แฟนเป็นข้าราชการ อยากกู้เงินมาแต่งงาน ส่วนเราอยากแต่งก็อยาก กลัวเป็นหนี้ก็กลัว

กระทู้คำถาม
ขอท้าวความก่อนว่า ครอบครัวทางแฟนไม่สมบูรณ์ค่ะ พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เค้าเด็กๆ โตมากับพ่อเลี้ยง
หาเงินเรียนเองตั้งแต่ ม.ปลาย จนจบมหาลัย แม่ขายบ้าน ขายที่ที่เคยมี หวังจะไปสร้างรกรากใหม่กับพ่อเลี้ยงซึ่งต้องย้ายที่ทำงาน
จนสรุปสุดท้ายสามีใหม่แม่ มีเมียน้อยเลิกกัน ครอบครัวล่มเป็นครั้งที่สอง หมดตัวค่ะ กลับมาตายรังที่บ้านเดิม (บ้านยาย)
พอแฟนจบปริญญา ก็ทำงานไปตามประสา ผ่านมาหลายงาน กินเที่ยว  ดูหนังฟังเพลง เงินเก็บไม่มีเลย นิสัยทางการเงินไม่ดีค่ะ

เค้าเคยมีครอบครัวค่ะ ตอนอายุ 27 อยู่คนละตำบล (มีลูกกัน เพราะเค้าอยากมี แต่แฟนเก่าเค้าบอกใครๆว่าพลาด เลยต้องผูกข้อไม่ข้อมือกัน)
อยู่ด้วยกันได้ 1 ปี เลิกกัน เพราะแม่ทางผู้หญิงบอกว่าบ้านเค้าจน ส่วนลูกก็ไม่ให้เรียกพ่อ แจ้งเกิดลูกก็ไม่ให้ใช้นามสกุลเค้า
แม่แฟนพยายามไปเยี่ยม ไปหาที่ รร. แต่ทางนั้นเค้าตัดขาดทุกทาง สรุปตอนนี้คือ ไม่ได้ติดต่อกัน
ส่วนลูกถ้าทางนั้นติดต่อว่าให้ช่วยค่าเลี้ยงดูเค้าก็โอเค ตอนที่แฟนเราเลิกกับทางแฟนเก่า แม่แฟน กับแฟนทะเลาะกันแรง
แม่พูดว่า ชีวิต...มันล่มจมหมดแล้ว ... ทะเลาะกันค่อนข้างแรง
จนแฟนหนีมาอยู่ จ.ที่เราอยู่ และหางานทำ จนได้มาเจอเรา  
สรุปคือ แฟนเรามาแต่ตัวเลย กับวุฒิการศึกษา มาพร้อมหนี้อีกต่างหาก

ตอนนี้เรา 24 แฟนก็ 36   คบกันมาได้ 5 แล้วค่ะ คบกันตั้งแต่เราอายุ 19 ยังเรียนไม่จบเลย ยอมคบกับเค้าเพราะชอบผู้ใหญ่ค่ะ ดูเค้ามีความคิดดีนะ
ให้คำปรึกษาได้หมดทุกเรื่องเลยประทับใจ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เพียงแต่ไม่รวย และจนเท่านั้นเอง หุหุ
และตั้งแต่คบกันมาเงินเดือนเค้าให้เราดูแลหมดเลยค่ะ จัดการได้เลย ว่าจะทำอะไรยังไง

พอเราได้คบกันได้ประมาณ 1 ปี แฟนก็สอบราชการได้ค่ะ โค้งสุดท้ายของชีวิตจริงๆ (ตอนนั้นแฟนอายุ 32)
ตอนนี้เราเรียนจบแล้ว เพิ่งทำงานได้ 1 ปี เงินเดือน 14k ก็พอได้ค่ะ เพราะอยู่แฟลตกับแฟน อีกอย่างไม่มีภาระผ่อนอะไร
เราเก็บเดือนละ 5000 ฝากประจำ 2 ปี นี่ก็ได้ปีนึงละ  ส่วนแฟน เงินเดือน 17K เค้าเคยกู้มาโป๊ะหนี้เก่า 400,000 ตอนนี้ใช้หนี้อยู่
อีกก้อนคือ หนี้ผ่อนรถ แต่รถเราเป็นคนใช้รถไปทำงานนะ  เค้าขี่มอไซด์ สรุปคือ เงินเดือนเค้าเหลือไม่กี่พัน สรุปคือหักฝากไม่ได้ TT

ตอนนี้เค้าอยากแต่งงานค่ะ เราก็อยาก แต่ติดที่ว่าเราไปเกริ่นๆ กับพ่อแม่เราว่าแฟนจะกู้ โดยใช้สิทธิข้าราชการ มาแต่งสัก 200,000
เป็นค่าจัดงานประมาณ 100,000 หากเหลือจะเอาไปโป๊ะหนี้ ซองก็กะว่าให้พ่อแม่ดูแลเลย แต่พ่อแม่เราไม่อยากให้กู้ค่ะ
ไม่อยากให้ลูกเป็นหนี้กัน ตรงนั้นเราเข้าใจ เพราะเราก็ไม่อยากให้ก่อหนี้เพิ่มเหมือนกัน แต่จะทำไงได้แฟนฐานะไม่ดี
อายุก็ 36 แล้ว จะเก็บอย่างไรทัน อ้ออีกอย่าง คืองานเค้าไม่เป็นเวลาค่ะ บางทีทำงานลากยาวถึงเช้า ติดกันสามสี่วัน ได้งีบเป็นช๊อตๆ  
ซึ่งหากจะแนะนำว่าให้หารายได้เสริมคงทำไม่ได้ ตอนนี้มีแต่ทองค่ะ เกือบๆ 10 บาท คิดว่าพอแล้ว แต่ไม่มีค่าจัดงาน

แฟนก็บอกเราว่าไม่ต้องกลัวหรอก ข้าราชการสวัสดิการค่ารักษาก็มี เบิกได้ด้วย อีกอย่างคือขั้นก็ได้เรื่อยๆ คือใจเค้าอยากมีลูกเต็มทีแล้วค่ะ อยากแต่งแล้ว
แต่คือเราไม่รู้จะพูดกับพ่อแม่เราอย่างไรให้ท่านเข้าใจ  ว่าต้นทุนชีวิตคนมันต่างกัน ใจเราคิดว่า อีกสัก 2 ปีแต่งค่ะ แฟนก็คงอายุ 38  
ตัวเราก็อยากให้หนี้ผ่อนรถหมดก่อน ค่อยว่ากัน

ปล. บ้านเราไม่ได้รวยอะไรหรอกค่ะ อาชีพทำนา เพียงแต่บ้านเราไม่มีหนี้เท่านั้นเอง เงินเข้าบ้านเต็มเม็ดเต็มหน่วย
พ่อแม่เราเลยห่วงๆ ไม่อยากให้ลูกมีหนี้อ่ะค่ะ

แก้ไขคำผิดค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ยอมเป็นหนี้เพื่อจัดงานแต่งงานผมว่ามันเป็นอะไรที่ไม่เข้าท่ามาก
ความคิดเห็นที่ 2
ทำไมต้องกู้เงินมาจัดงานแต่งงานเมื่อเข้าใจกันแล้ว  แค่เชิญญาติผู้ใหญ่-เพื่อนสนิทมารับรู้ว่าคุณมีคู่แล้ว จองห้องอาหารสักห้อง
แต่งตัวสบายๆ  มีคาราโอเกะ ไม่น่าเกิน2หมื่น ..
อย่าทำอะไรเกินตัว..เชื่อแม่คุณเถิด
ความคิดเห็นที่ 21
เพื่อนเราเป็นหมอแต่งกับเภสัชหมดค่างานหลักหมื่นค่ะ(ค่าอาหาร ค่าเช่าชุดไทย ค่าแหวน)
จัดงานผูกข้อไม้ข้อมือที่บ้าน กินเลี้ยงในบริเวณบ้าน สินสอดที่เอามาวางโชว์เป็นแบงค์ยี่สิบแพนึง(แลกมาหมื่นบาท) แหวนแต่งงาน และก็สร้อยทองกับกำไลทอง1ชุด สวมให้เจ้าสาว
เป็นบ้านในชนบท พื้นที่กว้างขวาง (รอบข้างเป็นนาแหะแหะ) มีเพื่อนๆที่สนิทมาร่วมงานและผอ.รพ.มาเป็นสักขีพยาน
อาหารเลี้ยงก็เป็นขนมจีนน้ำยา_แกงป่า แกงเทโพ ต้มยำหัวปลี ลาบ อาหารง่ายๆแต่อร่อย (โต๊ะเก้าอี้จานชามเช่าของวัดมา)
คนไปร่วมงานแต่งตัวสบายๆ พอกินกันเสร็จก็ช่วยๆกันล้างจาน บ่ายๆรถที่วัดก็มารับอุปกรณ์กลับ
แขกที่มาร่วมงานก็อยู่ช่วยเก็บงานจนเสร็จ
ของแบบนี้มันอยู่ที่ความพอเพียงค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่