เพลงจบอารมณ์ยังไม่จบ กว่าสิบๆรอบที่ฟังเพลงของอัลบั้มชุดนี้ไป ก็อยากจะมารีวิวให้ฟังถึงเพลงแต่ละเพลง ของ bodyslam อัลบั้มล่าสุด dharmajāti (ดัม-มะ-ชา-ติ)
ออกตัวก่อนว่าผมเองนั้นก็เป็นแฟนเพลงของ bodyslam คนนึง คะแนนก็ให้ตามความพอพอใจในแต่ละเพลง (เทียบเพลง กับ ตัวเพลงเอง) อีกอย่างคือผมไม่มีความรู้ด้านดนตรี จึงจะขอรีวิวตามความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ผิดพลาดประการใดติชมกันได้ครับผม
สำหรับภาพรวมของอัลบั้มนี้ เพลงมาในแบบปรัชญาเกือบทั้งอัลบั้ม ถือเป็นอัลบั้มที่ฟังยากที่สุดของ bodyslam เลย
และหากฟังตามลำดับเพลงจะยิ่งชัดเจนขึ้น ในแง่ของความเป็น concept album ที่จะพูดถึงเรื่องของชีวิต การเดินทางผ่านเรื่องราวต่างไปสู่วันข้างหน้า
จะเห็นได้ว่าแนวทางนี้ของ bodyslam ไม่ได้แตกต่างไปจากอัลบั้มก่อนๆเลย ที่พูดถึงเรื่องชีวิต เรื่องความฝัน จนเป็นจุดขายของวงไปแล้ว แต่ผมกลับมองว่า ในครั้งนี้แม้จะยังคงเน้นเรื่องชีวิตแต่กลับมาในแบบที่ลึกขึ้น แฝงปรัชญามากมาย มีทั้งที่ตัวเองตีความได้และไม่ได้ จะเห็นได้ว่าหลายๆเพลง ฟังยากมาก เนื้อไม่ติดหู แปลความหมายไม่ได้ ใช้คำว่าชีวิต ความฝัน ทะเล ภูเขา บลาๆๆ มากเกินไป
นั่นคือความรู้สึกที่ได้ฟังรอบแรกครับ...
แต่ถึงอย่างนั้น จนตอนนี้ กว่าสิบๆรอบในแต่ละเพลง ทำให้ผมอดที่จะมารีวิวถึงไม่ได้เลย มันเป็นอย่างไร มาเริ่มกันเลยครับ
1.เตรียมตัวตาย (10/10)
เพลงนี้คือเพลงที่ไม่ได้ฉีกแนวดนตรีไปจากอัลบั้มก่อนมาก แต่ที่ผมให้เต็มนั่นเพราะ เพลงนี้คือ bodyslam ตัวจริงเสียงจริง ดนตรีที่สนุก มันส์ เนื้อหาที่เข้าถึงง่าย ฟังแล้วนึกถึงเพลงยาพิษเลย เนื้อหาเพลงพูดถึง คุณค่าของการมีชีวิตอยู่อาจเพียงแค่ได้ทำเพื่อคนที่เรารัก แต่แค่นี้เราตายโดยไม่เสียดายชีวิตแล้ว
ตีความอีกแง่ : ทำไมเพลงแรกของอัลบั้มถึงไม่ใช่เรือเล็ก อย่างซิงเกิ้ลที่ปล่อยมา มันต้องมีความหมายอะไรแน่ๆ ? ความหมายเพลงอีกแง่หนึ่งของเพลงนี้อาจเปรียบกับก้าวใหม่ของ bodyslam ที่ไม่เน้นทำเพลงเพื่อตลาด แต่เป็นแนวเพลงที่มีเรื่องราวที่วงอยากจะเล่า ถึงตลาดและคนหมู่มากไม่เข้าใจ แต่ขอแค่บางคนตีความได้ จะน้อยบ้างมากบ้าง ก็เพียงพอแล้ว (เป็นการเตรียมตัวตายของ bodyslam ว่างั้น..)
"ใคร...สักคนก็พอ
ชีวิตตายให้มีความหมายเพื่อคำว่ารัก
ไม่ยิ่งใหญ่ แค่เธอจำไว้เพียงพอ"
2.เรือเล็กควรออกจากฝั่ง (9/10)
ถูกปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรก ซึ่งทุกคนคงคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ส่วนตัวเหมือนท่อนโซโล่สั้นไปนิดนึง อยากให้ยาวกว่านี้หน่อย เนื้อหาพูดถึงการกล้าออกไปเผชิญโลกกว้าง และเรียนรู้
"คำตอบอยู่กลางคลื่นลม ชีวิตแม้ต้องล้มลงตรงไหน
แต่ฉันก็ยังยืนยันที่จะไป..."
3.ชีวิตยังคงสวยงาม (8.5/10)
ซิงเกิ้ลที่สามของอัลบั้ม ดนตรีและเนื้อร้องฟังแล้วรู้สึกมีกำลังใจในยามท้อแท้ เนื้อหาพูดถึงสุขทุกข์ที่เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต แต่ชีวิตก็ยังคงสวยงาม
"ไม่ว่าจะร้ายดี ชีวิตยังคงสวยงาม"
4.ปลิดปลิว feat.เมธี Labanoon(9.5/10)
เป็นเพลงที่ผมชอบมาก ทำนองฟังดูละมุน เสียงพี่เมธีเพราะระรื่นหูมากกกก ไม่รู้ทำไม ถึงได้กลิ่นอายของ cocktail ในเพลงๆนี้
เนื้อหาเพลงพูดถึงความเสียใจที่ต้องสูญเสีย ที่เมื่อไรเราจะหมดไปเสียที
"อีกกี่หยดนํ้าตาที่ยังต้องไหลริน ขอให้มันเป็นหยดสุดท้าย"
5. dharmajāti (9.5/10)
ซิงเกิ้ลที่สองของอัลบั้มในชื่อเดียวกัน เนื้อเพลงตีความยากมาก คงเป็นเพลงที่ฟังยากสุดในอัลบั้มนี้แล้ว แต่เรื่องความมันส์นี่ไหวสบายๆ (ร้องตามไม่ได้ ก็โห่ไป)
เนื้อหาพูดถึง ชีวิตมีอดีตที่เจ็บปวด แต่มันก็เป็นบทเรียนที่มีค่า
"ความจริงจากฟ้า ขีดไว้ให้โลกสวยงาม"
(คืออะไร ?)
6.ครึ่งหลับครึ่งตื่น (8.5/10)
ดนตรีสนุกมากๆอีกเพลง ผมชอบการสื่อสารของเพลงนี้มาก ที่ขยายความหมายของชื่อเพลงได้ดี เพลงทีการเปรียบเทียบคำว่า จินตนาการ กับ พัธนาการ ซึ่งแท้จริงแล้ว เราติดอยู่ในอะไรกันแน่ อาจเป็นเพราะผมคิดไปเอง แต่เพลงให้ความรู้สึกที่สับสนเป็นครั้งคราว (หลับหรือตื่น ?) แล้วเพลงก็ยังจบแบบอยู่ๆก็จบตรงนั้น ทำให้ยิ่งตอกย้ำคำว่า ครึ่งหลับครึ่งตื่นได้อารมณ์มาก สรุปว่า..
"...จินตนาการ
พันธนาการ..."
7.คิดถึง (10/10)
'ดังแน่ๆ' เป็นสิ่งที่ผมคิดหลังจากฟังรอบแรกจบ ติดหูมาก เพราะมาก เป็นเพลงช้าแนวคิดถึงคนรักเก่า มันทำให้ผมนึกถึงเพลงเปราะบางในอัลบั้มก่อน ซึ่งตอนนั้นก็ดังสุดๆ เชื่อว่าหลายๆคนจะชอบกันครับ เนื้อเพลงพูดถึง ความคิดถึงที่มีต่อคนรักเก่า
"เพลงนี้... คือเสียงของความว่างเปล่า"
8.รักอยู่ข้างเธอ (8/10)
ดนตรีขึ้นมาก็รู้สึกว่าหวานในแบบร๊อคๆ เพลงนี้อาจจะไม่โดดเด่น อาจเพราะเนื้อหาเป็นรักที่สุขสมหวัง พูดถึงการอยู่เคียงข้างให้กำลังใจของคนรักกัน
แต่เนื้อหาสบายๆแบบนี้ก็เพื่อจะพักอารมณ์เพื่อไปสู่เพลงต่อไปนี่แหละ
"ยังต้องเชื่อ ยังต้องฝัน มีกันและกันเราจะไม่เดียวดาย"
9.ความฝันกับจักรวาล (10+/10)
อารมณ์เพลงมันให้คะแนนไปอย่างนั้นจริงๆครับ ฟังมาตั้งแต่เพลงแรก จนพีคที่สุดในเพลงนี้
อาจจะมองว่าผมเว่อร์ แต่ผมชอบมากในทุกองค์ประกอบจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาศาสนาปรัชญา ดนตรีที่แปลกใหม่ไม่คุ้นหู แต่มันส์สุดๆ
bodyslam ที่เคยพาผมไปขอบฟ้า วันนี้พาผมมาท่องจักรวาลแล้ว !!
เนื้อหาเพลงพูดถึงชีวิตที่จริงๆแล้วเราก็ไม่ได้เป็นอิสระโดยแท้จริง ยังอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม แต่ชีวิตก็ยังมีสิทธิ์ที่จะฝันอย่างอิสระ และเลือกที่จะทำความดีได้
"หนทางต่อไปในจักรวาลมืดมน เพียงขอแค่ฝัน
ถ้าฉัน...ไม่อาจหลุดพ้น"
10.ช่างมันเถอะเหงา (8/10)
เป็นเพลงที่แต่งโดยแอ๊ด คาราบาว ซึ่งได้มอบเป็นของขวัญกับตูน นักร้องนำ
เพลงนี้เป็นครั้งแรกที่ bodyslam ร้องในแนวเพื่อชีวิต ฟังครั้งแรกก็ขัดหูมาก รู้สึกมันไม่ใช่ (ผมไม่ค่อยฟังเพลงเพื่อชีวิต)
แต่พอลองตั้งใจฟัง และดูเนื้อหาเพลงดีๆ
...
เพลงนี้มันโคตรเศร้าเลยครับ เนื้อหาอาจธรรมดา แต่ทำนองส่งอารมณ์ได้เศร้ามากกก T T
เป็นเพื่อชีวิต ตีความไม่ยาก ซึ้งกินใจมากๆ มันเศร้าจนผมต้องกดข้ามในทันที ที่เครื่องเล่นเพลงของผมวนมาถึงเพลงนี้อีกครั้ง
เนื้อเพลงพูดถึงการยอมรับการแยกทางกันของคู่รัก ที่ฝ่ายนึงได้มีใจที่เปลี่ยนไปแล้ว
"ความรักมีหลายหลากที่เจอ
อย่างน้อยได้เรียนรู้กัน
มีพบมีพลั้งเจ็บที่เดิม
เรียนรู้เพื่อในวันนั้น..."
จบแล้วนะครับ สำหรับรีวิวอัลบั้ม dharmajāti โดยความรู้สึกส่วนตัวของผมเอง
ก็อยากจะฝากให้คนที่ยังไม่เคยลองฟัง ได้ไปลองฟังกันครับ อาจจะได้รับความบันเทิง หรือแรงบันดาลใจดีๆเหมือนที่ผมได้รับ ก็มาแบ่งปันกันครับ
สุดท้ายนี้ก็ขออภัยในข้อผิดพลาดทุกประการครับผม
ปล. เครดิตรูปจาก facebook fanpage ของ bodyslam ครับ
[CR] bodyslam dharmajāti ไกลกว่าขอบฟ้าคือจักรวาลมืดมน
ออกตัวก่อนว่าผมเองนั้นก็เป็นแฟนเพลงของ bodyslam คนนึง คะแนนก็ให้ตามความพอพอใจในแต่ละเพลง (เทียบเพลง กับ ตัวเพลงเอง) อีกอย่างคือผมไม่มีความรู้ด้านดนตรี จึงจะขอรีวิวตามความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ผิดพลาดประการใดติชมกันได้ครับผม
สำหรับภาพรวมของอัลบั้มนี้ เพลงมาในแบบปรัชญาเกือบทั้งอัลบั้ม ถือเป็นอัลบั้มที่ฟังยากที่สุดของ bodyslam เลย
และหากฟังตามลำดับเพลงจะยิ่งชัดเจนขึ้น ในแง่ของความเป็น concept album ที่จะพูดถึงเรื่องของชีวิต การเดินทางผ่านเรื่องราวต่างไปสู่วันข้างหน้า
จะเห็นได้ว่าแนวทางนี้ของ bodyslam ไม่ได้แตกต่างไปจากอัลบั้มก่อนๆเลย ที่พูดถึงเรื่องชีวิต เรื่องความฝัน จนเป็นจุดขายของวงไปแล้ว แต่ผมกลับมองว่า ในครั้งนี้แม้จะยังคงเน้นเรื่องชีวิตแต่กลับมาในแบบที่ลึกขึ้น แฝงปรัชญามากมาย มีทั้งที่ตัวเองตีความได้และไม่ได้ จะเห็นได้ว่าหลายๆเพลง ฟังยากมาก เนื้อไม่ติดหู แปลความหมายไม่ได้ ใช้คำว่าชีวิต ความฝัน ทะเล ภูเขา บลาๆๆ มากเกินไป
นั่นคือความรู้สึกที่ได้ฟังรอบแรกครับ...
แต่ถึงอย่างนั้น จนตอนนี้ กว่าสิบๆรอบในแต่ละเพลง ทำให้ผมอดที่จะมารีวิวถึงไม่ได้เลย มันเป็นอย่างไร มาเริ่มกันเลยครับ
1.เตรียมตัวตาย (10/10)
เพลงนี้คือเพลงที่ไม่ได้ฉีกแนวดนตรีไปจากอัลบั้มก่อนมาก แต่ที่ผมให้เต็มนั่นเพราะ เพลงนี้คือ bodyslam ตัวจริงเสียงจริง ดนตรีที่สนุก มันส์ เนื้อหาที่เข้าถึงง่าย ฟังแล้วนึกถึงเพลงยาพิษเลย เนื้อหาเพลงพูดถึง คุณค่าของการมีชีวิตอยู่อาจเพียงแค่ได้ทำเพื่อคนที่เรารัก แต่แค่นี้เราตายโดยไม่เสียดายชีวิตแล้ว
ตีความอีกแง่ : ทำไมเพลงแรกของอัลบั้มถึงไม่ใช่เรือเล็ก อย่างซิงเกิ้ลที่ปล่อยมา มันต้องมีความหมายอะไรแน่ๆ ? ความหมายเพลงอีกแง่หนึ่งของเพลงนี้อาจเปรียบกับก้าวใหม่ของ bodyslam ที่ไม่เน้นทำเพลงเพื่อตลาด แต่เป็นแนวเพลงที่มีเรื่องราวที่วงอยากจะเล่า ถึงตลาดและคนหมู่มากไม่เข้าใจ แต่ขอแค่บางคนตีความได้ จะน้อยบ้างมากบ้าง ก็เพียงพอแล้ว (เป็นการเตรียมตัวตายของ bodyslam ว่างั้น..)
ชีวิตตายให้มีความหมายเพื่อคำว่ารัก
ไม่ยิ่งใหญ่ แค่เธอจำไว้เพียงพอ"
2.เรือเล็กควรออกจากฝั่ง (9/10)
ถูกปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรก ซึ่งทุกคนคงคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ส่วนตัวเหมือนท่อนโซโล่สั้นไปนิดนึง อยากให้ยาวกว่านี้หน่อย เนื้อหาพูดถึงการกล้าออกไปเผชิญโลกกว้าง และเรียนรู้
แต่ฉันก็ยังยืนยันที่จะไป..."
3.ชีวิตยังคงสวยงาม (8.5/10)
ซิงเกิ้ลที่สามของอัลบั้ม ดนตรีและเนื้อร้องฟังแล้วรู้สึกมีกำลังใจในยามท้อแท้ เนื้อหาพูดถึงสุขทุกข์ที่เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต แต่ชีวิตก็ยังคงสวยงาม
4.ปลิดปลิว feat.เมธี Labanoon(9.5/10)
เป็นเพลงที่ผมชอบมาก ทำนองฟังดูละมุน เสียงพี่เมธีเพราะระรื่นหูมากกกก ไม่รู้ทำไม ถึงได้กลิ่นอายของ cocktail ในเพลงๆนี้
เนื้อหาเพลงพูดถึงความเสียใจที่ต้องสูญเสีย ที่เมื่อไรเราจะหมดไปเสียที
5. dharmajāti (9.5/10)
ซิงเกิ้ลที่สองของอัลบั้มในชื่อเดียวกัน เนื้อเพลงตีความยากมาก คงเป็นเพลงที่ฟังยากสุดในอัลบั้มนี้แล้ว แต่เรื่องความมันส์นี่ไหวสบายๆ (ร้องตามไม่ได้ ก็โห่ไป)
เนื้อหาพูดถึง ชีวิตมีอดีตที่เจ็บปวด แต่มันก็เป็นบทเรียนที่มีค่า
6.ครึ่งหลับครึ่งตื่น (8.5/10)
ดนตรีสนุกมากๆอีกเพลง ผมชอบการสื่อสารของเพลงนี้มาก ที่ขยายความหมายของชื่อเพลงได้ดี เพลงทีการเปรียบเทียบคำว่า จินตนาการ กับ พัธนาการ ซึ่งแท้จริงแล้ว เราติดอยู่ในอะไรกันแน่ อาจเป็นเพราะผมคิดไปเอง แต่เพลงให้ความรู้สึกที่สับสนเป็นครั้งคราว (หลับหรือตื่น ?) แล้วเพลงก็ยังจบแบบอยู่ๆก็จบตรงนั้น ทำให้ยิ่งตอกย้ำคำว่า ครึ่งหลับครึ่งตื่นได้อารมณ์มาก สรุปว่า..
พันธนาการ..."
7.คิดถึง (10/10)
'ดังแน่ๆ' เป็นสิ่งที่ผมคิดหลังจากฟังรอบแรกจบ ติดหูมาก เพราะมาก เป็นเพลงช้าแนวคิดถึงคนรักเก่า มันทำให้ผมนึกถึงเพลงเปราะบางในอัลบั้มก่อน ซึ่งตอนนั้นก็ดังสุดๆ เชื่อว่าหลายๆคนจะชอบกันครับ เนื้อเพลงพูดถึง ความคิดถึงที่มีต่อคนรักเก่า
8.รักอยู่ข้างเธอ (8/10)
ดนตรีขึ้นมาก็รู้สึกว่าหวานในแบบร๊อคๆ เพลงนี้อาจจะไม่โดดเด่น อาจเพราะเนื้อหาเป็นรักที่สุขสมหวัง พูดถึงการอยู่เคียงข้างให้กำลังใจของคนรักกัน
แต่เนื้อหาสบายๆแบบนี้ก็เพื่อจะพักอารมณ์เพื่อไปสู่เพลงต่อไปนี่แหละ
9.ความฝันกับจักรวาล (10+/10)
อารมณ์เพลงมันให้คะแนนไปอย่างนั้นจริงๆครับ ฟังมาตั้งแต่เพลงแรก จนพีคที่สุดในเพลงนี้
อาจจะมองว่าผมเว่อร์ แต่ผมชอบมากในทุกองค์ประกอบจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาศาสนาปรัชญา ดนตรีที่แปลกใหม่ไม่คุ้นหู แต่มันส์สุดๆ
bodyslam ที่เคยพาผมไปขอบฟ้า วันนี้พาผมมาท่องจักรวาลแล้ว !!
เนื้อหาเพลงพูดถึงชีวิตที่จริงๆแล้วเราก็ไม่ได้เป็นอิสระโดยแท้จริง ยังอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม แต่ชีวิตก็ยังมีสิทธิ์ที่จะฝันอย่างอิสระ และเลือกที่จะทำความดีได้
ถ้าฉัน...ไม่อาจหลุดพ้น"
10.ช่างมันเถอะเหงา (8/10)
เป็นเพลงที่แต่งโดยแอ๊ด คาราบาว ซึ่งได้มอบเป็นของขวัญกับตูน นักร้องนำ
เพลงนี้เป็นครั้งแรกที่ bodyslam ร้องในแนวเพื่อชีวิต ฟังครั้งแรกก็ขัดหูมาก รู้สึกมันไม่ใช่ (ผมไม่ค่อยฟังเพลงเพื่อชีวิต)
แต่พอลองตั้งใจฟัง และดูเนื้อหาเพลงดีๆ
...
เพลงนี้มันโคตรเศร้าเลยครับ เนื้อหาอาจธรรมดา แต่ทำนองส่งอารมณ์ได้เศร้ามากกก T T
เป็นเพื่อชีวิต ตีความไม่ยาก ซึ้งกินใจมากๆ มันเศร้าจนผมต้องกดข้ามในทันที ที่เครื่องเล่นเพลงของผมวนมาถึงเพลงนี้อีกครั้ง
เนื้อเพลงพูดถึงการยอมรับการแยกทางกันของคู่รัก ที่ฝ่ายนึงได้มีใจที่เปลี่ยนไปแล้ว
อย่างน้อยได้เรียนรู้กัน
มีพบมีพลั้งเจ็บที่เดิม
เรียนรู้เพื่อในวันนั้น..."
จบแล้วนะครับ สำหรับรีวิวอัลบั้ม dharmajāti โดยความรู้สึกส่วนตัวของผมเอง
ก็อยากจะฝากให้คนที่ยังไม่เคยลองฟัง ได้ไปลองฟังกันครับ อาจจะได้รับความบันเทิง หรือแรงบันดาลใจดีๆเหมือนที่ผมได้รับ ก็มาแบ่งปันกันครับ
สุดท้ายนี้ก็ขออภัยในข้อผิดพลาดทุกประการครับผม
ปล. เครดิตรูปจาก facebook fanpage ของ bodyslam ครับ