คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
แนะนำว่า ควรจะออกแนว ท้องทุ่ง ท้องไร่ท้องนา ชาวสวน และสามารถหลีกเลี่ยงจรรยาบรรณได้บ้าง
ครูชาย (อายุมากกว่านักเรียนหญิง เปรียบเหมือนพี่ชายกับน้องสาว) กับ นักเรียนหญิง อยู่หมู่บ้านเดียวกัน
ครูชาย กับ นักเรียนหญิง อาจจะเรียกว่าสนิทกันมาก หรือนักเรียนหญิงเคยได้รับความช่วยเหลือดูแลตอนสมัยเด็กๆ
....... ครูชาย (ก่อนจะเรียนจบจนเป็นครูมาสอนในหมู่บ้านตัวเอง) ได้ย้ายบ้านไปเรียนในเมือง เรียนจบกลับมาเป็นครูสอนที่โรงเรียนในหมู่บ้าน (แบบรับใช้หมูบ้าน) กลับมาอีกที นักเรียนหญิงโตเป็นสาวอยู่ ม.ปลาย (อาจออกห่างกันสัก 3 - 4 ปี ช่วงที่นักเรียนหญิงโตเริ่มเรียน ม.ปลาย) สิ่งที่หายไปของทั้งสองได้กลับคืนมา ความสัมพันธ์เก่าๆในวัยเด็กหวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อสมัยก่อนคือความรักแบบดูแลห่วงใยต่อกัน แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นความรักแบบหนุ่มสาวโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว แม้จะใกล้ชิดสนิทเท่าไรก็ไม่เป็นสิ่งต้องห้ามในเรื่องจรรยาบรรณ เพราะทั้งสองถือว่า เคยใกล้ชิดเติบโตมาด้วยกัน (บทแบบนี้หลีกเลี่ยงเรื่องจรรยาบรรณได้บ้าง)
สมัยนักเรียนหญิงวัยเด็ก ครูชาย (ช่วงบทแรกตอนนี้ยังไม่เป็นครู) เคยดูแลนักเรียนหญิง เพราะพ่อแม่ของนักเรียนหญิงยุ่งกับเรื่องการงาน ในท้องทุ่ง นักเรียนหญิงได้ครูชายเป็นที่พึ่งช่วยเหลือเสมือนเป็นพี่ชาย
(อุดรอยรั่วเรื่องจรรยาบรรณได้แล้ว ต่อไปก็เดินบทแบบมีความรักต่อกันได้ รักแบบพี่ชายน้องสาว รักไสๆ) และเมื่อนักเรียนหญิงเรียนจบ ม.ปลาย ก็แต่งงานลงเอยกันได้
....... มีบท ครูสาว กับ นักเรียนชาย เข้ามาเพิ่ม
ให้บทครูสาวโดย (อาจติดบทรวยเป็นคุณหนู) สมัยที่ครูชายเข้าไปเรียนในเมือง ทั้งสองได้เจอกัน ครูสาวอาจจะสนใจในครูหนุ่มเพราะ นิสัยไม่เจ้าชู้ ตั้งใจเรียนเพื่อจะกลับมาเป็นครูที่บ้านเกิด (ครูชายยังห่วงนักเรียนหญิง แต่แท้ที่จริงคือความรักที่ไม่รู้ตัว) เมื่อครูชายกับครูสาวเรียนจบ ครูหญิงสงสัยว่าท้องทุ่งที่กันดารทำไมครูชายถึงเฝ้าฝันจะไปสอนที่แต่แบบนั้นให้ได้ ทำไมไม่เลือกไปสอนในที่เจริญ จึงขอตามไปสอนเพื่อศึกษาเก็บข้อมูลชนบท
(บทครูสาวอาจตามมาทีหลัง เพื่อส่งบทให้นักเรียนหญิงน่าสงสาร และแอบชอบครูชายอยู่แบบเงียบๆไม่เปิดเผย แต่แท้ทีจริงคือรักหมดใจอยู่ตลอดเวลา บางทีมีบทแอบเป็นแม่สื่อให้ครูชายกับครูสาวทั้งสองสมหวังกันแต่ในใจสุดแสนจะเจ็บปวด) แต่การเป็นแม่สื่อกลับทำให้ ครูสาวกับนักเรียนชายสนิมกันเพิ่มมากขึ้น
บทครูสาวจะคู่กับนักเรียนชาย ครูสาวเป็นคนเมืองเรื่องชนบทจึงไม่ประสีประสา ก็ให้บทนักเรียนชายเป็นคนช่วยสอนเรื่องท้องทุ่ง ครูสาวสอนวิชา นักเรียนชายสอนวิถีชีวิตชาวบ้าน พาไปดูการประกอบอาชืพต่างๆของชาวบ้านโดยที่ไม่มีสอนในตำราเรียน เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่เลี้ยงปลา ปลูกพืชปลูกผักก็ว่าไป ความใกล้ชิดผูกพันธ์เริ่มเกิดขึ้นและกลายเป็นความรักในตอนท้ายที่เรียนจบ สิ่งที่แตกต่างจากชีวิตที่เคยเป็นอยู่ระหว่างในเมืองกับชนบท ครูสาวเลือกสิ่งที่ตัวเองรักเลือกใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย อยู่สอนที่ชนบทแห่งนี้
บทครูสาวกับครูชายจะเดินเรื่องไปพร้อมๆ ทำอะไรเหมือนๆกันแต่ทั้งสองคิดต่างกัน (จนนักเรียนหญิงคิดว่า อยู่ด้วยกันอาจรักกัน)
อุดรอยรั่วแล้ว มีที่มาของบทแล้ว ได้โครงเรื่องแล้ว คราวนี้ก็เรียบเรียงได้ง่าย
ครูชาย (อายุมากกว่านักเรียนหญิง เปรียบเหมือนพี่ชายกับน้องสาว) กับ นักเรียนหญิง อยู่หมู่บ้านเดียวกัน
ครูชาย กับ นักเรียนหญิง อาจจะเรียกว่าสนิทกันมาก หรือนักเรียนหญิงเคยได้รับความช่วยเหลือดูแลตอนสมัยเด็กๆ
....... ครูชาย (ก่อนจะเรียนจบจนเป็นครูมาสอนในหมู่บ้านตัวเอง) ได้ย้ายบ้านไปเรียนในเมือง เรียนจบกลับมาเป็นครูสอนที่โรงเรียนในหมู่บ้าน (แบบรับใช้หมูบ้าน) กลับมาอีกที นักเรียนหญิงโตเป็นสาวอยู่ ม.ปลาย (อาจออกห่างกันสัก 3 - 4 ปี ช่วงที่นักเรียนหญิงโตเริ่มเรียน ม.ปลาย) สิ่งที่หายไปของทั้งสองได้กลับคืนมา ความสัมพันธ์เก่าๆในวัยเด็กหวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อสมัยก่อนคือความรักแบบดูแลห่วงใยต่อกัน แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นความรักแบบหนุ่มสาวโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว แม้จะใกล้ชิดสนิทเท่าไรก็ไม่เป็นสิ่งต้องห้ามในเรื่องจรรยาบรรณ เพราะทั้งสองถือว่า เคยใกล้ชิดเติบโตมาด้วยกัน (บทแบบนี้หลีกเลี่ยงเรื่องจรรยาบรรณได้บ้าง)
สมัยนักเรียนหญิงวัยเด็ก ครูชาย (ช่วงบทแรกตอนนี้ยังไม่เป็นครู) เคยดูแลนักเรียนหญิง เพราะพ่อแม่ของนักเรียนหญิงยุ่งกับเรื่องการงาน ในท้องทุ่ง นักเรียนหญิงได้ครูชายเป็นที่พึ่งช่วยเหลือเสมือนเป็นพี่ชาย
(อุดรอยรั่วเรื่องจรรยาบรรณได้แล้ว ต่อไปก็เดินบทแบบมีความรักต่อกันได้ รักแบบพี่ชายน้องสาว รักไสๆ) และเมื่อนักเรียนหญิงเรียนจบ ม.ปลาย ก็แต่งงานลงเอยกันได้
....... มีบท ครูสาว กับ นักเรียนชาย เข้ามาเพิ่ม
ให้บทครูสาวโดย (อาจติดบทรวยเป็นคุณหนู) สมัยที่ครูชายเข้าไปเรียนในเมือง ทั้งสองได้เจอกัน ครูสาวอาจจะสนใจในครูหนุ่มเพราะ นิสัยไม่เจ้าชู้ ตั้งใจเรียนเพื่อจะกลับมาเป็นครูที่บ้านเกิด (ครูชายยังห่วงนักเรียนหญิง แต่แท้ที่จริงคือความรักที่ไม่รู้ตัว) เมื่อครูชายกับครูสาวเรียนจบ ครูหญิงสงสัยว่าท้องทุ่งที่กันดารทำไมครูชายถึงเฝ้าฝันจะไปสอนที่แต่แบบนั้นให้ได้ ทำไมไม่เลือกไปสอนในที่เจริญ จึงขอตามไปสอนเพื่อศึกษาเก็บข้อมูลชนบท
(บทครูสาวอาจตามมาทีหลัง เพื่อส่งบทให้นักเรียนหญิงน่าสงสาร และแอบชอบครูชายอยู่แบบเงียบๆไม่เปิดเผย แต่แท้ทีจริงคือรักหมดใจอยู่ตลอดเวลา บางทีมีบทแอบเป็นแม่สื่อให้ครูชายกับครูสาวทั้งสองสมหวังกันแต่ในใจสุดแสนจะเจ็บปวด) แต่การเป็นแม่สื่อกลับทำให้ ครูสาวกับนักเรียนชายสนิมกันเพิ่มมากขึ้น
บทครูสาวจะคู่กับนักเรียนชาย ครูสาวเป็นคนเมืองเรื่องชนบทจึงไม่ประสีประสา ก็ให้บทนักเรียนชายเป็นคนช่วยสอนเรื่องท้องทุ่ง ครูสาวสอนวิชา นักเรียนชายสอนวิถีชีวิตชาวบ้าน พาไปดูการประกอบอาชืพต่างๆของชาวบ้านโดยที่ไม่มีสอนในตำราเรียน เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่เลี้ยงปลา ปลูกพืชปลูกผักก็ว่าไป ความใกล้ชิดผูกพันธ์เริ่มเกิดขึ้นและกลายเป็นความรักในตอนท้ายที่เรียนจบ สิ่งที่แตกต่างจากชีวิตที่เคยเป็นอยู่ระหว่างในเมืองกับชนบท ครูสาวเลือกสิ่งที่ตัวเองรักเลือกใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย อยู่สอนที่ชนบทแห่งนี้
บทครูสาวกับครูชายจะเดินเรื่องไปพร้อมๆ ทำอะไรเหมือนๆกันแต่ทั้งสองคิดต่างกัน (จนนักเรียนหญิงคิดว่า อยู่ด้วยกันอาจรักกัน)
อุดรอยรั่วแล้ว มีที่มาของบทแล้ว ได้โครงเรื่องแล้ว คราวนี้ก็เรียบเรียงได้ง่าย
แสดงความคิดเห็น
นิยายรัก แนว ครู-นักเรียน สมควรแต่งหรือไม่?