Cocktail The lords of misery อัลบั้มที่ 5 ของ Cocktail ที่ก่อนจะเป็นอัลบั้มนี้ก็ส่งซิงเกิ้ลออกมาแต่ละเพลง ขึ้นชาร์ตกันแบบรัว ๆ มาหลายเพลงไม่ว่าจะเป็น คุกเข่า เธอ น้ำตาสุดท้าย โปรดเถิดรัก ทำให้ผมไม่ลังเลเลยที่จะสั่งแบบพรีออเดอร์ซึ่งต่างจากวอร์คอินตรงที่ได้ลายเซ็นต์ของทั้งวงด้วย
สั่งตั้งแต่วันแรกที่เปิดจอง ของมาถึงไวดีครับ 2 วันทำการ แต่ขอติการหีบห่อนิสสนึงครับ ห่อด้วยบับเบิ้ล+กระดาษหนังสือพิมพ์มันดูไม่ค่อยจะเซฟเท่าไหร่นะครับ
ผมไม่ขอรีวิวหรือวิจารณ์เรื่องเพลงนะครับ เพราะไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรมากมาย มาว่ากันที่แพ็กเกจอย่างเดียวเลยดีกว่าครับ
ด้านหน้าของกล่องครับโลโก้ที่ถูกพิมพ์นูน พร้อมจัดเส้นด้วยสีทองสะท้อนแสง บนพื้นคล้าย ๆปกหนังสือเล่มเก่า ๆ โต ๆ ดูหรูดีครับ
ส่วนด้านหลังก็มีรายชื่อเพลงที่ใช้ตัวเลขโรมันแทนเลขอาราบิค เข้ากันดีกับตัวกล่อง (แอบสงสัยว่า CTV คืออะไรนั่งคิดอยู่นานเลยตีความว่า CT = Cocktail V = 5 ในเลขโรมัน ไม่รู้ใช่มั้ย 555+)
ถอดปลอกหุ้มเข้าไปดูข้างในกัน ด้านหน้าจะเห็นรูปปั้นสีทองทำหน้าPalmfaceอยู่(เอิ๊ก ๆๆ) ในBookletบอกไว้นะครับว่าเป็นใครเดี๋ยวค่อยไปดูกัน

ส่วนด้านหลังจะเป็นรายชื่อศิลปินและผู้มีส่วนร่วมในอัลบั้มทั้งหมด
เปิดเข้ามา(เปิดออกซ้ายขวา) จะเป็นรูปคุณโอม (น่าจะใช่นะ) นั่งคุกเข่าต่อหน้า รูปปั้นอะไรซักอย่างพร้อมด้วยเวิร์ดดิ้ง "Deep in earth my love is lying And I must weep alone" Edgar Allan Poe ได้ชื่อมาแล้วก็หาสิครับได้ใจความสั้น ๆ ว่าเค้าเป็นนักวิจารณ์ นักกวี นักเขียน อยากรู้เพิ่มเติมต้องลองไปอ่านดูครับ (
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C_%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%99_%E0%B9%82%E0%B8%9E)
ทีนี้ก็ถึงใส้ในกันแล้วครับ กางออกมา ผ่างงง ง!!! ภาพสวยมากครับ ด้านซ้ายเป็นที่เก็บ CD ด้านขวาเป็นที่เก็บ Booklet

และลายเซ็นต์
ดึง CD ออกมาดูหน่อย ด้านหน้า "The Music of sorrow" พร้อมกับเลขโรมัน ll ถ้าเปรียบเป็นหนังสือก็คงเป็นเล่มที่ 2 และแน่นอนถ้าจะอ่านหนังสือให้รู้เรื่องควรอ่านจากเล่ม 1 ซึ่ง 1 หรือ l ก็คือ Booklet นั่นแหละครับ

ด้านหลัง

ดีไซน์ที่เก็บแผ่น แปลกดีครับ แต่ข้อเสียคือแค่เอียงแผ่นก็ร่วงลงมาแล้ว T^T
ความนี้ก็ด้านขวาบ้างครับกับ Booklet ที่ปกเขียนบอกว่า "The Book of misery" พร้อมกับเลขโรมัน l อย่างที่บอกไว้ข้างต้นครับ ด้านใน Booklet ก็จะมีเหล่าปราชญ์ และคำคมอยู่ด้านใน มีรูปศิลปินในวง และเนื้อเพลงครับและหน้าหลังสุดมี leaflet แผ่นนึงด้านหน้าบอกรายละเอียดรูปั้นสีทองที่ผมพูดไว้ด้านบนครับ โดยบอกว่า รูปปั้นนี้นามว่า(โดยความเข้าใจของผมเองนะครับ) Oizys แล้วก็มีคำขยายความ 3 บรรทัดครับ เปิด leaflet ออกมาจะเป็น คำขอบคุณของแต่ละท่านครับ ออกแบบจัดวางได้สวยงามเลยทีเดียวครับ
หมดแล้วครับ ทั้งหมดของ Cocktail The lords of misery กับแพ็กเกจที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามลงตัว สรุปแล้ว ซื้อเถอะครับกับราคาแค่ 250.- เทียบกับการออกแบบที่สวยงามไม่แพ้ของเมืองนอก กับยุคที่วงการเพลงไทยออกแบบแพ็กเกจแบบขอไปที นี่คือ 1 ศิลปินที่ไม่เคยทำแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แบบขอไปที และจากที่ตามข่าว รู้สึกว่าจะทำมาแค่ 4000 ชุดเท่านั้นเองครับ
สุดท้ายนี้ผิดพลาด หรือไม่ถูกใจเพื่อน ๆ ก็ขออภัยไว้ก่อนเลยครับผม
ปล. ตินิดเดียว Booklet เวลาเอาออกมาแล้ว ยัดกลับเข้าไปยากพอสมควร จนต้องเปลี่ยนเอาด้านสันเข้า (กลัวมันยับ T^T)
[CR] [CR] Review Cocktail The lords of misery [แพ็กเกจจิ้งล้วน ๆ]
สั่งตั้งแต่วันแรกที่เปิดจอง ของมาถึงไวดีครับ 2 วันทำการ แต่ขอติการหีบห่อนิสสนึงครับ ห่อด้วยบับเบิ้ล+กระดาษหนังสือพิมพ์มันดูไม่ค่อยจะเซฟเท่าไหร่นะครับ
ผมไม่ขอรีวิวหรือวิจารณ์เรื่องเพลงนะครับ เพราะไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรมากมาย มาว่ากันที่แพ็กเกจอย่างเดียวเลยดีกว่าครับ
ด้านหน้าของกล่องครับโลโก้ที่ถูกพิมพ์นูน พร้อมจัดเส้นด้วยสีทองสะท้อนแสง บนพื้นคล้าย ๆปกหนังสือเล่มเก่า ๆ โต ๆ ดูหรูดีครับ
ส่วนด้านหลังก็มีรายชื่อเพลงที่ใช้ตัวเลขโรมันแทนเลขอาราบิค เข้ากันดีกับตัวกล่อง (แอบสงสัยว่า CTV คืออะไรนั่งคิดอยู่นานเลยตีความว่า CT = Cocktail V = 5 ในเลขโรมัน ไม่รู้ใช่มั้ย 555+)
ถอดปลอกหุ้มเข้าไปดูข้างในกัน ด้านหน้าจะเห็นรูปปั้นสีทองทำหน้าPalmfaceอยู่(เอิ๊ก ๆๆ) ในBookletบอกไว้นะครับว่าเป็นใครเดี๋ยวค่อยไปดูกัน
ส่วนด้านหลังจะเป็นรายชื่อศิลปินและผู้มีส่วนร่วมในอัลบั้มทั้งหมด
เปิดเข้ามา(เปิดออกซ้ายขวา) จะเป็นรูปคุณโอม (น่าจะใช่นะ) นั่งคุกเข่าต่อหน้า รูปปั้นอะไรซักอย่างพร้อมด้วยเวิร์ดดิ้ง "Deep in earth my love is lying And I must weep alone" Edgar Allan Poe ได้ชื่อมาแล้วก็หาสิครับได้ใจความสั้น ๆ ว่าเค้าเป็นนักวิจารณ์ นักกวี นักเขียน อยากรู้เพิ่มเติมต้องลองไปอ่านดูครับ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C_%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%99_%E0%B9%82%E0%B8%9E)
ทีนี้ก็ถึงใส้ในกันแล้วครับ กางออกมา ผ่างงง ง!!! ภาพสวยมากครับ ด้านซ้ายเป็นที่เก็บ CD ด้านขวาเป็นที่เก็บ Booklet
และลายเซ็นต์
ดึง CD ออกมาดูหน่อย ด้านหน้า "The Music of sorrow" พร้อมกับเลขโรมัน ll ถ้าเปรียบเป็นหนังสือก็คงเป็นเล่มที่ 2 และแน่นอนถ้าจะอ่านหนังสือให้รู้เรื่องควรอ่านจากเล่ม 1 ซึ่ง 1 หรือ l ก็คือ Booklet นั่นแหละครับ
ด้านหลัง
ดีไซน์ที่เก็บแผ่น แปลกดีครับ แต่ข้อเสียคือแค่เอียงแผ่นก็ร่วงลงมาแล้ว T^T
ความนี้ก็ด้านขวาบ้างครับกับ Booklet ที่ปกเขียนบอกว่า "The Book of misery" พร้อมกับเลขโรมัน l อย่างที่บอกไว้ข้างต้นครับ ด้านใน Booklet ก็จะมีเหล่าปราชญ์ และคำคมอยู่ด้านใน มีรูปศิลปินในวง และเนื้อเพลงครับและหน้าหลังสุดมี leaflet แผ่นนึงด้านหน้าบอกรายละเอียดรูปั้นสีทองที่ผมพูดไว้ด้านบนครับ โดยบอกว่า รูปปั้นนี้นามว่า(โดยความเข้าใจของผมเองนะครับ) Oizys แล้วก็มีคำขยายความ 3 บรรทัดครับ เปิด leaflet ออกมาจะเป็น คำขอบคุณของแต่ละท่านครับ ออกแบบจัดวางได้สวยงามเลยทีเดียวครับ
หมดแล้วครับ ทั้งหมดของ Cocktail The lords of misery กับแพ็กเกจที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามลงตัว สรุปแล้ว ซื้อเถอะครับกับราคาแค่ 250.- เทียบกับการออกแบบที่สวยงามไม่แพ้ของเมืองนอก กับยุคที่วงการเพลงไทยออกแบบแพ็กเกจแบบขอไปที นี่คือ 1 ศิลปินที่ไม่เคยทำแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แบบขอไปที และจากที่ตามข่าว รู้สึกว่าจะทำมาแค่ 4000 ชุดเท่านั้นเองครับ
สุดท้ายนี้ผิดพลาด หรือไม่ถูกใจเพื่อน ๆ ก็ขออภัยไว้ก่อนเลยครับผม
ปล. ตินิดเดียว Booklet เวลาเอาออกมาแล้ว ยัดกลับเข้าไปยากพอสมควร จนต้องเปลี่ยนเอาด้านสันเข้า (กลัวมันยับ T^T)