ดิฉันเคยตั้งกระทู้ แบบนี้ไปแล้วนะคะ และนี่คือภาคต่อจากกระทู้นี้ค่ะ
http://pantip.com/topic/32126799
เรื่องของเรื่องคือ เมื่อวานนี้ ( 23/09/2557 ) แม่โทรมาบอกว่า ให้ไปหาที่บ้านหน่อยค่ะ เพราะพ่อมีอาการ เบลอ ไม่พูดไม่จา ไม่เดิน ไม่ขยับ นิ่งเฉย เราเลยรีบไปที่บ้าน ก็เป็นอย่างที่แม่บอกจริง ๆ ค่ะ ทีนี้เลยปรึกษากันว่าจะพาไปที่ไหนดี ระหว่าง รพ.ศิริราช หรือ คลีนิค 30 บาท ปรึกษากันเลยสรุปว่าไป 30 บาท ก่อนเพราะตอนนั้นก็ บ่าย 3 กว่าแล้ว ไปศิริราชคงไม่ทัน พอไปถึงคลีนิค พบพยาบาลก่อนค่ะ คุยอาการกัน พยาบาลบอกว่าคล้าย ๆ จะเป็น พากินสัน เพราะพ่อปากเริ่มเบี้ยวเล็กน้อย เหมือนจะเป็นระยะเริ่มต้น แนะนำให้ไปหาหมอเฉพาะทาง เราเลยถามไปว่า ที่นี่รักษาได้ไหม หรือว่าต้องส่งต่อ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ( สิทธิ์อยู่ รพ. นี้ค่ะ แต่ต้องตรวจคลีนิคก่อน ต้องให้คลีนิคส่งตัวไป ) ทางพยาบาลนิ่งไปแบบอึ้งเลยอ่ะค่ะ แล้วบอกว่า รอพบหมอ ให้หมอบอกดีกว่าว่าจะเอายังไง เราก็โอเค รอหมอ พอพบหมอค่ะ อายุน่าจะ +- ประมาณ 65-70 ปี ถามพ่อว่าอายุเท่าไหร่ แล้วรู้ได้ยังไงว่าซึมเศร้า ( พยาบาลเขียนในแฟ้ม ) เราเลยเล่าอาการให้ทราบ หมอบอกว่า มันพูดยาก เรื่องสมอง เอา วิตามินไปกิน กับยาคลายเครียดแล้วกัน จบ แค่นี้ค่ะ เราถึงกับ เห้ย เสร็จแล้วเหรอ โอเค ออกมาถามพยาบาล พยาบาลแจ้งว่า ถ้าอาการพ่อไม่ดีขึ้นทานยาไปแล้ว 3-4 วัน ให้กลับมาหาหมอใหม่ อาจจะต้องเจาะเลือดดู ทีนี้พอกลับบ้าน ถึงเวลากินข้าว เท่าที่เราสังเกต คือบอกว่าพ่อกินข้าว ตักข้าวใส่ปากเลย พ่อตักข้าวค่ะ ตักขึ้นมาพอจะถึงปากเค้าเอาออก แล้วก็ทำอย่างนี้ใหม่ซ้ำ ๆ สุดท้ายเลยจับมือค่ะเอาข้าวใส่ปาก สอนกินข้าว พ่อก็กินได้ 2-3 คำ แล้วก็เป็นเหมือนเดิม จนเราเลยต้องป้อนค่ะ พอถึงเวลาอาบน้ำต้องเดินขึ้นชั้นบนค่ะ เราพยุงด้านบน ส่วนแม่กั้นไว้ด้านล่าง กันหล่น แรก ๆ ก็ก้าวขึ้นได้ พอถึงขั้นสุดท้ายจะถึงอยู่แล้ว กลับไม่ก้าว ยืนตัวแข็งทื่อเลยค่ะ เราเลยช้อนตรงรักแร้ให้พ่อนั่งเลย ตรงบันไดขั้นสุดท้าย แล้วช่วยกันกับแม่หิ้วปีกพ่อคนละข้าง ลากมาตรงลูกกรงบันได แล้วให้เค้าจับลูกกรง ส่วนเรากับแม่ก็พยุงปีกช่วยหิ้วขึ้นมา สุดท้ายยืนได้เลยพาไปห้องน้ำอาบน้ำ ตอนแปรงฟัน แปรงไม่ได้ค่ะ แกไม่อ้าปาก แม่ต้องง้างปากเอาฟันปลอมออกมา ทีนี้ให้บ้วนปาก ก็ไม่ยอมคายน้ำออกมาแม่ต้องเอามือบีบปากแล้วล้วงปาก ตอนนอนเลยให้ใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ค่ะ แล้วกินยาคลายเครียดไป สุดท้ายหลับได้ พอเช้ามาเราโทรไปถาม ว่าเป็นยังไงบ้าง ( ต้องกลับมานอนที่บ้านแฟนค่ะเพราะไม่มีใครดูลูกชายคนโต รร. ยังไม่ปิดค่ะ ) แม่บอกดีแล้ว เดินเองได้ พูดคุยปกติ เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เหมือนเมื่อวาน บอกเราว่าไม่ต้องไปก็ได้ วันนี้เราเลยไม่ได้ไป เราจะไปอีกทีวันศุกร์ค่ะไปนอนค้าง
ทีนี้เราคุยกับลูกพี่ลูกน้อง เรื่องนี้แหละค่ะ พี่เค้าก็บอกมาว่าเราต้องคุยกับแม่ให้พาพ่อไปตรวจ ( copy มาเลยค่ะ )
พี่ : ต้องคุยกันว่า เค้ามีหมอไว้ทำไม ?
เค้ามีพวกขายอาหารเสริมเพื่ออะไร ? ยอดขาย สรรพคุณมากมาย แต่ไม่มีการรับรองทางการแพทย์ มีแต่คำว่า " เค้าว่าดี ใช้ได้ผลกันหลายคนแล้ว สินค้าตัวนี้ขายดี มีแต่ คำชวนเชื่อให้หลงซื้อสินค้าของมันทั้งนั้น มีใครไหมจะบอกว่าของมัน ใช้ไม่ดี ไม่ได้ผล บ้างล่ะ
เรา : แล้วใครจะพูดประโยคพวกนี้
ถ้าเราพูดแม่จะฟังไหม
แม่ไม่เคยฟังเราสักอย่าง
พี่ : ต้องค่อยๆ ใช้เหตุผล หรือจัรอให้อาการหนักก่อนแล้วค่อยไปโรงพยาบาล
เรา : ก้อเมื่อวานไง
แม่เริ่มไม่ไหวแล้ว
โทรเรียกให้เราไปหาด่วนเลย
พาไปคลีนิคตรงประชาอุทิศ 23 อ่ะ
เมื่อวานพ่อแย่มาก
ถึงขั้นต้องลากพ่อกันเลย
เพราะพ่อไม่เดินไม่ก้าวขาเลย
กินข้าวต้องป้อน
แต่มาวันนี้ แม่บอกว่า ดีขึ้นกว่าเมื่อวานเยอะแล้ว
คือแม่อ่ะ ถ้าไม่หนักก้อไม่พาไป
บอกให้ไปหาหมอตั้งนานแล้วรีรออะไรก้อไม่รุ
เซง
พี่ : จะให้พี่พูดให้เหรอ ?
เดี๋ยวจัดการให้
ผ่านไปสักพักใหญ่นะคะ นี่คือสิ่งที่แม่พูดกลับมาค่ะเราพูดกับพี่แบบนี้เพราะเค้าโทรไปคุยมา
เรา : ไงอ่ะ
น้ำมันรำข้าวมันบริสุทธิ์
ไม่สะสมหรอก กินแค่วันละ 6 เม็ดเอง
จนปัญญาแล้ว
สงสัยคงพูดอะไรไม่ได้แล้วล่ะ
เค้าไม่รับฟังอ่ะ
เออแล้วเรื่อง พากินสันอ่ะ แม่บอกว่าไม่เป็นหรอก ถ้าเป็น ๆ นานแล้ว
ที่พ่อสั่นเมื่อวานเพราะอดนอนเฉย ๆ
แต่แม่ก็โทรมาถามนะคะว่า ถ้าพาพ่อไปหาหมอที่ศิริราช ไปขอเจาะเลือดดูได้ไหม เราเลยรีบตอบเลยค่ะว่าไปสิ ไปเช็คเลย เราใจชื้นมาก เพราะพูดกับเค้าหลายรอบแล้วค่ะ เรื่องนี้ซึ่งตอนแรก ในกระทู้เดิมเราคิดว่าอาจจะเป็นอัลไซเมอร์ แต่พอมาหาหมอที่คลีนิค ก็ถูกพยาบาลสันนิษฐานว่าเป็นพากินสัน แม่คงรู้สึกแล้วล่ะค่ะ ว่ามันคงรอต่อไปไม่ได้ ทีนี้ แฟนเราเป็นคนตรง ๆ บอกว่าวันศุกร์นี้ไปหาแม่พูดให้จบ ๆ ไปเลยเรื่องน้ำมันรำข้าวเนี่ย เพราะมันเหลืออดแล้ว แล้วเรื่องการดูแลพ่ออีก แม่ชอบทำเหมือนพ่อเป็นเด็ก ๆ ค่ะ พอทำอะไรไม่ถูกใจก็จะตี จะ ว่า เราว่าการกระทำพวกนี้มีส่วนทำให้พ่อเป็นแบบนี้ค่ะ สงสารพ่อมาก แต่เราก็บอกแฟนว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรเลยเดี๋ยวจะทะเลาะ รอให้แม่พาพ่อไปหาหมอก่อนเพราะตอนนี้เค้ายอมไปแล้ว ถ้าหากเราพูดอะไรไปเกิด ผิดใจ ผิดหู ขึ้นมา กลายเป็นว่าไม่ยอมให้พ่อไปหาหมอเสร็จเลย ทีนี้ จบของจริง
เรื่อง ของเรื่องตรงนี้ที่อารัมภบทมายืดยาว ส่วนสำคัญที่สุดที่ต้องการเลยนะคะ
1. เราอยากระบายความอัดอั้นตันใจค่ะ ยอมรับเลยว่าเครียดมาก อยู่ในสังคมครอบครัวที่ ผู้ใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับความคิดของผู้ที่มีวัยวุฒิ ที่อ่อนกว่า
2. อยากรู้จริง ๆ เลยว่า น้ำมันรำข้าว ของ ดีเจโจ้ เนี่ย มันจริงหรือหลอกลวง เพราะไม่ไหวแล้วค่ะ แม่เราเกินคำว่าเชื่อแล้ว เข้าข่าย งมงาย เลย กลุ้มมากค่ะตอนนี้เพราะแม่ให้พ่อกินด้วย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันมีผลอะไรกับพ่อมากน้อยขนาดไหน จะห้ามก็ไม่ได้ ต้องปล่อยเลยตามเลย แล้วถ้ามันหลอกลวง จะทำยังไงดีคะ
3. อยากรู้เกี่ยวกับอัลไซเมอร์ และ พากินสันค่ะ คือบอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ไม่สามารถรับอะไรที่เป็นวิชาการได้ ยิ่งอ่านยิ่งเครียด เลยไม่เข้า กูเกิ้ลค่ะ ใครพอจะอธิบายได้บ้างคะ ขอแบบ ชาวบ้าน ๆ นะคะ ฟังแบบ เข้าใจง่าย ๆ อ่ะค่ะ จะเอาไปพูดกับแม่ เผื่อว่าจะย่นเวลาพาพ่อไปหาหมอได้เร็วขึ้น เพราะเท่าที่ดู พอพ่อหายจากอาการเบลอ แม่ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ คือหัวแข็งเหมือนเดิมแล้ว
4. อยากทราบว่า ถ้าเราตรวจแล้วพ่อเป็นโรคพวกนี้จริง ทางคลีนิคจะทำยังไงคะ ใครพอมีประสบการณ์บ้าง คือเราอยากรักษา แต่ดูท่าแล้ว คลีนิคส่งยาก แล้วทางเจริญกรุงประชารักษ์ จะมีหมอเฉพาะทางนี้ไหม กลัวว่าเค้าจะไม่ส่งต่อ ศิริราชค่ะ
ขอโทษนะคะที่ยาว เหยียดขนาดนี้ แต่มันย่อไม่เป็นค่ะ มันมาทั้งความรู้สึก ทั้ง สิ่งที่เราพบเจอ ทั้งสิ่งที่เรากระทำ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ส่วนนี่ คือกระทู้ แรกนะคะ ที่เขียนเรื่องพ่อ เผื่อต้องการอ่านประติดประต่อกัน
http://pantip.com/topic/32126799
ปัญหาครอบครัว ภาค 2 ค่ะ ขอคำปรึกษาค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ เมื่อวานนี้ ( 23/09/2557 ) แม่โทรมาบอกว่า ให้ไปหาที่บ้านหน่อยค่ะ เพราะพ่อมีอาการ เบลอ ไม่พูดไม่จา ไม่เดิน ไม่ขยับ นิ่งเฉย เราเลยรีบไปที่บ้าน ก็เป็นอย่างที่แม่บอกจริง ๆ ค่ะ ทีนี้เลยปรึกษากันว่าจะพาไปที่ไหนดี ระหว่าง รพ.ศิริราช หรือ คลีนิค 30 บาท ปรึกษากันเลยสรุปว่าไป 30 บาท ก่อนเพราะตอนนั้นก็ บ่าย 3 กว่าแล้ว ไปศิริราชคงไม่ทัน พอไปถึงคลีนิค พบพยาบาลก่อนค่ะ คุยอาการกัน พยาบาลบอกว่าคล้าย ๆ จะเป็น พากินสัน เพราะพ่อปากเริ่มเบี้ยวเล็กน้อย เหมือนจะเป็นระยะเริ่มต้น แนะนำให้ไปหาหมอเฉพาะทาง เราเลยถามไปว่า ที่นี่รักษาได้ไหม หรือว่าต้องส่งต่อ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ( สิทธิ์อยู่ รพ. นี้ค่ะ แต่ต้องตรวจคลีนิคก่อน ต้องให้คลีนิคส่งตัวไป ) ทางพยาบาลนิ่งไปแบบอึ้งเลยอ่ะค่ะ แล้วบอกว่า รอพบหมอ ให้หมอบอกดีกว่าว่าจะเอายังไง เราก็โอเค รอหมอ พอพบหมอค่ะ อายุน่าจะ +- ประมาณ 65-70 ปี ถามพ่อว่าอายุเท่าไหร่ แล้วรู้ได้ยังไงว่าซึมเศร้า ( พยาบาลเขียนในแฟ้ม ) เราเลยเล่าอาการให้ทราบ หมอบอกว่า มันพูดยาก เรื่องสมอง เอา วิตามินไปกิน กับยาคลายเครียดแล้วกัน จบ แค่นี้ค่ะ เราถึงกับ เห้ย เสร็จแล้วเหรอ โอเค ออกมาถามพยาบาล พยาบาลแจ้งว่า ถ้าอาการพ่อไม่ดีขึ้นทานยาไปแล้ว 3-4 วัน ให้กลับมาหาหมอใหม่ อาจจะต้องเจาะเลือดดู ทีนี้พอกลับบ้าน ถึงเวลากินข้าว เท่าที่เราสังเกต คือบอกว่าพ่อกินข้าว ตักข้าวใส่ปากเลย พ่อตักข้าวค่ะ ตักขึ้นมาพอจะถึงปากเค้าเอาออก แล้วก็ทำอย่างนี้ใหม่ซ้ำ ๆ สุดท้ายเลยจับมือค่ะเอาข้าวใส่ปาก สอนกินข้าว พ่อก็กินได้ 2-3 คำ แล้วก็เป็นเหมือนเดิม จนเราเลยต้องป้อนค่ะ พอถึงเวลาอาบน้ำต้องเดินขึ้นชั้นบนค่ะ เราพยุงด้านบน ส่วนแม่กั้นไว้ด้านล่าง กันหล่น แรก ๆ ก็ก้าวขึ้นได้ พอถึงขั้นสุดท้ายจะถึงอยู่แล้ว กลับไม่ก้าว ยืนตัวแข็งทื่อเลยค่ะ เราเลยช้อนตรงรักแร้ให้พ่อนั่งเลย ตรงบันไดขั้นสุดท้าย แล้วช่วยกันกับแม่หิ้วปีกพ่อคนละข้าง ลากมาตรงลูกกรงบันได แล้วให้เค้าจับลูกกรง ส่วนเรากับแม่ก็พยุงปีกช่วยหิ้วขึ้นมา สุดท้ายยืนได้เลยพาไปห้องน้ำอาบน้ำ ตอนแปรงฟัน แปรงไม่ได้ค่ะ แกไม่อ้าปาก แม่ต้องง้างปากเอาฟันปลอมออกมา ทีนี้ให้บ้วนปาก ก็ไม่ยอมคายน้ำออกมาแม่ต้องเอามือบีบปากแล้วล้วงปาก ตอนนอนเลยให้ใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ค่ะ แล้วกินยาคลายเครียดไป สุดท้ายหลับได้ พอเช้ามาเราโทรไปถาม ว่าเป็นยังไงบ้าง ( ต้องกลับมานอนที่บ้านแฟนค่ะเพราะไม่มีใครดูลูกชายคนโต รร. ยังไม่ปิดค่ะ ) แม่บอกดีแล้ว เดินเองได้ พูดคุยปกติ เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เหมือนเมื่อวาน บอกเราว่าไม่ต้องไปก็ได้ วันนี้เราเลยไม่ได้ไป เราจะไปอีกทีวันศุกร์ค่ะไปนอนค้าง
ทีนี้เราคุยกับลูกพี่ลูกน้อง เรื่องนี้แหละค่ะ พี่เค้าก็บอกมาว่าเราต้องคุยกับแม่ให้พาพ่อไปตรวจ ( copy มาเลยค่ะ )
พี่ : ต้องคุยกันว่า เค้ามีหมอไว้ทำไม ?
เค้ามีพวกขายอาหารเสริมเพื่ออะไร ? ยอดขาย สรรพคุณมากมาย แต่ไม่มีการรับรองทางการแพทย์ มีแต่คำว่า " เค้าว่าดี ใช้ได้ผลกันหลายคนแล้ว สินค้าตัวนี้ขายดี มีแต่ คำชวนเชื่อให้หลงซื้อสินค้าของมันทั้งนั้น มีใครไหมจะบอกว่าของมัน ใช้ไม่ดี ไม่ได้ผล บ้างล่ะ
เรา : แล้วใครจะพูดประโยคพวกนี้
ถ้าเราพูดแม่จะฟังไหม
แม่ไม่เคยฟังเราสักอย่าง
พี่ : ต้องค่อยๆ ใช้เหตุผล หรือจัรอให้อาการหนักก่อนแล้วค่อยไปโรงพยาบาล
เรา : ก้อเมื่อวานไง
แม่เริ่มไม่ไหวแล้ว
โทรเรียกให้เราไปหาด่วนเลย
พาไปคลีนิคตรงประชาอุทิศ 23 อ่ะ
เมื่อวานพ่อแย่มาก
ถึงขั้นต้องลากพ่อกันเลย
เพราะพ่อไม่เดินไม่ก้าวขาเลย
กินข้าวต้องป้อน
แต่มาวันนี้ แม่บอกว่า ดีขึ้นกว่าเมื่อวานเยอะแล้ว
คือแม่อ่ะ ถ้าไม่หนักก้อไม่พาไป
บอกให้ไปหาหมอตั้งนานแล้วรีรออะไรก้อไม่รุ
เซง
พี่ : จะให้พี่พูดให้เหรอ ?
เดี๋ยวจัดการให้
ผ่านไปสักพักใหญ่นะคะ นี่คือสิ่งที่แม่พูดกลับมาค่ะเราพูดกับพี่แบบนี้เพราะเค้าโทรไปคุยมา
เรา : ไงอ่ะ
น้ำมันรำข้าวมันบริสุทธิ์
ไม่สะสมหรอก กินแค่วันละ 6 เม็ดเอง
จนปัญญาแล้ว
สงสัยคงพูดอะไรไม่ได้แล้วล่ะ
เค้าไม่รับฟังอ่ะ
เออแล้วเรื่อง พากินสันอ่ะ แม่บอกว่าไม่เป็นหรอก ถ้าเป็น ๆ นานแล้ว
ที่พ่อสั่นเมื่อวานเพราะอดนอนเฉย ๆ
แต่แม่ก็โทรมาถามนะคะว่า ถ้าพาพ่อไปหาหมอที่ศิริราช ไปขอเจาะเลือดดูได้ไหม เราเลยรีบตอบเลยค่ะว่าไปสิ ไปเช็คเลย เราใจชื้นมาก เพราะพูดกับเค้าหลายรอบแล้วค่ะ เรื่องนี้ซึ่งตอนแรก ในกระทู้เดิมเราคิดว่าอาจจะเป็นอัลไซเมอร์ แต่พอมาหาหมอที่คลีนิค ก็ถูกพยาบาลสันนิษฐานว่าเป็นพากินสัน แม่คงรู้สึกแล้วล่ะค่ะ ว่ามันคงรอต่อไปไม่ได้ ทีนี้ แฟนเราเป็นคนตรง ๆ บอกว่าวันศุกร์นี้ไปหาแม่พูดให้จบ ๆ ไปเลยเรื่องน้ำมันรำข้าวเนี่ย เพราะมันเหลืออดแล้ว แล้วเรื่องการดูแลพ่ออีก แม่ชอบทำเหมือนพ่อเป็นเด็ก ๆ ค่ะ พอทำอะไรไม่ถูกใจก็จะตี จะ ว่า เราว่าการกระทำพวกนี้มีส่วนทำให้พ่อเป็นแบบนี้ค่ะ สงสารพ่อมาก แต่เราก็บอกแฟนว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรเลยเดี๋ยวจะทะเลาะ รอให้แม่พาพ่อไปหาหมอก่อนเพราะตอนนี้เค้ายอมไปแล้ว ถ้าหากเราพูดอะไรไปเกิด ผิดใจ ผิดหู ขึ้นมา กลายเป็นว่าไม่ยอมให้พ่อไปหาหมอเสร็จเลย ทีนี้ จบของจริง
เรื่อง ของเรื่องตรงนี้ที่อารัมภบทมายืดยาว ส่วนสำคัญที่สุดที่ต้องการเลยนะคะ
1. เราอยากระบายความอัดอั้นตันใจค่ะ ยอมรับเลยว่าเครียดมาก อยู่ในสังคมครอบครัวที่ ผู้ใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับความคิดของผู้ที่มีวัยวุฒิ ที่อ่อนกว่า
2. อยากรู้จริง ๆ เลยว่า น้ำมันรำข้าว ของ ดีเจโจ้ เนี่ย มันจริงหรือหลอกลวง เพราะไม่ไหวแล้วค่ะ แม่เราเกินคำว่าเชื่อแล้ว เข้าข่าย งมงาย เลย กลุ้มมากค่ะตอนนี้เพราะแม่ให้พ่อกินด้วย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันมีผลอะไรกับพ่อมากน้อยขนาดไหน จะห้ามก็ไม่ได้ ต้องปล่อยเลยตามเลย แล้วถ้ามันหลอกลวง จะทำยังไงดีคะ
3. อยากรู้เกี่ยวกับอัลไซเมอร์ และ พากินสันค่ะ คือบอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ไม่สามารถรับอะไรที่เป็นวิชาการได้ ยิ่งอ่านยิ่งเครียด เลยไม่เข้า กูเกิ้ลค่ะ ใครพอจะอธิบายได้บ้างคะ ขอแบบ ชาวบ้าน ๆ นะคะ ฟังแบบ เข้าใจง่าย ๆ อ่ะค่ะ จะเอาไปพูดกับแม่ เผื่อว่าจะย่นเวลาพาพ่อไปหาหมอได้เร็วขึ้น เพราะเท่าที่ดู พอพ่อหายจากอาการเบลอ แม่ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ คือหัวแข็งเหมือนเดิมแล้ว
4. อยากทราบว่า ถ้าเราตรวจแล้วพ่อเป็นโรคพวกนี้จริง ทางคลีนิคจะทำยังไงคะ ใครพอมีประสบการณ์บ้าง คือเราอยากรักษา แต่ดูท่าแล้ว คลีนิคส่งยาก แล้วทางเจริญกรุงประชารักษ์ จะมีหมอเฉพาะทางนี้ไหม กลัวว่าเค้าจะไม่ส่งต่อ ศิริราชค่ะ
ขอโทษนะคะที่ยาว เหยียดขนาดนี้ แต่มันย่อไม่เป็นค่ะ มันมาทั้งความรู้สึก ทั้ง สิ่งที่เราพบเจอ ทั้งสิ่งที่เรากระทำ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ส่วนนี่ คือกระทู้ แรกนะคะ ที่เขียนเรื่องพ่อ เผื่อต้องการอ่านประติดประต่อกัน http://pantip.com/topic/32126799