@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆ.....สไตล์ช้อยชบา ----------@@@@@ ( ตอนที่ 1 สาวโรงงาน)
http://pantip.com/topic/32676598/comment17
--------------------------------------------------------------
ใครที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องที่จขกท.เขียนเล่ายินดีต้อนรับค่ะ

ใครที่ตามอ่านอยู่บ่อยๆ ยาวไปเลยค่ะ ยาวปายยย.......
ท้าวความเดิมจากกระทู้ด้านบน.... โปรดมองบน ( กระทู้บน )
เคยเล่าในกระทูก่อนๆว่าก่อนได้งานจขกท. อกหักรักคุดกลับไปพักผ่อนที่บ้านขณะที่เพื่อนๆได้งานทำกันมาสามสี่เดือนแล้ว
ความจริงไม่ได้เศร้าโศกเสียใจอะไรมากมาย แต่ที่ไปอยู่บ้าน ไปนั่งคิดนอนคิดว่าสิ่งที่เราทำมันถูกต้องรึเปล่า เราคิดทำอะไรมันแค่ความสะใจหรือความโกรธแค้นเสียใจ
สรุปแล้วมันก็รวมๆกันนะแหล่ะ555 รวมทุกอย่างทั้งรักและทั้งเกลียด เสียใจ ไม่อยากคิดว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ
พอได้เข้ามาทำงานในสภาพโรงงาน โรงงานใหญ่โตกับสาวร่างเล็กบอบบางอย่างเรา (อย่าได้เปรียบเทียบกับตอนนี้นะคนอ่าน เพราะเหตุการณ์มัน19 ปีมาแล้วเน้อ )

เราจะปรับตัวอย่างไร ทำงานวันแรกก็ย้ายมาอยู่ในโรงงานเลย หอพักตอนยังไม่ได้ปรับปรุง ผนังติดกับโรงไม้เลย นอนฟังเสียงเครื่องจักรตัดไม้ บาดแก้วหูดีแท้
เสียงเครื่องจักรผสมขี้เลื่อยฝุ่น พ่นผ่านรูกำแพงมา
กลิ่นหอมเข้าจมูก ชื่นจายยยย.....
ทำงานตอนแรกๆทีมงานที่รับมาใหม่ๆพร้อมกันตั้งแต่พนง.ขับรถไปจนถึงพนง.ออฟฟิต ส่วนใหญ่จะนิสัยน่ารักดี ถ้อยที่ถ้อยอาศัยกัน
หนุ่มสาวในไลน์การผลิตก็จะนอบน้อมถ่อมตนแต่อาจจะนินทาลับหลังเราก็เป็นได้ พวกนี้ทำงานในโรงงานมันจะร้อน มีแต่พัดลมเป่าๆให้มันร้อนขึ้นไปอีก
เห็นสาวๆหนุ่มออฟฟิตเดินมาก็จะมองม๊องมอง แต่ที่โดนแซวส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานอื่นแบบเวลาเราเดินผ่าน รึไม่ก็โรงของเรานี่แหล่ะที่ไม่เคยเห็นเรามาก่อน
มีบ้างที่พนง.แบบพวกขนส่งพนง.ฝ่ายอื่นๆที่มียิบย่อย ไม่รู้จักเราดีพอ เห็นปุ๊ปก็นึกว่าแซวแบบสาวออฟฟิตได้ เพราะสาวๆออฟฟิตจะเงียบไม่ค่อยมีปากเสียงกับพวกพนง.ขาโจ๋ โดนแซวบางครั้งร้องไห้
จะให้จขกท. ไปยืนร้องไห้ก็ไม่ใช่เรื่อง พวกนี้ถ้าเห็นเราอ่อนสนิมสร้อยเค้าก็จะรู้ว่าแหน่ะ อ่อน!!!
เพราะฉะนั้นถ้าเราเดินผ่านปุ๊ปใครริบังอาจผิวปากวิ๊ดวิ้ว!!! อย่าทำเป็นตระหนกตกใจเดินเร็วหรือวิ่งหนีเข้าออฟฟิตไปเด็ดขาด ให้หยุดชะงัก!!! หลังตรงนิ่ง!!!
จะถือรางล้อแผ่นไม้อะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่หนักก็เกร็งไป แต่ถ้าหนักวางลงแล้วหันไปช้าๆ ช้าๆ ปราดสายตาแบบนิ่งๆแต่มองปรายตา....
ไม่ต้องพูดอะไรบอกให้รู้ว่าตรูไม่ชอบ อย่านะเมริงอย่ามาปากเปราะเก่งแต่ผิวปาก นี่คือการหัดสร้างแลนด์มาร์คหน้านิ่งของช้อยเบื้องต้น
นานๆไปถ้าเจออีก อย่างที่เคยเล่า รู้เค้ารู้เรา มันเป่าปากแบบนี้เดินเข้าไปเลย ถามเสียงดังๆว่าใคร ถ้าไม่มีใครตอบก็บอกแบบรวมๆว่าอย่ามาทำนิสัยแบบนี้เดี๋ยวเจอดีกัน
แล้วก็เดินเข้าไปบอกผจก.เค้าเดี๋ยวนั้นขณะนั้น อย่าปล่อยให้มันค้างคา เดี๋ยวพวกนี้ได้ใจ แรกๆโดนบ่อยหลังๆเค้าเริ่มรู้ว่าสาวออฟฟิตไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน
อย่าไปยุ่งกับมาน มันเป็นหมาบ้า....
ก็เพราะอย่างนี้นี่แหละ บางครั้งตอนทำงานเเรกๆปรับตัวไม่ได้ แอบนึกถึงคนหนึ่งคนไกล ถ้าเราดีๆกันอยู่ก็คงจะมาช่วยปกป้องเราได้บ้าง
จะรอแต่ไปฟ้องเพื่อนก็อยู่คนละโรงงาน โรงใครโรงมันปรับตัวไม่ได้ก็ย้ายออกไปซิช้อย อ่ะนะงานที่แรกจะยอมแพ้เสียก็กระไร
ลองกันดูสักพักว่าเราจะอยู่ได้รึเปล่า?
บางคนเห็นเราไม่มีแฟนเดินทื่ออยู่คนเดียวในโรงงาน ไม่มีชายหนุ่มคนไหนมารับมาส่ง เช่นจ๊าบจ้วยเป็นต้น
แสดงว่าโสด ตรูจีบเลยละกัน.... ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!!!

แซวด่ะจีบไม่เลือกบางคนนี่หน้าด้านม๊ากกก มีลูกเมียแล้วมาทำเป็นหมาหยอกไก่อย่าว่าแต่พนง.โรงงานเลย พวกซัพพลายเออร์นี่แหล่ะตัวดี
มีลูกเมียแต่แหม่!!!มาชวนไปกินข้าว หวังผลว่าถ้าเราเลือกสินค้าประภทอุปกรณ์ของเค้ามาใช้กับเฟอร์นิเจอร์ที่เราออกแบบก็สบายแฮ ออร์เดอร์เพียบ!!
ไม่ไหวไม่ใช่สไตล์ช้อย!!! ไม่ดูหนังหน้าตัวเองเลยนะยูว์ สูบบุหรี่ปุ๋ยๆ เหงือกเขียวเชียวนะ ถึงชั้นจะไม่สวยชั้นก็เลือกนะ !!!!
ขออภัยตอนนั้นที่คิดอย่างนั้นจริง ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่5555
ทำงานไปนานๆนี่ถึงกับเครียด ...โอ้หละหนาชีวิตช้อย หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวัน ทำงานหกวันเข้างานแต่เช้ากลับมืดดึกๆวันๆเจอแต่พวกในโรงงาน โรงนั้นโรงนี้
สักวันตรูได้มองคนแบกไม้หล่อเหลาเป็นแน่แท้
คิดแล้วก็พาลโกรธ คนที่เราเคยคบด้วยถ้ายังมีเค้าอยู่พวกนี้ไม่มีโอกาศได้มาล้อมาแซว ช้อยจะเชิ่ดได้อย่างภูมิใจว่าอย่าได้ริมาจีบ
แต่นี้ต้องเชิ่ดแบบระเเวงวันหนึ่งงจะโดนลากไปทุบหลังโรงงานรึเปล่า เพราะความจองหองของหล่อน ผยองแท้นะนังช้อย!!!!!
ภาพประกอบหน้าตาช้อยตอนเข้าไปเป็นสาวโรงงานใหม่ๆ หลังจากเริ่มหัดทำหน้านิ่ง และสายตานิ่งๆคอแข็งๆเวลาโดนแซว

ภาพวาดด้วยปากกาสีดำ เก็บรายละเอียดไม่เสร็จหาปากกาด้ามเก่าไม่เจอสาบสูญไปสิบกว่าปีที่แล้ว ลอนขนของหมาน้อยยังใส่รายละเอียดไม่เสร็จ จะบอกเพื่อ? ....เพื่อ?
@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆ.....สไตล์ช้อยชบา ----------@@@@@ ( ตอนที่ 2 สาวโรงงาน)
http://pantip.com/topic/32676598/comment17
--------------------------------------------------------------
ใครที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องที่จขกท.เขียนเล่ายินดีต้อนรับค่ะ
ใครที่ตามอ่านอยู่บ่อยๆ ยาวไปเลยค่ะ ยาวปายยย.......
ท้าวความเดิมจากกระทู้ด้านบน.... โปรดมองบน ( กระทู้บน )
เคยเล่าในกระทูก่อนๆว่าก่อนได้งานจขกท. อกหักรักคุดกลับไปพักผ่อนที่บ้านขณะที่เพื่อนๆได้งานทำกันมาสามสี่เดือนแล้ว
ความจริงไม่ได้เศร้าโศกเสียใจอะไรมากมาย แต่ที่ไปอยู่บ้าน ไปนั่งคิดนอนคิดว่าสิ่งที่เราทำมันถูกต้องรึเปล่า เราคิดทำอะไรมันแค่ความสะใจหรือความโกรธแค้นเสียใจ
สรุปแล้วมันก็รวมๆกันนะแหล่ะ555 รวมทุกอย่างทั้งรักและทั้งเกลียด เสียใจ ไม่อยากคิดว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ
พอได้เข้ามาทำงานในสภาพโรงงาน โรงงานใหญ่โตกับสาวร่างเล็กบอบบางอย่างเรา (อย่าได้เปรียบเทียบกับตอนนี้นะคนอ่าน เพราะเหตุการณ์มัน19 ปีมาแล้วเน้อ )
เราจะปรับตัวอย่างไร ทำงานวันแรกก็ย้ายมาอยู่ในโรงงานเลย หอพักตอนยังไม่ได้ปรับปรุง ผนังติดกับโรงไม้เลย นอนฟังเสียงเครื่องจักรตัดไม้ บาดแก้วหูดีแท้
เสียงเครื่องจักรผสมขี้เลื่อยฝุ่น พ่นผ่านรูกำแพงมา
กลิ่นหอมเข้าจมูก ชื่นจายยยย.....
ทำงานตอนแรกๆทีมงานที่รับมาใหม่ๆพร้อมกันตั้งแต่พนง.ขับรถไปจนถึงพนง.ออฟฟิต ส่วนใหญ่จะนิสัยน่ารักดี ถ้อยที่ถ้อยอาศัยกัน
หนุ่มสาวในไลน์การผลิตก็จะนอบน้อมถ่อมตนแต่อาจจะนินทาลับหลังเราก็เป็นได้ พวกนี้ทำงานในโรงงานมันจะร้อน มีแต่พัดลมเป่าๆให้มันร้อนขึ้นไปอีก
เห็นสาวๆหนุ่มออฟฟิตเดินมาก็จะมองม๊องมอง แต่ที่โดนแซวส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานอื่นแบบเวลาเราเดินผ่าน รึไม่ก็โรงของเรานี่แหล่ะที่ไม่เคยเห็นเรามาก่อน
มีบ้างที่พนง.แบบพวกขนส่งพนง.ฝ่ายอื่นๆที่มียิบย่อย ไม่รู้จักเราดีพอ เห็นปุ๊ปก็นึกว่าแซวแบบสาวออฟฟิตได้ เพราะสาวๆออฟฟิตจะเงียบไม่ค่อยมีปากเสียงกับพวกพนง.ขาโจ๋ โดนแซวบางครั้งร้องไห้
จะให้จขกท. ไปยืนร้องไห้ก็ไม่ใช่เรื่อง พวกนี้ถ้าเห็นเราอ่อนสนิมสร้อยเค้าก็จะรู้ว่าแหน่ะ อ่อน!!!
เพราะฉะนั้นถ้าเราเดินผ่านปุ๊ปใครริบังอาจผิวปากวิ๊ดวิ้ว!!! อย่าทำเป็นตระหนกตกใจเดินเร็วหรือวิ่งหนีเข้าออฟฟิตไปเด็ดขาด ให้หยุดชะงัก!!! หลังตรงนิ่ง!!!
จะถือรางล้อแผ่นไม้อะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่หนักก็เกร็งไป แต่ถ้าหนักวางลงแล้วหันไปช้าๆ ช้าๆ ปราดสายตาแบบนิ่งๆแต่มองปรายตา....
ไม่ต้องพูดอะไรบอกให้รู้ว่าตรูไม่ชอบ อย่านะเมริงอย่ามาปากเปราะเก่งแต่ผิวปาก นี่คือการหัดสร้างแลนด์มาร์คหน้านิ่งของช้อยเบื้องต้น
นานๆไปถ้าเจออีก อย่างที่เคยเล่า รู้เค้ารู้เรา มันเป่าปากแบบนี้เดินเข้าไปเลย ถามเสียงดังๆว่าใคร ถ้าไม่มีใครตอบก็บอกแบบรวมๆว่าอย่ามาทำนิสัยแบบนี้เดี๋ยวเจอดีกัน
แล้วก็เดินเข้าไปบอกผจก.เค้าเดี๋ยวนั้นขณะนั้น อย่าปล่อยให้มันค้างคา เดี๋ยวพวกนี้ได้ใจ แรกๆโดนบ่อยหลังๆเค้าเริ่มรู้ว่าสาวออฟฟิตไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน
อย่าไปยุ่งกับมาน มันเป็นหมาบ้า....
ก็เพราะอย่างนี้นี่แหละ บางครั้งตอนทำงานเเรกๆปรับตัวไม่ได้ แอบนึกถึงคนหนึ่งคนไกล ถ้าเราดีๆกันอยู่ก็คงจะมาช่วยปกป้องเราได้บ้าง
จะรอแต่ไปฟ้องเพื่อนก็อยู่คนละโรงงาน โรงใครโรงมันปรับตัวไม่ได้ก็ย้ายออกไปซิช้อย อ่ะนะงานที่แรกจะยอมแพ้เสียก็กระไร
ลองกันดูสักพักว่าเราจะอยู่ได้รึเปล่า?
บางคนเห็นเราไม่มีแฟนเดินทื่ออยู่คนเดียวในโรงงาน ไม่มีชายหนุ่มคนไหนมารับมาส่ง เช่นจ๊าบจ้วยเป็นต้น
แสดงว่าโสด ตรูจีบเลยละกัน.... ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!!!
แซวด่ะจีบไม่เลือกบางคนนี่หน้าด้านม๊ากกก มีลูกเมียแล้วมาทำเป็นหมาหยอกไก่อย่าว่าแต่พนง.โรงงานเลย พวกซัพพลายเออร์นี่แหล่ะตัวดี
มีลูกเมียแต่แหม่!!!มาชวนไปกินข้าว หวังผลว่าถ้าเราเลือกสินค้าประภทอุปกรณ์ของเค้ามาใช้กับเฟอร์นิเจอร์ที่เราออกแบบก็สบายแฮ ออร์เดอร์เพียบ!!
ไม่ไหวไม่ใช่สไตล์ช้อย!!! ไม่ดูหนังหน้าตัวเองเลยนะยูว์ สูบบุหรี่ปุ๋ยๆ เหงือกเขียวเชียวนะ ถึงชั้นจะไม่สวยชั้นก็เลือกนะ !!!!
ขออภัยตอนนั้นที่คิดอย่างนั้นจริง ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่5555
ทำงานไปนานๆนี่ถึงกับเครียด ...โอ้หละหนาชีวิตช้อย หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวัน ทำงานหกวันเข้างานแต่เช้ากลับมืดดึกๆวันๆเจอแต่พวกในโรงงาน โรงนั้นโรงนี้
สักวันตรูได้มองคนแบกไม้หล่อเหลาเป็นแน่แท้
คิดแล้วก็พาลโกรธ คนที่เราเคยคบด้วยถ้ายังมีเค้าอยู่พวกนี้ไม่มีโอกาศได้มาล้อมาแซว ช้อยจะเชิ่ดได้อย่างภูมิใจว่าอย่าได้ริมาจีบ
แต่นี้ต้องเชิ่ดแบบระเเวงวันหนึ่งงจะโดนลากไปทุบหลังโรงงานรึเปล่า เพราะความจองหองของหล่อน ผยองแท้นะนังช้อย!!!!!
ภาพประกอบหน้าตาช้อยตอนเข้าไปเป็นสาวโรงงานใหม่ๆ หลังจากเริ่มหัดทำหน้านิ่ง และสายตานิ่งๆคอแข็งๆเวลาโดนแซว
ภาพวาดด้วยปากกาสีดำ เก็บรายละเอียดไม่เสร็จหาปากกาด้ามเก่าไม่เจอสาบสูญไปสิบกว่าปีที่แล้ว ลอนขนของหมาน้อยยังใส่รายละเอียดไม่เสร็จ จะบอกเพื่อ? ....เพื่อ?