อิหร่านเคร่งจัด สั่งจำคุก-โบย7หนุ่มสาวถ่ายคลิปเต้นประกอบเพลง'Happy'

เอเอฟฟี - อิหร่านสั่งลงโทษจำคุกและโบยหนุ่มสาววัยรุ่น 7 คนจากกรณีถ่ายคลิปวิดีโอเต้นประกอบเพลงดัง "Happy"ของฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ นักร้องชาวสหัฐฯ แล้วอัพโหลดลงบนสื่อสังคมออนไลน์และกำลังเป็นที่ฮือฮาเป็นโลกอินเตอร์เน็ต ระบุมีความผิดฐานละเมิดค่านิยมอันดีของสาธารณรัฐอิสลามอย่างหยาบช้า
       
       ในวิดีโอที่ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพและอัพโหลดลงบนยูทิวบ์หลายรอบ พบเห็นสาวรุ่น 3 คนไม่สวมผ้าคลุมหน้า เต้นและร้องเพลงอยู่ในห้อง บนหลังคาและทางเดินร่วมกับชายหนุ่มอีก 3 คน
       
       สำหรับวัยรุ่นกลุ่มนี้การที่วิดีโอถ่ายทำเองมีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านครั้ง คงไม่มีความสุขไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่แล้ว มันถูกมองว่าเป็นการละเมิดค่านิยมอันดีของสาธารณรัฐอิสลามอย่างหยาบช้า
       
       ทั้ง 7 คนถูกจับกุมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนได้รับการประกันตัวหลังไปออกรายการทางสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐและกล่าวสำนึกผิดต่อพฤติกรรมที่ปรากฏอยู่ในวิดีโอ แม้ว่าอีกด้านหนึ่งการถูกควบคุมตัวของพวกเขาและเธอได้เรียกเสียงประณามอย่างดุเดือดจากนานาชาติ ทั้งสื่อมวลชนและโลกออนไลน์ หรือแม้กระทั่งชาวอิหร่านเองก็รู้สึกช็อค ส่วนนักสังเกตการณ์บางรายก็ถึงขั้นตั้งคำถามประชดว่าการมีความสุขในอิหร่าน คงเป็นการก่ออาชญากรรมรูปแบบหนึ่ง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
        ทนายความของจำเลยเผยว่าระหว่างการพิจารณาคดี ทั้งหมดถูกพบว่ามีความผิดฐานเผยแพร่บันทึกภาพที่ผิดกฎหมายและมีความสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรม
       
       ในบรรดาผู้ต้องหาทั้ง 7 คน หญิงสาวแดนเซอร์คนหนึ่งถูกลงโทษจำคุก 1 ปีและโบย 91 ครั้งฐานโพสต์วิดีโอบนโลกออนไลน์ ส่วนนักเต้นอีก 5 คนที่เหลือและผู้กำกับคลิปนี้ถูกลงโทษจำคุก 6 เดือนและโบย 91 ครั้ง อย่างไรก็ตามโทษทั้งหมดทั้งมวลของ 7 คนนี้ ศาลรอให้รออาญาเป็นเวลา 3 ปี
       
       ทางทนายความของจำเลยยังไม่ทราบว่าลูกความปรารถนาจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆออกมาตำหนิคำพิพากษาของศาลเตหะรานในครั้งนี้ "จากบทลงโทษดังกล่าว มันไร้เหตุผลสิ้นดี" องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุ
       
       องค์การนิรโทษกรรมสากลบอกต่อว่าหากข่าวนี้เป็นที่ยืนยัน บทลงโทษดังกล่าวจะเป็นผลลัพธ์ที่น่าเย้ยหยัน บุคคลเหล่านี้ถูกลงโทษและตราหน้าว่าเป็นอาชญากร เพียงเพราะถ่ายทำมิวสิควิดีโอเฉลิมฉลองอย่างมีความสุขเท่านั้น

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000108112
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่