราเคยไปว่ายน้ำ เปิดเข้าไปเจอป้าๆ ยายๆ และลูกเล็กเด็กแดงแก้ผ้ากันแบบสบายๆ ไม่มีใครมองใคร เรานี่สิไม่ชิน ไม่รู้จะมองไปทางไหนเลย อาย คนอังกฤษหลายคนอยู่บ้านชอบแก้ผ้าโทงเทงท้าทายธรรมชาติ เราเคยไปบ้านแม่แฟน แล้วน้องชายแฟนเดินลงมาชงชา แต่ใส่แค่กางเกงลิงตัวเดียว คือเขาไม่ถือน่ะ แต่เรื่องนี้ยังไงเราก็ไม่ชินจริงๆ
6. ใส่รองเท้าเข้าบ้าน หรือแม้แต่ใส่นอนเล่นบนเตียงนุ่มๆ (สงสัยมาก มันถูกสุขลักษณะเหรอครับ)
เราถอดเกิบเดินในบ้าน แฟนเราก็ถอด เพื่อนอังกฤษส่วนใหญ่เวลามาบ้านเรา เห็นเราเท้าเปล่าก็มักจะถามว่าเค้าต้องถอดด้วยไหม แต่ส่วนใหญ่แล้วใส่รองเท้าเดินในบ้านกันค่ะ ซึ่งเราว่าสกปรกมาก เพราะบ้านอังกฤษมักปูพรม แต่ใส่เกิบขึ้นเตียงนี่เราไม่ค่อยเห็นนะ
เรื่องเหยียดผิว เหยียดชาติพันธุ์ จะไปพูดว่าฝรั่งไม่ให้เกียรติเอเชียเลยมันก็คงไม่ใช่เพราะฝรั่งไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคน ก็เหมือนเราบอกว่าคนไทยชอบเหยียดหยามเพื่อนบ้านเรา มีจริงมั้ย จริง แต่คนไทยเป็นแบบนั้นทุกคนไหม ไม่ ดังนั้นถ้าจะพูดให้ถูกเราว่าต้องบอก ฝรั่งดีๆ ที่มีความคิดเจริญแล้ว เขาไม่ค่อยตั้งป้อมเกลียดใครเพราะผิวแดง ผิวเหลือง ผิวดำเท่านั้น ถึงเขาเหยียดเขาก็ไม่แสดงอาการออกนอกหน้าหรือกลั่นแกล้ง ส่วนใหญ่เราจะรู้เองจากการที่เขามีทีท่าไม่ค่อยอยากคุยกับเรา ถามคำตอบคำอย่างสุภาพ ก็เห็นมีแต่พวกฝรั่งกะลาครอบชั้นล่างๆเท่านั้นที่มองว่าการล้อเลียนเหยียดหยามจนต่างชาติพันธุ์เป็นเรื่องตลก สนุก เท่ และสมควรทำ
แสดงความคิดเห็น
สังคมฝรั่งในหลายๆประเทศ วัฒนธรรมเขาคล้ายๆกันไหมครับ เหมือนที่เห็นในหนัง ในซีรีย์ฝรั่งหรือเปล่า
1. เสรีเรื่องเซ็กซ์ คือระดับไฮสคูลก็มีอะไรกันได้โดยที่พ่อแม่ไม่ด่า
2. หัวแข็งกับพ่อ แม่ เถียงพ่อ แม่ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
3. หาเงินกันตั้งแต่เด็ก ทำงานกันเล็กๆน้อยๆ (อันนี้ไม่รู้จริงเท็จอย่างไรครับ มันจะมีงานอะไรให้เด็กทำมากมายขนาดนั้น)
4. คำว่าโป๊ ไม่มีในสังคมฝรั่ง
5. กอดจูบดูดดื่มได้ในที่สาธารณะ
6. ใส่รองเท้าเข้าบ้าน หรือแม้แต่ใส่นอนเล่นบนเตียงนุ่มๆ (สงสัยมาก มันถูกสุขลักษณะเหรอครับ)
ขาดเหลืออะไร เพิ่มเติมได้ครับ อยากได้เป็นความรู้มาก
ไว้เรียนรู้ความแตกต่างทางวัฒนธรรมของเพื่อนร่วมโลก