พอดีจะอธิบายให้น้องคนนึงฟังเรื่องการ ออกรถซักคัน แต่น้องเขาไม่เข้าใจวิธีการ รู้แค่รถคันเท่าไหร่ ผ่อนเดือนกี่บาท ต้องผ่อนกี่เดือน เลยจะมาอธิบายในนี้เลยละกันครับ อันนี้เป็นสิ่งผมศึกษาและวิเคราะห์เอง หากผิดพลาดตรงไหน รบกวนทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ทักท้วงได้เลยครับผมจะกลับมาแก้ไข
1.รถยนต์,มอเตอร์ไซต์ 150cc ขึ้นไป ( ป้ายแดง )
เงินดาวน์ จ่ายให้ผู้จัดจำหน่ายรถ เช่น
รถ 150,000 บาท
ดาวน์ 50,000 บาท
เหลือ 100,000 บาท
บริษัทสินเชื่อ หรือ ไฟแนนซ์ ( ธนาคาร , เงินติดล้อ , ศรีสวัสดิ์ ฯลฯ ) ให้เรายืมเงิน 100,000 บาท
แต่ก็ไม่ได้ให้ยืมฟรีๆ มีการคิดดอกเบี้ย กับ การเอารถมาเป็นตัวประกัน และ ต้องมีผู้ค้ำประกัน
* กรณีเราไม่ผ่อน ไม่มีเงินจ่ายค่างวด ทางไฟแนนซ์ก็ต้องดำเนินการฟ้องศาล และเรียกให้ผู้ค้ำประกันมารับผิดชอบ หนี้ส่วนที่เหลือร่วมกับเรา
โดยคิดดอกเบี้ย 18%-25% ต่อปี (แล้วแต่โปรโมชั่นของไฟแนนซ์)
กรณี 20% ดอกเบี้ย = 20,000 บาท / ต่อปี
ปีที่ 1 ดอก 20,000 บาท
ปีที่ 2 ดอก 20,000 บาท
ปีที่ 3 ดอก 20,000 บาท
ปีที่ 4,5,6,7,8,9,10
** ยิ่งผ่อนนาน ก็ยิ่งจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าผ่อน 10 ปี หมด ก็ดอกเบี้ย 20,000 x 10 ปีดอกเบี้ย = 200,000
***รวมเงินต้น 100,000 + 200,000 = 300,000 บาท ที่ต้องเราต้องจ่าย
แต่การจะมาโฆษณาว่า ดอกเบี้ยแพงขนาดนี้จะทำไก่ตกใจตื่น กลัวการเสียเงินให้ ไฟแนนซ์ฟรีๆ
***เลยมีการโฆษณาให้ดูน่ากลัวน้อยลง ด้วยการแสดงดอกเบี้ยเป็นรายเดือนให้ลูกค้าเห็นแทน
เช่น 1.66 % (1.66% x 12 เดือนก็ 20% ต่อปีเท่ากัน)
** สาเหตุที่ดอกเบี้ยรถแพง เพราะไฟแนนซ์ต้องการผลกำไร เพื่อไปดำเนินกิจกรรม จ้างพนักงาน หน้าออฟฟิส พนักงานติดตามทวงหนี้ และ ที่สำคัญเลยคือ การนำเงินไป ถัวเฉลี่ย ชดเชยหนี้เสีย ที่คนขาดส่ง จนต้องตามไปยึดรถ ฟ้องร้อง ต่างๆนาๆ
____________________________________
2.ดอกเบี้ยรถมือสอง
ก็จะมีวิธีคิดที่คล้ายกัน
***แต่ อัตราดอกเบี้ย จะสูงกว่าเล็กน้อย
เช่น มือหนึ่งป้ายแดง ดอกเบี้ย 20% ต่อปี มือสองก็จะ 30%-40%-50% ต่อปี
สาเหตุอันเนื่องมาจาก รถมือสอง มีสภาพสึกหรอไปตามการเวลา การใช้งานของเจ้าของเก่า โดยเฉพาะ รถที่มีอายุเยอะๆ แล้ว
ทำให้ มูลค่า ราคารถมันต่ำลง ไฟแนนซ์ ยึดไปก็อาจจะขาดทุน ขายต่อลำบาก ไม่ค่อยคุ้ม
เลยมีการชดเชย เงินที่อาจเสียไปตรงส่วนนี้ด้วยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยให้แพงขึ้น
_________________________________
3.มอเตอร์ไซต์ ขนาดเล็ก ต่ำกว่า 150 cc
จะมีการคิดอัตรา ดอกเบี้ยต่อ เดือน เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่ มักจะเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย และ มีโอกาศ ผิดนัดชำระสูงกว่า ( ย้ำว่าบางคนครับ )
และราคารถอาจจะไม่ได้สูงมาก ไม่เกิน 50,000 การจะมาคิดดอกต่อปี มันก็จะได้กำไรน้อยลงเพราะ ระยะเวลาผ่อนส่วนใหญ่ก็ไม่เกิน 36 งวด
( 3 ปี ) รถเล็กจึงเปลี่ยนมาคิดดอกเบี้ยต่อเดือนแทน
ปล.ทั้งหมดทั้งมวล ขึ้นอยู่กับ
1.เงินดาวน์ ยิ่งมากก็ยิ่งผ่อนน้อยลง
2.จำนวนงวดที่เราเลือก ยิ่งงวดน้อย ยอดส่งต่อเดือนก็ แพงขึ้น แต่จะผ่อนหมดเร็วขึ้น เสียดอกน้อยลง
_____________________________________
วิธีคิด
ราคารถ 550,000
ดาวน์ 50,000
ดอกเบี้ย 1.99 %
เลือกผ่อน 36 งวด ( 3 ปี )
ยอดจัดสินเชื่อ (ยอดกู้) 500,000 บาท
(500,000 x 1.99) / 100 x 36 = 358,200 (ดอก)
500,000+358,200 = 858,200 (ดอก+เงินต้น)
858,200/36 = 23,838.889 (ยอดผ่อนต่อเดือน)
** คำนวณค่าใช้จ่ายระยะยาวให้ดี เพราะผ่อนรถแล้วก็ต้องมี ค่าน้ำมัน , ค่าบำรุงรถ เข้าศูนย์บริการเช็คระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง , เปลี่ยนยาง , ค่าเสียหายกรณี อบุติเหตุ , ค่าประกันภัยรถยนต์ ( ชั้น 1 ) ค่าทางด่วน , ค่าใช้จ่าย กรณีขับไปเที่ยว
ว่าด้วยเรื่องการออกรถ ดาวน์ ผ่อน รายละเอียดต่าง
1.รถยนต์,มอเตอร์ไซต์ 150cc ขึ้นไป ( ป้ายแดง )
เงินดาวน์ จ่ายให้ผู้จัดจำหน่ายรถ เช่น
รถ 150,000 บาท
ดาวน์ 50,000 บาท
เหลือ 100,000 บาท
บริษัทสินเชื่อ หรือ ไฟแนนซ์ ( ธนาคาร , เงินติดล้อ , ศรีสวัสดิ์ ฯลฯ ) ให้เรายืมเงิน 100,000 บาท
แต่ก็ไม่ได้ให้ยืมฟรีๆ มีการคิดดอกเบี้ย กับ การเอารถมาเป็นตัวประกัน และ ต้องมีผู้ค้ำประกัน
* กรณีเราไม่ผ่อน ไม่มีเงินจ่ายค่างวด ทางไฟแนนซ์ก็ต้องดำเนินการฟ้องศาล และเรียกให้ผู้ค้ำประกันมารับผิดชอบ หนี้ส่วนที่เหลือร่วมกับเรา
โดยคิดดอกเบี้ย 18%-25% ต่อปี (แล้วแต่โปรโมชั่นของไฟแนนซ์)
กรณี 20% ดอกเบี้ย = 20,000 บาท / ต่อปี
ปีที่ 1 ดอก 20,000 บาท
ปีที่ 2 ดอก 20,000 บาท
ปีที่ 3 ดอก 20,000 บาท
ปีที่ 4,5,6,7,8,9,10
** ยิ่งผ่อนนาน ก็ยิ่งจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าผ่อน 10 ปี หมด ก็ดอกเบี้ย 20,000 x 10 ปีดอกเบี้ย = 200,000
***รวมเงินต้น 100,000 + 200,000 = 300,000 บาท ที่ต้องเราต้องจ่าย
แต่การจะมาโฆษณาว่า ดอกเบี้ยแพงขนาดนี้จะทำไก่ตกใจตื่น กลัวการเสียเงินให้ ไฟแนนซ์ฟรีๆ
***เลยมีการโฆษณาให้ดูน่ากลัวน้อยลง ด้วยการแสดงดอกเบี้ยเป็นรายเดือนให้ลูกค้าเห็นแทน
เช่น 1.66 % (1.66% x 12 เดือนก็ 20% ต่อปีเท่ากัน)
** สาเหตุที่ดอกเบี้ยรถแพง เพราะไฟแนนซ์ต้องการผลกำไร เพื่อไปดำเนินกิจกรรม จ้างพนักงาน หน้าออฟฟิส พนักงานติดตามทวงหนี้ และ ที่สำคัญเลยคือ การนำเงินไป ถัวเฉลี่ย ชดเชยหนี้เสีย ที่คนขาดส่ง จนต้องตามไปยึดรถ ฟ้องร้อง ต่างๆนาๆ
____________________________________
2.ดอกเบี้ยรถมือสอง
ก็จะมีวิธีคิดที่คล้ายกัน
***แต่ อัตราดอกเบี้ย จะสูงกว่าเล็กน้อย
เช่น มือหนึ่งป้ายแดง ดอกเบี้ย 20% ต่อปี มือสองก็จะ 30%-40%-50% ต่อปี
สาเหตุอันเนื่องมาจาก รถมือสอง มีสภาพสึกหรอไปตามการเวลา การใช้งานของเจ้าของเก่า โดยเฉพาะ รถที่มีอายุเยอะๆ แล้ว
ทำให้ มูลค่า ราคารถมันต่ำลง ไฟแนนซ์ ยึดไปก็อาจจะขาดทุน ขายต่อลำบาก ไม่ค่อยคุ้ม
เลยมีการชดเชย เงินที่อาจเสียไปตรงส่วนนี้ด้วยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยให้แพงขึ้น
_________________________________
3.มอเตอร์ไซต์ ขนาดเล็ก ต่ำกว่า 150 cc
จะมีการคิดอัตรา ดอกเบี้ยต่อ เดือน เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่ มักจะเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย และ มีโอกาศ ผิดนัดชำระสูงกว่า ( ย้ำว่าบางคนครับ )
และราคารถอาจจะไม่ได้สูงมาก ไม่เกิน 50,000 การจะมาคิดดอกต่อปี มันก็จะได้กำไรน้อยลงเพราะ ระยะเวลาผ่อนส่วนใหญ่ก็ไม่เกิน 36 งวด
( 3 ปี ) รถเล็กจึงเปลี่ยนมาคิดดอกเบี้ยต่อเดือนแทน
ปล.ทั้งหมดทั้งมวล ขึ้นอยู่กับ
1.เงินดาวน์ ยิ่งมากก็ยิ่งผ่อนน้อยลง
2.จำนวนงวดที่เราเลือก ยิ่งงวดน้อย ยอดส่งต่อเดือนก็ แพงขึ้น แต่จะผ่อนหมดเร็วขึ้น เสียดอกน้อยลง
_____________________________________
วิธีคิด
ราคารถ 550,000
ดาวน์ 50,000
ดอกเบี้ย 1.99 %
เลือกผ่อน 36 งวด ( 3 ปี )
ยอดจัดสินเชื่อ (ยอดกู้) 500,000 บาท
(500,000 x 1.99) / 100 x 36 = 358,200 (ดอก)
500,000+358,200 = 858,200 (ดอก+เงินต้น)
858,200/36 = 23,838.889 (ยอดผ่อนต่อเดือน)
** คำนวณค่าใช้จ่ายระยะยาวให้ดี เพราะผ่อนรถแล้วก็ต้องมี ค่าน้ำมัน , ค่าบำรุงรถ เข้าศูนย์บริการเช็คระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง , เปลี่ยนยาง , ค่าเสียหายกรณี อบุติเหตุ , ค่าประกันภัยรถยนต์ ( ชั้น 1 ) ค่าทางด่วน , ค่าใช้จ่าย กรณีขับไปเที่ยว