ตามนั้นครับ พอดีวันนี้ไปสนทนากับผู้รู้ด้านนี้คนหนึ่ง แล้วท่านบอกอีกว่า งานวิทย์เป็นงานกายภาพ งานหลอดทดลอง งานตัวเลข งานกล้อง
ผลการทดลอง ออกมาแบบใด ก็ต้องว่าไปตามการทดลอง ไม่ใช่เอาจิตใจ เอาสามัญสำนึกมาจับ มันจะถึงแก่กาล

?
เช่น นักเคมี อาจบอกว่า มนุษย์ ก็แค่โครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน รวมตัวกัน
นักฟีสิกส์ อาจพูดว่า ความคิดของมนุษย์ ก็แค่คลื่นไฟฟ้าอืดๆในสมอง
นักชีววิทยา ก็อาจบอกว่า มนรุษย์ก็แค่ไพรเมทสายพันธ์หนึ่ง เป็นแค่ชิ้นส่วนเล็กๆของระบบนิเวศโลก
ซึ่งถ้าเอาจิตใจ เอาค่านิยมของสังคมไปจับ ความบิดเบือน ความ

จะเกิดกับงานวิจัยง่ายๆ
เพราะจะกลายเป็นการตีความตามใจ ตามค่านิยม ไม่ใช่ตามผลการวิจัยจริงๆ
ท่านพูดต่อไปอีกว่า ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุ ที่ว่า ทำไมนักวิทยาศาสตร์เก่งๆหลายๆคน ถึงทำตัวไม่สนใจสังคม ไม่อ่านหนังสือพิมพ์
หรือไม่ชอบสนทนา กับคนที่เขาไม่คิดจะรับแนวคิดมา เพราะกลัวจะสูญเสียการวิเคราะห์ ความเฉียบคม ความสามารถในการมองปัญหาจากวงนอก?
ท่านเห็นด้วยมั้ยครับ กับหลักการเหล่านี้ คิดว่ามันถูกต้องหรือเปล่า?
ที่คนทำงานวิจัยหลายๆคน ไม่ชอบพบคนโดยไม่จำเป็น ก็เพราะกลัวจะสูญเสียพลังการคิดวิเคราะห์งั้นหรือ?
งานทางวิทย์ เป็นงานกายภาพ ห้ามใช้จิตใจ ต้องเอกเทศ
ผลการทดลอง ออกมาแบบใด ก็ต้องว่าไปตามการทดลอง ไม่ใช่เอาจิตใจ เอาสามัญสำนึกมาจับ มันจะถึงแก่กาล
เช่น นักเคมี อาจบอกว่า มนุษย์ ก็แค่โครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน รวมตัวกัน
นักฟีสิกส์ อาจพูดว่า ความคิดของมนุษย์ ก็แค่คลื่นไฟฟ้าอืดๆในสมอง
นักชีววิทยา ก็อาจบอกว่า มนรุษย์ก็แค่ไพรเมทสายพันธ์หนึ่ง เป็นแค่ชิ้นส่วนเล็กๆของระบบนิเวศโลก
ซึ่งถ้าเอาจิตใจ เอาค่านิยมของสังคมไปจับ ความบิดเบือน ความ
เพราะจะกลายเป็นการตีความตามใจ ตามค่านิยม ไม่ใช่ตามผลการวิจัยจริงๆ
ท่านพูดต่อไปอีกว่า ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุ ที่ว่า ทำไมนักวิทยาศาสตร์เก่งๆหลายๆคน ถึงทำตัวไม่สนใจสังคม ไม่อ่านหนังสือพิมพ์
หรือไม่ชอบสนทนา กับคนที่เขาไม่คิดจะรับแนวคิดมา เพราะกลัวจะสูญเสียการวิเคราะห์ ความเฉียบคม ความสามารถในการมองปัญหาจากวงนอก?
ท่านเห็นด้วยมั้ยครับ กับหลักการเหล่านี้ คิดว่ามันถูกต้องหรือเปล่า?
ที่คนทำงานวิจัยหลายๆคน ไม่ชอบพบคนโดยไม่จำเป็น ก็เพราะกลัวจะสูญเสียพลังการคิดวิเคราะห์งั้นหรือ?