คิดอยู่นานว่าจะแชร์ดีไหม เพราะกลัวว่าหลายๆคนเขาจะนึกว่ามาขายของหรือมาหาดาวน์ไลน์ ขึ้นหัวซะขนาดนั้น 555
จุดประสงค์ผม แค่ต้องการเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังมองหาหนทางสร้างรายได้โดยสุจริต ไว้เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ เริ่มเลยนะครับ
ผมเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก เมื่อปีสองปีที่แล้ว ผมเช่าทาวน์เฮ้าส์อยู่เดือนละประมาณ 5,000 บาท เช่ามาได้ประมาณ 1 ปี ก็มานั่งปรึกษากับแฟนว่า เราจ่ายเงินไปทุกเดือนก็เสียดายเหมือนกันเนอะ เราซื้อบ้านดีไหม คงเพิ่มอีกไม่เท่าไหร่หรอก .... เอาสิ ซื้อๆๆๆๆ แฟนผมไม่ขัดเลย เราจึงตัดสินใจที่จะหาบ้านกัน เรามองไปที่บ้านเดี่ยวชั้นเดียว พื้นที่สัก 60 ตร.ว. ตั้งราคาไว้ที่ไม่เกิน 1.8 ลบ. และนับจากนั้น มหกรรมบ้านและคอนโดจึงถือกำเนิดขึ้นในชีวิตเรา
เราตื่นเต้นกันมาก ตลอดเวลาแฟนผมจะนั่งดูอินเตอร์เนต ค้นหาบ้าน และจดเบอร์โทรไว้ ซึ่งทุกวันหลังเลิกงาน เราต้องขับรถไปดูบ้านตามที่ต่างๆ เข้าๆออกๆ ตามหมู่บ้านจัดสรร บ้าง ไม่จัดสรรบ้าง เรียกว่ากลับถึงบ้านสามสี่ทุ่มทุกวัน นึกแล้วก็เหนื่อย
หลังจากผ่านไป 2 เดือน ก็มาเจอบ้านหลังหนึ่งถูกใจเรามาก แต่ด้วยความที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับบ้าน รวมถึงการซื้อขายบ้าน นิติกรรมต่างๆ ทำให้เราได้รับประสบการณ์เสียทรัพย์ครั้งสำคัญในชีวิต เมื่อเงินเก็บ 30,000 บาท (มัดจำบ้าน) ของเราหายไปในพริบตา เพราะบ้านที่เราเล็งไว้ ซึ่งตั้งราคาขายไว้ที่ 1.8 ลบ. มีราคาประเมินเพียง 1.4 ลบ. ซึ่งธนาคารก็ให้กู้เพียง 90% ของราคาประเมิน ทำให้เรามีส่วนต่างเกือบ 600,000 บาท แน่นอนเราไม่มีหรอก…. จำได้ว่าวันนั้น แฟนผมร้องไห้ เราโทรไปขอเงินมัดจำคืนจากเจ้าของบ้าน แต่เค้าก็ไม่ให้ บอกว่าเป็นค่าเสียโอกาสและในสัญญาก็ระบุไว้ชัดเจน สุดท้ายเราก็ทำใจและมองหาบ้านหลังใหม่ (นึกย้อนกลับไป ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องซื้อบ้านให้ได้ในตอนนั้น T_T)
แต่เมื่อมาถึงวันนี้ เวลาเราสองคน พูดกันถึงเงินก้อนนั้น เราไม่เคยเสียใจเลย เพราะมันเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิตเรา สอนอะไรเรามากมายและแน่นอน มันทำให้เราได้มาเจอกับอาชีพเสริมที่พูดได้ว่า มันสร้างรายได้คืนกลับมาให้เรา มากกว่าที่เสียไปหลายเท่าตัวนัก………………..
แบ่งปันประสบการณ์(อาชีพเสริม) เงินลงทุนเริ่มต้น 300 บาท 1 ปี ผมได้กลับคืนมา 300,000 บาท
จุดประสงค์ผม แค่ต้องการเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังมองหาหนทางสร้างรายได้โดยสุจริต ไว้เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ เริ่มเลยนะครับ
ผมเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก เมื่อปีสองปีที่แล้ว ผมเช่าทาวน์เฮ้าส์อยู่เดือนละประมาณ 5,000 บาท เช่ามาได้ประมาณ 1 ปี ก็มานั่งปรึกษากับแฟนว่า เราจ่ายเงินไปทุกเดือนก็เสียดายเหมือนกันเนอะ เราซื้อบ้านดีไหม คงเพิ่มอีกไม่เท่าไหร่หรอก .... เอาสิ ซื้อๆๆๆๆ แฟนผมไม่ขัดเลย เราจึงตัดสินใจที่จะหาบ้านกัน เรามองไปที่บ้านเดี่ยวชั้นเดียว พื้นที่สัก 60 ตร.ว. ตั้งราคาไว้ที่ไม่เกิน 1.8 ลบ. และนับจากนั้น มหกรรมบ้านและคอนโดจึงถือกำเนิดขึ้นในชีวิตเรา
เราตื่นเต้นกันมาก ตลอดเวลาแฟนผมจะนั่งดูอินเตอร์เนต ค้นหาบ้าน และจดเบอร์โทรไว้ ซึ่งทุกวันหลังเลิกงาน เราต้องขับรถไปดูบ้านตามที่ต่างๆ เข้าๆออกๆ ตามหมู่บ้านจัดสรร บ้าง ไม่จัดสรรบ้าง เรียกว่ากลับถึงบ้านสามสี่ทุ่มทุกวัน นึกแล้วก็เหนื่อย
หลังจากผ่านไป 2 เดือน ก็มาเจอบ้านหลังหนึ่งถูกใจเรามาก แต่ด้วยความที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับบ้าน รวมถึงการซื้อขายบ้าน นิติกรรมต่างๆ ทำให้เราได้รับประสบการณ์เสียทรัพย์ครั้งสำคัญในชีวิต เมื่อเงินเก็บ 30,000 บาท (มัดจำบ้าน) ของเราหายไปในพริบตา เพราะบ้านที่เราเล็งไว้ ซึ่งตั้งราคาขายไว้ที่ 1.8 ลบ. มีราคาประเมินเพียง 1.4 ลบ. ซึ่งธนาคารก็ให้กู้เพียง 90% ของราคาประเมิน ทำให้เรามีส่วนต่างเกือบ 600,000 บาท แน่นอนเราไม่มีหรอก…. จำได้ว่าวันนั้น แฟนผมร้องไห้ เราโทรไปขอเงินมัดจำคืนจากเจ้าของบ้าน แต่เค้าก็ไม่ให้ บอกว่าเป็นค่าเสียโอกาสและในสัญญาก็ระบุไว้ชัดเจน สุดท้ายเราก็ทำใจและมองหาบ้านหลังใหม่ (นึกย้อนกลับไป ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องซื้อบ้านให้ได้ในตอนนั้น T_T)
แต่เมื่อมาถึงวันนี้ เวลาเราสองคน พูดกันถึงเงินก้อนนั้น เราไม่เคยเสียใจเลย เพราะมันเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิตเรา สอนอะไรเรามากมายและแน่นอน มันทำให้เราได้มาเจอกับอาชีพเสริมที่พูดได้ว่า มันสร้างรายได้คืนกลับมาให้เรา มากกว่าที่เสียไปหลายเท่าตัวนัก………………..