ตอนที่ 1 >>>
http://pantip.com/topic/32164131
ตอนที่ 2 >>>
http://pantip.com/topic/32175186
ตอนที่ 3 >>>
http://pantip.com/topic/32226678
ตอนที่ 4 >>>
http://pantip.com/topic/32316165
ตอนที่ 4 (ต่อ) >>>
http://pantip.com/topic/32346960
ตอนที่ 5 >>>
http://pantip.com/topic/32492911
ตอนที่ 6 >>>
http://pantip.com/topic/32511328
ตอนที่ 7 >>>
http://pantip.com/topic/32526878
ตอนที่ 8 >>>
http://pantip.com/topic/32550496
ตอนที่ 9 >>>
http://pantip.com/topic/32577184
ตอนที่ 10>>>
http://pantip.com/topic/32585053
ตอนที่ 11
“ฉันว่าคุณควรกลับไปทำความเข้าใจกับพ่อคุณได้แล้วนะคะ” ลลิตเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเขา หนึ่งหนุ่มกับหนึ่งสาวยืนหันหน้าเข้าหาทะเล พระอาทิตย์ดวงกลมโตกำลังถูกกลืนหายไปอีกวันแล้ว
“เราไม่ควรจะต้องพูดเรื่องนี้กันอีก” เพชรตอบเสียงเรียบ ตายังคงจับจ้องอยู่ที่โค้งขอบฟ้าเบื้องหน้า
“บางทีพ่อคุณอาจจะไม่ใช่ เอ่อ ไม่ใช่คนที่ทำร้ายแม่คุณอย่างที่คุณคิดก็ได้”
“พวกเขาทะเลาะกันทุกวัน โชคดีที่วันนั้นมุกมาตาไม่เป็นอะไรไปด้วย” เพชรน้ำเสียงอ่อนลง
“คุณกำลังจะบอกฉันว่าวันนั้นแม่คุณพามุกมาตาไปด้วยหรือคะ” ลลิตถามย้ำ เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ยากเหลือเกินที่คนเป็นพ่อจะฆ่าภรรยาแล้วทิ้งลูกสาวตัวเล็ก ๆ ไว้ที่นั่นคนเดียว
“ใช่…แม่พาน้องไปที่ชายหาด เขาพาผู้หญิงอื่นมานอนที่บ้าน ในห้องแม่ ห้องที่คุณนอนอยู่นั่นแหละ” เพชรเดินไปนั่งบนโขดหิน ลลิตเดินตามไป ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทแล้ว
“แม่คุณก็เลยหนีความวุ่นวายออกมาข้างนอกและพาคุณมุกออกมาด้วย ถ้างั้น…มีเหตุผลอะไรคะที่ทำให้คุณคิดว่าพ่อของคุณเป็นคน เอ้อ ทำร้ายแม่คุณน่ะ”
“มีคนพูดตรงกันหลายคนว่าเห็นเขาเดินตามแม่ไป และหลังจากนั้น…” ชายหนุ่มหยุดคำพูดไว้แค่นั้น ลลิตมองเขารู้สึกสงสารจับใจ หล่อนมั่นใจว่ามีบางสิ่งบางอย่างบิดเบือนไปและหล่อนต้องหาคำตอบให้ได้
“ตกลงคุณจะกลับบ้านด้วยกันไหมคะ มุกมาตาคงจะดีใจมากถ้าคุณกลับไป” ลลิตถามย้ำอีกครั้ง ทว่าเพชรส่ายหน้า เขาคิดถึงน้อง แต่เขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับบุคคลคนนั้น
“ตามใจ แล้วพรุ่งนี้เจอกันค่ะ” ลลิตบอกก่อนจะเดินไปหาชาญเพื่อให้เขาไปส่งหล่อนที่บ้าน เสียงคลื่นยังคงซัดขึ้นฝั่งระลอกแล้วระลอกเล่า ลมเย็นพัดโอบเข้ามาจนเพชรรู้สึกสะท้าน
“แม่อยู่ที่ไหนฮะ แม่คิดถึงผมกับน้องบ้างไหม” เขาแหงนหน้ามองพระจันทร์เสี้ยวเล็กที่ลอยอยู่ไกล ๆ แล้วน้ำตาที่เขาพยายามกลั้นไว้ตลอดก็ไหลออกมา
ลลิลบอกไม่ถูกว่ารู้สึกดีใจหรือเสียใจที่มีนัดไปทานข้าวกับเกษมวันพรุ่งนี้ หล่อนควานหาเสื้อผ้าในตู้แต่ก็ไม่มีตัวไหนที่พอใจเลย ทุกชุดมีรูปแบบที่คล้ายกันหมด คล้ายกับชุดที่เขาเคยบอกว่าเชยนั่นแหละ
“แกไม่เคยเป็นแบบนี้นี่ลิล บอกมานะว่าแกมีใจให้คุณเกษมแล้วใช่ไหม” เสียงปลายสายของสรวงสุดาทำให้ลลิลสะดุ้ง ไม่หรอก หล่อนแค่ต้องการลบคำสบประมาทของเขาก็เท่านั้น หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงเชย ๆ อย่างเขาว่าเสียหน่อย
“ฉันแค่ไม่อยากให้เขาว่าฉันเชยอีกเท่านั้นแหละ ว่าไงล่ะ แกจะให้ฉันยืมชุดไหม” ลลิลรีบตัดบท เมื่อสรวงสุดารับคำและวางสายไปหญิงสาวจึงรีบขับรถไปหาสรวงสุดาทันที
ที่ร้านอาหารบรรยากาศสงบเงียบ เกษมกับลลิลนั่งมองหน้ากันไปมาโดยไม่มีใครพูดอะไร นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพาหล่อนมาในสถานที่สงบเงียบอย่างที่หล่อนชอบ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ลลิลแต่งตัวในแนวที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“วันนี้คุณดูแปลกไปนะ” เกษมทักทายขึ้นก่อน
“ทำไมคะ ฉันดูแย่ หรือว่าไม่สวยเท่าผู้หญิงพวกนั้นของคุณ หรือว่ายังไงคะ” ลลิลถาม หล่อนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องพาดพิงไปถึงผู้หญิงพวกนั้นตลอด แต่หล่อนก็หลุดปากพูดไปแล้วนี่
“คุณกำลังหึงผม รู้ตัวไหม” เกษมยิ้ม จ้องหน้าหญิงสาวจนหล่อนต้องหลบสายตาไปทางอื่น
“ฉันไม่ชอบผู้ชายกะล่อน เจ้าชู้ คุณน่าจะจำได้” ลลิลพูดเสียงเรียบแล้วหยิบเมนูอาหารขึ้นมาดู ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ บางครั้งหล่อนก็ทำเหมือนว่าหึงหวงเขา แต่บางครั้งหล่อนก็ทำเหมือนไม่สนใจเขาเลยสักนิด
“ไฮ้…คุณเกษม คิดถึงจังเลยค่ะ” เสียงแหลมเล็กดังขึ้นใกล้ ๆ พร้อมกับเจ้าของเสียงที่เดินเข้ามาเกาะไหล่เขาแบบที่เขาก็ไม่ทันตั้งตัว
“คิดถึงคุณจัง ทำไมไม่ชวนคุณเพชรมาด้วยคะ รายนั้นน่ะไม่ได้เจอนานยิ่งกว่าคุณอีก” หล่อนถือวิสาสะนั่งลงข้างเกษมโดยที่ยังไม่มีใครชวน ลลิลมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างงุนงง หล่อนไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อนและไม่คิดว่าจะมีด้วย
“เจ้าเพชรมันไม่ค่อยได้ขึ้นมาหรอกฮะ” เกษมยิ้มแล้วแนะนำตัวให้สองสาวรู้จักกัน ศศิมาเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของเขา อันที่จริงหล่อนก็เคยเป็นอดีตแฟนเก่าของเขาคนหนึ่ง
“นี่เพื่อน หรือว่าที่ภรรยากันแน่คะ” ศศิมาถามขณะสำรวจลลิลตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เพื่อนครับ” ศศิมาทำท่าโล่งใจเมื่อเกษมบอกซ้ำอีกครั้ง หล่อนก้มลงหอมแก้มเกษมฟอดใหญ่ก่อนจะขอตัวออกไป ชายหนุ่มที่ไม่ทันตั้งตัวได้แต่ตะลึงและส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้แม่สาวคนที่นั่งมองตาขุ่นอยุ่ข้างหน้า
“เอ่อ คุณไม่ว่าอะไรผมใช่ไหม” เกษมถามเสียงอ้อมแอ้ม เขามองเห็นหล่อนทำหน้านิ่งกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา
“เราเป็นเพื่อนกันนี่คะ ฉันจะไปว่าคุณทำไมล่ะ” ลลิลยิ้ม แต่เกษมรู้สึกว่ามันเป็นยิ้มที่เยือกเย็นที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ
…………………………
“นี่คนที่เท่าไหร่แล้วคะ” ลลิตถาม มองตามแผ่นหลังครูสาวที่เพิ่งโดนมุกมาตาออกฤทธิ์ใส่จนต้องรีบเก็บของออกจากบ้านไป ศรีทำท่านับ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังนับไม่ครบ
“เยอะจนนับไม่หวาดไม่ไหวสินะคะ” ลลิตส่ายศีรษะแล้วเดินตามป้าอรขึ้นไปบนห้องมุกมาตา เด็กหญิงกำลังนั่งวาดรูป ดูเหมือนหล่อนไม่ได้สะทกสะท้านหรือเดือดเนื้อร้อนใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเลยสักนิด
คนโง่มักเป็นเหยื่อของคนฉลาด เด็กที่ไม่สนใจการเรียนก็คือคนโง่คนหนึ่ง
มุกมาตาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของลายมือสวยผู้ซึ่งส่งกระดาษที่มีประโยคนี้ให้หล่อนอ่าน เด็กหญิงทำหน้าไม่พอใจก่อนจะปากระดาษแผ่นนั้นทิ้งเหมือนอย่างที่เคยทำ
“พอเถอะค่ะคุณลิต เดี๋ยวป้าจัดการเอง” ป้าอรทำสีหน้าอ้อนวอน ร่วมเดือนแล้วที่เพชรไม่กลับบ้านหลังจากมีปากเสียงกับอินทร มุกมาตาที่เดิมหงุดหงิดง่ายอยู่แล้วก็เลยยิ่งแสดงอาการมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก ป้าอรจึงได้แต่ภาวนาให้เขากลับมาเร็ว ๆ เผื่อมุกมาตาจะได้สงบลงบ้าง
ลลิตยิ้มแล้วเดินไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะมุกมาตามาเขวี้ยงลงบนพื้น แก้วแตกกระจาย น้ำหกเต็มพื้น ทั้งป้าอรและมุกมาตาทำสีหน้าตกใจไปพร้อมกัน
“ป้าอรอย่ามาขวางเลยค่ะ ลิตไม่ชอบ ไม่พอใจ ลิตจะเขวี้ยงทุกอย่างทิ้งให้หมดเลย” ลลิตพูดพลางทำมือประกอบ แล้วเดินไปทำท่าจะหยิบภาพวาดบนโต๊ะมุกมาตามาขยำทิ้ง เด็กหญิงมองลลิตสีหน้าตกใจแล้วรีบดึงมือลลิตไว้ ป้าอรเอามือทาบอกแทบจะเป็นลม
ลลิตยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นมุกมาตามีสีหน้าอ้อนวอน หล่อนวางทุกอย่างลงแล้วยกมือประกอบคำพูด
“การที่เราไม่พอใจใครแล้วแสดงกิริยาก้าวร้าวด้วยการปาข้าวของเครื่องใช้ทิ้งมันน่ามองไหมคะ” ลลิตหยุด จ้องหน้ามุกมาตาจนเด็กหญิงส่ายศีรษะจึงพูดต่อ
“มุกรักป้าอรใช่ไหม การที่พี่ทำแบบนี้กับป้าอรมุกพอใจไหม” ลลิตหยุดพูดอีกครั้ง คราวนี้มุกมาตาส่ายหน้ารัวเร็ว
“พี่ก็เหมือนกัน คุณครูคนอื่นก็เหมือนกัน พวกเขาก็มีคนที่รัก หากคนที่รักพวกเขามาเห็นมุกทำแบบนี้ก็ไม่มีใครทนได้” ลลิตลูบศีรษะมุกมาตา เด็กหญิงมีท่าทีผ่อนลง ไม่ได้ผลักไสเธอออกไปเหมือนเมื่อก่อน
“ความรักระหว่างพี่ชายกับน้องสาวก็เหมือนกัน ต่อให้คุณเพชรจะมีผู้หญิงเป็นร้อยเป็นพันเข้ามาหาแต่มุกก็ยังเป็นน้อง ไม่มีพี่ชายที่ไหนไม่รักน้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกแย่งความรักเพราะมันคือรักคนละแบบ เข้าใจไหมคะ” ลลิตพยายามอธิบาย เธอพอจะดูออกว่าการที่มุกมาตาไม่พอใจครูสาวทุกคนก็เพราะกลัวว่าเพชรจะมีใจให้ครูสาวพวกนั้นและกลัวว่าเพชรจะรักครูสาวพวกนั้นมากกว่าตัวเอง เด็กหญิงไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่ ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่หล่อนจะหวงพี่ชายมากขนาดนี้
“เอาล่ะค่ะ พี่หวังว่าคุณมุกคงจะเข้าใจที่พี่พูด พี่จะไม่กวนคุณมุกแล้วล่ะ” ลลิตหันไปช่วยป้าอรเก็บเศษแก้วที่เกลื่อนอยู่บนพื้น มุกมาตานั่งมองคนสองคนที่กำลังช่วยกันเก็บเศษแก้วใบหน้านิ่งจนป้าอรเองก็ดูไม่ออกว่าหล่อนกำลังคิดอะไร ป้าอรหันไปขอบคุณลลิต ดูเหมือนลลิตจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่กำราบมุกมาตาได้อยู่หมัด
“เกิดอะไรขึ้นครับ” ประตูห้องของมุกมาตาถูกเปิดออกพร้อมกับที่เจ้าของเสียงเดินเข้ามาข้างใน ลลิตเงยหน้ามองชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า หล่อนยอมรับว่าแปลกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะมา แต่ที่มากไปกว่านั้นคือหล่อนรู้สึกว่าตัวเองใจเต้นอย่างบอกไม่ถูก
“คุณหนู โธ่ ! ป้านึกว่าจะไม่ได้เจอหน้าเสียแล้ว” ป้าอรร้องอย่างดีใจ เพชรส่งยิ้มให้ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหามุกมาตาที่นั่งหน้างออยู่ที่โต๊ะตัวโปรด
“ตกลงจะมีใครตอบผมได้บ้างฮะว่าเกิดอะไรขึ้น” เพชรลูบหัวน้องสาว เขาหันไปสบตากับลลิต เป็นการสบตาที่นิ่งนาน และลลิตเองก็ไม่อาจคาดเดาความรู้สึกผ่านแววตาคมของเขาได้เลย
“ฉันแค่สั่งสอนอะไรบางอย่างให้น้องคุณ และตอนนี้ก็สอนจบแล้วด้วยค่ะ” ลลิตตอบเสียงเรียบ แววตาของเขาเปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับคนที่หล่อนเคยเจอเมื่อคืนก่อนเลยสักนิด
“เอ้อ…มันไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะคุณหนู” ป้าอรบอกขณะนำเศษแก้วทั้งหมดใส่ถังขยะ
“ถ้าอย่างนั้นทุกคนออกไปก่อนเถอะครับ ผมต้องการคุยกับมุก” เพชรสบตาลลิตนิ่งนาน หญิงสาวรู้สึกเหมือนร่างกายชาวาบไร้เรี่ยวแรง เขากำลังไล่เธอออกจากห้อง เป็นการไล่ที่ออกจะดูสุภาพไปสักนิดแต่ความหมายก็คือเขาไม่ต้องการให้เธออยู่ตรงนี้นั่นแหละ
ลลิตจ้องมองบุรุษผู้กำลังสบตาเธอนิ่งนานแล้วร่างบางก็รีบเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้พูดอะไร ป้าอรมองตามหญิงสาว นางอยากจะอธิบายเรื่องราวก่อนหน้าให้เพชรได้รับรู้แต่คงทำในเวลานี้ไม่ได้เสียแล้วเพราะเพชรก็เพิ่งจะออกปากให้นางออกไปจากห้องเหมือนกัน
ลลิตยื่นมือเรียวบางลูบไล้ไปบนกรอบรูปขนาดใหญ่บนฝาผนัง ภาพที่ไม่ได้มีลวดลายอะไรมากนอกจากดอกแก้วสีขาวนวลตัดด้วยใบสีเขียวสด ทว่าเธอก็มองมันได้ทุกวันอย่างไม่มีเบื่อ
“ลูกชายคุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ บอกฉันหน่อยได้ไหมคะคุณแก้วตา” ลลิตพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะสายตาจับจ้องอยู่ที่ลายมือตวัดใต้กรอบรูป
“ก๊อก…ก๊อก…” เสียงเคาะประตูทำให้หญิงสาวละสายตาจากภาพวาดเบื้องหน้า เมื่อประตูถูกเปิดออกหล่อนก็พบบุรุษร่างสูงที่เพิ่งออกปากไล่หล่อนให้ออกมาจากห้องยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณมาทำไม” ลลิตพยายามปรับระดับเสียงให้เป็นปกติแม้ว่าในใจจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกก็ตาม
“ผมเข้าไปข้างในได้ไหม” เพชรสบตาหญิงสาว เป็นการสบตาที่นิ่งนานจนลลิตต้องรีบเรียกสติตัวเองกลับมา
“คุยกันตรงนี้ก็ได้นี่คะ” หล่อนละสายตาจากนัยน์ตาดำขลับนั่น สภาพเขาดีขึ้นมากจนไม่เหลือเค้าของคนที่เพิ่งมีอาการเจ็บป่วย
“ผม…เอ้อ…แค่จะมาขอโทษคุณ คือผมไม่ได้ตั้งใจจะไล่คุณออกมานะครับ” เสียงของเขาผ่อนลง ลลิตจ้องมองนัยน์ตาคมอย่างสับสน บางครั้งหล่อนก็คิดว่าตัวเองสามารถเข้าถึงจิตใจเขาได้ แต่ก็มีหลายครั้งเหมือนกันที่หล่อนไม่สามารถเข้าใจเขาได้เลย
“ช่างมันเถอะค่ะ ดึกแล้ว ควรจะแยกย้ายไปนอนกันได้แล้วค่ะ” ลลิตเอ่ยตัดบท หล่อนทำท่าจะปิดประตูทว่ามันกลับถูกผลักเข้ามาข้างใน และร่างสูงของเขาก็เบียดตัวเข้ามาพร้อมกับที่ประตูถูกปิดลงโดยที่หล่อนแทบไม่ทันตั้งตัว
“คุณไม่ควรเข้ามานะคะ” ลลิตถอยไปยืนห่างจากเขา เพชรมองหญิงสาวแล้วยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก ผู้หญิงที่บุคลิกมาดมั่นปราดเปรียวอย่างลลิต เวลาทำท่าหวาดกลัวก็น่ามองไปอีกแบบ
“ถอยทำไมล่ะ ทีวันนั้นยังนอนกอดผมทั้งคืนได้เลย” เพชรทำหน้ากรุ้มกริ่ม ยิ่งมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดก็ยิ่งทำให้เขาอดอมยิ้มไม่ได้
“ก็วันนั้นคุณป่วย” ลลิตตอบกลับ รู้สึกเหมือนใบหน้าตัวเองร้อนผะผ่าว
กลิ่นแก้วกลรัก ตอนที่ 11
ตอนที่ 2 >>>http://pantip.com/topic/32175186
ตอนที่ 3 >>>http://pantip.com/topic/32226678
ตอนที่ 4 >>>http://pantip.com/topic/32316165
ตอนที่ 4 (ต่อ) >>>http://pantip.com/topic/32346960
ตอนที่ 5 >>>http://pantip.com/topic/32492911
ตอนที่ 6 >>>http://pantip.com/topic/32511328
ตอนที่ 7 >>>http://pantip.com/topic/32526878
ตอนที่ 8 >>>http://pantip.com/topic/32550496
ตอนที่ 9 >>>http://pantip.com/topic/32577184
ตอนที่ 10>>>http://pantip.com/topic/32585053
ตอนที่ 11
“ฉันว่าคุณควรกลับไปทำความเข้าใจกับพ่อคุณได้แล้วนะคะ” ลลิตเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเขา หนึ่งหนุ่มกับหนึ่งสาวยืนหันหน้าเข้าหาทะเล พระอาทิตย์ดวงกลมโตกำลังถูกกลืนหายไปอีกวันแล้ว
“เราไม่ควรจะต้องพูดเรื่องนี้กันอีก” เพชรตอบเสียงเรียบ ตายังคงจับจ้องอยู่ที่โค้งขอบฟ้าเบื้องหน้า
“บางทีพ่อคุณอาจจะไม่ใช่ เอ่อ ไม่ใช่คนที่ทำร้ายแม่คุณอย่างที่คุณคิดก็ได้”
“พวกเขาทะเลาะกันทุกวัน โชคดีที่วันนั้นมุกมาตาไม่เป็นอะไรไปด้วย” เพชรน้ำเสียงอ่อนลง
“คุณกำลังจะบอกฉันว่าวันนั้นแม่คุณพามุกมาตาไปด้วยหรือคะ” ลลิตถามย้ำ เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ยากเหลือเกินที่คนเป็นพ่อจะฆ่าภรรยาแล้วทิ้งลูกสาวตัวเล็ก ๆ ไว้ที่นั่นคนเดียว
“ใช่…แม่พาน้องไปที่ชายหาด เขาพาผู้หญิงอื่นมานอนที่บ้าน ในห้องแม่ ห้องที่คุณนอนอยู่นั่นแหละ” เพชรเดินไปนั่งบนโขดหิน ลลิตเดินตามไป ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทแล้ว
“แม่คุณก็เลยหนีความวุ่นวายออกมาข้างนอกและพาคุณมุกออกมาด้วย ถ้างั้น…มีเหตุผลอะไรคะที่ทำให้คุณคิดว่าพ่อของคุณเป็นคน เอ้อ ทำร้ายแม่คุณน่ะ”
“มีคนพูดตรงกันหลายคนว่าเห็นเขาเดินตามแม่ไป และหลังจากนั้น…” ชายหนุ่มหยุดคำพูดไว้แค่นั้น ลลิตมองเขารู้สึกสงสารจับใจ หล่อนมั่นใจว่ามีบางสิ่งบางอย่างบิดเบือนไปและหล่อนต้องหาคำตอบให้ได้
“ตกลงคุณจะกลับบ้านด้วยกันไหมคะ มุกมาตาคงจะดีใจมากถ้าคุณกลับไป” ลลิตถามย้ำอีกครั้ง ทว่าเพชรส่ายหน้า เขาคิดถึงน้อง แต่เขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับบุคคลคนนั้น
“ตามใจ แล้วพรุ่งนี้เจอกันค่ะ” ลลิตบอกก่อนจะเดินไปหาชาญเพื่อให้เขาไปส่งหล่อนที่บ้าน เสียงคลื่นยังคงซัดขึ้นฝั่งระลอกแล้วระลอกเล่า ลมเย็นพัดโอบเข้ามาจนเพชรรู้สึกสะท้าน
“แม่อยู่ที่ไหนฮะ แม่คิดถึงผมกับน้องบ้างไหม” เขาแหงนหน้ามองพระจันทร์เสี้ยวเล็กที่ลอยอยู่ไกล ๆ แล้วน้ำตาที่เขาพยายามกลั้นไว้ตลอดก็ไหลออกมา
ลลิลบอกไม่ถูกว่ารู้สึกดีใจหรือเสียใจที่มีนัดไปทานข้าวกับเกษมวันพรุ่งนี้ หล่อนควานหาเสื้อผ้าในตู้แต่ก็ไม่มีตัวไหนที่พอใจเลย ทุกชุดมีรูปแบบที่คล้ายกันหมด คล้ายกับชุดที่เขาเคยบอกว่าเชยนั่นแหละ
“แกไม่เคยเป็นแบบนี้นี่ลิล บอกมานะว่าแกมีใจให้คุณเกษมแล้วใช่ไหม” เสียงปลายสายของสรวงสุดาทำให้ลลิลสะดุ้ง ไม่หรอก หล่อนแค่ต้องการลบคำสบประมาทของเขาก็เท่านั้น หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงเชย ๆ อย่างเขาว่าเสียหน่อย
“ฉันแค่ไม่อยากให้เขาว่าฉันเชยอีกเท่านั้นแหละ ว่าไงล่ะ แกจะให้ฉันยืมชุดไหม” ลลิลรีบตัดบท เมื่อสรวงสุดารับคำและวางสายไปหญิงสาวจึงรีบขับรถไปหาสรวงสุดาทันที
ที่ร้านอาหารบรรยากาศสงบเงียบ เกษมกับลลิลนั่งมองหน้ากันไปมาโดยไม่มีใครพูดอะไร นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพาหล่อนมาในสถานที่สงบเงียบอย่างที่หล่อนชอบ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ลลิลแต่งตัวในแนวที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“วันนี้คุณดูแปลกไปนะ” เกษมทักทายขึ้นก่อน
“ทำไมคะ ฉันดูแย่ หรือว่าไม่สวยเท่าผู้หญิงพวกนั้นของคุณ หรือว่ายังไงคะ” ลลิลถาม หล่อนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องพาดพิงไปถึงผู้หญิงพวกนั้นตลอด แต่หล่อนก็หลุดปากพูดไปแล้วนี่
“คุณกำลังหึงผม รู้ตัวไหม” เกษมยิ้ม จ้องหน้าหญิงสาวจนหล่อนต้องหลบสายตาไปทางอื่น
“ฉันไม่ชอบผู้ชายกะล่อน เจ้าชู้ คุณน่าจะจำได้” ลลิลพูดเสียงเรียบแล้วหยิบเมนูอาหารขึ้นมาดู ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ บางครั้งหล่อนก็ทำเหมือนว่าหึงหวงเขา แต่บางครั้งหล่อนก็ทำเหมือนไม่สนใจเขาเลยสักนิด
“ไฮ้…คุณเกษม คิดถึงจังเลยค่ะ” เสียงแหลมเล็กดังขึ้นใกล้ ๆ พร้อมกับเจ้าของเสียงที่เดินเข้ามาเกาะไหล่เขาแบบที่เขาก็ไม่ทันตั้งตัว
“คิดถึงคุณจัง ทำไมไม่ชวนคุณเพชรมาด้วยคะ รายนั้นน่ะไม่ได้เจอนานยิ่งกว่าคุณอีก” หล่อนถือวิสาสะนั่งลงข้างเกษมโดยที่ยังไม่มีใครชวน ลลิลมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างงุนงง หล่อนไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อนและไม่คิดว่าจะมีด้วย
“เจ้าเพชรมันไม่ค่อยได้ขึ้นมาหรอกฮะ” เกษมยิ้มแล้วแนะนำตัวให้สองสาวรู้จักกัน ศศิมาเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของเขา อันที่จริงหล่อนก็เคยเป็นอดีตแฟนเก่าของเขาคนหนึ่ง
“นี่เพื่อน หรือว่าที่ภรรยากันแน่คะ” ศศิมาถามขณะสำรวจลลิลตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เพื่อนครับ” ศศิมาทำท่าโล่งใจเมื่อเกษมบอกซ้ำอีกครั้ง หล่อนก้มลงหอมแก้มเกษมฟอดใหญ่ก่อนจะขอตัวออกไป ชายหนุ่มที่ไม่ทันตั้งตัวได้แต่ตะลึงและส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้แม่สาวคนที่นั่งมองตาขุ่นอยุ่ข้างหน้า
“เอ่อ คุณไม่ว่าอะไรผมใช่ไหม” เกษมถามเสียงอ้อมแอ้ม เขามองเห็นหล่อนทำหน้านิ่งกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา
“เราเป็นเพื่อนกันนี่คะ ฉันจะไปว่าคุณทำไมล่ะ” ลลิลยิ้ม แต่เกษมรู้สึกว่ามันเป็นยิ้มที่เยือกเย็นที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ
…………………………
“นี่คนที่เท่าไหร่แล้วคะ” ลลิตถาม มองตามแผ่นหลังครูสาวที่เพิ่งโดนมุกมาตาออกฤทธิ์ใส่จนต้องรีบเก็บของออกจากบ้านไป ศรีทำท่านับ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังนับไม่ครบ
“เยอะจนนับไม่หวาดไม่ไหวสินะคะ” ลลิตส่ายศีรษะแล้วเดินตามป้าอรขึ้นไปบนห้องมุกมาตา เด็กหญิงกำลังนั่งวาดรูป ดูเหมือนหล่อนไม่ได้สะทกสะท้านหรือเดือดเนื้อร้อนใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเลยสักนิด
คนโง่มักเป็นเหยื่อของคนฉลาด เด็กที่ไม่สนใจการเรียนก็คือคนโง่คนหนึ่ง
มุกมาตาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของลายมือสวยผู้ซึ่งส่งกระดาษที่มีประโยคนี้ให้หล่อนอ่าน เด็กหญิงทำหน้าไม่พอใจก่อนจะปากระดาษแผ่นนั้นทิ้งเหมือนอย่างที่เคยทำ
“พอเถอะค่ะคุณลิต เดี๋ยวป้าจัดการเอง” ป้าอรทำสีหน้าอ้อนวอน ร่วมเดือนแล้วที่เพชรไม่กลับบ้านหลังจากมีปากเสียงกับอินทร มุกมาตาที่เดิมหงุดหงิดง่ายอยู่แล้วก็เลยยิ่งแสดงอาการมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก ป้าอรจึงได้แต่ภาวนาให้เขากลับมาเร็ว ๆ เผื่อมุกมาตาจะได้สงบลงบ้าง
ลลิตยิ้มแล้วเดินไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะมุกมาตามาเขวี้ยงลงบนพื้น แก้วแตกกระจาย น้ำหกเต็มพื้น ทั้งป้าอรและมุกมาตาทำสีหน้าตกใจไปพร้อมกัน
“ป้าอรอย่ามาขวางเลยค่ะ ลิตไม่ชอบ ไม่พอใจ ลิตจะเขวี้ยงทุกอย่างทิ้งให้หมดเลย” ลลิตพูดพลางทำมือประกอบ แล้วเดินไปทำท่าจะหยิบภาพวาดบนโต๊ะมุกมาตามาขยำทิ้ง เด็กหญิงมองลลิตสีหน้าตกใจแล้วรีบดึงมือลลิตไว้ ป้าอรเอามือทาบอกแทบจะเป็นลม
ลลิตยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นมุกมาตามีสีหน้าอ้อนวอน หล่อนวางทุกอย่างลงแล้วยกมือประกอบคำพูด
“การที่เราไม่พอใจใครแล้วแสดงกิริยาก้าวร้าวด้วยการปาข้าวของเครื่องใช้ทิ้งมันน่ามองไหมคะ” ลลิตหยุด จ้องหน้ามุกมาตาจนเด็กหญิงส่ายศีรษะจึงพูดต่อ
“มุกรักป้าอรใช่ไหม การที่พี่ทำแบบนี้กับป้าอรมุกพอใจไหม” ลลิตหยุดพูดอีกครั้ง คราวนี้มุกมาตาส่ายหน้ารัวเร็ว
“พี่ก็เหมือนกัน คุณครูคนอื่นก็เหมือนกัน พวกเขาก็มีคนที่รัก หากคนที่รักพวกเขามาเห็นมุกทำแบบนี้ก็ไม่มีใครทนได้” ลลิตลูบศีรษะมุกมาตา เด็กหญิงมีท่าทีผ่อนลง ไม่ได้ผลักไสเธอออกไปเหมือนเมื่อก่อน
“ความรักระหว่างพี่ชายกับน้องสาวก็เหมือนกัน ต่อให้คุณเพชรจะมีผู้หญิงเป็นร้อยเป็นพันเข้ามาหาแต่มุกก็ยังเป็นน้อง ไม่มีพี่ชายที่ไหนไม่รักน้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกแย่งความรักเพราะมันคือรักคนละแบบ เข้าใจไหมคะ” ลลิตพยายามอธิบาย เธอพอจะดูออกว่าการที่มุกมาตาไม่พอใจครูสาวทุกคนก็เพราะกลัวว่าเพชรจะมีใจให้ครูสาวพวกนั้นและกลัวว่าเพชรจะรักครูสาวพวกนั้นมากกว่าตัวเอง เด็กหญิงไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่ ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่หล่อนจะหวงพี่ชายมากขนาดนี้
“เอาล่ะค่ะ พี่หวังว่าคุณมุกคงจะเข้าใจที่พี่พูด พี่จะไม่กวนคุณมุกแล้วล่ะ” ลลิตหันไปช่วยป้าอรเก็บเศษแก้วที่เกลื่อนอยู่บนพื้น มุกมาตานั่งมองคนสองคนที่กำลังช่วยกันเก็บเศษแก้วใบหน้านิ่งจนป้าอรเองก็ดูไม่ออกว่าหล่อนกำลังคิดอะไร ป้าอรหันไปขอบคุณลลิต ดูเหมือนลลิตจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่กำราบมุกมาตาได้อยู่หมัด
“เกิดอะไรขึ้นครับ” ประตูห้องของมุกมาตาถูกเปิดออกพร้อมกับที่เจ้าของเสียงเดินเข้ามาข้างใน ลลิตเงยหน้ามองชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า หล่อนยอมรับว่าแปลกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะมา แต่ที่มากไปกว่านั้นคือหล่อนรู้สึกว่าตัวเองใจเต้นอย่างบอกไม่ถูก
“คุณหนู โธ่ ! ป้านึกว่าจะไม่ได้เจอหน้าเสียแล้ว” ป้าอรร้องอย่างดีใจ เพชรส่งยิ้มให้ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหามุกมาตาที่นั่งหน้างออยู่ที่โต๊ะตัวโปรด
“ตกลงจะมีใครตอบผมได้บ้างฮะว่าเกิดอะไรขึ้น” เพชรลูบหัวน้องสาว เขาหันไปสบตากับลลิต เป็นการสบตาที่นิ่งนาน และลลิตเองก็ไม่อาจคาดเดาความรู้สึกผ่านแววตาคมของเขาได้เลย
“ฉันแค่สั่งสอนอะไรบางอย่างให้น้องคุณ และตอนนี้ก็สอนจบแล้วด้วยค่ะ” ลลิตตอบเสียงเรียบ แววตาของเขาเปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับคนที่หล่อนเคยเจอเมื่อคืนก่อนเลยสักนิด
“เอ้อ…มันไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะคุณหนู” ป้าอรบอกขณะนำเศษแก้วทั้งหมดใส่ถังขยะ
“ถ้าอย่างนั้นทุกคนออกไปก่อนเถอะครับ ผมต้องการคุยกับมุก” เพชรสบตาลลิตนิ่งนาน หญิงสาวรู้สึกเหมือนร่างกายชาวาบไร้เรี่ยวแรง เขากำลังไล่เธอออกจากห้อง เป็นการไล่ที่ออกจะดูสุภาพไปสักนิดแต่ความหมายก็คือเขาไม่ต้องการให้เธออยู่ตรงนี้นั่นแหละ
ลลิตจ้องมองบุรุษผู้กำลังสบตาเธอนิ่งนานแล้วร่างบางก็รีบเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้พูดอะไร ป้าอรมองตามหญิงสาว นางอยากจะอธิบายเรื่องราวก่อนหน้าให้เพชรได้รับรู้แต่คงทำในเวลานี้ไม่ได้เสียแล้วเพราะเพชรก็เพิ่งจะออกปากให้นางออกไปจากห้องเหมือนกัน
ลลิตยื่นมือเรียวบางลูบไล้ไปบนกรอบรูปขนาดใหญ่บนฝาผนัง ภาพที่ไม่ได้มีลวดลายอะไรมากนอกจากดอกแก้วสีขาวนวลตัดด้วยใบสีเขียวสด ทว่าเธอก็มองมันได้ทุกวันอย่างไม่มีเบื่อ
“ลูกชายคุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ บอกฉันหน่อยได้ไหมคะคุณแก้วตา” ลลิตพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะสายตาจับจ้องอยู่ที่ลายมือตวัดใต้กรอบรูป
“ก๊อก…ก๊อก…” เสียงเคาะประตูทำให้หญิงสาวละสายตาจากภาพวาดเบื้องหน้า เมื่อประตูถูกเปิดออกหล่อนก็พบบุรุษร่างสูงที่เพิ่งออกปากไล่หล่อนให้ออกมาจากห้องยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณมาทำไม” ลลิตพยายามปรับระดับเสียงให้เป็นปกติแม้ว่าในใจจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกก็ตาม
“ผมเข้าไปข้างในได้ไหม” เพชรสบตาหญิงสาว เป็นการสบตาที่นิ่งนานจนลลิตต้องรีบเรียกสติตัวเองกลับมา
“คุยกันตรงนี้ก็ได้นี่คะ” หล่อนละสายตาจากนัยน์ตาดำขลับนั่น สภาพเขาดีขึ้นมากจนไม่เหลือเค้าของคนที่เพิ่งมีอาการเจ็บป่วย
“ผม…เอ้อ…แค่จะมาขอโทษคุณ คือผมไม่ได้ตั้งใจจะไล่คุณออกมานะครับ” เสียงของเขาผ่อนลง ลลิตจ้องมองนัยน์ตาคมอย่างสับสน บางครั้งหล่อนก็คิดว่าตัวเองสามารถเข้าถึงจิตใจเขาได้ แต่ก็มีหลายครั้งเหมือนกันที่หล่อนไม่สามารถเข้าใจเขาได้เลย
“ช่างมันเถอะค่ะ ดึกแล้ว ควรจะแยกย้ายไปนอนกันได้แล้วค่ะ” ลลิตเอ่ยตัดบท หล่อนทำท่าจะปิดประตูทว่ามันกลับถูกผลักเข้ามาข้างใน และร่างสูงของเขาก็เบียดตัวเข้ามาพร้อมกับที่ประตูถูกปิดลงโดยที่หล่อนแทบไม่ทันตั้งตัว
“คุณไม่ควรเข้ามานะคะ” ลลิตถอยไปยืนห่างจากเขา เพชรมองหญิงสาวแล้วยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก ผู้หญิงที่บุคลิกมาดมั่นปราดเปรียวอย่างลลิต เวลาทำท่าหวาดกลัวก็น่ามองไปอีกแบบ
“ถอยทำไมล่ะ ทีวันนั้นยังนอนกอดผมทั้งคืนได้เลย” เพชรทำหน้ากรุ้มกริ่ม ยิ่งมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดก็ยิ่งทำให้เขาอดอมยิ้มไม่ได้
“ก็วันนั้นคุณป่วย” ลลิตตอบกลับ รู้สึกเหมือนใบหน้าตัวเองร้อนผะผ่าว