มีเรื่องจะเล่าครับ
ช่วงต้นเดือนกันยายน 2557 ผมรอรถเมล์ตรงถนนราชดำริ ช่วงเย็นๆ มีผู้หญิงท้องคนหนึ่ง ผิวคล้ำ อวบ ผมยาวประบ่า อายุประมาณ 30 up พูดจาฉะฉาน เดินมาหา แล้วบอกว่ามาจาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี (พูดเหน่อด้วย) บอกผมว่ามากรุงเทพฯ แล้วกระเป๋าสตางค์หาย ไม่มีค่ารถกลับบ้าน โดยบอกว่าขอเงิน 379 บาท เพื่อซื้อตั๋วรถทัวร์กลับบ้าน ผมเองก็เป็นคนช่างคุยอยู่แล้ว เลยนั่งคุยเป็นเรื่องเป็นราวเลย เธอบอกว่าขอเลขบัญชีด้วย เพราะถ้ากลับบ้านแล้วจะโอนเงินมาให้ แต่ผมบอกว่า ผมให้แล้วไม่เอาคืนหรอกครับ
แต่ในระหว่างคุยกัน ผมก็บอกเขาว่า จะพานั่งแท็กซี่ไปสายใต้ แล้วซื้อตั๋วให้ พร้อมส่งขึ้นรถ เขาบอกว่าไม่ต้องก็ได้ เสียเวลา เปลืองเงิน ตั๋วอย่างเดียวไม่พอ เพราะถ้าไปถึงนั่น ต้องต่อเมล์เครื่อง (มอเตอร์ไชค์รับจ้างมั้ง) 1200 บาท บลาๆ
ที่นี้แหละครับ ผมเริ่มจับผิด
1. ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา
2. สำเนียงเหน่อ ไม่ใช่เหน่อราชรี แต่เป็นเหน่อดัดจริต คุยนานๆเข้า กลายเป็นสำเนียงกรุงเทพฯ เลยครับ
3. เสื้อผ้าที่ใส่ ไม่เหมือนคนที่เพิ่งมาจากต่างจังหวัด แต่เหมือนคนที่เพิ่งออกจากบ้านมากกว่า
4. ไม่กล้าเข้าหาตำรวจ เพราะผมยื่นข้อเสนอไป เขาปฏิเสธตลอด
ผมทำทีว่าจะเดินไปกดเงินที่สภากาชาดมาให้ ให้เขานั่งรอตรงป้ายรถเมล์ แต่เขาบอกว่าเดี๋ยวเดินไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลา ผมเริ่มคิดอีกว่า โห อาการอยากได้แบบนี้ มันมืออาชีพแล้วล่ะ
ผมก็เลี่ยงไปเรื่อยๆครับ เขาเลยพูดเพื่อทำให้ผมรู้สึกผิด ผมบอกไปว่าขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ได้ เขาบอกว่าไม่เป็นไร แต่เสียใจที่บอกว่าจะช่วยแล้วไม่ช่วย บลาๆ
คุยเกือบครึ่งชั่วโมงครับ ผมตัดสินใจ ไม่ให้เงินครับ ผมถือว่าผมไม่ได้ใจร้าย แต่มิจฉาชีพมันเยอะเกินจนผมต้องใจแข็ง และพอวันที่ 21 ก.ย. 2557 เพื่อนผมเจอเจ้าเดียวกัน หลอกตรงหอการค้าครับ! โดนไป 1200 บาท เพื่อนบอกว่าตัดความรำคาญ แต่ดันมาเสียใจทีหลัง
เรามาดูกันนะครับว่า พฤติกรรม/คำพูด ของผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างไร
-เริ่มต้นด้วยคำพูดประมาณว่า "ขอโทษนะ ไม่ฟังไม่ว่า แต่อย่าดูถูกเหยียดหยามพี่ พี่มาจากราชบุรี กระเป๋าสตางค์หาย/โดนกรีด (แล้วแต่ว่าจะใช้มุกไหน)"
-บอกว่า ผัวมีเมียสองคน พี่หยิ่งในศักดิ์ศรี อุ้มท้องหนีเข้ากรุงเทพฯ
-พี่ขอเลขบัญชีก็ได้ ถ้าถึงบ้านแล้วพี่จะโอนคืนให้ เอาเบอร์โทรมาก็ได้
-คุยไปคุยมา ผู้หญิงคนนี้อาจตีสนิทด้วยการสะกิดแขนเรา
-บ่นสงสารลูกในท้อง ตามประสา
ฯลฯ
ถ้ามีคนบอกว่ากระเป๋าสตางค์หาย โดนกรีด พาไปโรงพักเลยครับ เพราะยังไงก็ต้องแจ้งความกับสถานีตำรวจในท้องที่ก่อน ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจ เขาคงไปครับ
ผมไม่ได้สอนให้ทุกท่านใจร้ายนะครับ เรื่องบางอย่างอย่าปล่อยเลยตามเลย ไม่ต้องไปสงสารครับ ใจแข็งเข้าไว้ ขอทานบางคน เงินเดือนหลักหมื่น หลักแสนก็มี อย่าให้เงินเพื่อตัดความรำคาญครับ เพราะเขาเองก็จะไปเพราะรำคาญเราที่เราไม่ให้เงินเหมือนกัน
สุดท้าย อยากให้ทุกท่านพึงระลึกเอาไว้ โดนหลอก ก็คือโดนหลอก ไม่ใช่การทำบุญครับ บั๊ยยยยส์
[เตือนภัย] มิจฉาชีพในร่างผู้หญิงท้อง
ช่วงต้นเดือนกันยายน 2557 ผมรอรถเมล์ตรงถนนราชดำริ ช่วงเย็นๆ มีผู้หญิงท้องคนหนึ่ง ผิวคล้ำ อวบ ผมยาวประบ่า อายุประมาณ 30 up พูดจาฉะฉาน เดินมาหา แล้วบอกว่ามาจาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี (พูดเหน่อด้วย) บอกผมว่ามากรุงเทพฯ แล้วกระเป๋าสตางค์หาย ไม่มีค่ารถกลับบ้าน โดยบอกว่าขอเงิน 379 บาท เพื่อซื้อตั๋วรถทัวร์กลับบ้าน ผมเองก็เป็นคนช่างคุยอยู่แล้ว เลยนั่งคุยเป็นเรื่องเป็นราวเลย เธอบอกว่าขอเลขบัญชีด้วย เพราะถ้ากลับบ้านแล้วจะโอนเงินมาให้ แต่ผมบอกว่า ผมให้แล้วไม่เอาคืนหรอกครับ
แต่ในระหว่างคุยกัน ผมก็บอกเขาว่า จะพานั่งแท็กซี่ไปสายใต้ แล้วซื้อตั๋วให้ พร้อมส่งขึ้นรถ เขาบอกว่าไม่ต้องก็ได้ เสียเวลา เปลืองเงิน ตั๋วอย่างเดียวไม่พอ เพราะถ้าไปถึงนั่น ต้องต่อเมล์เครื่อง (มอเตอร์ไชค์รับจ้างมั้ง) 1200 บาท บลาๆ
ที่นี้แหละครับ ผมเริ่มจับผิด
1. ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา
2. สำเนียงเหน่อ ไม่ใช่เหน่อราชรี แต่เป็นเหน่อดัดจริต คุยนานๆเข้า กลายเป็นสำเนียงกรุงเทพฯ เลยครับ
3. เสื้อผ้าที่ใส่ ไม่เหมือนคนที่เพิ่งมาจากต่างจังหวัด แต่เหมือนคนที่เพิ่งออกจากบ้านมากกว่า
4. ไม่กล้าเข้าหาตำรวจ เพราะผมยื่นข้อเสนอไป เขาปฏิเสธตลอด
ผมทำทีว่าจะเดินไปกดเงินที่สภากาชาดมาให้ ให้เขานั่งรอตรงป้ายรถเมล์ แต่เขาบอกว่าเดี๋ยวเดินไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลา ผมเริ่มคิดอีกว่า โห อาการอยากได้แบบนี้ มันมืออาชีพแล้วล่ะ
ผมก็เลี่ยงไปเรื่อยๆครับ เขาเลยพูดเพื่อทำให้ผมรู้สึกผิด ผมบอกไปว่าขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ได้ เขาบอกว่าไม่เป็นไร แต่เสียใจที่บอกว่าจะช่วยแล้วไม่ช่วย บลาๆ
คุยเกือบครึ่งชั่วโมงครับ ผมตัดสินใจ ไม่ให้เงินครับ ผมถือว่าผมไม่ได้ใจร้าย แต่มิจฉาชีพมันเยอะเกินจนผมต้องใจแข็ง และพอวันที่ 21 ก.ย. 2557 เพื่อนผมเจอเจ้าเดียวกัน หลอกตรงหอการค้าครับ! โดนไป 1200 บาท เพื่อนบอกว่าตัดความรำคาญ แต่ดันมาเสียใจทีหลัง
เรามาดูกันนะครับว่า พฤติกรรม/คำพูด ของผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างไร
-เริ่มต้นด้วยคำพูดประมาณว่า "ขอโทษนะ ไม่ฟังไม่ว่า แต่อย่าดูถูกเหยียดหยามพี่ พี่มาจากราชบุรี กระเป๋าสตางค์หาย/โดนกรีด (แล้วแต่ว่าจะใช้มุกไหน)"
-บอกว่า ผัวมีเมียสองคน พี่หยิ่งในศักดิ์ศรี อุ้มท้องหนีเข้ากรุงเทพฯ
-พี่ขอเลขบัญชีก็ได้ ถ้าถึงบ้านแล้วพี่จะโอนคืนให้ เอาเบอร์โทรมาก็ได้
-คุยไปคุยมา ผู้หญิงคนนี้อาจตีสนิทด้วยการสะกิดแขนเรา
-บ่นสงสารลูกในท้อง ตามประสา
ฯลฯ
ถ้ามีคนบอกว่ากระเป๋าสตางค์หาย โดนกรีด พาไปโรงพักเลยครับ เพราะยังไงก็ต้องแจ้งความกับสถานีตำรวจในท้องที่ก่อน ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจ เขาคงไปครับ
ผมไม่ได้สอนให้ทุกท่านใจร้ายนะครับ เรื่องบางอย่างอย่าปล่อยเลยตามเลย ไม่ต้องไปสงสารครับ ใจแข็งเข้าไว้ ขอทานบางคน เงินเดือนหลักหมื่น หลักแสนก็มี อย่าให้เงินเพื่อตัดความรำคาญครับ เพราะเขาเองก็จะไปเพราะรำคาญเราที่เราไม่ให้เงินเหมือนกัน
สุดท้าย อยากให้ทุกท่านพึงระลึกเอาไว้ โดนหลอก ก็คือโดนหลอก ไม่ใช่การทำบุญครับ บั๊ยยยยส์