ระบบครอบครัวที่เป็นปัญหา เขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง ยกเว้นสมาคม



ระบบครอบครัว–ระบบอุปถัมภ์: เชือกเส้นเล็กที่รัดคอวอลเลย์บอลไทยจนหายใจไม่ออก
ในโลกกีฬาสมัยใหม่ การบริหารสมาคมกีฬาที่ประสบความสำเร็จ ต้องยืนบนหลัก ความโปร่งใส, มืออาชีพ, และผลประโยชน์ของชาติ เป็นที่ตั้ง แต่ในกรณีของสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กลับเต็มไปด้วยรากฝังลึกของ ระบบครอบครัว และ ระบบอุปถัมภ์แบบไทยๆ ที่ทำให้การตัดสินใจเชิงโครงสร้างเต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน และสุดท้ายก็ส่งผลต่อผลงานทีมชาติในสนามโดยตรง

1. ระบบครอบครัว: สนามแข่งขัน หรือบ้านใครบ้านมัน?
มีข้อเท็จจริงที่เลี่ยงไม่ได้ว่า สามีของอดีตผู้เล่นบางคน ดำรงตำแหน่งใหญ่ในสมาคม ซึ่งในสังคมที่ใช้หลักธรรมาภิบาลจริงๆ สิ่งนี้ต้องถูกตรวจสอบเพื่อป้องกันความลำเอียง หรือการตัดสินใจที่มาจากความสัมพันธ์ส่วนตัว
แต่ในความเป็นจริงของสมาคมไทย เรากลับเห็นว่า การแต่งตั้งบุคคลในตำแหน่งสำคัญ มักอิงความสัมพันธ์มากกว่าความสามารถ
นี่ไม่ใช่การบอกว่าผู้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวไม่มีความสามารถเลย แต่ปัญหาคือ การขาดระบบคัดเลือกที่โปร่งใสและแข่งขันได้จริง ทำให้คนเก่งที่อยู่นอกวงศ์ตระกูลไม่มีทางเข้ามามีบทบาท

2. ระบบอุปถัมภ์: เครือข่ายผลประโยชน์ที่เหนียวแน่นยิ่งกว่าตาข่าย
กรรมการสมาคมบางคนยังมีบทบาทเป็นผู้บริหารแบรนด์ชุดกีฬาค่ายหนึ่ง ซึ่งบังเอิญ (หรือจงใจ?) เป็นผู้สนับสนุนทีมชาติ
ในมุมการตลาด อาจดูเหมือน “วิน-วิน” แต่ในเชิงธรรมาภิบาล มันคือ ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ชัดเจน เพราะผู้มีอำนาจกำหนดทิศทางสมาคม อาจเอื้อประโยชน์ให้ผู้สนับสนุนที่ตัวเองเกี่ยวข้อง
ระบบนี้ทำให้เกิดคำถามว่า — การเลือกผู้สนับสนุน, การจัดสรรงบประมาณ, หรือแม้แต่การเลือกใช้ทรัพยากรของทีมชาติ — เกิดจาก “สิ่งที่ดีที่สุดต่อทีมชาติ” หรือ “สิ่งที่ดีที่สุดต่อเครือข่ายของคนในสมาคม”?

3. เมื่อระบบแบบนี้เจอกับเวทีโลก
ผลลัพธ์คือสิ่งที่เราเห็นในปีนี้ — ทีมชาติไทยล้า, ไม่มีการโรเตชันผู้เล่น, ขาดการพัฒนารุ่นใหม่, และโค้ชยังยึดติดแนวทางเดิม
เพราะการตัดสินใจหลายอย่างไม่ได้เกิดจาก “ข้อมูลเชิงวิชาการ” หรือ “ความต้องการระยะยาวของทีม” แต่เกิดจากความพอใจของกลุ่มคนบางกลุ่มที่กุมอำนาจอยู่
ในวงการกีฬาระดับโลก ไม่มีทีมชั้นนำประเทศไหนที่ยังบริหารด้วยระบบครอบครัวและอุปถัมภ์แบบนี้ เพราะมันทำให้ การเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมเป็นไปไม่ได้

4. หายนะที่รออยู่ข้างหน้า
ระบบครอบครัวและอุปถัมภ์ไม่เพียงแต่สร้างความเสื่อมศรัทธาในหมู่แฟนกีฬา แต่ยังทำให้โครงสร้างการพัฒนานักกีฬาขาดความต่อเนื่อง
วันนี้เราอาจยังมีผู้เล่นเก่งๆ อยู่ในชุดใหญ่ แต่วันหนึ่งเมื่อพวกเขาเลิกเล่น เราจะพบว่าเราไม่มีคนรุ่นใหม่พร้อมขึ้นมาแทนที่ — เพราะเวทีเล็กๆ อย่าง SEA V-League หรือ AVC Cup ที่ควรใช้สร้างประสบการณ์ กลับถูกยึดไว้เพื่อ “โชว์ชุดใหญ่” ให้สมาคมได้อวดศักดิ์ศรีปลอมๆ

5. บทสรุป
ระบบครอบครัว และ ระบบอุปถัมภ์ อาจทำให้สมาคมดูมั่นคงในสายตาคนวงใน แต่ในสายตาของคนรักกีฬา มันคือเชือกเส้นเล็กที่กำลังรัดคอวอลเลย์บอลไทยให้หายใจไม่ออก
ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างจริงจัง เราอาจได้เห็น “ตำนานวอลเลย์บอลหญิงไทย” กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าในอดีต — และคนที่อยู่ในระบบนี้เองที่จะต้องรับผิดชอบต่อการล่มสลายที่กำลังจะมาถึง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่